คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : ตอนพิเศษ:พบพานอีกครา
ตอนพิเศษ: แอบชอบ
หลิวหลี…
ค่ำคืนแห่งงานเลี้ยงภายในพระราชวังแห่งแคว้นเฉิน...
หลิวหลีที่อยู่ในอาภรณ์งดงามสมฐานะของคุณหนูตระกูลใหญ่กำลังเดินเล่นอยู่ในอุทยานหลวงที่ใช้ในการจัดงานเลี้ยงฉลองแห่งค่ำคืน
“นั่น! รองแม่ทัพจู”
เสียงของสตรีนางหนึ่งพลันดังขึ้นถัดออกไปจากที่หลิวหลีกำลังเดินเล่นอยู่
“เขามาด้วยหรือ”
อีกเสียงหนึ่งพลันดังมา ตามด้วยเสียงฝีเท้าวิ่งห่างออกไปจากจุดที่หลิวหลีเดินอยู่
นั่นแสดงให้เห็นว่าสตรีสองนางนั้นกำลังเดินอย่างเร็วเพื่อไปยังทิศทางของใครคนนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
หลิวหลีจึงมองตามไปอย่างไม่รู้ตัว
หญิงสาวเพียงได้เห็นสตรีสองนางที่เดินแกมวิ่งไปก่อนจะทำท่าทางเหนียมอายใส่จริตมารยากับบุรุษนามว่ารองแม่ทัพจู
ซักพักต่อมาหลิวหลีก็ได้เห็นสตรีสองนางนั้นได้แต่ยืนเก้อมองตามแผ่นหลังของรองแม่ทัพจูที่เดินหนีพวกนางไปเสียอย่างนั้น
หลังจากที่พวกนางอุตส่าห์เข้าไปทักทายอย่างเสียเกียรติ
แต่เขากลับเดินหนีไปอย่างหน้าตาเฉย ได้อย่างไร?
พวกนางอุตส่าห์วิ่งเข้าใส่
เขากลับเดินหนีไปอย่างไม่ใยดี เขาไม่แม้แต่จะฟังคำทักทายของเหล่าสตรี
นั่นออกจะเกินไปหรือไม่กัน?
หลิวหลีมองภาพของรองแม่ทัพจูท่านนั้นอย่างนึกขัดเคืองแทนสตรีสองนาง
อืม...แต่จะว่าไป
รองแม่ทัพจูผู้นี้ออกจะดูดีอยู่ไม่น้อย
วันนี้เขาแต่งกายด้วยอาภรณ์สีเข้มมิได้สวมชุดเกราะอย่างเช่นในวันนั้น
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะมิได้สวมชุดเกราะเขาก็ยังคงไว้ด้วยมาดสงบเรียบนิ่งเฉยชาแต่ทว่าทรงพลัง
หลิวหลีรู้สึกได้ว่าเขาช่างดูเย็นชาทั้งยังดุดันและทรงพลัง
โดยเฉพาะเวลาที่เขาอยู่ต่อหน้าเหล่าทหารในอาณัติของเขา
เขาช่างมีเสน่ห์
อา...นี่นางกำลังคิดสิ่งใดอยู่กัน?
หลิวหลีถึงกับกระพริบตาปริบๆไล่ความคิดน่าอายให้ออกไป
ก่อนจะเดินเล่นไปบนทางเดินเรื่อยๆตามอารมณ์
แต่ไม่ว่าหลิวหลีจะเดินเล่นไปยังทางเดินด้านใด
สายตาของนางก็มักจะไปหยุดอยู่ที่ใครบางคนอยู่ทุกทีร่ำไปโดยไม่รู้ตัว
อา...
นั่นเขากำลังทำอะไร
เขากำลังยืนคุยอยู่กับเหล่าทหารทั้งหลาย
ท่าทางของเขาดูผ่อนคลายยามเมื่อได้อยู่กับเหล่าสหายของเขา
หือ!
เขายิ้ม
นั่นเขายิ้ม
เขายิ้มกับสหายของเขา
นางอยากเป็นสหายของเขาผู้นั้นเหลือเกิน
อืม...
แล้วนี่นางจะมองเขาอีกนานหรือไม่กัน
หลิวหลีเริ่มงุนงงกับตนเอง
มิรู้ได้ว่าทำไม รองแม่ทัพจูอะไรนี่ถึงได้อยู่ในสายตาของนางอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่เมื่อไหร่
ทำไมกัน…
จูหยวนจาง...
จูหยวนจางยังคงครุ่นคิดถึงใครบางคนที่เขาได้เจอะเจอในวันนั้น
ในวันที่เขาไล่ต้อนเหล่าผู้ร้ายของชนเผ่าๆหนึ่งไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ในวันนั้นเขาได้ช่วยเหลือคนผู้หนึ่งเอาไว้จากคมหอกที่พุ่งตัวลงมาจนเกือบจะปักกลางหลังของคนผู้นั้น
ด้วยสัญชาตญาณของเขา เขาจึงก้มลงอุ้มร่างนั้นขึ้นมาบนหลังม้าของเขาเพื่อหลบคมหอกเล่มนั้น
บุคคลคนนั้นที่เขาได้ช่วยเหลือเอาไว้เป็นสตรีมิใช่บุรุษเหมือนดั่งเช่นอาภรณ์ที่นางสวมใส่
เขาสังเกตได้จากดวงตากลมโตที่เหม่อมองเขาอยู่จนตลอดในระหว่างที่เขาสั่งการอยู่กับทหารของเขา
สตรีนางนี้เป็นใครกัน
ใยต้องปลอมตัว เขาเพียงนึกสงสัยแค่เพียงเท่านั้น
แต่ทว่า...
ท่าทางของนางที่ไร้ซึ่งจริตมารยา
ไร้ซึ่งการยั่วยวนดั่งเช่นสตรีหลายๆนางที่มักจะเข้าหาเขา
ทำให้เขานึกเข่นเขี้ยวนางอยู่ไม่น้อย และ...ไม่รู้ทำไม เขาถึงกลั่นแกล้งนางไปหลายครา
ยามที่เขาได้กลั่นแกล้งนาง
ใยเขาถึงได้...
รู้สึกดี...
กับสตรีที่บังอาจปลอมกายเป็นบุรุษ
ไร้ซึ่งการแต่งแต้มเติมสีใดๆบนใบหน้า ใยถึงทำเขาให้ถึงกับรู้สึกแปลกๆ
ได้อย่างไรกัน
นางเป็นใคร?
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัย
เขาก็หาใส่ใจได้นานไม่
เพราะไม่ว่าอย่างไร
เขากับนางก็คงไม่ได้เจอกัน
ไม่มีทางได้เจอกัน
คงไม่ได้เจอกันอีก...
ตอนพิเศษ: สตรีเจ้าเล่ห์(ร้ายกาจเกินไปแล้ว)
เสียงเซ็งแซ่แสดงคำอวยพรให้ชีวิตการแต่งงานของจูหยวนจางยังคงดังอย่างต่อเนื่องเมื่อเรือนร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์เจ้าบ่าวของเขาย่างกรายพาดผ่าน
ประโยคที่บอกขอให้เขามีความสุขจากเหล่าเพื่อนพ้องพี่น้องสหายทหารทั้งหลายของจูหยวนจาง
ทำเอาจูหยวนจางรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากมาย
สมรสพระราชทานหรือ
ได้อย่างไรกัน
เขาไม่เคยคิดที่จะแต่งงาน
เขาชอบชีวิตอิสระ
เขาชอบชีวิตชายชาติทหาร เขาชอบที่จะได้ช่วยเหลือผู้คน
และที่สำคัญ...
เขาอาจจะได้เจอนาง
สตรีนางนั้น
ที่ปลอมกายเป็นบุรุษ...
จูหยวนจางคิดอย่างขุ่นเคืองใจอยู่อย่างนั้นขณะเดินโซเซเพราะฤทธิ์ของสุราที่ดื่มเข้าไปจากการยื่นให้ของเหล่ามิตรสหายในยามค่ำคืนแห่งการแต่งงานจากผลของสมรสพระราชทานในค่ำคืนนี้
ชายหนุ่มใช้เวลาเดินเพียงครู่ก็เข้ามายังห้องหอ
หลังจากพิธีการทั้งหลายได้เสร็จสิ้นลง เหล่าสาวใช้หายออกไปจากห้องหอจนหมดสิ้น
คงเหลือไว้เพียงเจ้าสาวในอาภรณ์สีแดงที่เขายังไม่เคยได้เห็นหน้า
นางเป็นใครเขามิได้สนใจ
เขามิได้อยากรู้
แต่ที่แน่ๆ
นางจับเขาเอาไว้ด้วยสมรสพระราชทานอย่างไม่อาจที่จะดิ้นได้หลุด
ฮึ!
ตระกูลของนางเป็นตระกูลใหญ่ ที่แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องเกรงพระทัย
ฮองเฮาก็เห็นดีเห็นงาม กับสมรสพระราชทานนี้ที่นางบังอาจร้องขอ
นางช่างร้ายกาจยิ่ง
นางบังอาจผูกมัดเขาเอาไว้
จะมากเกินไปแล้ว...
จูหยวนจางคิดอย่างนั้นพลางเดินเข้าไปที่เตียงนอนที่มีเจ้าสาวพระราชทานของเขานั่งรออยู่
อยากเป็นภรรยาของเขานักใช่หรือไม่
ได้เลย...
ด้วยความเมามาย
ด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง ด้วยยังไม่ทันได้สังเกตหน้าตา
จูหยวนจางเพียงเอื้อมฝ่ามือขึ้นมาแล้วเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวให้ตกไป
ก่อนจะเข้าแนบชิดจัดการสตรีตัวร้ายที่บังอาจใช้สมรสพระราชทานครั้งนี้ผูกมัดเขาเอาไว้
ค่ำคืนของการเข้าหอ
ค่ำคืนของการเคี่ยวกรำ ค่ำคืนแห่งการทรมาน จูหยวนจางเพียงแค่อยากให้สตรีนางนี้ได้รู้ว่า
นางกำลังคิดผิดอย่างมหันต์ ที่บังอาจใช้มารยาร้ายกาจเช่นนี้กับเขา
เขาผู้ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่สตรีนางใด
เขาผู้ที่ไม่เคยหลงกลสตรีคนไหน แต่กับนาง...
ฮึ่ม! มันใช่หรือไม่
และเมื่อเวลาผ่านไป
ชายหนุ่มเริ่มสร่างเมา กิจกรรมกระทำชำเราได้สิ้นสุดลง
และแล้วเขาจึงได้เห็นโฉมหน้าของเจ้าสาว
เขาได้เห็นใบหน้าของนางได้ชัดเจนถนัดตาหลังจากที่เขาได้กระทำการกับนางไปอย่างถึงใจ
นางกำลังนอนหลับใหลอย่างหมดแรงอยู่ข้างๆกายของเขา
นางคือสตรีนางนั้น
สตรีที่ปลอมตัวเป็นบุรุษนั่น
จูหยวนจางถึงกับตกตะลึงลุกขึ้นนั่ง
ด้วยคาดไม่ถึง ว่าจะเป็นนาง
ใยถึงเป็นนาง
เป็นนางได้อย่างไร
ใยนางถึงต้องทำเยี่ยงนี้
ใยนางไม่มาพบเขาดีๆ
ใยนางต้องใช้สมรสพระราชทาน
ฮึ!
นี่คงจะเป็นมารยาที่แท้จริงของนาง
มันเกินไปหรือไม่!?
เจอกันคราแรกแสร้งปลอมตัวเป็นบุรุษ
เจอกันคราแรกแสร้งไม่มีจริตมารยา เจอกันคราแรกแสร้งทำตัวน่าเอ็นดู
แล้วเจอกันครานี้
นางกลับใช้สมรสพระราชทานนี่
นางทำกับเขาอย่างนี้ได้อย่างไร
เขาไม่ยินยอม...เขาไม่มีทางยอม
นางต้องชดใช้...ที่บังอาจมาเล่นกับความรู้สึกของเขา
สตรีเจ้าเล่ห์เจ้ามารยาหาใครเปรียบ…
ความคิดเห็น