ตอนที่ 40 : ผู้ชายขี้หึง
ตอนที่ 40
ผู้ชายขี้หึง
“ด้านะด้า ลืมได้ยังไงกันของสำคัญอย่างนี้”
วาคิมบ่นไม่จริงจังนัก นึกขบขันที่ลลัลดาลืมกระเป๋าถือที่มีทั้งเงินและโทรศัพท์อยู่เดินตัวเปล่าเข้าห้างไปทำงาน
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าดังอยู่หลายครั้งจนเขาต้องจอดรถลงเพื่อจะค้นมันออกมา
‘หมอเชาวนนท์’
ชื่อที่ปรากฏหน้าจอโทรศัพท์ทำให้เขาสงสัย ว่าจะเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรเกี่ยวกับอาการป่วยของปาณัสม์หรือเปล่า เพราะจำได้ว่าเคยได้ยินผู้ชายชื่อนี้โทรมา และเมื่อสอบถามลลัลดาก็บอกว่าเป็นหมอประจำตัวของลูกชาย
แต่ก่อนที่เขาจะถือวิสาสะกดรับ โทรศัพท์ก็ดับไปเสียก่อน และเมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นลลัลดาเดินออกมาจากประตูห้างพอดี เขาเผลอยิ้มออกมาเมื่อคิดว่าเธอคงจะกลับออกมาตามหาว่าเขายังอยู่ที่ลานจอดรถหรือเปล่า? เพราะได้มาส่งเธอไปเมื่อเกือบสิบนาทีก่อนหน้านี้
แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักงัน เมื่อซีดานหรูคันหนึ่งโฉบเข้าไปจอดใกล้ๆ แล้วเธอก็เปิดประตูรถคันนั้นก้าวขึ้นไป วาคิมย่นคิ้วอย่างนึกสงสัย และเมื่อรถคันนั้นเคลื่อนออกไป มือของเขาก็หมุนพวงมาลัยเหยียบคันเร่งสะกดรอยตามไปห่างๆ ด้วยหัวใจเต้นระทึกแรง
ทำไมหมอชื่อเชาวนนท์ต้องโทรศัพท์มาหาลลัลดาด้วยเบอร์ส่วนตัว และทำไมหญิงสาวถึงได้ขึ้นรถไปที่ไหนกับใครไม่รู้ ทั้งๆ ที่เป็นวันทำงานของเธอแท้ๆ
ความสงสัยของวาคิมไม่สิ้นสุด เมื่อรถคันนั้นแล่นเข้ามาในเขตวัด ก่อนที่เขาจะเห็นว่าเธอมากับผู้ชายอีกคนช่วยกันหิ้วถังสังฆทานไปยังวิหาร วาคิมรีบนำรถเขาจอดซุ่มอยู่มุมหนึ่งแล้วซุ่มรอดูอยู่นาน กระทั่งอดรนทนไม่ไหวจึงตามลงไปดูให้เห็นกับตา แล้วก็พบทั้งคู่เดินลงมาพร้อมกัน ตรงไปยังท่าน้ำของวัด ซึ่งที่นั่นมีคนขายอาหารปลาอยู่
ภาพที่ทั้งสองช่วยกันปล่อยนกปล่อยปลาราวกับเป็นคู่รักกัน มันทำให้เขาไม่พอใจนัก
ใครเห็นก็คงคิดไม่ต่างกัน...อารมณ์ข้างในเริ่มเดือดปุด หัวจิตหัวใจเร่าร้อนอยู่ไม่สุข ยิ่งเมื่อทั้งสองคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่นานวาคิมที่ซุ่มแอบดูอยู่หลังต้นไม้ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องมาทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ทั้งที่จะว่าไปแล้ว เขาสิ ที่ควรมีสิทธิ์ในตัวเธอมากกว่าใคร
ตลอดเวลาสามเดือนที่เลี้ยงดูอยู่ด้วยกันมา เขาไม่เคยสงสัยใดๆ ในตัวลลัลดา และแม้จะขอให้หญิงสาวเลิกทำงานที่ร้านเสริมสวย แต่กลับถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเรื่องของบุญคุณ และเธออยากทำงานมากกว่าเป็นแม่บ้านให้เขาอย่างเดียว ทั้งๆ ที่เขาก็พร้อมยอมทุ่มจ่ายและดูแลเธอทุกอย่าง แม้กระทั่งช่วยเปิดร้านให้พี่ชายเธอได้มีงานทำ แต่ลัญจกรก็ปฏิเสธมาเสียก่อน เพราะตอนนี้ เขาไปทำงานกับเพื่อนเก่า
‘ถ้าเกิดวันข้างหน้าคุณคิมเบื่อด้า แล้วทิ้งด้าไป หรือวันที่คุณมีครอบครัวแล้ว ด้าจะทำอะไรเลี้ยงตัวเองเลี้ยงลูกล่ะคะ?’
แม้เขาจะยืนยันหนักแน่นว่า จะไม่มีทางปล่อยให้เธอลำบาก ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ลลัลดาก็ยังยืนกรานอยู่ดี ที่สุดแล้วเขาก็ต้องยอมตามใจเธอ เพื่อให้เธอสบายใจ...นั่นก็เพราะรัก
ทั้งที่หวงแหนสมบัติชิ้นสวยที่ตัวเองได้ครอบครองเป็นเจ้าของ ไม่อยากแบ่งปันให้ใครได้เห็นได้ชื่นชมทั้งนั้น และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า ไม่มีเพียงเขาเท่านั้นหรอกที่มองเห็นความงามและเสน่ห์ของเธอ
แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ และไม่คิดว่าลลัลดาจะปันใจไปให้ใครอื่น ในเมื่ออยู่กินกับเขาใช้ชีวิตคู่ผัวตัวเมียด้วยกันทุกวันถึงแม้จะไม่เปิดเผยต่อสังคมให้คนอื่นรับรู้ก็ตามที หากภาพที่เห็นในนาทีนี้ ไม่ใช่เสียแล้วสินะ
“ขอบคุณมากครับคุณด้า”
ร่างบางถูกสวมกอดโดยไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก
“ถ้าไม่มีคุณด้า ผมก็ไม่รู้ว่าจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปเมื่อไหร่?” หมอเชาวนนท์รู้สึกขอบคุณจริงๆ และไม่ทันได้คิดถึงความไม่เหมาะไม่ควร ด้วยคิดว่าหญิงสาวเองก็โสด ก่อนจะถูกลลัลดาดันตัวออกห่างหน้าตาตื่น
“เอ่อ! ขอโทษครับ พอดีผมรู้สึกอยากขอบคุณคุณด้าจริงๆ และลืมตัวไปหน่อย”
“ค่ะๆ ไม่เป็นไร” เธอยิ้มเจื่อนๆ ผงกหน้าอย่างเข้าใจ
แต่ว่าบางคนไม่ได้เข้าใจ และรู้สึกว่าไม่เป็นไรด้วยนี่สิ
วาคิมที่แอบซ่อนดูอยู่หลังต้นไม้ ลืมตัวโผล่พรวดออกมา แล้วตรงดิ่งเข้าไปกระชากตัวไอ้หนุ่มหน้าตี๋ ที่บังอาจมากอดเมียเขา แล้วซัดหมัดเปรี้ยงเข้าหน้าจนฝ่ายนั้นเซถลาเสียหลักลงไปกองกับพื้น
ลลัลดากรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แต่ก่อนที่เธอจะผวาเข้าไปประคองคุณหมอที่นอนคลุกฝุ่นให้ลุกมา ก็ถูกมือหนากระชากแขนไปเสียก่อน
“ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใครนะไอ้หน้าจืด แต่นี่เมียฉัน และจำไว้ว่าอย่ามายุ่งกับเธออีก” ว่าแล้วก็ออกแรงลากเธอไปด้วยกัน
ลลัลดาปลิวติดมือเขาไปหน้าแทบคะมำพื้น เพราะอารมณ์คนโกรธเป็นพายุบุแคมลากเธอไปไม่ให้ได้ตั้งตัว ก่อนจะถูกผลักเข้าไปในห้องโดยสารของรถ แล้วคนขับก็รีบตะบึงตะบอนขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“คุณวาคิม คุณทำอะไรของคุณ” หญิงสาวหันมาถาม หน้าตายังตื่นตกใจ
“ก็ทำในสิ่งที่ผมควรทำไงล่ะ”
“โดยการที่คุณไปต่อยคนอื่นอย่างนั้นนะ”
“ใช่...ถ้าคนอื่นนั่นมันบังอาจมากอดเมียผม”
เธอหน้าชา อ้าปากค้าง มองคนที่โกรธหน้าดำหน้าแดงอย่างไม่เก็บอารมณ์แม้แต่นิดด้วยความโมโหโกรธา เธอจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบไม่โต้เถียงตกใจจนตัวสั่นงันงกไปหมด กระทั่งรถแล่นเข้ามาในบริเวณบ้าน เธอก็รีบเปิดประตูลงไปอย่างรวดเร็ว
“จะหนีไปไหนด้า มาคุยกันให้รู้เรื่อง” เขารีบตามไปคว้าแขนเอาไว้ แต่เธอกลับหันมาสะบัดออกสุดแรง พร้อมกับจ้องหน้าเขาเขม็งจนวาคิมก็นึกเกรงไปเหมือนกัน เพราะลลัลดาไม่เคยทำตัวแข็งข้อกับเขามาก่อนเลยสักครั้ง
“คุณไปต่อยหมอนนท์เขาทำไม?”
“ก็ไอ้หมอนั่นมันอยากจะมากอดคุณทำไม?” นัยน์ตาเขาลุกวาบวาวเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาหวงเธอ หึงจนหน้ามืดขาดสติ เมื่อคิดว่าลลัลดาเป็นสมบัติของเขา
“ถึงยังไง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปต่อยเขา หรือต่อยใครทั้งนั้นเข้าใจไหม?”
“ไม่เข้าใจ คุณเป็นเมียผม จะให้ผู้ชายที่ไหนมากอดก็ได้งั้นหรือ? แล้วนั่นมันในวัดในวาแท้ๆ เป็นที่อื่น ลับหลังผม ไม่ยิ่งกว่านี้อีกหรือไง?”
“คุณวาคิม” เรียกชื่อเขาเสียงดังลั่นอย่างตกใจ ที่เขาดูแคลนเธออย่างนี้ “คุณกำลังดูถูกฉันอยู่นะ”
“ผมก็พูดตามที่ผมเห็น” โต้เถียงกลับหน้าดำหน้าแดง
ลลัลดาส่ายหน้า ดูท่าว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องเสียแล้ว พอเห็นน้ำหวานพี่เลี้ยงของปาณัสม์พาลูกชายขี่จักรยานเข้าบ้านมา ทั้งสองน่าจะพากันไปเล่นใกล้ๆ นี่มา เธอจึงไม่อยากจะทะเลาะเบาะแว้งกับเขาให้คนอื่นเห็น โดยเฉพาะต่อหน้าลูก จึงเลือกที่จะเลี่ยงเดินเข้าบ้านไป
“หวาน เอาน้องไปเล่นที่อื่นก่อน” วาคิมหันไปสั่งพี่เลี้ยงของปาณัสม์ที่ให้มาช่วยดูแลแบบไปเช้าเย็นกลับ ในช่วงที่เด็กชายรอเปิดเทอมเพื่อจะขึ้นชั้นเรียนโรงเรียนอนุบาลแห่งใหม่ที่เพิ่งย้ายมา ส่วนลัญจกรก็วุ่นกับงานที่ร้านประดับยนต์ จึงไม่มีเวลามาช่วยดูแลหลานชายเหมือนแต่ก่อน
น้ำหวานนิ่งชะงักงัน มองตามคนจ่ายเงินเดือนให้ที่ผลุนผลันเข้าไปในบ้านตามหลังแม่ของปาณัสม์ไป
“เอิ่ม! น้องปาคะ เราไปปั่นจักรยานเล่นกันอีกสักรอบนะคะ”
แต่เด็กชายส่ายหน้าดิก สลัดแขนพี่เลี้ยง เมื่อเห็นสถานการณ์ดูไม่ดี จึงวิ่งตามเข้าไปในบ้านด้วยอีกคน ด้วยความเป็นห่วงผู้เป็นแม่
“ด้า! หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาทำกระฟัดกระเฟียดอย่างนี้ใส่ผม” วาคิมตามขึ้นมาถึงชั้นบน และกระชากแขนหญิงสาวที่กำลังจะหนีเข้าห้องให้ออกมาเผชิญหน้ากัน
“ตอนนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ คุณไม่มีเหตุผล ใช้แต่อารมณ์”
“อ้อ! ใช่สินะ ใครจะไปเหมือนคุณหมอแสนดีที่คุณปล่อยให้มันมาสวมเขาผมล่ะ” เพราะความโมโหและหึงหวงที่เห็นเธอยอมปล่อยให้ผู้ชายอื่นกอด จำได้ว่าระหว่างเขากับเธอ กว่าจะเริ่มต้นกันอย่างนี้ได้ ก็ยังต้องใช้เวลา และเท่านั้นไม่พอลลัลดายังมาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่เขาต่อยหน้าหมอนั่น มันทำให้คิดว่าเจ้านั่นสำคัญกว่าเขา และเธอแคร์มันมันมาก เลยเหมือนยิ่งเทน้ำมันรดราดลงบนกองไฟจนทำให้วาคิมเลือดขึ้นหน้าใช้ถ้อยคำรุนแรง
“คุณวาคิม มันชักจะเกินไปแล้วนะ คุณกำลังดูถูกฉัน”
“แล้วเรื่องจริงมันเป็นยังไง ไหนลองอธิบายมาสิ?เวลานี้ไอ้หมอนั่นมันควรอยู่โรงพยาบาล ส่วนคุณก็ควรอยู่ที่ร้านเสริมสวย แต่กลับแอบนัดหมายลักลอบพบกันลับหลังผัวตัวเอง อย่างนี้มันหมายความว่ายังไงกัน?” ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งโมโหเมื่อคิดว่าตัวเองโง่ขนาดไหน และไม่รู้ว่าโง่มานานหรือยัง? หากวันนี้ไม่ย้อนกลับไป จะได้เห็นอะไรอย่างนี้ไหม?
ที่ผ่านมา เขาไว้ใจลลัลดามาตลอด หลังจากตกลงคบหากัน ก็ไม่เคยระแวงสงสัย เรื่องความซื่อสัตย์ เรื่องถูกหลอก เรื่องโดนสวมเขา อย่างที่เพิ่งโดนเลื่องฤทธิ์ตอกหน้ามาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง
แม้จะเถียงกลับไปว่าเธอไม่มีทางทำมันแน่ แต่ลึกๆ เขาก็อดจะกลัวไม่ได้...เพราะการเริ่มต้นระหว่างเธอกับเขาไม่ได้สวยงามนัก
มันเริ่มจากเรื่องของผลประโยชน์ และหากวันหนึ่ง ใครให้เธอได้มากกว่า เธอก็อาจจะไปจากเขา
“หมอเชาวนนท์มีเรื่องไม่สบายใจส่วนตัว ฉันก็แค่ไปเป็นเพื่อนส่งเขาทำบุญเท่านั้น”
“แล้วไง เขาไม่มีเพื่อนคนอื่นแล้วหรือ? ถึงต้องมายืมเมียชาวบ้านไปกันสองต่อสองอย่างนี้นะ”
_/|\_ ขอบคุณมากๆ นะค๊า ที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้
ว่านิยายเรา ทำให้เขามีความสุขยังไง ฟินยังไง อิ่มเอมใจยังไง
นักเขียน ยังคงมีพลัง แรงกาย แรงใจ และความฝันที่จะทำงานฟิลกู๊ด ออกมาอีก
ก็ด้วยแรงสนับสนุนของนักอ่าน ทั้งคำติ คำชม คอมเม้นต์ และช่วยกันโหลดนี่แหละค่า
รักกัน ชอบกัน อยากอ่านผลงานกันอีก ก็อุดหนุนกันด้วยนะคะ
โหลดอ่านนิยายฉบับเต็มได้ที่...
![]() |
|
กดติดตามผลงานของนักเขียนได้ที่เพจนี้นะจ๊ะ
จะได้ไม่พลาดการติดตามน๊า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
