ตอนที่ 9 : บทที่ 6 - ภาพมันชัด! ( 50% )
บทที่ 6
ภาพมันชัด! ( 50% )
เสียงมือถือเครื่องโปรดดังขึ้นเรียกสติของผู้ชายที่หลับใหลเพราะพิษแห่งราคะต้องลืมตาขึ้นมองสิ่งรอบกาย มือหนาคว้าเอาวัตถุเกิดเสียงมาสอดส่องรายชื่อของผู้โทร.เข้า ใบหน้าคมคายยับยู่ยี่กว่าเก่า พ่นลมหายใจหงุดหงิดระคนเหนื่อยหน่าย
“ครับกอหญ้า” เสียงเข้มพยายามไม่แสดงท่าทีใดๆ ให้อีกฝ่ายต้องขุ่นเคืองใจ
( ทำไมรับสายกอหญ้าช้าจังเลยคะ ) น้ำเสียงแหลมหงุดหงิด
“ผมก็รับแล้วนี่ไงครับ” คราวนี้ร่างสูงเริ่มไม่พอใจ ปลายสายได้ยินเสียงโทนนี้จากชายหนุ่มก็ยอมเป็นฝ่ายอ่อนข้อเสียแทน
( กอหญ้าขอโทษที่หงุดหงิดใส่คุณนะคะ กอหญ้าแค่จะโทร.มาเตือนว่าอย่าลืมนัดของเรา )
คำว่า ‘นัดของเรา’ ทำให้นิกโคลิคแทบจะสร่างเมาทันใด ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นมองปฏิทินที่เขาขีดฆ่าในแต่ละวัน ร่างสูงยกมือกุมศีรษะ
“คือว่าผม... เอ่อ...”
( ทำไมคะนิก คุณลืมเรื่องสำคัญของเราหรือคะ แต่คุณสัญญากับกอหญ้าแล้วนะคะ ) หญิงสาวไม่ยอมง่ายๆ
นิกโคลิคอยากจะต่อยปากตัวเองสักร้อยครั้งที่ไปสัญญาอะไรแบบนั้นกับหล่อน ใครจะไปคิดว่าเธอจะจริงจังและตามจิกไม่เลิก คนตัวสูงก็แค่รับปากส่งๆ เพราะอยากให้หล่อนยอมช่วยเขาให้คลายความทรมานจากกามอารมณ์ เสือผู้หญิงเยี่ยงเขามักจะเพลี่ยงพล้ำอะไรทำนองนี้ กอหญ้าเองก็รู้จุดอ่อนข้อนี้ดีถึงได้เลือกพูดเรื่องสำคัญบนเตียงและใช้ประสบการณ์ที่มีดึงดูดให้เขายอมจำนนตามแผน
ถ้าผู้จัดการจอมเข้มรู้เรื่องมีหวังโดนสวดหูชาแน่นอน
( ว่าไงคะนิก คุณจะเงียบไปถึงเมื่อไหร่คะ )
กอหญ้าเดินหน้ากดดันอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มพ่นลมหายใจเพื่อระบายความกังวล เห็นร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงกว้างขยับกายไปมาก็รีบชิงตัดบทกับคนปลายสายทันที
“เอาเป็นว่าผมจะลองคุยกับพี่จอยดูอีกทีนะครับกอหญ้า” ว่าจบเขาก็ตัดสายทิ้งไม่เปิดโอกาสให้ดาราสาวได้เอ่ยคำใด และเพื่อความแน่ใจมือหนารีบจัดการปิดเครื่องด้วยกลัวว่าหล่อนจะโทร.มารบกวนอีก
เวลานี้เขาอยากจะนอนกอดร่างหอมละมุนมากกว่า!
“ขี้เซาจริงนะลูกแมวน้อย” เสียงเข้มเอ่ยกระซิบข้างแก้มนวลใส คนถูกรบกวนนิทราทำเสียงหงุดหงิดในลำคอ กิริยาของเธอเรียกรอยยิ้มได้ดีจากร่างสูง
“ให้ตายเถอะ ฉันว่าฉันออมแรงแล้วนะทำไมยังไม่ยอมตื่นอีก” นิกโคลิคว่าแล้วหัวเราะร่วน ฝ่ายหญิงสาวเริ่มรู้สึกตัวมากกว่าเดิม เปลือกตาคู่สวยปรือขึ้นมองสรรพสิ่งรอบกาย
“อื้อ…”
เสียงหวานครางในลำคอยามม่านตาปรับสมดุลของแสงสีภายในห้องนอนอันกว้างใหญ่ ร่างเล็กขยับกายเล็กน้อยพลันความเจ็บปวดตรงใจกลางก็เข้ามาทักทายทันที อัญชันขมวดคิ้วพยายามคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ใบหน้าหวานเริ่มซีดลงเรื่อยๆ ยามภาพในมโนสำนึกเด่นชัดทุกการกระทำ
“ตื่นแล้วหรือครับคนสวย” ชายหนุ่มทักทายเสียงหวาน รอยยิ้มทรงเสน่ห์ส่งมอบให้กับหญิงสาวข้างกาย อัญชันตกใจแทบสิ้นสติ
“คุณ!!!”
เสียงหวานไม่อยากเชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจะเป็นเรื่องจริง หากใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มระรื่นอยู่นั้นตอกย้ำทุกอย่าง มือเรียวเปิดผ้านวมผืนหนายกขึ้นมองสภาพของตัวเอง ร่างเล็กเปลือยเปล่าปรากฎต่อสายตายิ่งทำให้ลมหายใจของเธอแทบค้างชะงัก
“ไม่จริง” อัญชันส่ายหน้าไปมา แววตาเลื่อนลอย
“ให้ย้ำอีกครั้งไหมจะได้รู้ว่ามันคือเรื่องจริง” คนตัวโตว่าอย่างเอ็นดูแต่คนฟังกลับไม่ได้คิดเช่นเดียวกัน มือเรียวจัดการลงโทษผู้ชายจอมฉวยโอกาสทันที
เพียะ เพียะ!
ใบหน้าคมคายหันตามแรงตบถึงสองครั้ง…
“นี่... เธอ” ดวงตาคมกริบจ้องมองคนตัวเล็ก ทั้งอึ้งทั้งโกรธที่หล่อนกล้าทำร้ายผู้ชายอย่างเขา “กล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน”
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าใบหน้าของเขาสร้างมาเพื่อให้มือของเจ้าหล่อนตบตีหรืออย่างไร มูลค่าเงินทั้งนั้นที่เธอฝากรอยแดงไว้ให้เป็นรางวัล
“คุณมันเลว” อัญชันกัดฟันพูดทั้งน้ำตา จ้องมองผู้ชายที่จิตใจโหดเหี้ยม “ข่มขืนผู้หญิงไม่มีทางสู้ น่ารังเกียจที่สุด!”
“ฉันนี่เหรอข่มขืนเธอ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าสาวน้อย” ร่างสูงยิ้มมุมปาก ลิ้นหนาดันกระพุ้งแก้มชิมรสเลือดขมปร่าที่คละคลุ้งอยู่ในลำคอ
ตัวเล็กแบบนี้แต่มือหนักไม่เบาเลย!
“เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายอ้อนวอนขอร้องฉัน”
“ไม่จริง!”
“จริง!!!”
สีหน้าของดาราหนุ่มน่ากลัวถมึงทึง อัญชันแอบหวั่นกับสายตาที่เขามองเธอ มันอัดแน่นไปด้วยความดุดันจนแผ่นหลังบอบบางสั่นสะท้าน
“บุญแค่ไหนแล้วที่ฉันยอมสนองความใคร่ให้กับเธอ!”
เพียะ!
มือเรียวพิพากษาคนปากโสมมอีกครั้ง…
“อย่ามาดูถูกฉันนะ” เสียงหวานสะท้าน น้ำตาเริ่มแห้งเหือดไปจากแก้มนวล หากใครจะรู้ว่าจิตใจของเธอนั้นบอบช้ำปานจะกลืน
คนถูกตบหน้าถึงสามครั้งสามหนไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป มือหนากระชากร่างเล็กเข้าปะทะอกแกร่ง ซุกไซร์ซอกคอสาวอย่างรุนแรง อัญชันดิ้นรนหาทางหนีรอดจากคนใจร้าย ใบหน้านวลพยายามหลีกหนีนวดเคราที่เข้าทิ่มแทงเนื้อขาว
“ปล่อยนะ ไอ้คนเลว ปล่อย โอ๊ย” ร่างบางร้องลั่นเมื่อเขาฝากรอยฟันไว้ที่ต้นคอระหงส์
“จำเอาไว้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมาอวดดีกับฉัน ผู้หญิงบ้านๆ หน้าตางั้นๆ มีดาราระดับประเทศหิ้วขึ้นเตียงด้วยก็นับว่าฉันเมตตาเธอเท่าไหร่แล้ว เธอควรจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำ!” เสียงเข้มหยันศักดิ์ศรีความเป็นคนของหญิงสาว
“คนอย่างคุณมันก็ดีแต่เปลือกนอก สันดานสารเลวกินมั่วไม่เลือก ถ้าอยากนักทำไมไม่ไปหาคนอื่น มายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไม” อัญชันร้องไห้เสียใจ
ความบริสุทธิ์ถูกเขาทำลายป่นปี้…
“ก็ช่วยไม่ได้นะในเมื่อเธอมันยั่วตายั่วใจฉันดีเหลือเกิน” ผู้กระทำยิ้มร้ายกาจ ปกติเขาจะพูดจาหวานหูกับเพศแม่เสมอ แต่กับยัยเด็กนี่ทนไม่ไหวจริงๆ
“ชั่ว!!!”
ร่างบางตะโกนใส่คนตัวโต
“เออ!” ดาราหนุ่มรับคำด่าทอของสาวเจ้า “ตอนแรกก็ตั้งใจจะพาไปดินเนอร์เที่ยวช๊อปหรอกนะ แต่ปากแบบนี้เห็นทีคงไม่ได้ ผู้หญิงอย่างเธอครั้งเดียวก็เกินพอ เอานี่ไป” มือหนาควักธนบัตรสีเทาออกมาจำนวนหนึ่ง วางสิ่งมีค่าต่อการดำเนินชีวิตลงบนเตียงข้างกายหญิงสาว
“คงพอสำหรับค่าตัวผู้หญิงหยาบกระด้างอย่างเธอ!”
--------------------------------------------------------
ร่างบอบบางเลือนลอยท่ามกลางเมืองใหญ่ สองเท้าเล็กก้าวไปยังข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ใบหน้าหวานละมุนอาบล้นด้วยหยาดน้ำตา ริมฝีปากแห้งผากราวกับขาดน้ำมาหล่อเลี้ยง เสียงสะอื้นไม่จางหาย อัญชันยังคงได้ยินมันเด่นชัดในมโนสำนึก มือเรียวกอดตัวเองแน่นคล้ายต้องการปลอบประโลมในชะตาชีวิต ยากจนแสนเข็ญยังไม่แคล้วโดนคนใจร้ายย่ำยีหัวใจ ทุกวันนี้เธอทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินเลี้ยงตายายผู้มีพระคุณ บ้านและที่ดินที่รอการไถ่ถอน ความลำบากที่พานพบทำให้ต้องเข้มแข็ง อาชีพใดผ่านเข้ามาก็ต้องรีบคว้าเอาไว้เพื่อเร่งหาเม็ดเงินไปตอบแทนบุพการี
ใยสวรรค์ถึงโหดร้ายกับเธอถึงเพียงนี้…
สาวน้อยผู้โชคร้ายกลับถึงห้องด้วยหัวใจที่แตกสลาย ความรู้สึกนั้นพังย่อยยับไม่ต่างอะไรกับความภาคภูมิใจของเธอ ร่างบางทิ้งตัวลงบนเตียงเล็ก กอดหมอนใบโตท่ามกลางความเปล่าเปลี่ยว ทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด
“ไอ้ผู้ชายสารเลว” เสียงหวานด่าผู้ชายคนนั้น ยิ่งเห็นรอยจูบที่เขาฝากฝังไว้ตามเรือนกายก็ยิ่งเกลียดชัง
ตื๊ด... ตื๊ด
เสียงมือถือเครื่องแรกและคงเป็นเครื่องเดียวที่เธอฝากชีวิตดังขึ้น อัญชันหยิบวัตถุเกิดเสียงขึ้นมากดอ่านข้อความที่แจ้งเตือน น้ำตาที่แห้งเหือดไปบ้างแล้วไหลทะลักอีกครา
‘ทำงานเหนื่อยๆ อย่าลืมกินข้าวนะหลานรัก ตากับยายรักหนูนะ’
“ฮึก”
เสียงสะอื้นไห้ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เหลือความหวังอะไรในชีวิต วินาทีที่ใจเจ็บช้ำเกินเยียวยาบุคคลที่เธอเทิดทูนก็เข้ามาปลอบประโลมได้เสมอ แม้ว่าท่านทั้งสองไม่อาจรู้ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลานสาวสุดที่รัก อัญชันลุกขึ้นนั่งเพื่อตอบกลับข้อความทางไลน์
‘หนูก็รักตากับยายนะจ้ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะ กินข้าวทุกมื้อนะจ้ะ’
หญิงสาวเลือกส่งสติ๊กเกอร์รูปหมีถือหัวใจดวงโตส่งไปให้กับบุคคลทั้งสอง ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าท่านกำลังอมยิ้มให้กับข้อความของเธอ ใบหน้านวลเริ่มมีสีเลือดขึ้นมาบ้างเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏบนเรียวปากอิ่ม แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มเล็กๆ แต่ก็นับว่าสวรรค์ยังพอมีเมตตาให้แก่เธออยู่บ้าง
“ช่างมันอัญชัน คิดซะว่ากรรมเราทำมาแบบนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ฉันจะไม่ยอมให้ใครมามีอิทธิพลเหนือตัวของฉันเอง”
เสียงหวานเอ่ยด้วยถ้อยคำเด็ดเดี่ยว!
คุยกันหน่อยงับ ^^
สวัสดีค่า >< หลังจากหายไปหลายวันเพราะเพื่อนแพงย้ายบ้านใหม่และเน็ตเพิ่งมาติดตั้งให้วันนี้เลยเพิ่งอัพจ้า เลยอัพให้สามตอนติดๆ เลยแบบ 100% แล้วเพื่อนแพงไม่อัพแล้วนะคะ ย้ำนะคะว่า ‘ไม่อัพ’ แล้วนะคะ เพราะว่าวันที่ 3 นี้ ทุกคนจะสามารถติดตามเรื่องราวทั้งหมดต่อได้ในรูปแบบของ E-Book จ้า ในราคาเพียงแค่ 109 บ. เท่านั้นค่ะ ^O^ ยังไงก็ฝากติดตามเพลย์บอยจอมหื่นคนนี้ด้วยนะคะ เจอกันวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ค่ะ แล้วถ้าทาง MEB อนุมัติแล้วเพื่อนแพงจะนำลิ้งค์มาทิ้งไว้ที่บล็อกนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นและการติดตามค่ะ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ ^_^
สุดท้ายนี้ฝากนิยาย E-Book เรื่องอื่นๆ ของเพื่อนแพงด้วยนะคะ กำลังอยู่ในช่วงโปรฯ ค่ะ รีบๆ ไปโหลดอุดหนุนกันนะคะ ^_^
https://www.facebook.com/DekDHayase/?ref=bookmarks
E-Book ทั้งหมดจ้า ( สนุกทุกเรื่อง !!! ^_^ )
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
