ตอนที่ 12 : ไม่คุ้นชิน
“ไปเร็วตาหนู ไปอาบน้ำแต่งตัวกัน”
คนชวนยังไม่ยอมเงยหน้า
ภีรภัทรคว้าตุ๊กตานีโม่กลับไปกอดไว้ ก่อนจะเดินไปจูงมือคุณแม่ออกไปจากห้องนอนของเขาพร้อมส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอารมณ์ดี
พอลับหลังบัวชมพู ภูวฤทธิ์ก็ก้มลงมองตัวเองเต็มตา ร่างสูงใหญ่สวมเพียงกางเกงนอนขายาวสีขาวตัวเดียวนอนทุกคืนด้วยความเคยชิน และก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา มันไม่โป๊อะไรนี่นา ทำไมเธอจะต้องทำท่าอายขนาดนั้นด้วย เขาไม่ได้เป็นชีเปลือยเสียหน่อยนี่นา
เพียงแต่เนื้อผ้ามันอาจจะทิ้งตัวและกระชับแนบเนื้อจนทำให้บางสัดส่วนโป่งนูนชัดไปหน่อย
ฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มออกมาอย่างนึกขัน กับท่าทางที่เธอแสร้งแสดงออกเสียแนบเนียน
“ทำตัวอย่างกับผู้หญิงไม่เคยมีสามี ผมคงเชื่อหรอกนะ”
ปรายสายตาเยาะๆ มองตามไป
ก็ถ้าเธอไม่ใช่ภรรยาอีกคนของบิดาเขา ที่เบ่งไอ้น้องชายวัยห้าขวบจอมซนนี่มาให้ เขาอาจจะเข้าใจว่าอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้
จะมาสร้างภาพตอนนี้ ก็ไม่ทันเสียแล้วล่ะ คุณบัวชมพูเอ๋ย!
ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาภีรภัทรกับมารดาก็จูงกันลงมาจากข้างบน
ภูวฤทธิ์ที่มารออยู่ก่อน รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่เธอปล่อยให้เขารอ แต่พอหันไปเห็นร่างเพรียวในชุดเดรสลายดอกสีโอรสความยาวแค่เข่า รวบผมยาวผูกหางม้าไว้ด้านหลัง เปิดใบหน้าใสนวลผ่องให้เห็นเครื่องโครงหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักราวกับสาวน้อยแรกรุ่นก็ทำให้เผลอมองตาค้าง ลืมเคืองใจไปได้
“พี่ฤทธิ์”
เจ้าหนูปล่อยมือจากมารดาวิ่งเข้ามาเกาะมือเขาเขย่า ภูวฤทธิ์จึงรู้ตัว
“ขอโทษนะคะ ที่ปล่อยให้คุณรอ พอดีต้องอาบน้ำแต่งตัวให้ตาหนูด้วย”
ริมฝีปากเล็กได้รูปสีส้มระเรื่อบอกอย่างเกรงใจ
อันที่จริงเขาก็พอจะเข้าใจว่าผู้หญิงต้องใช้เวลาแต่งตัวนานกว่าผู้ชาย และก็ต้องจับเจ้าตัวยุ่งนี่แต่งตัวด้วย
“ไม่เป็นไร”
ละสายตาจากที่เผลอมองเธอนานเกินไป ก้มมองน้องชาย
“อยากไปไหนล่ะนายภีม?”
“ไปเล่นม้าหมุนกับบอลแลนด์”
ความตั้งใจของภีรภัทรดูจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
“ตกลง งั้นก็รีบไปทานข้าวเช้ากันเถอะเร็ว”
เขาเลิกจะสนใจใครอีกคนที่ทำให้ความรู้สึกที่เขามีกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกไขว้เขวไป รีบก้มลงช้อนร่างอุ้มน้องชายตัวจ้อยเดินลิ่วๆ ไปที่ห้องทานอาหาร
บัวชมพูมองตามไปอย่างชื่นใจ ดีใจที่ภูวฤทธิ์พยายามใกล้ชิดน้องชาย และดูจะรักใคร่บุตรชายของเธอดี ถ้าคุณภูมิชาติเห็นภาพนี้ เธอเชื่อว่าท่านก็คงจะดีใจมากเช่นกัน
ภีรภัทรไม่ค่อยได้ไปเที่ยวนอกบ้านบ่อยนัก ส่วนมากเธอจะพาลูกชายไปเล่นที่สนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน คลับเฮ้าส์ แต่จะไม่พาไปไหนไกลๆ เพราะเป็นห่วงในความปลอดภัย
ในเมื่อเขาเป็นถึงลูกชายของเศรษฐีพันล้าน แถมยังเป็นลูกนอกสมรสที่บิดาไม่อยากเปิดเผยตัวให้คนอื่นได้รู้ พอทุกครั้งที่จะได้ออกบ้านไปเที่ยว ภีรภัทรจึงดีอกดีใจนักหนาอย่างที่แสดงออกมาตอนนี้
หญิงสาวเดินตามสองพี่น้องไปที่ห้องรับประทานอาหาร เพื่อจัดการกับมื้อเช้าให้เรียบร้อย แล้วจะได้เริ่มผจญภัยในวันนี้
“มันอะไรยังไงกันน่ะป้า?”
“นั่นสิ...จู่ๆ ก็มีผู้หญิงมาแสดงตัวว่าเป็นเมียคุณท่าน แถมยังมีลูกเล็กๆ ด้วยกันอีก เรื่องจริงหรือนี่...คนอย่างคุณท่านนี่นะที่จะไปแอบมีเมียลับๆ แถมผู้หญิงคนนั้นยังอายุน้อยกว่าคุณฤทธิ์เสียอีก”
หนุงหนิงกับต้นหอมยิงคำถามกับป้าแจ่มจิตอย่างสงสัยในความปัจจุบันทันด่วนที่จู่ๆ ก็มีเจ้านายเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนไม่ให้รู้ตัวมาก่อน...แถมยังมาในสถานะที่ชวนอึ้ง
‘เมียกับลูก’ ของเจ้านายที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยที่ไม่เคยมีใครรู้ระแคะระคายเรื่องนี้สักคน แม้แต่บุตรชายคนคนเดียวอย่างภูวฤทธิ์
ป้าแจ่มที่ถือทัพพีคนแกงในหม้อ หันกลับมาเท้าสะเอวหน้าตาจริงจัง
“ก็เพราะว่าผู้หญิงเดี๋ยวนี้มันไวไฟยังไงล่ะแก”
“แล้วทำไมคุณท่านถึงไม่แต่งออกหน้าออกตา หรือพามาอยู่บ้านนี้ให้เป็นเรื่องเป็นราว ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วย” ต้นหอมได้ทีเอ่ยเรื่องที่สงสัยด้วยอีกคน
ป้าแจ่มจิตได้แต่แอบถอนหายใจรอบแล้วรอบเล่า
ก็ถ้าเอาอวดชาวบ้านชาวเมืองเขาได้ ท่านคงไม่คิดเก็บงำซุกซ่อนเอาไว้หรอก นี่คงเป็นเพราะคุณสมบัติบางอย่างของผู้หญิงคนนั้น ที่ทำให้คุณภูมิชาติไม่อยากเปิดเผยฐานะของเจ้าหล่อน
“นี่คุณฤทธิ์ไม่ช็อกไปก็บุญเท่าไหร่แล้ว คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติของคุณท่านอยู่คนเดียว จู่ๆ จะให้ใครที่ไหนไม่รู้มาชุบมือเปิบ”
“นั่นสินะ น้องชายอายุห่างจากตัวเองตั้งเป็นสิบๆ ปี ขนาดเป็นพ่อกับลูกกันได้เลยทีเดียว แถมแม่เลี้ยงก็ยังอายุอ่อนกว่าเสียอีก จะนับญาติกันยังไง ปวดหัวตายเลย”
เมื่อได้ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ดูจะเลยเถิด แถมยังลามปามมาถึงคุณฤทธิ์ที่นางรักนักรักหน้า ป้าแจ่มเกิดอาการของขึ้นโวยขึ้นมา
“วะ...อีนังพวกนี้ เรื่องของเจ้านาย ไม่ใช่เรื่องขี้ข้าอย่างพวกเอ็งๆ หรือข้า อย่ามาวิพากษ์วิจารณหน่อยเลย”
เสียงแหวขึ้นมากลางวง ทำเอาสองสาวที่เม้าธ์มอยหอยสังข์สะดุ้งโหยงรีบหุบปากฉับกันในทันที มองสีหน้าบึ้งๆ หน้าตาตึงๆ ของคุณแม่บ้านผู้เป็นใหญ่ที่สุดฝ่ายหญิงในบ้านแล้วก็เห็นว่ามีริ้วรอยกังวลอยู่เช่นกัน
บรรยากาศในห้องครัว เงียบเชียบลงชั่วอึดใจ เมื่อสองสาวสบตากัน ก็เห็นสีหน้าคุณแม่บ้านยังคิดไม่ตก ก็เปรยๆ ขึ้นมาอีก
“แล้วนี่พวกเราจะปฏิบัติตัวยังไง กับเมียของคุณท่าน แล้วก็ลูกของเธอ”
เสียงพ่นลมหายใจพรวด พร้อมกับยื่นมือไปปิดหัวเตาแก็ส ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะในห้องครัว
“เขาเป็นเจ้านายนี่หว่า เรามันขี้ข้าก็รับใช้ให้เหมือนทำกับคุณฤทธิ์นั่นแหละ”
เพราะถ้าภูวฤทธิ์รับทั้งสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็คงจะตรวจสอบประวัติหลักฐานกันมาแน่ใจดีแล้วว่าของจริง
“ทั้งกับคุณบัวชมพูและคุณภีมน่ะหรือป้า”
หนุงหนิงยื่นหน้าเข้ามาถาม
“เฉพาะคุณเล็กๆ คนเดียวเว้ย ไม่เกี่ยวกับแม่หน้าสวยนั่น จะเป็นเมียคุณท่านจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”
นางยังคลางแคลงใจ เพราะรับใช้ใกล้ชิดคุณภูมิชาติมาหลายปี แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ท่านจะเอื้อนเอ่ยเปรยเรื่องนี้ให้ได้ยิน ทั้งๆที่นางเองก็เป็นคนเก่าคนแก่ที่ท่านไว้วางใจ
“แต่คุณเล็กๆ นั่น ก็หน้าไม่เหมือนคุณท่านเลยนะ หน้าไม่เหมือนคุณฤทธิ์ด้วยฉันว่า”
ต้นหอมออกความเห็นตามความรู้สึก
ป้าแจ่มจิตย่นคิ้ว นางเองอยู่บ้านหลังนี้มานาน เคยเห็นภูวฤทธิ์มาตั้งแต่เกิด ความรู้สึกบอกว่าภีรภัทรมีส่วนคล้ายพี่ชายอยู่เหมือนกัน แต่เด็กยังเล็กนัก จะดูว่าเหมือนใคร ไม่เหมือนใคร มันก็ยากอยู่
“แล้วคุณหน้าสวยนั่นน่ะ ฉันว่าอายุน้อยกว่าฉันอีกกระมัง ไม่รู้คุณท่านไปได้มาจากไหนนะ”
ชอบก็อย่าลืมกดหัวใจด้านล่าง
และคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะจ๊ะ
กดติดตามผลงานของนักเขียนได้ที่เพจนี้นะจ๊ะ
จะได้ไม่พลาดการติดตามน๊า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
