ตอนที่ 3 : บทที่ 2
อาจจะความจำเสื่อม...
ผมควงดินสอดราฟในมือไปพลางมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เก้าอี้ตรงข้าม คิดหาสาเหตุที่ทำให้จนถึงวันนี้เขายังไม่มีทีท่าว่าจะจำผมได้ ไม่เคยออกปากเรื่องคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอหน้ากันที่ไหน ต่อให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วยเกมไร้สาระที่ถูกรีสตาร์ทใหม่นับตั้งแต่ริมฝีปากแตะกัน
เขาติดใจมัน... เล่นเอาผมประหลาดใจไม่น้อยเหมือนกัน ไม่คิดว่าเกมในวงเหล้าจะทำเขาติดกับได้ทั้งที่ความพยายามจะใช้สถานะพี่รหัสใกล้ชิดของผมเหลวไม่เป็นท่ามาตั้งครึ่งเทอม
...ท้าหรือจริง?
เราต่างมีสิทธิ์ถามอีกฝ่ายวันละหนึ่งครั้ง ตามกติกาไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีอะไรใหม่ เกือบจะง่ายดาย ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ใช่เขา... คนที่ผมไม่สามารถเดาได้เลยว่าเขาจะเกิดเบื่อมันขึ้นมาตอนไหน
โคตรจะเสียเปรียบที่ผมต้องคิดแทบตายกว่าจะเอ่ยปากถามออกไปแต่ละครั้ง คิดคำท้าที่จะทำให้ดวงตาสีรัตติกาลแวววาวด้วยความสนใจ มุมปากบางยกยิ้มเล็กๆ ให้รู้ว่าพอใจ และยอมให้ผมเป็นฝ่ายชักนำ
ในขณะที่เขาแทบไม่ต้องพยายามอะไรเลย
“ไอ้เหี้ยน้องพิชญ์ ถ้ามึงจะมานั่งเฉยๆ ก็กลับไปนอนเถอะครับ” ผมหยุดควงดินสอ ละสายตาจากคนที่ต่อให้จ้องจนตาหลุดก็คงไม่สนใจ หันกลับมามองหน้าผู้ชายตัวใหญ่ที่กำลังส่งเสียงโอดครวญ
“ได้เหรอพี่” แกล้งฉีกยิ้มยียวนทั้งที่รู้ดีว่าคำตอบคืออะไร
ขืนหายไปตอนนี้คงได้มีคนร้องไห้เพราะส่งงานไม่ทัน
แต่... นั่งเฉยๆ แบบนี้ก็คงมีค่าเท่ากัน
ทำไงได้อ่ะ ก็มันเป็น ‘คำสั่ง’
นั่งเฉยๆ...
ฟังดูง่ายดาย แต่เอาเข้าจริงนี่เล่นเอาลำบากใจเหมือนกันที่ต้องมานั่งมองโมเดลหยาบๆ ยังไม่ใกล้คำว่าเสร็จ พร้อมกับรับสายตากดดันจากพี่รหัสผู้มีพระคุณที่เพิ่งช่วยผมผ่านโปรเจ็กต์มิดเทอมมาหมาดๆ
“ถ้ามึงกลับกูร้องไห้จริงๆ อ่ะ” พี่เจดเบ้ปากทำตาละห้อยอย่างน่าสงสาร ไม่เหลือคราบพี่ว้ากสุดโหดฉายาเครายักษ์ที่เด็กปีหนึ่งตั้งให้
เห็นได้ชัดว่าฉายากับหน้าโหดๆ นั่นมันใช้ไม่ได้กับน้องใหม่สายเรา แถมไอ้พี่เครายังเป็นฝ่ายยอมสยบแทบเท้าเพียงแค่เขาบอกว่าจะเรนเดอร์พร้อมเขียนรูปตัดอีกสองรูปให้... แต่มีเงื่อนไขว่าต้องหลังเที่ยงคืน
โคตรร้าย
ถ้าไม่ใช่เพราะคืนนั้นพี่เจดเป็นคนสั่งให้เขาจูบผม แถมเท่าที่จำได้คือพี่มันเป็นหัวโจกให้คนอื่นออกคำสั่งแกล้งเขาสารพัดก็คงไม่เอะใจ เห็นเจ้าตัวไม่สะทกสะท้านอะไรคิดว่าไม่ใส่ใจ...ที่ไหนได้
เจ้าคิดเจ้าแค้นใช้ได้นี่หว่า...
“แค่ไอ้เตมานั่งอ่านนิยายล่อหน้าอยู่นี่กูก็ขัดใจจะตายห่า มึงอย่ามาทรมานกูอีกคนเลยนะครับน้องพิชญ์” ว่าพลางหันไปย่นหน้าใส่คนถูกพาดพิง ผมมองตามเห็นเขายักไหล่กวนๆ ก็หลุดยิ้มออกมา
“...” ไม่ทันคิดว่าอีกคนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตา แล้วยิ้มมุมปากให้กัน
แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นรอยยิ้มที่เกิดจากการเห็นผมยิ้ม แต่เป็นยิ้มในแบบที่... กำลังท้าทาย
คล้ายจะถามว่าผมจะยอมแพ้ไหม...
เหมือนรู้เลยนะว่าผมกำลังคิดอะไร
“เลี้ยงสายคราวหน้าบุฟเฟ่ต์แซลมอนนะพี่” ผมเสนอ สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่นัยน์ตาสีรัตติกาลที่ระยิบระยับขึ้นมาเมื่อผมยอมรับการพ่ายแพ้แต่โดยดี
ผมแกล้งยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ รวบผมเป็นหางม้าก่อนจะหันไปหยิบคัตเตอร์ขึ้นมาเริ่มทำงาน
เอาน่า ลองแพ้สักทีจะเป็นไรไป อีกอย่าง... อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะลงโทษผมยังไง
“เฮ้ยแป๊บ กาวไม่พอแน่เลยว่ะพิชญ์”
“...” แต่ไม่ทันไรผมก็ต้องชะงักมือที่กำลังตัดแปลน เงยหน้าขึ้นมามองพี่เจดตาขวาง ความรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า โดนหักหลังต่อหน้าต่อตา
“เชี่ยร้านจะปิดแล้วด้วย มึงไปซื้อมาหน่อยดิ”
นี่กูเพิ่งยอมแพ้มาช่วยมึงนะ ไอ้พี่เครา...
“ไหนๆ จะออกไปแล้วฝากซื้อกาแฟเซเว่นมาให้ด้วยดิ”
“ตกลงพี่รีบหรือไม่รีบวะ” ผมวางคัตเตอร์อย่างเสียอารมณ์ แต่คนกลับคำก็ยังทำหน้าระรื่น เหมือนเมื่อกี้ไม่ได้อ้อนวอนให้ผมช่วยทำงาน
“รีบดิ มึงถึงต้องรีบไปรีบมาไง เอามาให้ครบทีเดียวจะได้ไม่ต้องออกไปใหม่” พี่เจดว่าพลางโยนกระเป๋าสตางค์ทั้งใบมาให้
“เฮ้ยพวกมึง! ไอ้พิชญ์จะไปหลังมอมีใครเอาอะไรมั้ย” แถมท้ายด้วยการตะโกนลั่นสตูดิโอหอบหายนะมาให้โดยไม่ถามกันสักคำ
แล้วเหยื่อในดงซอมบี้ที่กำลังกระหายแต่ถูกไฟเดดไลน์กักบริเวณไว้อย่างผมจะค้านอะไรได้ นอกจากรับใบรายการซื้อของยาวเหยียดที่คนทั้งสตูฯ ยื่นมาให้อย่างจำใจ
ซึ่งมันคงไม่เหนือบ่ากว่าแรงอะไร ถ้าไอ้พี่เจดไม่ยื่นมีดเล่มสุดท้ายมาปาดคอผมได้พอดิบพอดี
“ไอ้เตมึงไปด้วยดิ ไอ้พิชญ์มันขับมอไซค์ไม่เป็น” ผมถึงกับเบิกตากว้างหันไปมองคนถูกเรียกใช้อย่างตกใจ
“เฮ้ยไม่เป็นไร ผมเอารถยนต์ไป” รีบออกตัวเพราะจับลางสังหรณ์ได้ทันควัน
“รถยนต์ก็เหี้ยละ หาที่จอดยากจะตาย เอามอไซค์ไปจะได้ไวๆ มึงมีมอไซค์ใช่มะไอ้เต”
“อือ”
โห... ทีงี้ละวางหนังสืออย่างไว
“พี่ ผมว่า...” ผมกำลังจะค้านแต่ก็ต้องหุบปากไว้เมื่อกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ถูกคนที่ลุกขึ้นก่อนโยนมาให้ราวกับรู้ว่าผมกำลังกังวลอะไร
“เคยเห็นมอเตอร์ไซค์กูใช่มั้ย” สายตาพราวระยับบ่งบอกว่าเขาเอาจริง
ทั้งที่อุตส่าห์จินตนาการไปต่างๆ นานาถึงบทลงโทษแสนเร้าใจ
ใครจะคิดว่าความจริงมันจะเป็นแบบนี้ได้... เหมือนพระเจ้าของเกมนี้เข้าข้างเขายังไงยังงั้น
“รีบไป จะได้รีบกลับมาทำงาน”
พนันเลยว่ารอยยิ้มของเขาไม่ได้เกี่ยวกับประโยคที่พูดมาแน่นอน
“เดี๋ยวได้ตายห่ากันหมด”
ไม่ใช่แค่ผมหรือเขา แต่รวมถึงไอ้พี่เจดที่จะต้องเสียลูกมือไปกะทันหันจนปั่นงานไม่ทัน... ไหนจะพวกที่ขาดเสบียง
เอาหลายชีวิตมาเสี่ยงอยู่นะรู้มั้ย
“แค่สตาร์ทแล้วขับออกไป”
“พูดก็ง่าย” ผมบ่นอุบ ลูบๆ คลำๆ ช็อปเปอร์คันโตที่จอดเด่นอยู่กลางลานอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับมัน
ไม่ใช่แค่ขนาด แต่หน้าตาและสภาพของมันต่างหากที่ขับให้เด่นขึ้นมา
ครั้งแรกที่ผมเห็นมันจอดอยู่คณะผมไม่คิดว่ามันจะวิ่งได้ จนเห็นว่าเขาขับอยู่บนถนนนั่นแหละถึงได้ตระหนักว่ามันคือมอเตอร์ไซค์... นี่ผ่านมากี่สงครามวะ
“อย่าว่าแต่ขับ สตาร์ทยังไม่เป็นเลย เอารถยนต์ไปเหอะ” ผมยื่นกุญแจให้เขาอย่างจนปัญญา
“มึงแพ้” ถึงจะยอมรับกุญแจแต่ก็ไม่มีท่าว่าจะอ่อนให้ แถมยังยกเรื่องเกมมาเป็นข้ออ้างให้ผมลำบากใจ
ถ้าผมแหกกฎเองตอนนี้ คงทำให้เขาไม่อยากเล่นเกมต่อไป
“อย่างอื่นไม่ได้เหรอวะพี่ นี่มันอันตราย” ผมขมวดคิ้วกึ่งๆ จะเว้าวอน ปกติลูกอ้อนของผมมักได้ผล... กระทั่งกับอาจารย์
“ถ้าไม่อันตรายแล้วจะสนุกได้ยังไง” แต่คราวนี้ผลลัพธ์กลับไม่เปลี่ยนไป
ซาดิสม์เหรอวะ
“คนแพ้ไม่มีสิทธิ์โวยวาย”
“แต่พี่...!” ไม่รอให้ทักท้วงต่อร่างสูงก็จัดการปิดปากด้วยการหยิบหมวกกันน็อกเปิดหน้าแบบที่พวกขับช็อปเปอร์ชอบใส่สวมลงมาบนหัวผมอย่างเผด็จการ
“ถ้ากลัวตายก็ใส่ไว้” ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมาอย่างขบขันขณะจับใบหน้าผมเงยขึ้นเพื่อติดตัวล็อกให้ ไม่นานก็ผละออก เรียวขายาวตวัดขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วสตาร์ทให้ผมดูอย่างง่ายดาย เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มในขณะที่ผมนิ่งค้างไป
ไม่รู้ว่าทำไมพอมีเขาเป็นองค์ประกอบ ไอ้มอเตอร์ไซค์โกโรโกโสนี่ถึงดูดีได้ทันตา
สมบูรณ์แบบเกินไปหรือเปล่าวะ คนอะไร
“มา”
ก็นะ ถ้าไม่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ผมก็คงไม่ตกหลุมพรางเขาง่ายๆ
“ไม่ต้องกลัว”
“...”
“กูอยู่กับมึง”
ถ้าไม่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ผมคงไม่ปล่อยให้คำพูดไม่กี่คำทรงอิทธิพลถึงขั้นบอกตัวเองว่าต่อให้เขาจะพาผมไปนรกก็ไม่เป็นไร
แต่คงไม่มีใครตกนรกด้วยมอเตอร์ไซค์บุโรทั่งความเร็วไม่น่าเกินสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงได้... มันน่าอนาถเกินไป
ขนาดตอนยังไม่ตายยังรู้สึกอนาถเลย
ถึงจะบอกว่าให้ผมขับ แต่ไอ้การที่มีมือเขาประคองอยู่ข้างๆ แฮนด์แถมช่วยบังคับทิศทางตลอดนี่ไม่เห็นว่าจะเรียกว่าให้ผมขับตรงไหน แผ่นอกที่เบียดหลังผมจนต้องนั่งคุดคู้แทบจะแนบหน้าลงกับถึงน้ำมันก็ทำเอาแทบบ้า ทั้งตำแหน่งที่นั่งผิดแปลก ทั้งเสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์กว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป ทำให้พอขับเข้ามาใกล้แหล่งคนพลุกพล่านมันเลยกลายเป็นเป้าสายตาเอาง่ายๆ อยากจะเร่งเครื่องหนีซะก็กลัวรถจะคว่ำตาย
แต่จะโวยวายขอสลับที่นั่งก็ไม่ได้...
แค่หันไปแล้วพบว่าหน้าของอีกคนอยู่ใกล้แค่ไหน ก็ได้แต่นิ่งค้างอย่างคนโง่ไปนับนาที
สายลมเอื่อยๆ ที่ปะทะใบหน้าทำให้เส้นผมที่ปรกหน้าผากถูกพัดไปด้านหลัง ใบหน้าด้านข้างที่ได้รูปสวยหมดจดอย่างพระเจ้าปั้นจ้องตรงไปยังถนนเบื้องหน้าอย่างจริงจัง กับสันจมูกที่แทบจะปะทะกันตอนหันกลับมามองว่าผมต้องการอะไร ก็เล่นเอาผมปล่อยให้คำพูดที่เตรียมไว้ถูกสายลมพัดปลิวไป
ความอับอายถูกทดแทนด้วยความรู้สึกอื่นที่มีอานุภาพกว่า...
ความสนใจจากสายตาขบขันรอบกายถูกกลบด้วยจังหวะหัวใจแสนสงบจากแผ่นอกที่แนบสนิทลงมา... ใบหน้าที่เกยข้ามไหล่ อ้อมแขนที่คร่อมร่างผมไว้ หรือกระทั่งเรียวนิ้วเย็นจัดที่สัมผัสกันบนแฮนด์มอเตอร์ไซค์
คงต้องย้ำอีกทีว่านี่มันอันตราย...
โคตรอันตราย
มันทำให้ผมนึกได้ ว่าเมื่อก่อนก็แบบนี้... พี่มักสอนให้ผมทำเรื่องอันตราย
‘สูบไม่เป็นทำไมไม่บอก’ เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อผมสำลักแทบตายหลังจากสูดควันบุหรี่เข้าไป
ครั้งแรกเลย...
‘ก็พี่ยื่นให้’
‘มึงต้องรับทุกอย่างที่กูให้?’ พี่เตดูไม่เข้าใจคำตอบของผม แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่รับบุหรี่จากมือผมไปจรดริมฝีปากลงที่ปลายมวนตรงตำแหน่งที่ผมเพิ่งคาบไว้
ไร้เดียงสาชะมัดที่ดันนับมันเป็นจูบแรกด้วยเหมือนกัน
‘ผมอยากลอง’ ผมว่า เบือนหน้าหลบมองมุมปากที่ยกขึ้นนิดๆ ท่าทางขบขันปนสมเพชผมที่ไอจนน้ำหูน้ำตาไหล
‘แล้วเป็นไง’
‘ก็ไอจนแสบคออยู่นี่ไง’ คราวนี้ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ เลยหันไปเบ้หน้าใส่
‘พี่ติดมันไปได้ไงวะ’
ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ
‘กูไม่ได้ติด’
รู้แต่ว่ามันทำผมเกือบตาย
‘เหรอ’
‘ไม่ได้ติด’
...และมันทำให้พี่แสดงสีหน้าน่ารักแค่ไหน ตอนที่ค้านหัวชนฝาว่าไม่ได้ติดมัน
‘เชื่อก็ได้’ ผมยักไหล่
‘...’
‘อย่างอนน่า ผมบอกว่าเชื่อแล้วไง’
ทำให้พี่เอื้อมมือมาขยี้หัวผมแรงๆ แล้วขำ...
‘เด็กเวร’
เสียงหัวเราะเบาๆ ครั้งแรกที่ผมยังจำได้ขึ้นใจ
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังยืนยันว่ารสชาติของบุหรี่มันไม่ได้น่าพิสมัยเท่าไหร่
แต่ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงติดมัน... เพราะผมเอง ก็เสพติดไม่ต่างกัน
“บุหรี่มั้ย” ผมยื่นซองให้เมื่อเห็นร่างสูงกว่าเดินมายืนข้างกันที่ระเบียง
ตอนนี้ค่ำวันใหม่... ทุกอย่างสงบ ไม่มีไฟเดดไลน์ของไอ้พี่เจดสุมให้ร้อนรน
แต่เชื่อเถอะว่ากว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้เล่นเอาพวกผมร่างพังตามๆ กันไป
พอกลับจากซื้อของ ทั้งผมทั้งเขาก็อยู่ช่วยพี่เจดปั่นงานจนกระทั่งส่งในตอนเช้า ยังดีที่มีพี่ปีสี่ปีห้าแวะมาดูใจบ้างแบ่งส่วนที่พอจะช่วยได้ไป จากไอ้ที่สาหัสก็เลยไม่แย่เท่าก่อนหน้า อีกอย่างผมก็พอจะทำงานไว เสกโมเดลให้พี่มันใหม่ได้ภายในห้าชั่วโมง ในขณะที่อีกคนเหนือชั้นกว่าแบบไม่รู้จะอวยยังไง หลังจากเล่นตัวจนพอใจเขาก็เอาโน้ตบุ๊คขึ้นมาเสกรูปตัดสองรูปภายในสามชั่วโมง เสียเวลาตรงเรนเดอร์นิดหน่อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยิ่งกว่าน่าพอใจ ทั้งแสงทั้งองค์ประกอบสวยจนไอ้พี่เจดแทบหลั่งน้ำตา
ตอนนี้ต่อให้เรียกร้องมากกว่าบุฟเฟ่ต์แซลมอนพี่เจดก็คงพร้อมประเคนให้
“กูเพิ่งอาบน้ำ”
“จะไม่สูบ?” เผลอหลุดเสียงประหลาดใจ
“อือ” เขายังคงตอบหน้าตายทั้งที่ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะละสายตาจากบุหรี่ยี่ห้อโปรดตรงหน้า
บอกแล้วว่าเขาติดมัน
งั้น... ใช้ไอ้นี่ก็คงได้
ไหนๆ วันนี้ก็ยังไม่รู้จะเล่นอะไร
“ท้าหรือจริง?”
เขาเลิกคิ้วใส่ผมที่ยิ้มนิดๆ มองเขาสลับกับบุหรี่อย่างคิดอะไรได้... ไม่นานดวงตาสีรัตติกาลก็ฉายแววระยิบระยับขึ้นมา
ชอบจริงนะ ไอ้เกมนี้น่ะ
“ท้า”
เพราะเดาคำตอบไว้แล้วผมถึงเคาะบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจากซองแล้วยื่นไปจ่อปากเขาทันที
“คาบไว้สิ” เขามองผมอย่างประหลาดใจอีกรอบก่อนจะยิ้ม ยอมโน้มตัวลงมาอ้าปากรับมวนนิโคตินสีขาวในมือผมไปคาบไว้
“จนกว่าผมจะสูบมวนนี้หมด ห้ามจุดไฟ”
เขาดูไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำท้าของผม แค่ยักไหล่แล้วเบือนหน้ามองออกไปยังแสงไฟนอกระเบียง
“วิวห้องมึงสวยดี”
“ก็สมกับราคา” ผมไม่ปฏิเสธ พอจะมองออกตั้งแต่คราวก่อนที่เขาถูกทำโทษให้ออกมายืนนอกระเบียงว่ามันเป็นเพียงไม่กี่สิ่งในคืนนั้นที่เขาให้ความสนใจ ถึงคราวนี้เขาจะตามมาด้วยเพียงเพราะมันใกล้มหาลัย มาของีบก่อนเพราะขับมอเตอร์ไซค์กลับห้องตัวเองไม่ไหว แต่การตื่นมาอีกทีแล้วพบว่าท้องฟ้ามืดสนิทแล้วเขาก็ดูพอใจ
เขาคงชอบมัน... แสงสีของกลางคืน แสงไฟระยิบระยับ เสียงความวุ่นวายที่ได้ยินจากไกลๆ
ผมเองก็ชอบ... เวลาที่ได้มองแสงไฟสะท้อนเข้ามายังนัยน์ตาสีรัตติกาล
“ถ้าชอบขนาดนั้นจะย้ายมาอยู่ด้วยกันก็ได้นะ” ผมว่าติดตลกพลางปล่อยควัน บุหรี่เริ่มมอดจนสูบอีกครั้งก็คงถึงก้น
...เสียดาย
“น่าสนใจ” แต่ขณะที่ผมคิดว่าตัวเองคงแพ้แล้วเขากลับโน้มตัวลงมา... จ่อปลายบุหรี่ที่คาบไว้กับปลายบุหรี่ในปากที่สั้นกุดในปากของผมจนปลายจมูกเฉียดลงมาที่แก้มจนผมผงะ
มือหนาจึงยกขึ้นมาล็อกท้ายทอยผมไว้ ดวงตาสีรัตติกาลที่มองมาอย่างจริงจังยิ่งทำผมหวั่นไหว... กระทั่งเขาถอยหลังกลับไปเมื่อปลายบุหรี่ติดไฟ
“คราวหน้าลองท้ากูดู”
ผมหลุดหัวเราะ เผลอตบเข่าฉาดในใจ... ว่าแล้วไงว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น
“พี่แพ้” ว่าพลางดับบุหรี่ลงกับที่เขี่ย ยิ้มให้ซิปโป้รุ่นลิมิเตดอิดิชั่นที่เป็นหมันเพียงเพราะเขาค้นพบวิธีการจุดบุหรี่ที่น่าสนใจกว่า
ถึงขั้นยอมแพ้เพื่อแกล้งผมแบบนี้ก็คงเตรียมใจรับรับโทษไว้แล้วล่ะนะ
“จะให้ทำอะไรก็ว่ามา” หรือไม่ก็แค่อยากรู้ว่าคนอย่างผมจะคิดบทลงโทษอะไรได้
ก็จริงของเขา... มันไม่ได้หนักหนาอะไร
“ถอดเสื้อออกสิ”
...อย่างน้อยก็ง่ายกว่าขับมอเตอร์ไซค์
--------------------------------------------------------------------
เป็นเรื่องที่เขียนยากจังเลยอ่ะ แงง
พยายามจะเปลี่ยนสำนวนให้แปลกใหม่กว่านี่ผ่านมาแล้วพบว่าไอ้การเขียนให้กระชับนี่ยากกว่าการเวิ่นเว้อพรรณนาอีกนะ 5555 หวังว่าจะพอสื่อสารเข้าใจ ถ้าไม่ชอบหรือขัดใจตรงไหนฝากติติงด้วยนะคะ ^^
อาทิตย์ที่ผ่านมาชีวิตสาหัสมากกก งานเยอะจนไม่ได้แตะนิยายเลย ทรมานมาก 5555
ยังไงก็จะพยายามอัพให้ได้อาทิตย์ละตอนอย่างที่บอกนะคะ ฝาก #เกมท้ารัก ด้วยน้า
ปล. ไม่ได้บอกตรงๆ แต่พอจะเดาออกใช่มั้ยคะว่าทั้งสองคนเรียนคณะอะไร 555 อยากเล่าผ่านบริบทกับชีวิตประจำวันง่ายๆ พยายามจะไม่ใส่ศัพท์เฉพาะจะได้เข้าใจง่ายๆ แต่ถ้างงก็บอกได้เลยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1,707 ความคิดเห็น
-
#1664 เจ้าหมีขาว (จากตอนที่ 3)วันที่ 27 กันยายน 2563 / 23:35เซ็กซี่จัง 2 คนเนี้ย#1,6640
-
#1575 pommys (จากตอนที่ 3)วันที่ 15 มีนาคม 2563 / 16:22ท้าหรือจริงเพื่อหาคำตอบ#1,5750
-
#1517 mileyduchess (จากตอนที่ 3)วันที่ 2 ตุลาคม 2562 / 13:40ชอบโทนเรื่องหม่นๆ เทาๆ ควันบุหรี่#1,5170
-
#1483 saisaisaisai14 (จากตอนที่ 3)วันที่ 14 พฤษภาคม 2562 / 20:48ชอบบบบบบบ#1,4830
-
#1480 00678491 (จากตอนที่ 3)วันที่ 12 พฤษภาคม 2562 / 08:38เอองงนิดนึงแต่ก็สนุกดี#1,4800
-
#1441 kwanpirom0009 (จากตอนที่ 3)วันที่ 5 มีนาคม 2562 / 19:52วู้ๆเด็กถาปัดดด#1,4410
-
#1375 fewho_1169 (จากตอนที่ 3)วันที่ 22 ธันวาคม 2561 / 21:01อ่านแล้วงงกับสถานการณ์นิดหน่อย#1,3750
-
#1283 ananarnaaa (จากตอนที่ 3)วันที่ 5 ธันวาคม 2561 / 23:28ชอบคนที่ชอบความท้าทายแบบพี่เตจังเลยค่าาาา //เอามือกุมใจ#1,2830
-
#1222 NoonaVK (จากตอนที่ 3)วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 / 14:11ถอดเสื้อ!#1,2220
-
#1083 ฺBedroom (จากตอนที่ 3)วันที่ 23 กันยายน 2561 / 20:35... เกาะขอบระเบียงอย่างใจจดใจจ่อ ว่าแต่พี่เตความจำเสื่อมจริงหรือเปล่านะ#1,0830
-
#1062 pppeachhh2 (จากตอนที่ 3)วันที่ 21 กันยายน 2561 / 21:44เวลาไปเดินตามถนนก็อยากเห็นผช2คนนั่งรถมอไซค์ด้วยกันแบบนี้จัง คงฟิน55555 ว่าแต่น้องท้าให้พี่ถอดเสื้อทำไมม#1,0620
-
#1057 Sirikandadechhom (จากตอนที่ 3)วันที่ 15 กันยายน 2561 / 21:11คิดาภาพผู้ชายสองคนขี่รถแบบนี้ งื้ออออ#1,0570
-
#1042 maybee23 (จากตอนที่ 3)วันที่ 22 สิงหาคม 2561 / 11:05ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลสินะ อืมๆๆ#1,0420
-
#1020 [12GODs ll POSEIDON]AVERY PIE (จากตอนที่ 3)วันที่ 10 สิงหาคม 2561 / 07:12ชอบบบบบ#1,0200
-
#953 agasep2 (จากตอนที่ 3)วันที่ 11 กรกฎาคม 2561 / 09:25ถอดเสื้อๆๆๆๆ หสไวกวก#9530
-
#920 pim pimmi (จากตอนที่ 3)วันที่ 28 มิถุนายน 2561 / 21:06เนี่ยยยย มันใช่#9200
-
#697 Orathaiks (จากตอนที่ 3)วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 / 22:41ชอบฟามท้าทายย#6970
-
#644 snowontherainyday (จากตอนที่ 3)วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 / 20:29ท้าทายไปอีกกก ฮื่ออออ#6440
-
#625 Devil94 (จากตอนที่ 3)วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 / 21:39คนชอบท้า#6250
-
#620 Innyice (จากตอนที่ 3)วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 / 13:17ชอบค่ะ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากแต่เราสัมผัสได้อะ ^^#6200
-
#619 Innyice (จากตอนที่ 3)วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 / 13:17ชอบค่ะ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากแต่เราสัมผัสได้อะ ^^#6190
-
#604 ` กานต์เก้า (จากตอนที่ 3)วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 / 12:20อ่านไปก็คล้มยว่าจะเสพติดความท้าทายไปด้วยอยากจะรู้ว่าจะท้าอะไรกันอีก#6040
-
#577 Sweet Time (จากตอนที่ 3)วันที่ 31 มกราคม 2561 / 16:38บรรยากาศเทาสุดๆ#5770
-
#547 ang_9potion (จากตอนที่ 3)วันที่ 28 มกราคม 2561 / 19:39อ่านแล้วเหนื่อยใจแปลกๆไงไม่รู้ค่ะ#5470
-
#431 Rmuay Jirasatitkul (จากตอนที่ 3)วันที่ 23 มกราคม 2561 / 06:28ท้ากันแบบนี้จะรักกันตอนไหนยังไง#4310