ตอนที่ 5 : เดทระทึกขวัญ
2
เดทระทึกขวัญ
ติ๊ง...ติ๊ง...ติ๊ง...ติ๊ง...
เสียงเรียกเข้าไลน์ที่ถูกเปิดเสียงอีกครั้งดังขึ้นรัวๆ
เลขาคนขยันเงยหน้ามองดูนาฬิกา ก็เห็นว่าปาเข้าไปเกือบหกโมงแล้ว
“จะหกโมงแล้วเหรอเนี่ย?”
อันที่จริงเธอเคลียร์งานเสร็จแล้ว
ก็เลยมานั่งพิมพ์รายงานการประชุมต่อให้เสร็จ สรุปออกมา ได้สามหน้า ใช้เวลาพิมพ์ไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จ แต่สมาธิ และสติสตังมันกระเจิดกระเจิงหายไปเพราะใครบางคนก่อนหน้านี้ กว่าจะตั้งสติกลับมาทำงานได้ ก็ใช้เวลาอยู่นาน เธอปิดเสียงโทรศัพท์เอาไว้ และเพิ่งเปิดตอนเดินไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับมาที่โต๊ะเตรียมตัวจะกลับ เสียงเตือนข้อความเข้าจากไลน์ก็ดังขึ้นมารัวๆ และดูจะเดาได้ไม่ยากว่าเป็นใคร ในเมื่อน้ำเสียงเร่งเร้ารัวถี่ๆ ขนาดนี้ ก็มีอยู่คนเดียวนี่แหละ
‘ก็ผมวัยรุ่นใจร้อนนี่นา’
‘คุณสามสิบสามปีแล้วนะคะ เขาไม่นับว่าเป็นวัยรุ่นแล้ว’
เธอเคยแย้งไป และก็โดนเขาจัดการลงโทษด้วยการขย่มรัวปานควบม้าอยู่บนร่างเสียหมอบกระแตราบคาบในข้อหาไปกล่าวหาว่าเขา ‘แก่’
‘พริ้งยังไม่เอ่ยคำว่า แก่หลุดปากมาสักคำเลยนะ’
‘นี่ไง...ผมได้ยินแล้ว...อย่างนี้ต้องโดนอีกสักที’
น้ำเสียงและหน้าตาจริงจังนั่นทำให้เธอเสียวสยองไม่หาย
‘อ๊าย! ไม่เอานะคะ’
เธอหวีดร้องลั่น ปัดป้องพัลวัน ขายังสั่นพั่บๆ ไม่หาย กับการไปเยือนสวรรค์เมื่อไม่ถึงสิบนาทีก่อน
และระหว่างผู้ชายสูง 185 เซ็นติเมตร หนักกว่าแปดสิบกิโล กับผู้หญิงสูงแค่ 162 เซ็นต์ฯ น้ำหนักแค่เฉียดห้าสิบกิโล เมื่อต้องใช้พละกำลังต่อสู้ห่ำหันกันบนเตียงใครล่ะจะชนะ?
เดาได้ไม่ยากเลยใช่ไหม?
และแค่คิด เพียงแค่คิดถึงเรื่องทะลึ่งตึงตัง แก้มสาวก็แดงแช้ดขึ้นมา หน้าร้อนผะผ่าวไปหมด ว่าบทสั่งสอนค่าที่หล่อนไปทำปากดีนั่นทำเอาใจหวิวๆ แทบขาดทีเดียว
“บ้าไปกันใหญ่แล้วพริ้ง นับวันเธอยิ่งติดเชื้อหื่นมาจากเขาหรือไงนะ”
พริ้งเพราดุตัวเองที่เธอเอาแต่คิดถึงเขา คิดถึงบทรักอันวาบหวามกำซ่านล้ำ จนจิตหงุดหงิม...เอ๊ย! ความคิดเตลิด เลยไปลงหน่อกล้วยในสวนแก้ฟุ้งซ่านไปได้ตั้งสองไร่แล้ว
ก็งานของเขา ทำให้ต้องบินไปบินมา ทั้งต่างจังหวัด และต่างประเทศเพื่อทำงานจนไม่มีเวลาเจอหน้ากันมาเกือบเดือน
อย่างน้อยก็ยังดีที่เธอควบคุมตัวเอง ดึงสติ แปรพลังงานหื่นให้ได้เกิดดอกงอกเงยขึ้นมา เป็นสวนกล้วยในพื้นที่ที่ซื้อเก็บเอาไว้ ตั้งใจว่าพออายุมากขึ้น เบื่อเมืองกรุงอันแสนวุ่นวาย ก็จะไปทำสวนทำไร่ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อย่างมีความสุข
มือเรียวคว้ากระเป๋าใบสวยที่ได้กำนัลเป็นของฝากจากเจ้านายที่ใจดีเหมือนพ่ออีกคนขึ้นมาสะพายบ่า ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอไปด้วย ขณะเดินไปที่ลิฟต์
ภาพแรกคือโต๊ะอาหารที่ถูกจัดไว้สองที่ มีเชิงเทียนสีแดงตั้งเด่นอยู่ตรงกลางพร้อมจะจุดเพื่อสร้างบรรยากาศโรแมนติก...เธอเผลออมยิ้มออกมา
ภาพต่อมา คือขวดแชมเปญที่แช่อยู่ในถังน้ำแข็ง พร้อมกับแก้วทรงสูงอีกสองใบ…ยิ้มในใบหน้าฉีกกว้างกว่าเก่า เมื่อเห็นความพยายาม ตั้งใจ และความโรแมนติกที่ชายหนุ่มเตรียมพร้อมเอาไว้รอท่า
ภาพที่สาม คือภาพวิวจากระเบียงห้องของเขา...ตอนที่พระอาทิตย์กำลังใกล้จะตกดินเต็มที…มันโรแมนติกสุดๆ ไปเลย
ปิ๊ง!
เสียงลิฟต์มาถึง เธอเงยหน้าขึ้น เดินเข้าไปในลิฟต์ กดปุ่มชั้นกราวด์ ประตูลิฟต์ค่อยๆ เลื่อนปิด เธอจึงก้มหน้ามองโทรศัพท์อีกครั้ง
ภาพต่อมา คือภาพเนกไทร์ที่คอเสื้อถูกคลาย กระดุมสองเม็ดบนถูกปลด
ภาพแผงอกแน่นกล้ามที่มองเห็นรำไร ทำเอาถึงกับต้องกลืนน้ำลายเบาๆ ต่อให้งานยุ่งแค่ไหน เขาก็ยังหาเวลาไปยิม และดูแลรูปร่างให้น่ากิน เอ๊ย! ได้ดีเยี่ยมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“ว้าย!”
พริ้งเพราสะดุ้งเบาๆ เมื่อภาพที่ห้า คือภาพเป้ากางเกง สแลคสีเข้มที่ถูกรูดซิปเปิดอ้า และมีบางอย่างโป่งพองดุนดันเนื้อผ้ากางเกงชั้นในสีขาวออกมา เห็นชัดเป็นรูปเป็นลำนูนเด่นอย่างที่เดาได้ไม่ยากถึงลักษณะทางอนาโตมี่ใต้ผืนผ้านั่น...ว่ายาวใหญ่ไซต์บิ๊กแค่ไหน...
สองข้างแก้มร้อนฉ่าขึ้นมาทันที พร้อมกับหัวใจดวงน้อยข้างในที่เต้นโครมครามกระหน่ำรัว
*1 เม้นต์ 1 ใจ เป็นกำลังใจให้กับคนเขียนนะคะ...ขอบคุณมากค่า...*
ติดตามผลงานนักเขียนได้ที่ ...https://www.facebook.com/RachaRil/
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
