ตอนที่ 4 : TWO
“ถึงว่าการร้องไห้เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ ไม่น่าร้องเลย ฉันจะต้องแต่งหน้าให้หนาขึ้น”จอร์จิน่านั่งที่หน้ากระจก ส่องดูความโทรมและไม่สดชื่นของใบหน้าหลังจากที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและเตรียมตัวไปทำงาน เธอร้องไห้แค่ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำหลังจากที่รู้ว่าตัวเองทำตัวเหมือนเด็กแค่ไหน แคโรไลน์ต้องทำเธอหมดความอดทนขั้นสูงสุดจริงๆ
ยัยนั้นร้ายกาจจริงๆ ถึงทำให้ฉันร้องไห้ออกมาได้
แคโรไลน์ทำเธออับอายที่บริษัทไม่พอยังตามมาให้เธออับอายซ้ำสองที่บ้านอีก แต่ถึงยังไงแคโรไลน์ก็โดนเธอเล่นงานกลับคืนไปบ้าง เลือดตกไปทีเดียวแถมโดนฝ่ามือเธอเข้าไปอีก ก็ดี จอร์จิน่าคิดว่าแคโรไลน์คงยื่นใบลาออกแทบไม่ทัน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนู อาหารเช้าพร้อมแล้ว”ป้าแอนเน็ตเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารเช้าที่โต๊ะ ทำงานปกติราวกับเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น ป้าแอนเน็ตเป็นอย่างนี้เสมอ เพราะอย่างนี้จอร์จิน่าเลยจำใจไล่ออกไม่ได้ หญิงชราคนนี้ไม่เคยถือสาเธอ
จอร์จิน่าหันไปมองยังแจกันที่ตกลงมาแตกเมื่อคืน ร่องรอยของมันหายไปแล้ว ป้าแอนเน็ตคงเก็บเอาไปทิ้ง จอร์จิน่าเสียดายจริงๆ ใบนั้นประมูลมาไม่ใช่ถูกๆ แถมยังเอาชนะราคาประมูลของโลเวล ฮิลตัน ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ มันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่เอาชนะหมอนั้นได้แท้ๆ
จอร์จิน่าเลิกสนใจก่อนที่หันไปทานอาหารเช้าแทน เธอเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ที่ไม่ค่อยจะมีข่าวอะไรน่าสนใจในวันนี้ และดูข่าวจากทีวี เธอสนใจข่าวในทีวีก่อนจะจิบน้ำผลไม้ไปพลาง ไม่นานจากนั้นประตูห้องก็เปิดออกโดยไม่มีการกดออดที่หน้าห้อง จอร์จิน่าแปลกใจเพราะคนที่จะเข้ามาในห้องนี้และรู้รหัสได้มีแค่เธอกับป้าแอนเน็ต เมื่อร่างสูงก้าวเข้ามา จอร์จิน่าก็หมดอารมณ์อยากอาหารพอดี
นรกชัดๆ
จอร์จิน่าหมดอารมณ์จะรับรู้ข่าวสารที่ดังมาจากทีวี เมื่อเห็นอีกคนเดินหน้าตาเย็นชาเข้ามาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อะไรกันยัยนี่ยังไม่ลาออกอีกหรอ? ตายยากจริงๆ
จอร์จิน่าเห็นว่ามือข้างที่แคโรไลน์ปัดลูบูแตงของเธอยังคงติดพลาสเตอร์เอาไว้
“มาทำอะไรที่นี่ แล้วรู้รหัสห้องฉันได้ยังไง!”จอร์จิน่าเสียงดังจนป้าแอนเน็ตใจไม่ดีกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนขึ้นอีก
“ฉันเป็นบอดี้การ์ดของคุณค่ะ ฉันจำเป็นต้องรู้รหัสห้องของคุณ มิสเตอร์เวสท์เป็นคนจัดการให้”แคโรไลน์ตอบเสียงเรียบ
จอร์จิน่าถอดหายใจแรงๆ พ่อของเธอนี่ก็เหลือทนจริงๆ แล้วตาแก่นั้นรหัสห้องเธอได้ยังไง อ่อ ป้าแอนเน็ตอีกแล้วซินะ ทำไมจนถึงปานนี้แล้วยังฟังคำสั่งพ่อของเธอแทนที่จะเป็นเธอ ทุกคนที่อยู่ในนี้เป็นคนของพ่อเธอทั้งหมด ทั้งๆที่เธอพยายามสลัดออกจากชีวิตแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล
“เมื่อไหร่เธอจะลาออก”
“ฉันรับปากกับมิสเตอร์เวสท์ว่าจะดูแลคุณ…”
“รับปากก็คืนคำได้ ฉันอยากจะคุยกับพ่อเรื่องนี้ ป้าแอนเน็ตเอามือถือมาซิ”จอร์จิน่าสั่ง พอดีกับที่มือถือของเธอมีคนโทรเข้ามา จอร์จิน่ารับสายนั้น
“ใครนะ…โซอี้ กล้าดียังไงโทรเข้ามาเบอร์ส่วนตัวของฉัน ฉันบอกเธอว่ายังไง มีอะไรก็เมล์มาบอก จะต้องให้บอกอีกสักกี่รอบ!”จอร์จิน่าต่อว่าปลายสาย จากนั้นใบหน้าของเธอก็ดูเกรี้ยวกราดขึ้นมา แคโรไลน์สังเกตพฤติกรรมนั้นและพยายามจะชิน
“กล้ามาก! ฉันบอกเธอว่ายังไงโซอี้ ฉันบอกว่าห้ามตานั่นเข้าบริษัท โธ่เอ๊ย! ให้มันได้อย่างนี้ซิ…หาอะไรนะ บังอาจสุดๆ ฉันจะจัดการเอง ไปเดี๋ยวนี้แหละ”จอร์จิน่าวางสายแล้วหุนหันเดินออกไปทันที แคโรไลน์ตามออกไปติดๆ
“นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่มิทราบยะ”จอร์จิน่าหันมาตวาดอีกคน แต่แคโรไลน์ไม่ตอบเพราะเธอได้ตอบคำถามนั้นไปแล้วว่าเธอเป็นบอดิ้การ์ดของจอร์จิน่า
“…”
“นี่”จอร์จิน่าก้าวไปที่ลิฟต์ แคโรไลน์ก็ตามเข้าไป“ไม่พูดก็ไม่ต้องพูดไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่นั้นแหละ จะเงียบก็เชิญ!”จอร์จิน่าดูเหมือนจะหงุดหงิด แต่ทำอะไรไม่ได้ เธอจึงได้แต่หัวเสียอย่างนั้นไปก่อน เพราะมีปัญหาใหญ่รอเธออยู่ ส่วนแคโรไลน์ก็พยายามจะเข้าใจอารมณ์ร้ายของจอร์จิน่า เธอเลยนิ่งเงียบเอาไว้เสียก่อนเป็นการดีที่สุด
คุณหนูอะไรอารมณ์ร้ายชะมัด
“ออกไปซะ!”ทันทีที่จอร์จิน่าก้าวเข้าไปในห้องทำงาน สิ่งแรกที่เธอทำก็คือตะโกนเสียงดังไล่แขก โซอี้เลขาที่ยืนอยู่ในนั้นก่อนแล้วกำลังหวาดกลัว เธอไม่ได้หวาดกลัวผู้ชายที่นั่งอยู่ในห้องนี้ แต่หวาดกลัวเจ้านายของตัวเองมากกว่า
“นั่นคือคำทักทายของคุณหรอจีน่า ผมแปลกใจว่าทำไมคุณถึงได้ชอบพูดคำนี้กับผมนัก”
แคโรไลน์ค่อนข้างเห็นด้วยกับผู้ชายคนนี้ จอร์จิน่าชอบตะคอกไล่เธอบ่อยๆจนชินไปเสียแล้ว
ผู้ชายที่นั่งสบายๆอยู่ที่โซฟาหันหน้ามายิ้มให้จอร์จิน่า เขาดูเป็นผู้ชายที่แข็งแรง ราวกับนักกีฬา ผมสีบลอนด์ และเคราของเขาขลับให้ใบหน้าดูหล่อเหลา ดวงตาสีฟ้าเจ้าเล่ห์ของเขามองจอร์จิน่าอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าผมเป็นคุณผลจะทักว่า ‘ว่าไง ที่รักของฉัน’ ”
“ชาติหน้าเถอะยะ”จอร์จิน่าเบ้ปาก
เขาปรายตามายังแคโรไลน์ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังจอร์จิน่า
“ว้าว คุณไปหาเลขาคนใหม่หุ่นสวยแบบนี้ได้จากที่ไหนนะจีน่า แล้วโซอี้ล่ะจะทิ้งแล้วหรอ?”เขาลุกขึ้นจากโซฟาและเดินปลีกตัวเข้ามาหาแคโรไลน์ โซอี้ทำท่าจะแย้ง แต่แคโรไลน์พูดขึ้นก่อน
“ฉันเป็นบอดิ้การ์ดค่ะ”
“ให้ตายเถอะ”เขามองดูแคโรไลน์ใกล้ๆ จนหญิงสาวต้องเอียงตัวออกห่างไปนิดหน่อย“ผมจะหาบอดิ้การ์ดอย่างคุณได้ที่ไหน ตอบหน่อยซิโซอี้”
เขาทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่แคโรไลน์แต่ดันถามโซอี้ขึ้น เลขาสาวอึกอักที่จะตอบ แคโรไลน์คิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ช่างพูดช่างเจรจา แต่พอตั้งใจมองดีๆก็รู้ว่าเขาประหม่าอะไรบางอย่าง แคโรไลน์เคยพบคนที่มีพฤติกรรมแบบเขาตอนทำงานที่เอฟบีไอ
จากนั้นเขาก็เลี่ยงไปคุยเรื่องอื่น อย่างสภาพอากาศ ภาพยนตร์ที่จะฉาย และเขากำลังจะไปเที่ยวที่แคนาดา จนจอร์จิน่าต้องพูดดักคอเขา
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระ ฉันทนฟังต่อไปไม่ได้มันระคายหู แล้วฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ หรือจะให้ฉันลงทุนติดป้ายประกาศห้ามคุณเข้ามา”
“ผมไม่เคยอยากมาที่นี่หรอก นอกจากจะเป็นห้องของคุณค่อยดีขึ้นมาหน่อย”
จอร์จิน่ากลอกตา“ว่าธุระของคุณมา”
เขาพยักหน้ายอมแพ้อีกคน ก่อนจะกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม และทำท่าเชิญให้จอร์จิน่านั่งลง แต่หญิงสาวเมินคำเชิญนั้น พลางบอกให้แคโรไลน์และโซอี้ออกไปรอข้างนอกห้อง และเหนือสิ่งอื่นใด เธอสั่งให้โซอี้ปิดประตูกระจกทั้งๆที่ไม่เคยจะปิดเลยนอกจากแขกคนนั้นจะมีเรื่องสำคัญมากๆ
แคโรไลน์เดินออกมาก่อนโซอี้ที่ปิดประตูตามหลังออกมา ใบหน้าของโซอี้ไม่สู้ดีนักหลังจากที่มองจอร์จิน่ากับผู้ชายคนนั้นคุยกันอยู่ในห้อง สีหน้าของจอร์จิน่าดูเครียดๆ
“ผู้ชายคนนั้น เอ่อ ที่กำลังคุยอยู่กับคุณจอร์จิน่า ดูเหมือนไม่ค่อยจะลงรอยกันนะคะ”แคโรไลน์พูดลอยๆ อยู่ๆเธอก็อยากรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
“ใช่ค่ะ คุณบอดิ้การ์ด โทษทีนะคะคุณชื่อว่าอะไรนะคะ คุณ…”
“แคโรไลน์ ครอสไวต์ ค่ะ”
“ฉันโซอี้ อีแวนส์ ค่ะ”หลังจากที่เธอแนะนำตัวก็เล่าเรื่องของผู้ชายคนนั้นออกมา“ผู้ชายคนนั้นชื่อ โลเวล ฮิลตัน ค่ะ เป็นผู้บริหารสำนักข่าว CC Today เขาเป็นนักข่าว และนักหนังสือพิมพ์ชื่อดัง เห็นในข่าวพูดเอาไว้อย่างนั้น จะว่าไปฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากกว่านั้น เวลาที่มิสเวสท์เจอกับเขา เธอดูอารมณ์ไม่ดีมากเลยนะคะ ฉันคิดว่าทั้งสองคนไม่น่าจะอยู่ด้วยกันเกินห้านาที”
แคโรไลน์มองผ่านกระจก โลเวลไม่ใช่ผู้ชายที่เกรงกลัวจอร์จิน่า เขาดูกวนประสาทเสียมากกว่า สองคนนี้ต้องมีอะไรกันมากกว่านักธุรกิจที่รู้จักกัน บางทีอาจจะรู้จักกันมากกว่านั้น จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเธอที่ต้องคิดมาก เพราะนั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของจอร์จิน่า และดูเหมือนว่ารายนั้นจะรับมือได้อยู่แล้ว
“ฉันเคยอ่านในนิตยสารเล่มหนึ่งน่ะค่ะ มิสเตอร์ฮิลตันเคยให้สัมภาษณ์ว่าชอบผู้หญิงสเปคแบบมิสเวสท์ แต่ในความจริงนั้นมิสเวสท์ เอ่อ…ไม่น่าจะคิดแบบนั้นกับเขานะคะ”
“…”แครไลน์คิดว่าโลเวลแอบชอบข้างเดียว สำหรับจอร์จิน่าแคโรไลน์ไม่ปฎิเสธเลยว่าเธอสวยมาก ไม่แปลกที่จะมีผู้ชายมาเกี่ยวข้องด้วยตลอดเวลา แต่ผู้ชายอย่างโลเวลดูท่าจะไปไม่รอด เพราะจอร์จิน่าแสดงท่าทีรำคาญใจน่าดู
แคโรไลน์แค่สังเกตพฤติกรรมของทั้งสองเงียบๆ
“มีเรื่องอะไรก็รีบๆพูดมา”จอร์จิน่ายืนกอดอกเชิดหน้าหยิ่งส่งให้อีกคน ถ้าเอามนุษย์ผู้ชายมายืนกองๆกันอยู่ตรงนี้ โลเวลเป็นผู้ชายที่เธอเกลียดที่สุดในโลก เขากลั่นแกล้งเธอด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงเรื่องธุรกิจ เขาตามจีบเธอตั้งแต่ตอนอยู่มหาวิทยาลัย พอเธอไม่เล่นด้วยก็ดูเหมือนจะแค้น พยายามเอาชนะเธอด้วยเรื่องไร้สาระจนถึงทุกวันนี้ จอร์จิน่าพยายามสงบเพราะเขาก็เป็นถึงผู้บริหารสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ และเหนือสิ่งอื่นใด เธอคร้านจะมีข่าวกับเขา
“งั้นผมก็ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ”เขาพูด“ผมได้ข่าวจากวงในมาว่าคุณกำลังจะเขียนแฉนักธุรกิจลงคอลัมน์ของคุณในเดือนหน้า”
จอร์จิน่ามองเขา เขาตั้งใจจะพูดอะไรกันแน่? แล้วข่าววงในที่ว่าาคืออะไร ใครในบริษัทเธอเป็นคนไปโพนทะนา อย่าให้จับได้นะ เรื่องยาวแน่!
“แล้วไง?”
“ก็ไม่แล้วไงหรอก เพราะคนที่คุณจะเขียนคือลุงของผมน่ะซิ”
คนในบริษัทของเธอตัวการจริงๆ อีตานี่ยัดเงินให้ใครเป็นไส้ศึก
“แล้ว?”จอร์จิน่ายังแสร้งทำเป็นเชิดใส่ ทั้งๆที่ในใจเริ่มหวั่นๆอยู่เล็กน้อย
“คุณได้ข้อมูลมาจากไหน ผมล่ะทึ่งคุณเลย”
“ถ้าคุณจะฟ้อง ฉันมีทนายบริษัท”
เขาหัวเราะ“อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลย เราตกลงกันได้นี่”
“คุณกำลังจะเขียนอะไรเกี่ยวกับลุงของผม”
“ทำไมฉันต้องบอกคุณ แน่นอนว่าฉันมีหลักฐานก็แล้วกัน เรื่องจริงใครก็อยากได้ยิน อยากอ่าน อยากเม้าส์ มันเป็นสัจธรรม”
“สัจธรรมบ้าบออะไรของคุณ”
จอร์จิน่าหยักไหล่ไม่สนใจ
“จอร์จิน่าถ้าคุณจะกรุณา ผมไม่อยากให้คุณเขียนถึงลุงของผม มันกระทบบริษัทของผม เขาเป็นที่ปรึกษา”โลเวลหัวเสียแต่จอร์จิน่ายิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่า
“ฉันไม่รับปากคุณหรอกนะ คุณบอกเองไม่ใช่หรอว่าธุรกิจอย่างเรามันต้องขยันทำมาหากิน”
เขาลุกพรวดขึ้นด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด เขาอยากจะขย้ำเธอด้วยมือคู่นี้ และขู่ให้กลัว แต่น่าเสียดาย เธอไม่เคยกลัวเขา แต่…เธอมีจุดอ่อน
ใช่ จอร์จิน่ามีจุดอ่อนที่โลเวลรู้ดี
“คุณจะเล่นอย่างนี้ใช่มั๊ย? ได้”เขาพยักหน้า“ผมก็ต้องขยันทำมาหากินเหมือนกันจีน่า”
เขาพูดและแสยะยิ้มมาให้เธอ ก่อนจะหยิบซองสีน้ำตาลขนาดซีหกออกมาจากกระเป๋าสูทสีเทาด้านใน และว่างมันลงที่โต๊ะ
“นั่นอะไร”
“ไม่ใช่จดหมายสารภาพรักของผมแล้วกัน เปิดดูสิ”
เขาพูดแฝงนัยน์บางอย่าง จอร์จิน่าทนเมินไม่ได้เพราะความอยากรู้อยากเห็นของเธอจะบดบังการตัดสินใจแทบทุกครั้ง เธอหยิบมาขึ้นมาแล้วเปิดออกดู
รูปถ่าย
“…?” รูปถ่ายที่จอร์จิน่าเอาออกมาจากซองมีประมาณห้าถึงหกรูปเห็นจะได้เธอเดาจากน้ำหนัก ในภาพ มีชายในรูปกำลังเดินเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งป้ายเขียนว่า ‘สถานบำบัดอีสคาสเซิล’ คนที่หันหลังให้รูปจอร์จิน่ารู้ได้ทันทีว่าเป็นพ่อของเธอ
“อะไร? ให้ฉันดูว่าพ่อของฉันซ่อนผู้หญิงอีกคนเอาไว้หรือไง เรื่องนี้ฉันไม่สนหรอก”จอร์จิน่าพูดเป็นเชิงไม่ใส่ใจ
“คุณนี่ใจร้ายกับพ่อจังเลยนะ…ไม่ใช่หรอก ดูไปเรื่อยๆ”
ร่างบางไล่ดูรูปภาพเรื่อยๆจนหยุดมองรูปที่สี่ พ่อของเธอยืนคู่กับเด็กหนุ่มอายุวัยยี่สิบปีต้นๆ แค่หันหน้ามาครึ่งหนึ่งจอร์จิน่าก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร น้องชายของเธอ
“แดนหรอ?” นี่มันเรื่องบ้าอะไรน้องชายกับพ่อของเธอไปทำอะไรที่นั่นกันล่ะ เธอไม่เข้าใจเลย และดูเหมือนว่าโลเวลจะอ่านสีหน้านั้นออก เขาเลยอธิบายให้ฟัง
“น้องชายของคุณเหมือนกับกำลังบำบัดฟื้นฟูอะไรซักอย่างอยู่นะ รูปนี้ถ่ายเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว”
อยู่ๆจอร์จิน่าก็รู้สึกปากคอแห้งไปหมด ใบหน้าหยิ่งๆของเธอดูเปลี่ยนไป โลเวลยิ้ม นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะเห็น
“ไม่จริง ภาพตัดต่อชัดๆ แดนนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อย่ามาโกหกฉันซะให้ยาก ฉันไม่หลงกลคุณหรอก”
โลเวลหัวเราะในลำคอ“คุณคิดว่าตลอดเวลาน้องชายคุณพักรักษาตัวอยุ่ที่โรงพยาบาลในควีนซินะ แล้วในภาพนี้คืออะไรล่ะ อีสคาสเซิลอยู่ที่บรูคลิน ผมจะบอกให้นะว่าใครก็ตามที่ไปที่นั่นไม่ติดยาก็ติดเหล้า…”โลเวลหยุดพูดและดูปฎิกิริยาของอีกฝ่าย เขาพอใจที่เห็นสีหน้าที่มีเลือดฝาดนั้นซีดลง ส่วนจอร์จิน่าไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย เธอคุยกับจอร์แดนน้องชายของเธอทุกวันเขาก็บอกว่าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในควีนตลอด แล้วทำไมน้องชายของเธอจะต้องโกหกด้วย พ่อกับน้องชายของเธอกำลังปิดปังอะไรอยู่กันแน่
“จีน่าคุณควรจะคุยเรื่องนี้กับพ่อของคุณนะ ไม่ซิ ไม่ต้องโทรคุยก็ได้ เพราะข่าวนี้จะตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของผมเช้าวันพรุ่งนี้ แล้วคุณค่อยคุยกับพวกเขาตอนเช้าก็ได้”
“…!”แววตาสีฟ้าของจอร์จิน่าคุกรุ่นไปด้วยโทสะ เธอมองโลเวลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาตั้งใจจะกลั่นแกล้งเธออยู่แล้ว เขาเก็บเรื่องนี้เอาไว้นาน เพื่อที่จะต่อรองกับเธอยามที่เธอจะงัดข้อแข่งกับเขา
“คุณบอกเองไม่ใช่หรอกว่าธุรกิจอย่างเรามันต้องขยันทำมาหากิน”เขาพูดคำที่จอร์จิน่าพูดก่อนหน้านี้ตีแสกหน้าเธอ และฉีกยิ้มให้
“ไอ้คนทุเรศ!”
“นั่นแหละผม”เข้าโค้งหัวรับคำด่านั้น ก่อนจะลุกขึ้นและเผชิญหน้ากับร่างบาง เขามองใบหน้านางพญาแสนสวยที่เปี่ยมไปด้วยโทสะ ริมฝีปากแดงสดของจอร์จิน่าเม้มเป็นเส้นตรงด้วยความโกรธแค้น เธอกำลังโกรธ โกรธมากด้วย นั่นโลเวลรู้ดี
“คุณมีเวลาคิดจนถึงคืนนี้นะจีน่า เลิกเขียนเรื่องของลุงผม แล้วเรื่องของน้องชายคุณจะรอด”เขายิ้มและโน้มหน้าลงมากดเสียงเน้นย้ำ
“ผมพูดคำไหนคำนั้น”โลเวลส่งมือไปแตะที่ปลายคางเรียวของจอร์จิน่าอย่างเย้าแหย่ แต่หญิงสาวปัดออกอย่างแรงด้วยความขยะแขยง
เขาหัวเราะก่อนจะเดินเฉิดฉายออกจากห้องอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้จอร์จิน่ามองทิ่มแทงเขาจากด้านหลัง
“เอาอีกแล้วมิสเตอร์ฮิลตัน ทำให้มิสเวสท์โกรธอีกแล้วซินะคะ”โซอี้พูดขึ้นหลังจากที่สังเกตเหตุการณ์อยู่ข้างนอกห้องกับแคโรไลน์ โซอี้ดูจะเป็นห่วงจอร์จิน่ามาก ก่อนที่โลเวลจะเปิดประตูออกมา เขาเดินผ่านทั้งสองคนไป แคโรไลน์เดินไปหยุดที่ประตู สักพักโลเวลก็เดินกลับมา ราวกับว่าลืมอะไรในห้อง แต่เปล่า เขาเดินเข้ามาหาแคโรไลน์
“คุณคนสวย ช่วยบอกจีน่าให้พิจารณาเงื่อนไขของผมด้วยนะครับ”
“ค่ะ”แคโรไลน์ตอบไปส่งๆ เขาพยักหน้าแล้วมองแคโรไลน์
“ผมอยากได้บอดิ้การ์ดแบบคุณจัง”โลเวลขยิบตาให้แคโรไลน์ เขาไม่ได้ฟังคำตอบจากเธอ เพราะเธอเงียบไม่เปิดปากพูดอะไร แล้วเขาก็เดินจากไปจริงๆในคราวนี้ แคโรไลน์เกือบส่ายหน้าเอือมให้กับความขี้หลี่ของเขา
แคโรไลน์หันไปมองจอร์จิน่าที่อยู่ในห้องทำงาน ตอนนี้ร่างบางเดินกลับไปนั่งที่ห้อง เธอกุมขมับเคร่งเครียดอะไรสักอย่าง หญิงสาวนั่งดูรูปพวกนั้นอยู่สักพัก แคโรไลน์เดาว่าโลเวลกำลังแบล็กเมล์จอร์จิน่าอยู่ และคิดว่ามันได้ผลด้วยเมื่อดูจากสีหน้าของอีกฝ่าย
“โซอี้!”เสียงของจอร์จิน่าเรียกเลขา โซอี้สะดุ้งก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้อง สักพักเธอก็เดินออกมา
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“มิสเวสท์ต้องการติดต่อกับสถานบำบัดอีสคาสเซิลที่บรูคลินค่ะ”
“…?” สถานบำบัด? แคโรไลน์รู้จักที่นั้น เพราะเคยไปเยี่ยมคนที่เธอคุ้มกันตอนเป็นเอฟบีไอมาก่อน ที่นั้นบำบัดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า ติดเหล้าหรือติดยาเสพติด จอร์จิน่าติดต่อที่นั่นทำไมกันนะ เธอเครียดกับโลเวลจนต้องไปบำบัดขนาดนั้นเลยหรอ? ไม่หรอกมั่ง คงมีอะไรมากกว่านี้
จากนั้นไม่นานโซอี้ก็เข้าไปหาจอร์จิน่า เธอคุยโทรศัพท์สักพัก และเห็นได้ชัดว่าโมโห เธอเดินกระแทกเท้าออกมาจากห้องทำงาน และเปิดประตูเกือบกระแทกหน้าแค่โรไลน์ อันนี้แคโรไลน์คิดว่าเธอตั้งใจ
“เธอรู้จักที่นี่มั๊ย?”จอร์จิน่าพูดกับแคโรไลน์และชูรูปขึ้นมาให้ดู ชาร์ลีกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ทั้งสองหน้าตาตึงเครียด ข้างๆทั้งสองคนคือป้ายของสถานบำบัดอีสคาสเซิล
“รู้จักค่ะ”
“ดี พาฉันไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”เธอพูดด้วยใบหน้าหยิ่งๆเป็นเอกลักษณ์ และเดินนำออกไป แคโรไลน์รีบยกหูต่อสายหาแกรี่คนขับรถทันที
ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงสถานบำบัด ระหว่างทางที่มาจอร์จิน่านั่งหน้าบูดบึ้งไม่พูดอะไรออกมาเลยสักนิด ทั้งๆที่ปกติพูดจนแคโรไลน์รำคาญ แต่วันนี้แคโรไลน์คงต้องขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ได้ประทานเสียงของจอร์จิน่ามาให้เธอต้องระคายหู
สงสัยไม่สบอารมณ์จริงๆแหะ เป็นคนหนูที่มีอารมณ์หลากหลายจริงๆ
เมื่อมาถึงสถานบำบัดจอร์จิน่าก็เดินนำแคโรไลน์ไปยังโต๊ะประชาสัมพันธ์อย่างเร็ว เธอคงจะติดต่อเจ้าหน้าที่ที่นั่นแล้ว พอเธอมาพยาบาลก็ลุกและพาเธอไปยังห้องที่เธอต้องการทันที ทุกวินาทีที่แคโรไลน์เดินตามจอร์จิน่า เธอรู้สึกได้ว่าอีกคนหงุดหงิด แต่เมื่อเดินถึงห้องที่ต้องการเยี่ยมเข้ามาเรื่อยๆ จอร์จิน่าก็เริ่มสงบขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
“ถึงแล้วค่ะ ห้องสองศูนย์สาม”พยาบาลบอกก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป
พยาบาลจากไปได้สักพัก แต่จอร์จิน่ายังยืนอยู่ที่หน้าประตู แคโรไลน์ได้ยินเสียงถอนหายใจ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะย้ายตัวเข้าไปในห้องเลย อะไรกันนะ? เธอกำลังประหม่าสินะ ใครเป็นคนที่ทำให้จอร์จิน่าประหม่าได้ถึงขนาดนี้ เธอชักอยากจะเห็นคนที่อยู่ในห้องซะแล้วสิ
“คุณไม่เข้าไปหรอคะ?”
“เงียบไปเถอะ ยัยงี่เง่า”
แคโรไลน์โดนคำพูดทิ่มแทงเข้าให้
และดูเหมือนว่าคำถามของแคโรไลน์จะไปกระตุ้นต่อมท้าทาย จอร์จิน่ากระแทกเปิดประตูเข้าไปอย่างแรง จนคนที่อยู่ในห้องสะดุ้ง
“…!!”
เขาเป็นเป็นหนุ่มอายุประมาณยี่สิบต้นๆ กำลังนอนคว่ำอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เสี้ยววินาทีที่จอร์จิน่าก้าวเข้าไป เขาก็ยิ้มกว้างน่ารักให้ไม่สนใจหนังสือ ก่อนจะไถลลงเตียง และวิ่งเข้ามากอดจีน่าแน่น และตบท้ายด้วยอุ้มพี่สาวหมุนวนรอบหนึ่ง
“จีน่า พี่มาหาผม!”เขากับจอร์จิน่าหัวเราะออกมาพร้อมกัน มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อในสายตาของแคโรไลน์ เพราะปกติจอร์จิน่าจะทำหน้ายักษ์ หยิ่งๆ เชิดๆจนเธอรู้สึกปวดคอแทน แต่มาวันนี้จอร์จิน่าหัวเราะอย่างมีความสุขก็น่ารักดีเหมือนกัน มันเป็นภาพที่น่าดูกว่าเยอะเลย
“เอ่อ…คนนี้ใครครับ”เขาเอียงหัวมามองแคโรไลน์ เธอแนะนำตัวกับเขา
“ฉันเป็นบอดี้การ์ดของคุณจอร์จิน่าค่ะ”
“โอ้!”
“พ่อยัดเหยียดให้พี่น่ะ”จอร์จิน่าเบ้ปาก
“ฉันแคโรไลน์ ครอสไวต์ค่ะ”เธอแนะนำตัว หนุ่มคนนั้นไม่ได้สนใจว่าพี่สาวของตัวเองคิดยังไงเขาแค่ยิ้ม และเดินเร็วๆเข้ามาจับมือของแคโรไลน์เป็นการทักทาย ทั้งๆที่อีกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาเป็นหนุ่มที่คล่องแคล่วร่าเริงอะไรขนาดนี้
“ผมจอร์แดน เวสท์ เรียกผมว่าแดนก็ได้ ผมเป็นน้องชายของพี่จีน่า”เขาฉีกยิ้มจริงใจให้แคโรไลน์อีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่าผมสีบลอนด์ของเขาไม่ยุ่ง ถุงใต้ตาไม่คล้ำจนเป็นสีดำ พื้นฐานใบหน้าของหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ดูดีมากทีเดียว แต่เป็นเพราะเขาพักรักษาตัวอยู่ ก็เลยมีสภาพอย่างที่เห็น เขามีทุกอย่างที่คล้ายจอร์จิน่า สีผม สีตา และรอยยิ้ม ถ้าจอร์จิน่ายิ้มบ่อยๆน่ะนะ
“พี่จะมารับผมกลับบ้านใช่มั๊ยครับ?”
“เอ่อ…เอาจริงๆนะแดน พี่แทบไม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหนเลย พี่รู้มาจากคนอื่นด้วยซ้ำ ทำไมเราถึงไม่ยอมบอกอะไรพี่เลยว่าย้ายจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่นี่”
“พ่อไม่ให้ผมบอกอะไรพี่เลย พ่อบอกว่าไม่อยากให้พี่เป็นห่วง”
จอร์จิน่าถอนหายใจ ก่อนจะเข้าคำถาม“แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่”
“ผมติดเหล้าน่ะ…”
“…”
“ผมไม่กล้าบอกพี่ ตอนอยู่โรงพยาบาลก็แกล้งบอกว่าแค่ไม่สบาย แต่จริงๆแล้วผมดื่มหนักเข้าขั้นวิกฤตเลย”
“ทำไมถึงได้ติดแหละ ปกติไม่ดื่มไม่ใช่หรอ?”
จอร์แดนจ้องหน้าพี่สาวแวบหนึ่งก่อนจะล่ะสายตาไปที่อื่น
“พี่ไม่เคยกลับบ้านเลย ผมอยู่กับพ่อแค่สองคนในคฤหาสน์หลังใหญ่ พ่อทำงานหนัก ส่วนผมก็อยู่คนเดียว…ผมเหงา ก็เลยประชดด้วยการออกไปเที่ยวนอกบ้าน”
“…” เป็นเพราะเธอกับพ่อสินะที่ทำให้น้องชายต้องมาอยู่ในที่บ้าๆแบบนี้
“สภาพร่างกายของผมอ่อนแอมาแต่ไหนแต่ไรพี่ก็รู้ แต่ผมค้นพบว่าตัวเองไม่ยักจะแพ้เหล้า”เขาหัวเราะประชดตัวเอง
“ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งครับ เธอเรียนที่เดียวกันกับผม เราเจอกันที่คลับ ตลอดสี่เดือนเราสนิทกันมาก เธอเป็นกำลังใจให้ผมเสมอ แม้ในยามป่วย จนกระทั่งวันหนึ่งผมก็รู้ความลับของเธอเข้า”
จอร์แดนกำมือตัวเอง เขากำลังเศร้า และน้อยใจที่นึกถึงเหตุการณ์นั้น เขาทรงตัวไม่อยู่เลยทรุดลงนั่งที่เตียงแทน
“ผมรู้ว่าที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพราะคำท้าของเพื่อน เพื่อนท้าให้เธอจีบผมให้ติด พอเธอขอคบกับผม เราอยู่ด้วยกันสองวันเธอก็หายไปจากชีวิตของผม เธอไม่ยุ่งกับผมอีกเลย มือถือก็เปลี่ยนเบอร์ เข้าไปทักก็เดินหนีหน้าตาเฉย ผมตามเธอไปทุกที่ตื้อเธออยู่ได้สักพัก เธอก็ไม่สนใจอะไรผมเหมือนเดิม ผมเสียใจมากเลยหันไปเพิ่งเหล้าเพื่อที่จะลืมเธอคนนั้น”
“เลวจริง! ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครบอกพี่มา”
จอร์แดนส่ายหน้า“พอเถอะครับ ผมไม่อยากไปยุ่งกับเธออีกแล้ว”
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าเป็นใคร”จอร์จิน่าพึมพำ
“ผมยอมรับว่าหลงรักเธอจริงๆ เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือน แต่ผมก็จะพยายามลืมเรื่องทั้งหมด วันที่ผมเข้าโรงพยาบาลและหมดสติ ผมเมามากเลย ผมไปหาพี่ที่เพนท์เฮ้าส์ด้วย แต่ยามหน้าตึกไม่ยอมให้ผมเข้าไป เขาไม่เชื่อว่าผมเป็นน้องชายของพี่ ผมลากสังขารตัวเองกลับบ้าน หมดสติไปเมื่อไหร่ไม่รู้ พอฟื้นอีกทีก็มาอยู่ที่โรงพยาบาลที่ควีนแล้ว”
“…”จอร์จิน่ารู้สึกโกรธตัวเอง วันที่น้องชายต้องการเธอมากที่สุด แต่เธอก็ไม่รู้เรื่องอะไร ปล่อยให้น้องของตัวเองต้องเจอกับเรื่องร้ายๆอยู่หลายเดือน เธอเป็นพี่ที่แย่จริงๆ
“ทำไมไม่บอกพี่ล่ะว่าจะไปหา”
“จริงๆแล้วผมไม่อยากรบกวนพี่ แต่ว่าวันนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงได้คิดถึงพี่นัก”
จอร์จิน่านั่งลงข้างๆน้องชายมืออีกข้างโอบไหล่เขาไว้เป็นเชิงปลอบใจ แคโรไลน์มองพฤติกรรมนั้นนิ่ง เธอเห็นแล้วจุดอ่อนของจอร์จิน่า คือหนุ่มอายุยี่สิบสามปี น้องชายของเธอ จอร์แดน
“ครั้งหน้ามีอะไรก็รีบบอกพี่เข้าใจมั๊ย?”
“…”เขาพยักหน้า
“โอเคเดี๋ยวพี่จะติดต่อให้ที่บ้านมารับ…”
“ไม่ ผมยังไม่อยากกลับบ้าน พ่อก็สักแต่บ่น บังคับผม ถ้าจะกลับไปบ้านผมยอมอยู่ที่นี่จะดีกว่า”
จอร์จิน่าเลิกคิ้ว เขามองพี่สาวก็จะพูดออกมาอีก“อีกอย่างรอให้ผมพร้อมก็ได้ ผมจะอยู่บำบัดที่นี่อีกสักหน่อย เผื่ออะไรๆจะดีขึ้นบ้าง”
“ถ้างั้น…วันหยุดเสาร์อาทิตย์พี่จะให้คนมารับไปที่เพนท์เฮ้าส์พี่ก็แล้วกัน ออกไปข้างนอกบ้างก็ได้ เดี๋ยวพี่จะแจ้งหมอให้”
“จริงนะครับ”ดวงตาเขามีประกายความสุข จอร์จิน่าเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมพวกเธอถึงได้ไม่อยากกลับไปบ้านที่รัฐควีนนัก
“จริง แล้วพี่จะมารับทุกวันหยุด”
“อือ”เขาฉีกยิ้มหวานอีกครั้ง
หลังจากที่นั่งรถกลับบริษัท จอร์จิน่าก็ไล่ให้แคโรไลน์ออกมาข้างนอกห้องทำงาน ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘เห็นหน้าเธอแล้วไม่มีอารมณ์ทำงาน’ แคโรไลน์เลยต้องใช้เวลาว่างทัวร์บริษัททั้งยี่สิบเจ็ดชั้นด้วยตัวเอง เพื่อจะเป็นประโยชน์กับตัวเองบ้าง
บริษัทเมอร์โร่วเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ หนังสือ นิตยสาร มีการแบ่งชั้นการทำงานได้อย่างชัดเจน บุคลากรของนิตยสารยูนีคด้านแฟชั่นจะอยู่ที่ชั้นยี่สิบเจ็ด คือชั้นบนสุด ชั้นยี่สิบหกถึงยี่สิบสี่เป็นสตูดิโอถ่ายแบบทั้งหมด ชั้นยี่สิบสามเป็นพื้นที่ของนิตยสารการท่องเที่ยว ชั้นที่ยี่สิบสองนิตยสารสารคดี ชั้นที่ยี่สิบเอ็ดถึงสิบเก้าเป็นสตูดิโอรายการทีวีและแน่นอนแยกประเภทรายการตามนิตยสารทั้งสามไว้คนละชั้นอย่างชัดเจน ชั้นที่สิบแปดถึงสิบเจ็ดเป็นห้องสมุดที่มีเอกสาร นิตยสารของบริษัทเมอร์โร่ว์ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบตั้งแต่ฉบับแรกจนถึงปัจจุบัน และมีหนังสือด้านการท่องเที่ยว แฟชั่น และสารคดีต่างๆทอดยาวจนสุดสายตา ชั้นที่สิบหกถึงสิบสี่เป็นชั้นที่รองรับแขก ตกแต่งอย่างเรียบหรูราวกับโรงแรม มีโซฟาหลายชุด และโต๊ะบาร์ไว้ดื่ม ชั้นสิบสามเน้นไปในทางออกกำลังกาย ดูๆแล้วเปิดเป็นฟิตเน็ทยังได้เลย ชั้นสิบสองทั้งชั้นดูเหมือนจะเป็นห้องพักผ่อนของพนักงาน มีบาร์เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ชั้นสิบเอ็ดถึงแปด เหมือนจะเป็นการให้ยืมสถานที่เพื่อจัดงาน ส่วนหกชั้นที่เหลือยังคงว่างเอาไว้ เพื่อใช้สอยในอนาคต และชั้นแรกเป็นลอบบี้ เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์รับรองแขก รู้สึกว่าอีกตึกสิบชั้นที่อยู่ข้างๆกันเป็นสำนักพิมพ์แอมิทิสต์ในเครือของบริษัทเมอร์โร่ว์ ไหนจะโรงพิมพ์ที่อยู่ถนนถัดไป แคโรไลน์รู้สึกเมื่อยล้ากับสิ่งที่เธอเพิ่งค้นพบในวันนี้ บางทีเธอก็ป่วยการกับความเป็นเจ้าของบริษัท จอร์จิน่าก็มีหัวที่ฉลาด ทันสมัยใช้ได้เลยทีเดียว
“…”แคโรไลน์นั่งพักอยู่ชั้นแรกที่เป็นล็อบบี้พนักงานประชาสัมพันธ์ เพราะอยู่ๆก็รู้สึกปวดขาขึ้นมา มือถือของเธอก็ดังขึ้น และน่าแปลกใจที่เป็นแม่
“วันนี้ว่างหรอคะ? ไม่มีสอนหรอ?”
[ดูเหมือนจะประชดแม่อยู่นะ]น้ำเสียงที่ร่าเริงจากปลายสายพูดขึ้น แม่ของเธอเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาจิตวิทยาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแกสตันนิวยอร์ก แม่ของเธอไม่ค่อยว่าง แต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น
“วันนี้แม่อยากให้ลูกมาที่บ้านน่ะ จัดปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อนบ้าน แล้วก็เพื่อนๆไม่กี่คน อยากจะฉลองก่อนแต่งงานน่ะจ้ะ”
“อ่อ”
[ลูเซียสอยากให้ลูกๆของแม่ได้ทำความรู้จักกับลูกสาวของเขาน่ะ]
ลูเซียสผู้ชายที่ดูใจดีคนนั้น กำลังจะเป็นสามีของแม่เธอ และเป็นพ่อเลี้ยงของเธอ
“แล้วเควินล่ะคะ พี่มาด้วยหรือเปล่า?”
[ลูกจะต้องเซอร์ไพรส์….] แม่พูดเสียงดังราวกับจะให้ใครที่อยู่แถวนั้นได้ยิน และนั่นก็เป็นความจริง
[พี่มาถึงแล้วนะแครล์ อยู่บ้านแม่แล้ว คืนนี้เจอกันทุ่มตรงนะ]
แคโรไลน์ดีใจที่ได้ยินเสียงพี่ชายของเธอ เพราะพี่ไม่ค่อยจะกลับบ้านตั้งแต่ที่พ่อกับแม่แยกทางกัน ตอนนั้นเขายังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย และไม่ค่อยจะสนิทกับแม่เท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้อะไรก็ตามที่ทำให้พี่ชายของเธอมาหาแม่ นั่นเป็นข่าวดีที่สุด
“ค่ะ เดี๋ยวเจอกัน” แคโรไลน์วางสายแล้วอยู่แถวนั้นสักพัก จนกระทั่งเย็น
วันนี้เป็นอะไรที่ผิดนิสัยของจอร์จิน่ามาก เพราะอีกคนเงียบ หน้าตาดูใช้ความคิดมากเลยทีเดียว ผู้ชายที่ชื่อโลเวลทำให้เธอต้องคิดมากขนาดนี้เลยหรอ? แคโรไลน์นับถือผู้ชายคนนั้นจริงๆ
“ราตรีสวัสดิ์ครับมิสเวสท์”แกรี่กล่าวราตรีสวัสดิ์อีกคน แน่นอนว่าจอร์จิน่าไม่ได้พยักหน้า หรือตอบเหมือนเช่นทุกครั้ง
“พรุ่งนี้เจอกันแคโรไลน์”เขาหันมาทักเธอที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“ค่ะ ขับรถกลับบ้านปลอดภัยนะคะ”
เขายิ้มพยักหน้ารับ
จอร์เดินลงจากลง และแคโรไลน์ตามไป เธอรีบกดปุ่มลิฟต์ส่วนตัวให้ปิดลงทันทีที่แคโรไลน์ก้าวเท้าเข้าไป ทำให้ประตูลิฟต์หนีบที่ไหล่ของแคโรไลน์ก่อนเปิดออกไปอีกครั้ง
การกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆของจอร์จิน่าซินะ
แคโรไลน์ไม่ถือสาเพราะบางทีมันอาจจะทำให้จอร์จิน่าหลับฝันดีหากได้แกล้งเธอเล็กๆน้อยๆ แต่เมื่อเธอไม่แสดงท่าทีสะทกสะท้านจอร์จิน่าก็เริ่มเปิดปากหาเรื่อง
“ตามเข้ามาทำไมยะ!”
“ฉันทำตามหน้าที่”แคโรไลน์ตอบเสียงเรียบ
“รำคาญ! นี่เธอไม่รู้หรอว่าฉันเจอหน้าเธอตั้งแต่เช้ายันเย็น และรู้สึกว่าเหมือนตัวเองโดนสาป”
แคโรไลน์ไม่ใส่ใจ เธอนิ่ง
“เธอนี่มัน คนหรือเปล่าทำไมไม่ยอมเปิดปากพูดห๊ะ?”
“…”
“นี่!”
“…”แคโรไลน์เงียบไว้เป็นดีที่สุด
“ฮึ่ย!”
“อย่ามางี่เง่า ยั่วโมโห”
“…”
“ที่ฉันไม่ออกปากไล่เธอออกในวันนี้ก็อย่ามาทำเป็นเหลิง ฉันคร้านจะพูดเรื่องไล่ออกกับเธอ เพราะเธอหน้าด้าน และไม่ยอมไปสักที”
“ฉันทำตามหน้าที่ค่ะ”แคโรไลน์จำเป็นต้องพูดอะไรสักอย่าง
“ถ้าฉันจ้างให้เธอออก”เธอแสยะยิ้ม ราวกับว่าเงินซื้อทุกอย่างได้
“ฉันไม่ได้ต้องการเงินของคุณ”
“อ่อ รู้แล้ว ว่าเธอต้องการอะไร”อยู่ๆจอร์จิน่าก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ย่างเข้ามาใกล้ๆแคโรไลน์ และเอื้อมมือมาจับที่ปกสูทของเธอ แล้วส่งยิ้มหวานจับใจมาให้ อันที่จริงแคโรไลน์รู้ว่าเป็นรอยยิ้มจอมปลอม
“เธอต้องการฉันใช่มั๊ย? ที่แกล้งเป็นบอดิ้การ์ด และฉันไล่ไม่ยอมไป ก็เพราะเกิดพิศวาสฉันขึ้นมาแล้วจริงๆ”
“…?!”แคโรไลน์ตกใจในการกระทำที่รุกเกิดเหตุ ร่างสูงเบี่ยงตัวออกห่าง ทันทีกับที่ลิฟต์เปิดออกสู่ชั้นสี่สิบห้า ร่างสูงก็รีบถอยออกไปทันที เธอเริ่มรู้สึกหวาดระแวงกับท่าทีของจอร์จิน่า และเธอรู้ว่าอีกคนกำลังแกล้งเธออยู่
จอร์จิน่าหัวเราะ และนึกสนุกอยู่ในใจ
ยัยนี่อ่อนไหวกับการใกล้ชิดของเธอจริงๆด้วยนี่ คาดไม่ถึงเลย
“ถึงห้องคุณแล้ว”ร่างสูงพูดเตือนก่อนที่จะเดินนำอีกคนไปหยุดที่หน้าประตูห้อง
“และขอให้คุณรู้เอาไว้ว่าฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันไม่อยากใกล้ชิดคุณ คุณเลิกแกล้งฉันและเข้าห้องได้แล้ว”
“ไม่ต้องมาสั่งฉันหรอก”เธอพูดเสียงเข้มด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ยังคงยิ้มยียวนกวนอีกคน จอร์จิน่าสนุกจริงๆที่ได้เห็นหน้าที่ชวนอึดอัดของแคโรไลน์ เธอเดินเข้าไปหาร่างสูง อีกคนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แววตาสีเขียวมรกตชวนเซ็กซี่นั้นมีผลต่อใครหลายๆคน
จอร์จิน่าแกล้งเธอแบบนี้มันบ้าชัดๆ
ร่างบางสาวเท้าอย่างไว และใช้แขนทั้งสองโอบรอบคอของแคโรไลน์ คนหน้านิ่งปัดมือออก
“เล่นอะไรของคุณ”
“โอ้ว~ ที่รักเขินหรอ?”น้ำเสียงที่บีบให้ดูรักใคร่พูดขึ้น
อย่างน้อยเธอก็ดีใจที่ได้แกล้งอีกคน
เธอพยายามจะโอบรอบคอแคโรไลน์ ซึ่งมันสำเร็จ และเธอแกล้งโน้มหน้าเข้าไปจะจูบอีกคน แคโรไลน์ขัดขืนเต็มที่ พวกเธอทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่ได้สักครู่ ในที่สุดแคโรไลน์ก็เสียการทรงตัวล้มลงกับพื้น แต่เธอไม่ได้ล้มลงมาคนเดียวจอร์จิน่าก็เสียหลักล้มลงมาด้วย
“…!!”จอร์จิน่าล้มทับร่างสูงทันที และเหนือสิ่งอื่นใด เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคือ ใบหน้าของจอร์จิน่าฝังลงที่หน้าอกของแคโรไลน์เต็มๆ สัมผัสที่นุ่มนิ่มทำให้จอร์จิน่าเขินวูบหนึ่ง น้ำหอมของแคโรไลน์ตีเข้าจมูกของเธอ
จอร์จิน่าอับอาย
ความอับอายเกิดขึ้นในวินาทีนั้น
จอร์จิน่ากระโดดดีดตัวลุกขึ้นยืนรวดเร็วราวกับนินจา เธอกรีดร้องเสียงดัง ดูเหมือนจะโหยหวยมากกว่า แคโรไลน์ค่อยๆยันแขนลุกขึ้นเพราะเธอชาที่แผ่นหลัง และรู้สึกจุกที่หน้าอกเพราะแรงกดทับของจอร์จิน่า ที่เสื้อเชิ้ตของเธอมีรอยลิปสติกสีแดงสดของจอร์จิน่าติดอยู่
“หน้าฉันๆ เธอทำอะไรของเธอ!”
“คุณต่างหาก”แคโรไลน์ทำหน้านิ่งตามแบบฉบับ แต่เธอก็เกือบหลุดขำเมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน จอร์จิน่าหน้าซีด และทำท่าขยะแขยงเต็มที่
“ฉันว่าคุณเองต่างหากที่ต้องการอยากจะใกล้ชิดฉัน”แคโรไลน์ตบมุกหน้านิ่งเพื่อแกล้งอีกคน
“ไม่! ยะ หยุดเลยนะ หุบปาก!”เธอตวาดก่อนจะวิ่งเปิดประตูเข้าห้องไป ดูก็รู้ว่ากำลังอายอย่างหนัก
วินาทีนั้นที่รอยยิ้มเล็กๆฝุดขึ้นจากใบหน้าที่เย็นชา น่าเสียดายที่จอร์จิน่าไม่ได้เห็นมัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
