ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักอสุรา | {TITAN SET}

    ลำดับตอนที่ #15 : กลรักอสุรา l บทที่๑๔ ตอน พิสูจน์ {อัพ100%}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.5K
      116
      18 ม.ค. 62

    * หากรำคาญเสียงเพลงก็ปิดได้เน้อ *




    บทที่๑๔
    ตอน พิสูจน์

    แล้วท่านเคยหลงรักผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แม่นิมมานรดีบ้างหรือเปล่าเจ้าคะ ?”

    ไม่รู้เลยว่าผีห่าตนใด สั่งให้ปากเผลอขยับถามเรื่องไม่ควรใส่ท่านอสุราไปแบบนั้น ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาน่ะ รักแม่นิมมานรดี หญิงคนรักของตนเองมากแค่ไหน 

    พอคิดได้แบบนั้น คำถามที่เคยเอ่ยออกไปเมื่อครู่ จึงคล้ายกับไร้ความหมาย และกลายเป็นฉันเองที่ตั้งใจจะกล่าวแทรกความเงียบระหว่างเราเพื่อขอโทษ แต่ว่า

    พี่มิเคยผิดวาจาที่เคยประกาศไว้ต่อหน้าหญิงคนรักเลยสักครา แม้จักต้องทนทุกข์อยู่ท่ามกลางช่วงเวลานับพันนับหมื่นชั่วยาม…” ท่านอสุราดันกล่าวแทรกเสียงขึ้นเสียก่อน ในเมื่อพี่หมายมั่นไว้แล้วว่า กล่องดวงใจที่มีนั้นจักยกให้ผู้ใด  แม้นจะมีสตรี หญิงงามนับร้อยเบื้องหน้า พี่ก็มิอาจเปลี่ยนใจเป็นอื่นได้

    คำพูดปฏิเสธของเขาฟังดูหนักแน่น เฉกเช่นสีหน้าจริงจังยามกล่าวถึงคนรักของตนเอง ซ้ำยังไร้วี่แววพิรุธใดให้รู้สึกหรือจับผิด ทั้งที่เขาแสดงทุกอย่างออกมาชัดเจนและหนักแน่น หากแต่ช่วงเวลาเดียวกันคงมีแค่ฉันเท่านั้น ที่ลึกๆ ยังคงไม่ยอมคลายความสงสัยที่มีลง

    ขะ ขอโทษนะเจ้าคะ ที่ฉันถามเรื่องไม่เป็นเรื่อง…” และต่อให้แคลงใจมากเท่าไหร่ สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่ตัดประเด็นน่าอึดอัดระหว่างเราลงแต่เพียงเท่านั้น ทว่า

    เรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ หาใช่เรื่องมิเป็นเรื่องไม่…” ท่านอสุรากลับไม่ยอมจบประเด็นระหว่างเราเสียอย่างนั้น ซ้ำยังว่ากล่าว แสดงความจริงใจที่ตัวเองให้รู้สึก มิแปลกหากแม่ทับทิมจักเคลือบแคลงพี่ ซึ่งอยู่ข้ามผ่านช่วงยามมานับหมื่นปีเช่นนี้ ดั่งเช่นคำที่พี่บอกเมื่อหลายช่วงยามก่อน พี่พร้อมจักช่วยรื้อฟื้นเศษเสี้ยวความทรงจำระหว่างเรา...

    อีกแล้ว ทำไมพอได้ฟังแบบนี้ จู่ๆ ฉันถึงรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาล่ะ

    ฟึ่บ...

    แต่ว่า ความเศร้าแปลกประหลาดในอกก็ถูกทำให้สลายหายไป เมื่อคนตัวใหญ่เริ่มขยับกายเคลื่อนไหว โน้มลำตัวเข้ามาหาแบบไม่ให้ทั้งตัว เช่นเดียวกับปลายนิ้วของเขาที่ถือโอกาสเคลื่อนแตะและบีบแผ่วเบาบริเวณปลายคาง พลอยให้สายตามีอันต้องหันเหกลับไปยังใบหน้าคมคายตรงหน้าอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ 

    ซึ่งนั่นก็มาพร้อมกับคำพูดสุดท้าย แสดงถึงความจริงใจที่เจ้าของการกระทำมี

    หากแม้น แม่ทับทิมมิไว้ใจ หมายให้พี่พิสูจน์ตนเป็นขวัญตายามนี้ พี่ก็ยินดี...

     

    -กรองขวัญ กล่าว-

    โรงพยาบาลเอกชน A

    เมจะทานอะไรหรือเปล่าจ๊ะ เจ๊ว่าจะลงไปซื้อกาแฟกินสักแก้ว

    ไม่ดีกว่าค่ะ เจ๊ขวัญไปเถอะ…”

    ถ้านางพยาบาลเอาใบแจ้งค่ารักษาพยาบาลขึ้นมาให้ เมรีบโทรหาเจ๊เลยนะจ๊ะ…” ฉันกำชับบอกเมรี เด็กสาวในสังกัดการดูแลไว้เพียงเท่านั้น ก่อนตัดสินใจผลักประตูห้องพักฟื้นผู้ป่วยเดินออกมา

    นี่เป็นวันที่สองแล้ว ที่ฉันต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างคอนโดฯ ที่พักและโรงพยาบาล เนื่องจากดาราสาวในความปกครอง ดันประสบอุบัติเหตุเป็นลมล้มพับจนไม่ได้สติ โชคดีที่ทางคุณหมอบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก นอนพักฟื้นเพียงคืนเดียวก็สามารถกลับบ้านได้ ซึ่งก็นับเป็นเรื่องดี ที่ฉันจะได้ใช้เวลาที่มีทำในสิ่งที่ต้องการทำ มากกว่าการไปๆ มาๆ ระหว่างที่พักและโรงพยาบาลแบบนี้

    แม้จะผ่านช่วงเวลาวุ่นวายหลังจากดาราสาวประสบอุบัติเหตุจนหมดสติมาหลายวันแล้วก็ตาม แต่เรื่องราวบางอย่างกลับไม่ยอมหลงลืมไปจากหัวตามระดับความวุ่นวายที่ผ่านมาในช่วงสองวันก่อนเลยแม้แต่นิด

    เฮือก !ฉันจำภาพของเด็กสาวหน้าตาบ้านๆ ที่สะดุ้งเฮือกจากภวังค์คล้ายกับผ่านการหลับใหลในสวนวันนั้นได้ รวมถึงท่าร่ายรำที่เธอขยับเคลื่อนไหวคล้ายกับคนนอนละเมอที่หน้าต้นไม้ใหญ่ภายในสวนนั่นก็ด้วย

    เชื่อเรื่องภพชาติกำเนิดเดิมของตนเองกันบ้างหรือเปล่า ?

    เคยได้ยินเรื่องของการระลึกชาติมาบ้างแล้วใช่หรือไม่ ?

    ถ้าฉันบอกว่าฉันคือหนึ่งในล้านที่สามารถย้อนระลึกเรื่องราวในอดีตของตัวเองได้ล่ะ คุณจะเชื่อฉันไหม?

    ทั้งหมดที่ถามไป ฉันไม่ได้ต้องการคำตอบจากใครนักหรอก ในโลกที่ยุคสมัยเปลี่ยนไปจนแทบจะหาความเหมือนเดิมจากในอดีตชาติมาเทียบไม่ได้นั้น หากใครสักคนเอาแต่พร่ำรำพันเรื่องพวกนี้ ถ้าไม่ถูกหาว่าโง่งาย ก็คงถูกตราหน้าว่าบ้าเท่านั้นนั่นหล่ะ

    เพราะแบบนั้นทุกสิ่งที่ฉันรู้ จึงไม่เคยถูกบอกเล่าหรือบอกต่อให้ใครต่อใครฟัง โดยเฉพาะกับเรื่องราวในอดีตที่ดันหวนรำลึกได้ตั้งแต่วัยเด็กรวมถึงนางสวรรค์ที่มีชื่อว่า นิมมานรดี

    ฉันเคยคิดว่าตัวเองอาจจะป่วย ที่เอาแต่ฝันเห็นและนึกถึงเรื่องราวแสนแปลกที่เป็นดั่งภาพฝัน แต่เปล่าเลย ยิ่งเติบโตขึ้นทุกอย่างก็ยิ่งชัดเจนไปเสียหมด ไม่ว่าจะความรู้สึกที่มีต่อคนรักหรือคนที่เกลียด โดยเฉพาะกับบาดแผลใต้ร่มผ้ากลางหลังก่อนที่ตัวฉันในภพชาติก่อนจะถูกดับลมหายใจลง

    ทุกภาพ ทุกความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นในอดีตชาตินั้น ล้วนแล้วแต่วนเวียนอยู่ในความรู้สึกมาตลอดระเวลาสามสิบกว่าปี กลิ่นของความแค้นและความสุขในครั้งนั้น มันทำให้ฉันจดจำและมองออกผ่านสัญชาตญาณ ว่าบุคคลที่กำลังเผชิญหน้ากันในแต่ละวันนั้น เราเคยพบกันเมื่อชาติก่อนบ้างหรือเปล่า

    และเพราะจดจำทุกอย่างได้ราวกับว่ามันเพิ่งขึ้นเกิดขึ้นไม่นานแบบนี้ การได้เห็นการร่ายรำจากเด็กสาวคนนั้น มันเลยทำให้ฉันรู้ได้ทันที ว่านั่นน่ะ คือท่าที่นิมมานรดีมักใช้รำเคียงคู่กับยักษ์หนุ่มผู้เป็นที่รักของตนเอง

    เหตุใดชื่อเจ้าจึงได้เพราะเสนาะหูนักเล่า แม่นิมมานรดี ? เสียงแรกของชายหนุ่มอันเป็นที่รัก ฉันยังคงได้ยินติดชิดข้างหู ผ่านจากภาพฝันหรือแม้แต่ในยามที่ต้องอ่านพงศาวดารตำนานท้าวอสุเรนทร์

    ฉันจำเสียงของเขาได้ แม้สิ่งที่ผ่านตาจะเป็นเพียงอักขระที่ถูกร่ายเรียงเป็นบทกลอน

    แม่นิมมานรดีรู้หรือไม่ ว่าพี่ต้องตาต้องรักน้อง นับแต่ยามแรกที่เผลอสบตาในขบวนแห่…’  ยังจำคำหวานยามถูกพร่ำบอกรักจากปากเขาดังชัดเจนติดตรึงอยู่ในใจ รวมถึงเสียงของตัวเองเวลาต้องปฏิเสธคำหวานดังกล่าว ยามอยู่ต่อหน้ายักษี ยักษา หรือท้าวเจ้าเมืองยักษ์

    มิได้นะเจ้าคะ ท่านท้าวอสุเรนทร์กับท่านกุมภัณฑ์นั่งอยู่ตรงนั้น และนั่นรวมถึงแววตาอีกคู่ที่จ้องมองมาจากมุมหนึ่งภายในสวน นัยน์ตาที่คล้ายกับถอดแบบจากฉันในภพชาติก่อนไปแบบไม่มีเสี้ยวไหนผิดเพี้ยน

    เมื่อหลายเพลาก่อน น้องได้พบกับพี่วิรุฬที่สระบัวด้วยนะจ๊ะรวมถึงเสียงหวานซึ่งเอ่ยบอกกล่าวอย่างนอบน้อม รู้จักวางตัว บวกกับอากัปกิริยาเรียบร้อยและดูถ่อมตัวตลอดเวลาสมกลับเป็นผู้ที่สรวงเลือกขึ้นไปรับใช้นั่น

    ฉันจำเธอได้คนนั้นได้ทั้งหมด

    ไอ้วิรุฬน่ะรึ มันมากระทำการใดแถวสระบัวงั้นรึ มันได้ทำอะไรเอ็งบ้างหรือไม่ จันทน์ผา ?

    พี่วิรุฬหาได้กระทำการเช่นนั้นหรอกจ้ะพี่นิมมานรดี เผอิญว่าท่านอสุราทรงลงมาเยือนได้ทันท่วงทีเสียก่อน

    เหตุผลก็คงเพราะ หญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาคู่สวยดวงนั้น คือน้องสาวฝาแฝดในภพชาติเก่าของฉันยังไงล่ะ

    ด้วยสาเหตุนั้น ทุกเสียงที่นิมมานรดีใช้เจรจากับหล่อนจึงค่อนข้างเป็นห่วงเป็นใยและฟังดูเป็นกันเองยามอยู่สองต่อสองเช่นนี้

    แม้ภาพความทรงจำของขึ้นสู่แดนสรวงเพื่อรับใช้พระผู้เป็นใหญ่ จะเลือนรางไปบ้าง กระนั้นแล้ว ฉันยังคงจำได้คร่าวๆ ว่า นิมมานรดีและจันทน์ผา เดิมทีเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดา อาศัยอยู่ในแดนดินของมนุษย์ หากแต่ความงามของสองพี่น้องและท่าร่ายรำอ่อนช้อยของคนทั้งคู่มักสะกดผู้มองให้เห็นหยุดนิ่งเพื่อเชยชมได้ราวกับต้องมนต์นั้น กลับดังล่วงไปถึงหูเหล่าเทพเทวาบนสรวงสวรรค์

    และนับตั้งแต่นั้น ชีวิตหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาจึงมีอันต้องแปรเปลี่ยนไป พวกเธอสองพี่น้องถูกรับตัวขึ้นไปรับใช้บนแดนสรวง โดยต้องแลกกับการปล่อยวาง ละลด กิเลส ตันหา ในยามเป็นมนุษย์ให้หมดสิ้น

    ทั้งที่ภาพของอดีตน้องสาวต่างภพ ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำราวกับฝังรากติดมากขนาดนี้แท้ๆ แต่ว่า ฉันกลับไม่รู้สึกถึงการลงมาเวียนว่ายตายเกิดในภพชาติใหม่ของเธอเลยแม้แต่นิด

    ท่านท้าวขอรับ! ยะ แย่แล้ว! มะ แม่จันทน์ผาผูกคอใต้ต้นมะกอกนอกรั้ววังขอรับ!’

    กริ้ง!

    สิ้นเสียงโวยวายในอดีตที่ไกลห่างจากความเป็นจริง ฉันก็ถูกปลุกจากวังวนความคิดอีกครั้งด้วยเสียงกริ่งของลิฟต์ที่ดังขึ้น พร้อมเพรียงกับเท้าทั้งสองที่เริ่มขยับก้าวพาตัวเองตรงเข้าไปยืนภายในกล่องสี่เหลี่ยมแคบๆ แต่แล้ว วินาทีที่ประตูเคลื่อนปิดกระทบกันจนสนิท

    เสียงถามไถ่ของเด็กต่างวัยกลับดังขึ้นอีกครั้งในความคิด

    คุณกรองขวัญชอบอ่านพวกตำนานกับวรรณคดีด้วยหรือคะ ?

    ทับทิม ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าเด็กคนนั้นจะมีชื่อว่าทับทิม

    ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันรู้สึกเอ็นดูเธอทุกครั้งที่มีโอกาสได้เจอหน้า แต่ขณะเดียวกันท่ามกลางความเอ็นดู ฉันก็รู้สึกอย่างอื่นด้วย

    ถ้าสนใจตำนานท้าวอสุเรนทร์ อยากจะยืมกลับไปอ่านที่บ้านก็ได้นะ เจ๊อนุญาต

    มะ ไม่เป็นไรค่ะคุณกรองขวัญ ที่บ้านฉันเองก็มีเหมือนกัน ทีท่าและน้ำเสียงของเธอ มันทำให้ฉันนึกถึงจันน้องสาวฝาแฝดของตัวเองในภพชาติเก่า

    แล้วทับทิม ชอบใครมากที่สุดในตำนานพงศาวดารบทนี้ล่ะจ๊ะ ไหนจะลักษณะการวางตัวและอาการประหม่าในยามอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกับเสียงตอบโต้แบบฟังชัดถ้อยชัดคำของเธอตอนนั้น

    ฉันชอบท่านอสุราค่ะ 

    ทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดประโยคนี้ของทับทิม รู้ไหมฉันนึกถึงอะไร ?

    ท่านอสุราน่ะหรือ ลงไปตัดดอกบัวกับเอ็งในช่วงย่ำรุ่ง !?’ ฉันนึกถึงเสียงของนิมมานรดีขณะเอ่ยปากถามไถ่น้องสาวตนเองอย่างตกอกตกใจ สลับดังกลับเสียงกล่าวถ้อยอย่างนอบน้อมของผู้ถูกถาม

    จ้ะพี่…’ อีกทั้งยังมองเห็นทีท่าเอียงอายและรอยยิ้มเล็กๆ บนหน้าบอกความรู้สึกของผู้พูด จนถึงบัดนี้ น้องยังมิรู้เลย ว่าควรจักวางตัวเช่นไรให้ถูกให้ควร หากต้องปะหน้าท่านเช่นนั้น

    หากเอ็งมิรู้วิธีปฏิบัติ!? แล้วไยต้องเอียงอายยามกล่าวถึงท่านอสุราด้วยเล่านังจันทน์ผา ?อาจเพราะคำถามของนิมมานรดีในครั้งนั้น ไม่มีผู้ใดเอ่ยถ้อยกลับ นอกจากแสดงสีหน้าเคอะเขินบอกความรู้สึกล่ะมั้ง เสียงหวานซึ่งเคยถามด้วยความอยากรู้จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นการจับผิด นี่เอ็งอย่าบอกนะ ว่าเอ็งหลงใหลใคร่รักท่านอสุราน่ะ!’

    จะ จ้ะพี่…’ เสียงเล็กตอบอ่อมแอ้มแบบไม่เต็มคำเท่าไหร่นัก แต่นั่นก็มากพอให้คู่สนทนาเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างชัดแจ้ง

    หลงใหลหาได้ระแวดระวัง รู้จักที่ต่ำที่สูง ระวังเถิดนังจันทน์ผา หัวเอ็งจักขาดเอา!’ เช่นเดียวกับเสียงตักเตือนของผู้เป็นพี่สาว เพราะทันทีที่กล่าวจบ ผู้ถูกต่อว่าจึงรีบยกสองมือพนมขึ้นแนบอกจากนั้นก็ก้มกราบลงบนตักหญิงสาวที่ตนนับถือหนึ่งที ก่อนเงยหน้าขึ้นสบประสานนัยน์ตากับหญิงสาวที่เธอเชื่อใจ

    น้องรู้ตัวดีและมิเคยลืมตนจ้ะพี่นิมมานรดี แม้นยามนี้กายานี้จักเป็นนางอัปสรเฝ้าแดนสรวง กระนั้นแล้วยามอยู่นครยักษ์ น้องนั้นหาได้ต่างจากผู้เฝ้ารับใช้ไม่ ฉะนั้นแล้วน้องมิหวังใฝ่สูงครอบครองอนุชาท้าวเหนือหัวหรอกจ้ะพี่…’

    ‘หากคิดและสำเหนียกตัวได้เช่นนั้นก็ดีไป เอ็งอย่าหาเรื่องใส่หัวจนติดเป็นบาปนักเลย...พอฟังมาถึงตรงนี้ หญิงสาวคนพี่ก็รู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง หากแต่แค่ครู่เดียวเท่านั้น เพราะวินาทีที่แม่จันทน์ผาพนมมือยกขึ้นกราบตักตนเป็นที่สอง คำถามมากล้นด้วยความสงสัยจึงถูกเอ่ยถาม เอ็งจักกราบพี่ด้วยเหตุอันใดอีกเล่านังจันทน์ผา

    น้องรู้สึกผิดต่อพี่น่ะจ่ะ…’ และนั่นล่ะมั้ง คือคำตอบของทุกอย่างที่หญิงสาวสงสัยในตัวผู้น้อง ด้วยเพราะในนครยักษ์ ตัวน้องนี้เป็นเพียงผู้ติดตาม คอยรับใช้ ซ้ำยังขลาดและหวาดเกรงต่ออำนาจของเจ้าบ้านเจ้าเมือง ด้วยเหตุนั้น ยามถูกท่านอสุราถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนาม น้องจึงตอบถ้อยท่านกลับ…’

    ‘…’

    ด้วยชื่อพี่นิมมานรดี ที่เป็นถึงนางรำเอกแทนน่ะจ่ะ พอเสียงจากห้วงอดีตแว่วหวนมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกในอกกลับเผลอรู้สึกร้อนรุ่มคล้ายกับถูกรนไฟ จำต้องเผลอเคลื่อนมือข้างถนัดกุมอกบริเวณที่ปวดอย่างห้ามไม่ได้

    ไม่ปฏิเสธว่าตัวเองกำลังรู้สึกโกรธเพราะน้ำเสียงจากห้วงอดีต หากแต่เหตุที่พานให้ในอกร้อนรนดังไฟนั้น กลับไม่ได้เกิดขึ้นจากถ้อยคำของจันทน์ผาแต่อย่างใด แต่กลับเป็นคำพูดอื่นเสียมากกว่า

    แต่น้องปักใจรักท่านอสุราด้วยใจจริงนะเจ้าคะพี่นิมมานรดี…’

    ความรู้สึกตอนนี้น่ะ ไม่ต่างจากตอนที่อยู่ในห้องพักวันนั้นเลยสักนิด

    ฉันชอบท่านอสุราค่ะ

    กริ้ง!

    อีกหนที่ทุกความรู้สึกในอกถูกแช่แข็งไว้ด้วยเสียงเตือนของลิฟต์ ส่งผลให้ความทุกความสนใจพุ่งเป้าไปยังเส้นทางเบื้องหน้า ขณะก้าวเท้าเดินออกไปและมุ่งพาตัวตรงไปยังสถานที่ที่เป็นเป้าหมาย ทว่า นี่อาจเป็นอีกครั้งที่เท้าซึ่งก้าวเดินเป็นจังหวะสม่ำเสมอหยุดนิ่งลง เมื่อเสียงรายงานดังขึ้นจากโทรทัศน์บริเวณพื้นที่สำหรับรอตรวจรักษาโรค

    (นอกจากคุณเขตแดนจะกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ได้แล้ว ยังมีเสียงซุบซิบแว่วให้ได้ยินอีกด้วยนะคะ ว่าช่วงนี้คุณเขตแดนกำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับสาวนอกวงการ !)

    (จริงหรือคะคุณพี่ แล้วสาวคนที่ถูกซุบซิบเป็นใครกันหรือคะ?) เสียงรายงายข่าวจากสองสาวสายบันเทิง ทำฉันเหลียวมองไปยังจอแก้วห้อยเพดานแทบจะวินาทีนั้น ตามประสาคนที่คลุกคลีอยู่กับวงการบันเทิงมานาน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เผื่อดูสถานการณ์ของเหล่าดาวจรัสแสงหลายดวง มีเกณฑ์ดำเนินชีวิตไปในทางใดบ้าง

    ก่อนต้องรู้สึกประหลาดใจ เมื่อสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนจอแก้วในช่วงเวลาเดียวกันนั้น คือภาพแอบถ่ายที่ถูกมือดีถ่ายไว้ได้จนตกเป็นข่าวซุบซิบของดีเจหนุ่มชื่อดัง

    (นี่ค่ะคุณพี่ รูปนี้เป็นภาพที่นักข่าวของเราบังเอิญถ่ายได้ในวันแรกของการเปิดกองละครดวงหทัยยักษ์ ในภาพแสดงให้เห็นรถของคุณเขตแดนอย่างชัดเจน จุดสำคัญมันอยู่ตรงนี้ค่ะ ที่เบาะด้านข้างคุณเขตแดนมีผู้หญิงนั่งมาด้วย)

    (อย่าว่าแต่คุณพี่เลยนะ ตัวเองก็ได้ยินเสียงซุบซิบมาเหมือนกัน ว่าในวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์น่ะ คุณเขตแดนเองก็แอบไปช่วยสาวนอกวงการคนนี้แจกใบปลิวที่หน้าร้านค้าด้วยค่ะ แต่จริงไม่จริงอย่างไร เราลองไปฟังคำสัมภาษณ์จากคุณเขตแดนกันเองดีกว่า ไปค่ะ)

    ภาพของสองนักรายงานข่าวในจอแก้ว ตัดสลับไปยังภาพของชายหนุ่มใบหน้าคมคาย สไตล์วัยรุ่น ที่คนในวงการรู้จักกันดี ในฐานะดีเจหนุ่มไฟแรงของคลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง ขณะยืนอยู่ภายในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใหม่อันเป็นที่น่าจับตา

    (คุณแดนมีความเห็นยังไง กับเสียงเม้าท์คะว่า คุณแดนแอบกุ๊กกิ๊กกับสาวนอกวงการอยู่ ?)

    (ผมไม่มีความเห็นอะไรครับ ฮ่ะๆ)

    (แล้วที่เขาเม้าท์กันว่าเหตุผลที่คุณเกิดอาการเจ็บกล่องเสียงชั่วขณะเพราะไปช่วยสาวนอกวงการแจกใบปลิวก่อนพีธีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เริ่ม คุณแดนมีความเห็นว่ายังไงบ้างคะ ?)

    (อ้ออันนั้นเรื่องจริงครับ เพราะคิดว่าหลายคนน่าจะเห็นกันอยู่ส่วนเรื่องกุ๊กกิ๊กนี่ น่าจะเป็นผมฝ่ายเดียวที่เขาหาเขามากกว่า ฮ่ะๆ) สิ่งที่ทำให้ดีเจหนุ่มรายนี้ดูแตกต่างจากดาราในวงการสายงานเดียวกัน เห็นทีจะเป็นเรื่องของความตรงไปตรงมา ราวกับไม่กลัวว่าคะแนนความนิยมของตัวเองจะลดต่ำลง

    (แปลว่าคุณเขตแดนตามจีบสาวนอกวงการคนนั้นอยู่ใช่ไหมคะ แล้วบอกได้หรือเปล่า ว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นชื่ออะไร ?)

    (ครับ ผมจีบเขาอยู่ จริงๆ ผมกับเขารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้วล่ะ ส่วนชื่อผมขอตอบเลี่ยงๆ แล้วกัน ฮ่ะๆ เพราะสำหรับผม เธอเป็นอัญมณีสีแดงน่ะครับ)

    อัญมณีสีแดงงั้นเหรอ

    น่าตลกดีนะ เพียงได้ยินคำตอบเลี่ยงๆ แบบนั้น ชื่อแรกที่ผุดขึ้นในหัว กลับหลายเป็นชื่อของเด็กคนนั้นเสียได้

    ทับทิม


    -ทับทิม กล่าว- 

    ช่วงหลังมานี้ ชีวิตฉันค่อนข้างบิดเบี้ยวจากที่ควรเป็น จนหลายสิ่งหลายอย่างรวมถึงการดำเนินชีวิตในแต่ละวันไม่อาจถูกปะติดปะต่อให้ดำเนินเรื่องเป็นทางเดียวกันได้โดยสมาน ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังต้องตื่นลืมตาหายใจ และใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป แต่ถึงจะพูดบอกตัวเองแบบนั้น ก็ใช่ว่าบางอย่างในชีวิตจะกลับคืนสู่ความปกติแบบที่เคยเป็นที่ไหน

    หากไม่นับเรื่องการมาอันน่าเหลือเชื่อของท่านอสุราแล้ว อีกสิ่งที่ไม่สามารถทำให้สงบลงและกลับมาใช้ชีวิตคนบ้างานเพื่อหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเหมือนทุกๆ วัน เห็นทีคงไม่พ้นภาพฝันประหลาดซึ่งเกิดขึ้นจนสามารถตัดความทรงจำบางส่วนในชีวิตจริงให้หายไปนั่นหล่ะ

    ทั้งหมดที่กล่าวมานั่นรวมถึง ผู้หญิงที่ชื่อแม่จันทน์ผาอะไรนั่นด้วย

    ด้วยเพราะ ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการหาข้อมูลและศึกษาชีวประวัติเรื่องราวจากพงศาวดารตำนานท้าวอสุเรนทร์ จนสามารถบอกกล่าว เล่าเรื่อง รวมถึงอธิบายภาพเหตุการณ์ซึ่งถูกเขียนบันทึกไว้ได้ราวกับเป็นเจ้าของเรื่อง การที่จู่ๆ ดันเกิดภาพฝันประหลาดถึงเหตุการณ์บางอย่างซึ่งไม่เคยถูกระบุไว้ในตำราเล่มใดมาก่อน จึงกลายเป็นข้อสงสัยที่ไม่ว่าจะพยายามสลัดให้หลุดออกจากความคิดเท่าไหร่ ก็ทำไม่ได้เสียที

    ยิ่งด้วยภาพเหตุการณ์ประหลาดในความฝันนั่น ดันสอดคล้องกับถ้อยคำบอกเล่าจากผู้มาเยือนต่างทวิภพด้วยแล้ว ไอ้ที่คิดอยากสลัดออกจากหัว ยิ่งทำยากมากขึ้นกว่าที่เคย

    หากแม้น แม่ทับทิมมิไว้ใจ หมายให้พี่พิสูจน์ตนเป็นขวัญตายามนี้ พี่ก็ยินดี... ด้วยสาเหตุนั้นผนวกเข้ากับคำบอกกล่าวแสดงความจริงใจของยักษ์หนุ่ม จึงกลายเป็นแรงผลักดันให้ฉันตัดสินใจพาตัวเองตรงมายังสถานที่แห่งหนึ่งในวันต่อมา

    สถานที่ที่ฉันพาตัวเองมาเยือนแทนการออกไปหางานพิเศษทำ คือหอสมุดแห่งชาติ แน่นอนว่าการเดินทางมายังสถานที่ดังกล่าวในครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงฉันโดยลำพัง แต่ยังพ่วงมาใครอีกคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ที่ดูแปลกตาไปจากทุกครั้งก็คงเป็นเครื่องแต่งกายที่เขาสวมใส่ ที่เวลานี้เป็นเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวพับแขนถึงข้อศอกกับกางเกงสแล็คสีดำ ไม่ใช่เครื่องทรงยักษ์อย่างที่เข้าใจ

    และใช่! ท่านอสุราพยายามปรับตัวตามสภาพความเป็นอยู่ของยุคสมัยปัจจุบันตามอย่างที่เขาบอกไว้จริงๆ แต่นั่นก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกที่เขาใช้อำนาจที่มีบันดาลให้ผู้คนมองเห็นเนื้อกายเท่านั้น เพราะสำเนียงการพูดยามที่เราอยู่ด้วยกันยังคงความเป็นเขาอย่างไรก็อย่างนั้น

    ที่นี่คือหนแห่งใดงั้นหรือแม่ทับทิม เหตุจึงมากไปด้วยตำรับตำราเช่นนี้เล่า ?

    คำถามแรกดังลอดผ่านปากท่านอสุราทันทีที่ ฉันเดินนำหน้าเขาตรงไปยังมุมหนังสือประวัติศาสตร์เก่าๆ หายาก และเมื่อแอบลองมองเจ้าของคำถามกลับไป จึงพบว่านอกจากเสียงของเขาที่บ่งบอกถึงความสงสัยแล้ว ทีท่าที่อีกฝ่ายแสดงออกยังบ่งบอกถึงความสนอกสนใจต่อสิ่งรอบตัวอีกด้วย

    หอสมุดน่ะเจ้าค่ะ…” เพราะแบบนั้น ฉันจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเอาแต่เงียบ โดยเลือกใช้ระดับเสียงที่มีแค่เราสองคนเท่านั้นในการพูด เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นๆ ที่นี่มีหนังสือทุกอย่างที่เราตามหาถูกเก็บไว้ เรียกว่าเป็นที่ที่เก็บความรู้ทุกชนิดมารวมกันไว้ที่นี่

    แล้วไยแม่ทับทิมจึงพาพี่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เล่า ?

    ฉันอยากมาหาคำตอบสิ่งที่สงสัยน่ะเจ้าค่ะ

    แม่ทับทิมสงสัยสิ่งใดถึงเพียงนั้นหรือ ถึงต้องลงแรงเดินทางมาด้วยตนเองเช่นนี้

    ก็เรื่องที่ท่านบอกให้ฉันพิสูจน์นั่นยังไงล่ะเจ้าคะ…”

    หากหมายมั่นจักให้เราพิสูจน์สิ่ง ไฉนเลยน้องจึงไม่ร้องขอต่อหน้าพี่ จักลงแรงเดินมายังที่แห่งนี้เพื่อเหตุอันใด

    ไม่รู้สิเจ้าคะ คงเพราะว่าถ้าฉันพูดท่านก็คงจะยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวล่ะมั้ง ฉันถึงต้องเดินทางมาด้วยตัวเองขณะปากเอ่ยตอบ สายตาก็ไม่ลืมที่จะกวาดมองหามุมลับ ซึ่งเก็บเฉพาะหนังสือปรัมปราหายากไปพลาง ก่อนสะดุดตาเข้ากับแท่นวางหนังสือขนาดใหญ่คร่ำครึ พร้อมกับเท้าที่รีบเร่งฝีเท้าเดินผ่านชั้นวางหนังสือตรงดิ่งไปยังข้าวของที่เป็นเป้าหมายทันที

    ฟึ่บ!

    ตามมาทางนี้ท่าน…” จากสัญชาตญาณแล้ว การที่มีแท่นวางหนังสือเก่าไว้แบบนั้น เป็นการบอกได้เป็นอย่างดี บางทีสิ่งที่ฉันกำลังตามหาอยู่ อาจจะถูกเก็บรักษาไว้บริเวณที่ดังกล่าวก็เป็นได้ นั่นเลยทำให้ฉันไม่รอช้า รีบก้าวเท้าเดินปรี่ไปยังมุมดังกล่าวทันที พร้อมกันนั้นก็ไม่ลืมที่จะคว้ามือของใครอีกคนซึ่งเดินตามหลังแบบผู้ไม่รู้ทิศทางให้ตามมาด้วย

    ตึกตึก

    กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองพลั้งเผลอถึงเนื้อตัวอีกฝ่ายอย่างไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วน ก็คงเป็นตอนที่มืออุ่นของท่านอสุราเริ่มกุมกระชับมือฉันไว้แน่น จนพานให้เท้าที่เคยก้าวมุ่งไปยังเป้าหมายอย่างอย่างเร่งรีบหยุดชะงักลงโดนฉับพลัน เช่นเดียวกับสายตาที่หันเหทิศทางแบบไม่ต้องรอให้ใครสั่ง เหลียวหลังกลับไปยังใครอีกคนที่ยืนทิ้งระยะห่างกันไว้แต่เพียงวงแขน

    วินาทีที่ได้สบเข้ากับนัยน์ตาคมคุ้นเคย ปฏิกิริยาทางกายก็รีบแสดงการตอบรับจากการถูกจับจ้องด้วยการรีบปล่อยมือหนาที่ถูกกุมไว้ให้หลุดออกทันทีเช่นกัน โดยไม่ลืมกล่าวขอโทษพร้อมบอกเหตุผล ทว่า

    ขะ ขอโทษเจ้าค่ะ ฉันลืมตัวไปหน่อย นึกว่ามากับเพื่อนน่ะเจ้าค่ะทั้งที่เหตุผลของการปล่อยมือ เกิดขึ้นเพราะความรู้สึกผิดที่ดันพลั้งเผลอถึงเนื้อถึงตัวอีกฝ่ายแบบไม่สมควรแท้ๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายตอบรับกลับมาเพียงแค่รอยยิ้มเล็กๆ บอกความรู้สึกเท่านั้น ความรู้สึกบางอย่างกลับเริ่มก่อตัวขึ้นภายในความรู้สึกอย่างห้ามไม่ได้

    มิเป็นไรหรอก พี่หาได้ถือตัวยามอยู่กับแม่ทับทิมไม่…” ซ้ำยังรู้สึกรุนแรงมากขึ้น เมื่อคนตัวสูงตรงหน้า เลือกที่จะหลุบตามองลงไปยังมือตนเอง ขณะเป็นฝ่ายเคลื่อนมาจับมือฉันไปกุมอีกครั้ง ขณะบดริมฝีปากเอ่ยวจี ดีเสียด้วยซ้ำ หากถูกแม่ทับทิมจับกุมไว้เช่นนี้เป็นเพลาเนิ่นนาน

    ใจฉันกำลังเริ่มเต้นแรง เช่นเดียวกับทั่วหน้าที่จู่ๆ ก็เริ่มร้อนขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้นั้น ไม่ต่างไปจากความรู้สึกของแม่จันทน์ผาบนเรือพายในฝันเลยแม้แต่นิด

    เมื่อครู่ แม่ทับทิมจักพาพี่ไปหนแห่งใดเล่า นำทางเสียสิ…” อีกหนที่ท่านอสุราเอ่ยบอกโดยยังคงรอยยิ้มใจดีไว้บนหน้า ซึ่งคำพูดและกริยาบนหน้าของเขาเพียงแค่นั้น มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้ผู้ตกเป็นฝ่ายถูกจับกุม เบือนหน้าหลบเลี่ยงไปจากนัยน์ตาคู่เดิมเพื่อซ่อนสีหน้าและความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นแบบไม่ต้องผู้ใดออกปากสั่ง

    ฉันเคยวาดฝันขณะอ่านตำนานของท้าวอสุเรนทร์ด้วยนะ

    สิ่งที่อยู่ในฝันมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักหรอก มันก็คงเป็นห้วงอารมณ์หนึ่งที่เผลอรู้สึกอินไปกับเนื้อหาที่ได้อ่าน จนเก็บมาจินตนาการไม่ได้ว่า หากฉันมีโอกาสได้เป็นอย่างแม่นิมมานรดีบ้างมันก็คงดี เผื่อว่าจะได้มีโอกาสรับรู้ถึงรสสัมผัสอบอุ่นของชายอันเป็นที่รักดูบ้างสักครั้ง

    ความรู้สึกตอนนี้ หากเปรียบเปรย คงไม่พ้นประโยคที่ว่า ฝันกลายเป็นความจริงล่ะมั้ง

    นับตั้งแต่ที่ยักษ์หนุ่มที่ฉันหลงใหลจากเนื้อหาในพงศาวดารปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า นอกจากสัมผัสที่เขามักใช้จู่โจมกันแบบไม่ให้ตั้งตัว นี่คงเป็นครั้งแรกเลยล่ะมั้ง ที่ฉันมีโอกาสได้แตะเนื้อต้องตัวเขาอย่างตรงๆ ซ้ำยังเนินนานจนคล้ายกับว่ายังไม่ตื่นจากความฝัน

    กึก

    แต่เพราะสิ่งที่กำลังเผชิญหน้าอยู่เวลานี้ คือโลกของความจริงที่ฉันคือฉัน ไม่ใช่แม่นิมมานรดีแบบที่วาดฝันไว้ ทันทีที่พาตัวเองก้าวมาหยุดอยู่บริเวณหน้าแท่นวางหนังสือได้เป็นผลสำเร็จ ฉันเลยถือโอกาสในช่วงเวลานั้น ดึงมือของตัวเองให้หลุดจากการถูกจับกุม ขณะเดียวกันก็รีบกวาดตามองหาหนังสือเก่าที่เป็นเป้าหมาย ถึงจะกระทำทุกอย่างเผื่อเลี่ยงความรู้สึกลึกๆ ให้สงบลง แต่อย่างไรเสีย ฉันก็ยังรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของท่านอสุราได้อยู่ดี

    ต่อให้รับรู้ถึงกันและกันได้ แต่เราก็ไม่ได้เปิดปากพูดคุยกัน ฉันไม่ได้มองเขา ไม่สิ เลือกที่จะไม่มองโดยพุ่งความสนใจไปยังหนังสือที่ต้องการเสียมากกว่า ส่วนท่านอสุราเองก็คงทำเช่นนั้น

    แต่ไม่นานนักหรอก ความเงียบระหว่างเราก็ถูกทำลายลง

    ที่แม่ทับทิมกล่าวว่า หากพูด พี่จักยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวนั้นไซร้ หมายถึงเรื่องอันใดงั้นรึ ?ในจังหวะเดียวกันกับที่สายตาเหลือบขึ้นไปเจอกับหนังสือเล่มหนาที่ชั้นบนสุดของชั้นวางหนังสือพอดิบพอดี

    ตำนานท้าวอสุเรนทร์

    ด้วยเหตุนั้น คำถามของท่านอสุราจึงไม่ได้ถูกเอ่ยตอบโดยทันที เมื่อร่างกายเริ่มขยับเขย่ง เอื้อมไม้เอื้อมไปยังชั้นบนสุดของชั้นวางเพื่อหยิบสิ่งที่หมายปอง และตอนนั้นเอง

    กึก

    ความมีน้ำใจของท่านอสุราในแบบที่ฉันคุ้นเคยดีจากการอ่านหนังสือก็ปรากฏให้ได้เห็นเป็นบุญตา เมื่อใครอีกคนซึ่งยืนมองทุกสิ่งอยู่ข้างๆ เลือกที่จะเอื้อมมือขึ้นหยิบหนังโบราณเล่มเก่าจากชั้นวางลงมาให้ด้วยเพียงมือเดียวราวกับไม่รับรู้ถึงความหนักของหนังสือ

    ไม่ต้องพูดหรือบอกอะไร ท่านอสุราก็เหมือนรู้งาน เขาจัดแจงวางหนังสือเล่นใหญ่ที่หยิบลงมานั้นลงบนแท่นวางหนังสืออย่างเบามือ จากนั้นจึงกลับไปยืนท่าหลังพิงชั้นวางหนังสืออีกครั้งในท่ากอดอก เห็นเขาหยิบยื่นน้ำใจให้แบบนี้แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณ

    ขอบคุณนะเจ้าคะ…”  ทว่า คราวนี้เสียงตอบรับน้ำใจของฉันไม่ได้ถูกเขาแสดงอากัปกิริยาใดตอบรับกลับมา ที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็นนั้น มีเพียงท่าทีนิ่งงันในท่วงท่าเดิมแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ ดูเหมือนว่าท่านอสุราจะไม่ได้มองหน้าฉันด้วย

    การที่เป็นแบบนั้น คำตอบของคำถามซึ่งถูกอีกฝ่ายถามค้างไว้ จึงไม่กล้าหลุดลอดผ่านปากได้ตามดั่งที่ใจคิด คงเพราะเวลาที่เขาแสดงทีท่านิ่งขรึมแบบนั้น ค่อนข้างดูดุดันสมเป็นยักษ์ จนพลอยให้ผู้มองเห็นรู้สึกกดดันล่ะมั้ง แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา สิ่งที่ฉันทำต่อจากนั้นแทนการตอบคำถาม จึงเป็นการค่อยๆ เปิดหนังสือเล่มใหญ่บนแท่นวางออกอย่างช้าๆ และเบามือ

    เนื่องจากตำนานท้าวอสุเรนทร์เล่มนี้ เป็นหนังสือเล่มแรกซึ่งถูกจัดว่าเป็นต้นแบบของการตีพิมพ์เล่มยิบย่อยที่วางขายอยู่ตามร้านหนังสือ ซ้ำยังมีประวัติและอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี นั่นเลยการทำให้การแตะต้องหนังสือล้ำค่าและหายากเล่มนี้นั้นค่อนข้างต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากเกิดการชำรุดหรือเสียหาย อาจต้องถูกปรับด้วยเงินเป็นจำนวนไม่สามารถนับมูลค่าได้

    และใช่! มุมนี้น่ะ ไม่ค่อยมีใครเขาเข้ามาหาหนังสือเก่าอ่านกันมากนักหรอก!

    ส่วนเหตุผลที่ฉันเลือกที่จะมาเปิดหาข้อมูลที่สงสัยจากหนังสือเก่าเล่มนี้ก็คงเพราะความหนาของมันกว่าพันหน้า ซึ่งเมื่อเทียบกับเล่มปกติทั่วไปนั้นมีความต่างอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันอาจเป็นไปได้ว่า ภายในหนังสือเล่มแรกซึ่งใช้ภาษาไทยโบราณในการจารึกเป็นตัวอักษรไว้นั้น อาจจะมีบทกลอนบางส่วนที่ยังไม่ถูกแกะและตีพิมพ์วางขายอยู่ก็ได้

    และเหมือนว่าฉันจะคิดถูก เมื่อสายตาดันสะดุดเข้ากับจารึกบทหนึ่งบนหน้าหนังสือโดยบังเอิญ




    Talk1 ทางนู้นจะพิสูจน์กันแล้ว ส่วนทางนี้เริ่มละ... 5555
    Talk2 กรองขวัญจะทำอะไรต่อไป มาลุ้นกันนน
    Talk3 พออัพมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสบถ ภาษาอะไรวะไอ้โอ้ว แค่ภาษาไทยยังเขียนผิดๆ ถูกๆ ตกๆ หล่นๆ อยู่เลย 5555 คำตอบก็คือ นี่คือภาษาที่อยู่บนหลักศิลาจารึกเนอะ (อ้างอิงมาใช้เพราะรู้สึกว่าเข้าตีมดี) แต่ถึงจะอ้างอิงมาใช้ แต่ทุกคำที่เห็นอยู่นั้น เราเขียนและแต่งขึ้นเองเน้อ 5555 ใครแปลออกว่ามันแปลว่าอะไร สามารถแปลรอก่อนได้เลย ใบ้ให้ว่าเป็นคำกลอน 5555 ถามว่าทำไมถึงใช้ภาษาโบราณแบบนี้ ก็เพราะเราอัดอั้นจากเล่มของท่านท้าวอสุเรนทร์ เนื่องจากมีโอกาสได้ใช้ตัวอักษรพวกนี้ตอนท้ายเล่มแค่ประโยคเดียวแถมสั้นด้วย 5555 อีกอย่างเราเองรู้สึกว่าภาษาแบบนี้มีเสน่ห์มากๆ เลยอยากจะงัดมาใช้เยอะๆ แต่ไม่ต้องห่วง ทุกประโยคที่เขียนไว้นั้น มีแปลความหมายให้อยู่แล้ว อิอิ 

    ___________________________________________________________ 

    ไม่เม้นก็ได้แต่กดให้กำลังใจเค้าด้วยน้าา จุ้บ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะงับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและการชี้แนะดีๆในหน้านิยายน้าา

    ปล. หากเจอคำผิดหรือตรงไหนอ่านแล้วแปลกๆ เม้นบอกกันได้เน้อ T__T

       
    คุณเชื่อเรื่อง 'ยักษ์' หรือไม่?
    อยากรู้จักยักษ์ตนไหนมากขึ้น จิ้มที่รูปด้านบนเลยจ้า

       

    ติดตามเรื่องนี้จิ้มที่หน้าท่านอสุราโลด

    รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน
    หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×