ตอนที่ 48 : ต้องการคำตอบ
หญิงสาวรีบชักมือกลับคืนมา
“ตายล่ะ ห้าทุ่มแล้วหรือคะเนี่ย”
ดวงตางามมองตัวเลขดิจิตอลที่หน้าปัดรถพร้อมทำหน้าตกอกตกใจ
“ดึกขนาดนี้ตาภีมคงหลับไปแล้วแน่ บัวไม่รบกวนพี่ธันวาแล้วดีกว่า ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาส่ง”
รีบหันมาเปิดประตู แล้วก้าวลงมาจากรถ ทิ้งให้ผู้กองหนุ่มหน้าค้างเพราะถูกตัดบทในคำพูดที่อุตส่าห์รวบรวมความกล้ามาตั้งนาน คืนนี้บัวชมพูสวยมาก สวยจนสะกดสายตา สะกดหัวใจเขา และเขาก็เห็นสายตาของผู้ชายหลายคนที่ ที่ดูจะเห็นในสิ่งเดียวกันกับเขา สายตาที่ผู้ชายเหล่านั้นหมายปองเธอ ทำให้เขาตั้งใจที่จะเปิดเผยความรู้สึกต่อเธอและอยากขอคบหาเป็นเรื่องเป็นราว
สุดท้ายธันวาก็ต้องถอนใจเมื่อร่างเพรียวบางก้าวลงไปจากรถของเขาเสียแล้ว
บัวชมพูไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ หรือดูไม่ออกว่าเขารู้สึกเช่นไร เธอกำลังปฏิเสธเขาอย่างนุ่มนวล แต่เขาก็จะไม่ท้อ และพร้อมจะรอพร้อมกับพิสูจน์ตัวเองให้เธอเห็นต่อไป
คนสวมใส่ชุดราตรีสวยที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตตลอดเวลาที่ได้ยืนเคียงข้าง เดินอ้อมรถมายังด้านคนขับ ผู้กองหนุ่มลดกระจกไฟฟ้าลง
“ขับรถดีๆ นะคะ ฝันดีค่ะ”
มือบางยกขึ้นมาโบกให้เขา พร้อมรอยยิ้มหวานหยดที่ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น
“จ๊ะ แล้วเจอกัน”
หากไม่รีบกลับไปเสียแต่ตอนนี้ คืนนี้เขาคงจะไม่ได้ไปไหนแน่ๆ เวลาที่ได้อยู่กับคนที่ถูกใจ เวลาเท่าไรก็ดูจะไม่พอ
รถโฟล์วิลแล่นไปวนรอบน้ำพุหน้าคฤหาสน์หลังงาม ก่อนจะขับออกรั้วประตูบ้านไป บัวชมพูแอบลอบถอนใจอย่างโล่งอกที่ทุกอย่างในค่ำคืนนี้ผ่านไปด้วยดี ร่างสวยสคราญในชุดราตรีหมุนตัวกลับแล้วเดินขึ้นบันไดหินอ่อนที่ทอดเข้าไปสู่ตัวบ้าน
พอเห็นร่างตระหง่านที่ยืนพิงกับราวบันไดขั้นล่างสุดมองมาเหมือนรอคอยอยู่ก็ตกใจจนไหล่ไหว เพราะคิดว่าภูวฤทธิ์คงยังไม่กลับมาถึงบ้าน
“คุณฤทธิ์”
ดวงตาคมคายที่ก่ำแดงจ้องหน้าเธอเขม็ง คนที่เขาเคยคิดว่าเพรียวบาง กลับดูเซ็กซี่เหลือร้ายในชุดราตรีสีโอรสเปลือยไหล่ที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ตอนนี้
“นึกว่าจะไม่กลับเสียแล้ว”
เธอออกมาก่อนเขาเสียอีก แต่เพิ่งมาถึง ไม่รู้ว่าพากันไปแวะที่ไหนมาบ้าง
คำถามหาเรื่องนั่นทำให้เธอหน้าตึง พอเดินเข้ามาใกล้ก็ได้กลิ่นเหล้าคลุ้งจมูก ใบหน้างามเงยขวับขึ้นมามอง ภูวฤทธิ์หน้าแดงจัดเหมือนกับดื่มมาหนัก แม้แต่ลมหายใจก็ยังเจือกลิ่นแอลกอฮอล์
“นี่คุณดื่มมาเยอะเลยหรือคะ?”
“หึ”
เสียงหัวเราะในลำคอ
ต่อให้เป็นใคร ถ้าใครเจอเรื่องชวนประสาทเสียอย่างที่เขาเผชิญอยู่นี่ก็คงจะดื่มจนลืมนับแก้วเหมือนกันนั่นแหละ
“ผู้กองธันวาคือเป้าหมายของคุณหรือ?”
คำถามน่าเกลียด ดวงตาดำขลับสวยถูกแต่งแต้มระบานยด้วยสีสันให้งดงามยิ่งขึ้นไปอีกจ้องขวับเห็นแววขุ่นใจอยู่ในนั้น
“หรือว่านายธีระภพ...หรือนัธนัย...ตกลงคุณจะเลือกใครกัน?”
คนถามยกแขนขึ้นมากอดอก พยายามใจเย็นเอาไว้ เพราะอยากดูว่าผู้หญิงคนนี้จะมารยาสาไถอะไรอีก? เขาอยากต้อนเธอให้จนมุม
“ฉันไม่เลือกใครหรอกค่ะ”
“อ้อ”
ใบหน้าคร้ามผงก พร้อมยิ้มเยาะ
“เพราะยังเลือกไม่ได้ หรือจะเก็บเอาไว้ทั้งหมดล่ะ?”
“อย่ามาพูดจาหาเรื่องกันดีกว่าค่ะคุณฤทธิ์ คุณเมาแล้ว ควรจะขึ้นไปนอนพักผ่อนนะคะ”
เธอว่าราวกับเขาเป็นภีรภัทร
“ขึ้นบันไดไหวไหมคะ?
” สายตาที่ยังทอดมาทำเป็นห่วงใย ความอดทนสุดท้ายของเขาขาดผึง
“อย่ามาสร้างภาพแสร้งเป็นคนแสนดีหน่อยเลย”
มือหนาคว้าหมับจับเข้าที่ต้นแขนเปลือยทั้งสองข้าง ก่อนจะกระชากร่างเธอเข้าไปหา
“อะไรกันคุณฤทธิ์”
ถามอย่างตกใจ บิดแขนทั้งสองข้างให้พ้นการเกาะกุม
“ยังแกล้งทำไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องอีกหรือ? คิดว่าคุณจะหลอกผมได้เหมือนที่เคยหลอกคุณพ่อหรือไง?”
บัวชมพูร้องโอ้ยออกมาตกใจเสียมากกว่าเจ็บ ก่อนจะดิ้นแรงขึ้น แต่อุ้งมือของภูวฤทธิ์มีพละกำลังมากกว่า
“หลอกลวงเรื่องอะไร? คุณพูดเรื่องอะไรน่ะคุณฤทธิ์”
“ไอ้เด็กนั่นลูกใคร?”
เขาตะคอกถาม ใบหน้าแดงก่ำโน้มเข้ามาหา ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนผะผ่าวคละเคล้ากลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งปะทะกับใบหน้า จนบัวชมพูแทบจะเมาตามเขาไปเลยทีเดียว
“อะไรนะ? เด็กอะไรที่ไหน?”
เสียงเธอดังไม่แพ้กัน
“ก็เด็กที่คุณเอามาอุปโลกน์ว่าเป็นน้องชายผมน่ะสิ”
บัวชมพูคิดว่าหูเธอต้องฝาดไปแน่ๆ
“คุณพูดบ้าอะไรน่ะคุณฤทธิ์ ตาภีมก็เป็นลูกของคุณภูมิชาติ เป็นน้องชายของคุณน่ะสิ”
ชักโมโหที่ถูกหาเรื่อง หรือว่าเขาเกิดคิดเสียดายสมบัติขึ้นมาเอาตอนนี้
“ไม่ใช่”
เสียงดังตวาดลั่นจนเธอสะดุ้งโหยง ดวงตาคมลุกวาวราวกับจะติดไฟ กระชากร่างเธอเซถลาไปปะทะกับแผ่นอกแน่นล่ำ
“ไอ้เด็กนั่นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผม”
ใบหน้าที่ยื่นมาใกล้ แดงก่ำน่ากลัว จนขนลุกเกรียวด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเห็นภูวฤทธิ์คลั่งอย่างนี้มาก่อน
“พูดบ้าอะไรของคุณน่ะ”
พยายามขัดขืนดึงตัวเองให้หลุด แต่ฝ่ามือใหญ่บีบแขนเธอแน่นจนแทบแหลกคามือ
“ตาภีมเป็นน้องชายของคุณ เป็นลูกของคุณภูมิชาติ”
ที่กล้ายืนยัน เพราะคุณภูมิชาติเป็นคนขอร้องเธอให้ช่วยเป็นแม่ของภีรภัทร คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาคือเธอต่างหาก
“งั้นก็ดูเสีย ดูให้เต็มตา”
เขาขว้างกระดาษที่ไม่รู้ล้วงมาจากไหนเข้าใส่หน้าเธอ ร่างใหญ่สั่นเทิ้มด้วยความโมโห พยายามระงับอารมณ์ที่คุกรุ่นเกินควบคุม
ไม่แน่ใจว่าเขาอยากจะฟังคำสารภาพจากปากอย่างยอมจำนนด้วยหลักฐาน หรืออยากให้เธอดื้อด้านยืนยันต่อไปว่าเด็กนั่นเป็นน้องของเขาจริง
ดวงตาตื่นค้างกะพริบปริบๆ ก้มลงมองก้อนกระดาษที่ถูกขยำจนยับย่นที่ตกพื้น ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา
“คุณคงคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดงั้นสิ หึๆ”
เสียงหัวเราะในคออย่างขมขื่นใจ เขารึอุตส่าห์เชื่อใจ ไม่ได้เฉลียวใจจะตรวจสอบให้มากกว่าหลักฐานที่เธอเอามาแสดง
และที่สำคัญตอนนี้เขาหลงรัก...เอ็นดู...เวทนาเด็กที่คิดว่ามีสายเลือดเดียวกับเขาจนหมดใจ
บัวชมพูคลี่กระดาษแผ่นนั้นออก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อเห็นว่ามันคือผลการตรวจดีเอ็นเอ ดวงตาของเธอเบิกโตตื่นตะลึง ไม่อยากจะเชื่อผลการตรวจที่แสดงบนกระดาษแผ่นนั้น มือน้อยสั่นเทา
‘ทั้งสองตัวอย่าง ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางพันธุกรรม’
ใบหน้างามเงยขวับขึ้นมองร่างสูง
“คุณพาตาภีมไปตรวจดีเอ็นเองั้นหรือ?”
“ใช่”
เสียงตะคอกดังเข้าใส่จนสะดุ้งโหยง
ชอบก็อย่าลืมกดหัวใจด้านล่าง
และคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะจ๊ะ
![]() |
|
กดติดตามผลงานของนักเขียนได้ที่เพจนี้นะจ๊ะ
จะได้ไม่พลาดการติดตามน๊า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

18 ความคิดเห็น
-
#18 150221 (จากตอนที่ 48)วันที่ 29 กรกฎาคม 2562 / 15:20ลูกของนัธนัยใช่มั้ย#180