ตอนที่ 42 : หวงก้าง
ตอนที่ 42
หวงก้าง
“น้องแพรวโอเคไหม?”
วาคิมย้ำถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อหญิงสาวเอาแต่นั่งนิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จามาตลอดทางจากงานเลี้ยงที่โรงแรมจนกระทั่งรถของเขาจอดลงที่หน้าบ้าน
เขาเชื่อว่าเป็นผู้หญิงคนไหนก็ต้องคิดมากทั้งนั้น ถ้ามีข่าวว่าสามีตัวเองไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง ทั้งๆ ที่เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่กี่เดือน ไม่ว่าเธอจะแต่งงานกับวิศรุตด้วยเหตุผลใดก็ตามที
ใบหน้าวิตกกังวลอย่างคิดไม่ตก เงยขึ้นมองพี่ชายที่แสนดี จนนึกอยากจะถามว่าทำไมคนที่มีสายเลือดเดียวกันกับเขาครึ่งหนึ่ง ถึงไม่เป็นอย่างนี้บ้าง
เธอตัดสินใจผิดจริงๆ ที่แต่งงานกับวิศรุตเพราะเงินยี่สิบล้าน แม้มันจะช่วยพยุงกิจการและทำให้โรงเรียนอนุบาลอุ่นรักดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่ทุกวันเธอต้องมาผจญกับอาการจิตตกเพราะเขา มันไม่คุ้มกันเอาเสียเลย
“แพรวไม่เป็นไรค่ะ”
เธอพยายามจะฝืนยิ้มเพื่อให้วาคิมสบายใจ แต่ก็ยิ้มไม่ออก จึงรีบเปิดประตูลงไปจากรถ
วิศรุตไม่โผล่หน้าไปในงานเลี้ยงของบริษัท คงเพราะรู้ดีว่าจะต้องเผชิญกับอะไร ซึ่งนั่นมันก็ดีแล้ว เพราะเธอก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำหน้ายังไงถ้าเจอเขา
หลังจากคืนนั้นที่เขาจูบเธอ เช้าขึ้นมาเขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทำตัวดีขึ้น แม้ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ไม่เฉยชากันอย่างแต่เก่า ไปไหนมาไหนก็บอก
ไม่ใช่เพราะเขาแคร์ เกรงใจ หรือให้เกียรติเธอหรอก แต่เพื่อที่เธอจะได้ตอบคุณวิชาญได้ หากว่าท่านจะถามถึงหลานชายคนโปรดต่างหากเล่า
วาคิมเปิดประตูตามลงมาด้วยอีกคน มองสีหน้าเคร่งเครียดไม่เหลือเค้าโครงความสดใสเอาเสียเลยเช่นแพรวพิชชาที่เขารู้จักก่อนที่เจ้าหล่อนจะกลายมาเป็นพี่สะใภ้ของเขา
แพรวพิชชาโกหกไม่เก่ง ต่อให้พยายามปั้นหน้า เสแสร้งแกล้งทำน้ำเสียงให้ร่าเริงสดใสยังไง แต่แววกังวลทุกข์ระทมใจในดวงตาคู่งามนั่นซ่อนเอาไว้ไม่มิด
คืนนี้เธอสวยมาก เป็นครั้งแรกกระมังที่เขาเห็นหญิงสาวแต่งหน้าและแต่งตัวสวยขนาดนี้ ไม่นับในคืนวันแต่งงาน และวิศรุตก็พลาดอย่างแรงที่ไม่ได้มาเห็นว่าแม่สาวจืดชืดของเขาสวยขนาดไหน
ในนาทีนี้เขานึกอิจฉาพี่ชาย ที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของผู้หญิงที่ทั้งสวย น่ารักด้วยกิริยามารยาท และยังนิสัยดี จิตใจงามขนาดนี้ วิศรุตมักได้เป็นที่หนึ่ง ได้เลือกก่อน และได้อะไรดีๆ กว่าเขามาตลอด
ที่เขายอมก็เพราะเห็นแก่ความรู้สึกของฝ่ายหญิง เพราะคิดว่าแพรวพิชชารักพี่ชาย ถึงยอมยกธงขาวไม่เข้าชิงชัยต่อสู้แย่งชิงในสนามหัวใจนี้ด้วย
แต่หากว่าวิศรุตทำให้เธอต้องเจ็บปวด หากถ้าผู้ชายคนนั้นรักษาเธอเอาไว้ไม่ได้ เขาเองนี่แหละที่จะเป็นคนแย่งชิงเธอมาโดยจะไม่สนเลยว่า จะต้องแลกหรือสูญเสียอะไรบ้าง
“ขอบคุณพี่คิมนะคะ ที่มาส่งแพรว” แพรวพิชชากระพุ่มมือไหว้ วาคิมจับรวบมือสวยนั่นเอาไว้
ใบหน้างันเงยขึ้นมามองเขา ก็เห็นสายตาทอดมองอ่อนโยนจนเธอรู้สึกได้
“อย่าทำเหมือนพี่เป็นคนอื่น มีอะไรแพรวคุยกับพี่ได้ทุกเรื่อง”
แพรวพิชชาสั่นหน้าไปมา
“แพรวไม่มีอะไรจะคุยหรอกค่ะ”
“แล้วกำลังคิดอะไร สีหน้าไม่ดีเลย แพรวโกหกไม่เก่งเลยนะ”
เธออยากบอกตัวเองว่าอ่อนล้าจนหมดเรี่ยวแรง ที่จะเต้นตามไปกับทุกการกระทำของวิศรุตอีกแล้ว เธอพอแล้ว และเธอเหนื่อยเหลือเกิน
“ตอนนี้เรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่ข่าวลือ ความจริงเป็นยังไงก็ยังไม่มีใครรู้ บางทีมันอาจจะไม่แย่และเลวร้ายขนาดนั้นก็ได้ แพรวไม่ต้องไปคิดมากกับเรื่องที่ยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริงหรอกนะ”
ถ้าไม่ใช่ความจริงแล้วเธออยากถามว่า วิศรุตหายไปไหน ทำไมเขาต้องหลบหน้าใครต่อใคร ทั้งที่งานคืนนี้ เขานั่นแหละที่ควรจะปรากฏตัว เพราะมุ่งมั่นหมายมาดเหลือเกินที่จะเป็นคนสืบทอดไทยไอออนอินดัสตี้ จนถึงขนาดทำทุกวิธีที่จะเอาชนะคนอื่นๆ โดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายหัวจิตหัวใจใครบ้าง
แม้กระทั่งแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวนัก และเธอเผลอรักเขาไปได้ยังไงกัน
“พี่คิมไม่ต้องพยายามปลอบแพรวหรอกค่ะ”
กระบอกตาเธอร้อนผะผ่าว และตอนนี้ก็เก็บกักเอาไว้ไม่อยู่ น้ำตาผุดล้นออกมาจากดวงตางามจนเอ่อท่วมท้น
วาคิมรู้สึกเหมือนหัวใจจะขาดตาม เขาไม่ทนเห็นเธอเสียใจหรือร้องไห้เพราะผู้ชายคนอื่นอีกแล้ว
วงแขนแข็งแรงตวัดรัดร่างแบบบางเข้าสู่อ้อมกอด หวังที่จะปลอบประโลมและปัดเป่าความทุกข์ความเจ็บปวดที่เธอได้รับออกไปจากใจเสียให้หมดสิ้น
ความเข้มแข็งที่พยายามจะแสดงออกมาพังทลายลงเมื่อวาคิมกอดเธอ แพรวพิชชาปล่อยตัวเองร้องไห้สะอึกสะอื้นในอ้อมกอดของเขาผู้ชายที่เธอให้ความเคารพนับถือเหมือนพี่ชาย และเป็นเพื่อนแท้ที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอด
แต่ไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ปลอบโยนและซาบซึ้งตรึงใจ ร่างบางก็ถูกกระชากออกมาจากอ้อมอก ก่อนที่หมัดหนักๆ จะซัดโครมเข้าไปยังใบหน้าของน้องชายสายเลือดเดียวกัน
“แกมายุ่งอะไรกับเมียฉัน?”
ดีกรีแอลกอฮอล์ที่กรึ่มๆ มาจากข้างนอก ตอนที่ปรึกษาปัญหาเครียดกับหมอฉายฉัตรทำให้วิศรุตควบคุมตัวเองไม่อยู่
วาคิมหน้าหงายลงไปกองกับพื้น ก่อนหันกลับมามองอย่างอึ้งๆ เพราะไม่เคยเห็นวิศรุตเป็นแบบนี้มาก่อนเลย พี่ชายจ้องเขาเขม็งและชี้นิ้วไล่
“แกกลับไปได้แล้ววาคิม” พร้อมกับมืออีกข้างก็เข้ากระชากแพรวพิชชาไปไว้ในอุ้งมือ
“ปล่อยฉันนะคุณรุต ปล่อย” หญิงสาวดิ้นขัดขืน พยายามจะสะบัดตัวเองให้หลุด แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
“ปล่อยน้องแพรวเถอะครับพี่รุต ไปบีบแรงๆ อย่างนั้นเธอเจ็บนะ”
“เรื่องของผัวเมียกันแกอย่ามายุ่ง” หันกลับมาตวาดลั่นใส่เขา
“แล้วคุณก็เหมือนกัน อยากร้องแรกแหกกระเชอให้ตาคุณตื่นขึ้นมาเห็นหรือไง?” หันมาถามคนที่ดิ้นเร่าๆ ทุบตีที่ต้นแขนให้เขาปล่อย แต่เพราะความโมโหขึ้นหน้าจนลืมหมดทุกอย่าง
แพรวพิชชาชะงักไป ที่เธอแคร์กว่าใครทั้งหมดในโลกนี้ก็คือคุณยงยุทธตาของเธอ
และก่อนที่ใครจะตั้งตัวได้ทัน วิศรุตก็ลากพาแพรวพิชชาเข้าไปข้างในบ้าน ปิดประตูปังล็อกกลอนแน่นหนาจากข้างใน วาคิมรีบลุกตามมาแต่ก็ไม่ทัน เขาพยายามมองหาช่องทางที่จะเข้าไปภายในบ้าน แต่ทั้งประตูและหน้าต่างปิดสนิท จะตะโกนเรียกหรือห้ามปรามก็กลัวว่าเสียงจะดังไปถึงบ้านของคุณยงยุทธให้สะดุ้งตื่น เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
ที่สุดเขาก็จำต้องล่าถอย และปล่อยให้สามีภรรยา ไปเคลียร์กันเอง แม้จะนึกห่วงหญิงสาวแค่ไหนก็ตาม
“ปล่อยนะคุณรุต ทำบ้าอะไรของคุณ บอกให้ปล่อย”
แพรวพิชชากรีดร้องออกมาอย่างหมดความอดทน นั่นแหละเขาจึงยอมปล่อย ตอนนี้เองที่เธอเพิ่งเห็นว่าใบหน้าของเขาแดงก่ำเหมือนกับคนดื่มมา
“คุณคิดจะสวมเขาให้ผมงั้นหรือ? เลือกคนอื่นไม่ได้หรือไง ทำไมต้องเป็นนายวาคิม” ตะคอกถามหน้าดำหน้าแดง
“พูดอะไรของคุณ ความคิดต่ำๆ อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะมักง่ายส่ำส่อนเหมือนคุณกันหมดสิ”
ความอดทนของเธอขาดผึง ไม่มีการเก็บถ้อยถนอมคำระหว่างกันอีกต่อไปที่ผ่านมาเธอปล่อยให้ผู้ชายตรงหน้า ทำร้ายจิตใจเธอด้วยคำพูดและการดูถูกดูแคลนมาตลอด แต่ตอนนี้ เธอจะไม่ยอมอีกต่อไป แพรวพิชชาไม่ใช่คนจะเอาเรื่องเอาราวใคร แต่ก็ไม่ใช่คนไม่สู้คน เธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกเขารังแกอยู่ข้างเดียวอย่างแน่นอน
“แล้วจะอธิบายสิ่งที่ผมเห็นว่ายังไง? คุณยืนกอดอยู่กับไอ้วาคิมหอมืดๆ อย่างนั้น”
“แล้วคุณจะมาสนใจทำไม? ในเมื่อคุณบอกเองว่า ฉันอยากให้ใครจีบก็เชิญ จะคบกับใครก็ได้ เอาเวลาอันมีค่าของคุณ ไปสนใจเรื่องแฟนดาราของคุณดีกว่า” เธอเชิดหน้าตอบโต้กลับมาอย่างเผ็ดร้อน
เจ้าหล่อนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วสินะ และเขาก็หมดคำแก้ตัวใดๆ
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว ตราบใดที่ยังมีทะเบียนสมรสอยู่ คุณไม่มีสิทธิ์จะไปไหนกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น”
คนหวงก้างว่าขึ้นมา อารมณ์คุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ไม่คิดว่าการเห็นแพรวพิชชากับวาคิมกอดกันกลม จะทำให้เขาโกรธเกรี้ยวโมโหโทโสมากมายได้ขนาดนี้
“อย่าคิดเอากระดาษใบเดียวมาขู่ฉันเลย เพราะฉันไม่กลัว และฉันก็พร้อมจะจบเรื่องนี้”
“หมายความว่ายังไง?”
“ฉันจะหย่า”
กลีบปากหยักงามเอ่ยคำพูดที่เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ยินจากปากของเธอ พร้อมกับเชิดหน้าอย่างทระนง แววตาบ่งบอกชัดถึงความเด็ดขาดกับการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต
ชอบก็อย่าลืมกดหัวใจด้านล่าง
และคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะจ๊ะ
คลิกด้านล่างนี้ ได้เลยค่า ^^
![]() |
|
กดติดตามผลงานของนักเขียนได้ที่เพจนี้นะจ๊ะ
จะได้ไม่พลาดการติดตามน๊า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
