ตอนที่ 16 : #ซิมฟาง 05 [3]
05
[3]
สีหน้าของซิมดูแปลกไปตอนที่ได้ยินฉันบอกความจริงข้อนั้น เขาคงไม่คิดว่าสิ่งที่พูดมามันจะสะกิดต่อมความอ่อนแอของฉันจนถึงกับน้ำตาไหลแบบนี้ ฉันเองก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงขี้แยต่อหน้าคนอื่นหรอกนะ แต่ครั้งนี้มันห้ามไม่อยู่จริงๆ ดีหน่อยที่ไม่ได้มีเสียงสะอื้นน่าอายออกมาด้วย
คนตัวสูงกว่าทำหน้าสำนึกผิด
“ฟาง คือฉัน…”
หมับ!
ปึก!
“อะ...” ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำในตอนที่ซิมดึงฉันเข้าไปหาแล้วกอดเอาไว้แน่น จะว่าไปแล้วก็แน่นกว่าเมื่อกี้เสียด้วยซ้ำ มือหนาข้างหนึ่งแนบเข้าที่กลางแผ่นหลัง อีกข้างอยู่แถวๆ ต้นคอ เพราะฉันทั้งงุนงงและตกใจเลยนิ่งไว้ไม่ได้ผลักเขาออก
“ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอ… เอ่อ ขอโทษนะ ถึงยังไงเธอก็ควรคิดถึงตัวเองให้มากๆ”
“ที่จริงฉัน…”
“เธอไม่ต้องพูดหรอก ฉันเข้าใจ แม้จะเข้าใจนิดเดียวก็เถอะ” เจ้าของอ้อมกอดพูดโพล่งขัดจังหวะที่ฉันกำลังจะอธิบายว่า เมื่อกี้ฉันคิดจะทำอะไรกันแน่ เพราะงั้นฉันเลยเลือกที่จะเงียบไว้ก่อนแล้วฟังเขาแทน “ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอมีเรื่องกลุ้มใจอะไรกันแน่ แต่เธอคิดให้ดีๆ ดีกว่านะฟาง อย่าทำแบบนี้เลย เธอต้องรักตัวเองนะ”
ตอนนี้แหละที่น้ำตาฉันหยุดไหลเพราะคำปลอบประโลมทึ่มๆ นั่น
ฉันว่า…อีกไม่นานฉันต้องหลุดหัวเราะจนหายใจไม่ทันแน่ๆ น้ำเสียงของซิมฟังดูซีเรียสมาก ไหนจะฝ่ามืออุ่นๆ ที่เริ่มขยับลูบหลังปลอบนี่อีก
“นี่นาย ฉันไม่…”
ฟึ่บ!
คราวนี้เขาดันตัวฉันออกห่างและใช้มือยึดต้นแขนทั้งสองของฉันเอาไว้แทน นัยน์ตาสีเข้มจ้องฉันนิ่งคล้ายจะสะกดจิต เล่นเอาฉันต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคออีกครั้งหนึ่ง สบตาตอบเขาในแบบเดียวกัน ขณะที่รอดูว่า คนตรงหน้าจะใช้วิธีไหนมาช่วยไม่ให้ฉันคิดสั้น
“เอางี้ ถ้าเธอไม่รักตัวเอง เธอรักฉันก็ได้ ฉันยอมให้เธอรักเลยเอ๊า! ถ้าไม่คิดถึงตัวเองก็มาคิดถึงฉันนี่รู้ไหม” สีหน้าและน้ำเสียงจริงจังนั่นมัน…
เอ๊ะ?
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เขาบอกว่า…
“ถ้าเธอไม่อยู่ฉันต้องเหงาแน่ๆ ฉันถูกชะตากับเธอจริงๆ นะ แต่ปกติฉันไม่เคยต้องปลอบใคร ฉันมีแต่พี่สาวที่ปลอบและโอ๋ฉันมาตลอด แต่ไม่ต้องห่วง ต่อไปฉันจะโอ๋เธอเอง โอเคไหม ไม่ร้องนะ แล้วทีหลังอย่าทำแบบนั้นอีก”
ฉันเลิกร้องไปนานแล้วเหอะ แต่ก็ยอมรับว่าเพราะเขานั่นแหละ
เฮ้อ!
“นายให้ฉันทำอะไรนะ” ที่ถามอีกครั้งไม่ใช่เพราะประมวลผลคำพูดเขาไม่ทัน แต่เพราะอยากให้เขาทวนคำพูดของตัวเองใหม่
“ฮะ?” สีหน้าวิตกกังวลของคนคิดไปไกลคลายลงนิดหนึ่ง กลายเป็นความงุนงงเล็กๆ แทรกเข้ามาแทนที่ “ฉันบอกว่า…ว่า...ห้ามทำแบบเมื่อกี้ไง”
“ไม่สิ ก่อนหน้านั้นน่ะ ถ้าฉันไม่รักตัวเอง ฉันต้องทำยังไงเหรอ”
“ก็…” คนตัวสูงทำหน้าเลิ่กลั่กทันที แต่แล้วก็เหมือนเขาจะหาทางหนีทีไล่ได้ทันเวลา ซิมปล่อยมือจากไหล่ฉันทั้งสองข้าง ก่อนเอี้ยวตัวแล้วชี้นิ้วไปที่พื้นด้านหลังตัวเอง “กินน้ำเต้าหู้กับขนมปังสังขยาไหม ฉันซื้อมาฝาก เผื่อกินแล้วจะได้คิดมาก เอ๊ย คิดให้ดีๆ มากขึ้น”
ฉันเหลือบสายตามองตามปลายนิ้วของเขาไปก็เห็นสิ่งที่เจ้าตัวบอกนั้นนอนแหมะอยู่บนพื้น ให้เดาก็คงไม่พ้นว่า เขาตกใจตอนเข้ามาเห็นฉันคล้ายกำลังจะกระโดดตึก เลยเผลอปล่อยของกินทิ้งแล้วพุ่งมาช่วยชีวิตฉันเอาไว้แน่ๆ
แต่ขอโทษที…
“ฉันน่ะ” ฉันละสายตาจากของบนพื้นมามองหน้าซิมแล้วบอกความจริง “คือที่จริงแล้วฉันจะปีนขึ้นไปนั่งเล่นเฉยๆ”
“ฮะ?” อีกฝ่ายนิ่วหน้างง ไม่วายเหล่ตาไปมองที่กำแพงด้านหลังฉันนิดหนึ่งด้วย เรียวปากหยักลึกเม้มเข้าหากันนิดหน่อยก่อนที่เขาจะทวนถามว่า “นั่งเล่นเหรอ”
“อืม ฉันชอบนั่งมองดาวจากขอบกำแพง”
“เอ่อ ถ้างั้น…” เรียกว่าหน้าเขาถอดสีไปจะถูกหรือเปล่านะ แต่ก็ดูโล่งใจไปในคราวเดียวกันนั่นแหละ “ฉันไม่รู้ว่าร้านนี้มันอร่อยหรือเปล่านะ ดีที่ถุงน้ำเต้าหู้ยังปลอดภัยไม่หล่นลงไปตาย เอ๊ย ไม่หล่นแตก”
ซิมทำมึนเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเขาไม่ได้เข้าใจผิดอะไรทั้งนั้น ไม่วายหมุนตัวกลับไปหาของกินที่ตัวเองซื้อมาด้วย เจ้าตัวก้มหยิบถุงขึ้นมาปัดๆ เพราะอาจจะเปื้อนฝุ่น สีหน้านิ่งมาก นิ่งจนฉันอดขำไม่ได้
“ฮะๆ ๆ” แต่ก็ต้องรีบเอามือปิดปากไว้ เมื่อคนตัวสูงเหลือบมองมา
“อะแฮ่ม! หัวเราะอะไร ไปหาแก้วหาชามมาใส่สิ”
“ขอบใจนะที่เป็นห่วง” ฉันดึงซิมกลับเรื่องเดิมที่เขาพยายามจะเนียนเปลี่ยนมัน “ถึงฉันจะเคยพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่วันนี้ฉันยังไม่มีฟีลนั้นหรอกนะ”
“ว่ะ…วันนี้ไม่มีฟีล?” เขาลดถุงหูหิ้วใส่ของกินในมือลงข้างลำตัวแล้วพูดทวนคำแบบงงๆ
ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยลองทำ แต่ที่ผ่านมาก็มีคนมาช่วยแบบนี้ตลอด จนหลังๆ ฉันก็น้อยใจสวรรค์ว่า คนอย่างฉันนี่แม้แต่ความตายก็ทำให้ตัวเองไม่ได้หรือไงนะ สุดท้ายเลยไม่วายต้องกลับมาวนอยู่ในความรู้สึกว่างเปล่าอีกครั้ง และตอนไหนที่เงาของอดีตทอดผ่านมา ฉันก็ต้องทนเจ็บกับมันซ้ำๆ
ฉันไม่ได้พูดอะไรกับซิมในเรื่องนั้นอีก ทำเพียงยิ้มๆ แล้วไหวไหล่เล็กน้อยเป็นนัยว่า ‘ช่างมันเถอะ’ ก่อนเดินตรงมาทางห้องเพื่อจะหยิบแก้วกับชามตามที่เขาบอกเมื่อกี้
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ รู้แค่ว่าฉันทั้งสงสัยในตัวเองและสบายใจไปพร้อมกันอย่างบอกไม่ถูก
จนเกือบลืมไปเลยว่า…
คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือเขานั่นแหละ!

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เกลียดมากตรงประโยคที่ถ้าไม่รักตัวเองก็มารักฉันก็ได้ เกลี๊ยดดด 55555555 ได้เหรอวะซิม