ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <ลานเรื่องสั้น, 3> - เปลือยสวาททาสพรหมจรรย์

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่๗ การเสนอกับผลกรรม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 168
      4
      20 ม.ค. 62

    “ได้ร่างใหม่ดีกว่าร่างเก่าอีกแหะ”

    “เมื่อไรแกจะออกไปจากร่างฉัน?” บีมไม่พอใจที่ถูกอีกฝ่ายยึดอำนาจการใช้ร่างกายไปจนเธอต้องมาหลบอยู่ริมไส้ติ่ง แต่ก็สู้แรงไม่ได้จึงทำได้แค่บ่นอยู่ด้านในและหวังว่าเรื่องบ้านี่จะจบด้วยการที่บีนออกไปและคืนร่างให้เธอได้ใช้ จากนั้นก็จะหาทางป้องกันไม่ให้วิญญาณนั่นมายุ่งอีก

    “แกต่างหากที่สมควรไป”

    “แต่ฉันเป็นเจ้าของร่าง”

    “ฉันเป็นเจ้าของชะตา”

    “แกเป็นแค่ผี ฉันเป็นคน ไปเกิดใหม่สิ ฉันจะทำบุญไปให้”

    “หึ แกนะเหรอจะทำบุญให้ฉัน อย่างมากก็คงทำให้อยู่หลายวันแล้วก็กลับไปใช้ชีวิตไร้สาระของแกต่อ ใครจะมานึกถึงคอยทำบุญไปให้นานขนาดนั้น แต่ฉันต้องมาตายแทนแก ฉันไม่ใช่ผี แกต่างหาก” บีนแย้งกลับด้วยความไม่พอใจ “ถ้าไปเกิดใหม่ง่ายมาก แกก็รีบไป จะมาพูดทำไม?”

    “ฉันไม่เข้าใจ มันเกิดอะไรขึ้น?”

    “มันมีผีตนหนึ่ง ที่มันแค้นมาแต่ชาติปางก่อน ตั้งใจจะเอาชีวิตแก แต่เกิดอุบัติเหตุทำให้ฉันต้องตายแทน ร่างเดิมของฉันพัง ฉันกลับไม่ได้ ยังไงแกก็ควรเป็นคนที่ต้องตาย แกก็ย้ายออกจากร่างนี้ไปที่ไหนก็ได้ แล้วให้ฉันอยู่แทน เดี๋ยวจะช่วยทำบุญไปให้สักครั้ง แกจะยอมไหม?

    “แกพูดบ้าอะไร? ผีอีกตนเหรอ?

    “ใช่”

    “แต่ฉันไม่รู้ ถ้าเป็นชาติก่อน ชาตินี้ฉันก็ไม่ผิด”

    “พูดมาได้ยังไงว่าชาตินี้ก็ไม่ผิด?” เจ้ากรรมนายเวรโวยบ้าง “ชาติก่อนแกทำร้ายฉัน ทำให้ฉันเจ็บปวดจนต้องมาเป็นผีรอแก้แค้น แต่แกจะอ้างว่าตัวเองจำไม่ได้ว่าทำอะไรกับฉัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบความผิด โดยที่ฉันจำได้ทุกอย่างว่าฉันโดนแกทำอะไร มันยุติธรรมกับฉันเหรอ?

    “ใช่ แล้วมันยุติธรรมกับคนที่ไม่เกี่ยวอย่างฉันเหรอ?”

    “งั้นพวกแกคิดว่ามันยุติธรรมกับคนที่ไม่รู้อย่างฉันไหม?”

    “ถ้าฉันทำให้แกจำได้ว่าทำอะไรฉันบ้าง จะยอมรับกรรมหรือไง?” ผีสาวถามกลับ คนเห็นแก่ตัวอย่างบีมนะหรือจะมารับรู้ความเจ็บปวดของคนอื่น เป็นเหมือนเดิมทุกชาติ ตอนชาติเก่าก็ทำร้ายเธอ ชาตินี้ก็ยังจะปฏิเสธการกระทำตัวเอง ด้านบีมก็ลืมไปแล้วจริงถึงบุญบาปที่เคยทำ

    “ฉันน่าจะรับกรรมไปตั้งแต่อยู่ในนรก”

    “แต่มันยังไม่พอ”

    กริ๊ง...

    “ปอนด์โทรมา”

    “อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องผู้ชายได้ไหม?” เจ้ากรรมนายเวรถลึงตาใส่พร้อมยืนบังอุปกรณ์สื่อสาร ในขณะที่บีมกับบีนพร้อมใจกันมองด้วยการอยากคุยกับหนุ่มรวย “นี่มันเรื่องชีวิต จะมัวแต่มารับสายผู้ชาย เป็นบ้าหาผัว ทั้งที่ฉันต้องเป็นผีโสดหาผัวไม่ได้ รอแก้แค้นมาจนถึงวันนี้หรือไง?”

    “แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน แกทำผิดกับฉันนะ”

    “แกก็ไม่มีสิทธิ์เอาร่างฉันไปยุ่งกับคนที่ฉันกำลังคุยด้วย”

    “หึ เขาเป็นแฟนเก่าฉันเอง”

    “แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่!”

    “หยุด!”

    เสียงปรามของวิญญาณเหมือนจะไม่มีคนสนใจ ทั้งสองต่างแย่งกันเป็นเจ้าของร่างโดยไม่ฟังเหตุผลของคนอื่น บีมบริเวณใส่ติ่งกับบีนที่ครองทั้งร่างเถียงใส่กัน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเพราะไม่มีคนรับสาย ผีสาวอยากเข้าไปกระชากแต่ก็ไม่มีแรงพอ ด่าไปก็ไม่มีคนฟัง เพราะต่างก็แย่งกันอยู่

    “พอกันทุกคน”

    “พี่นาว?”

    “ใครอีกอะ?”

    “ฉันชื่อนาว เป็นผีน่ะ ฉันบอกให้เจ้ากรรมนายเวรของเธอจัดการเธอเองเพราะสิ่งที่เธอทำในชาติก่อนนั่นมันเลวร้ายมาก” นาวอธิบายเสียงเรียบพลางหันมองทุกคน “แต่ว่าเกิดเหตุขัดข้อง พอจะฆ่า มีอีกคนมาโดนแทน โดยที่คนที่โดนก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความแค้นสักนิด”

    “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าฉันเคยทำ?”

    “งั้นรอสักครู่”

    ......................................................................................................................................................

    ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ปรากฏภาพเหตุการณ์ในอดีตชาติ

    บีมทำร้ายตบตีหญิงสาวอีกคน พูดจากลั่นแกล้งเหยียดเหมือนไม่เห็นเป็นมนุษย์ด้วยกัน คอยแย่งของรักไปทุกครั้ง แน่นอนว่าตอนนั้นบีมมีแต่รอยยิ้มที่ได้รังแกชาวบ้าน ในขณะที่คนถูกรังแกร้องไห้ตาแดงก่ำ คร่ำครวญถึงโชคชะตาที่ตนถูกทำร้ายอย่างหนักแต่ไม่สามารถต่อสู้

    “เห็นหรือยังว่าแกทำอะไรไปบ้าง?”

    คนเคยถูกกระทำยังกัดฟันด้วยความแค้น คนไปกระทำเขาเม้มริมฝีปาก

    “ฉัน...”

    “นึกขึ้นมาแล้วแค้น อยากจะตบสักฉาด”

    “อย่าเพิ่งใช้กำลังกันตอนนี้ เอาล่ะ ถ้าพูดกันแบบไม่มีคนฟัง อีกกี่ชาติก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องและหาทางหยุดความขัดแย้งไม่ได้ ฉันจะให้โอกาสแต่ละคนพูดเหตุผลของตัวเองและเสนอทางออกที่ดีกว่า จะดีสำหรับตัวเองหรือดีสำหรับทุกคนก็ได้ ฉันให้พูดทีละคน ห้ามคนอื่นพูดแทรก”

    “ฉันขอพูดก่อน”

    “เชิญค่ะ เห็นว่ารอมานาน”

    “ฉันถูกมันทำร้าย วันนั้นเครียดมากเดินเหม่อ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นผี ต่อให้จะบอกว่าไม่ได้ตายเพราะมันโดยตรง แต่ตอนมีชีวิตอยู่ มันก็ทำให้ฉันอยู่อย่างไม่มีความสุข เรื่องนี้พี่นาวก็รู้ว่าฉันแค้นขนาดไหน ถ้าเจอแบบฉันใครจะทนได้บ้าง ฉันรอวันแก้แค้นมานานแต่ก็ขัดข้อง ฉันเสนอว่าถึงร่างบีนจะพังไป ก็ให้บีนอยู่ร่างบีมแทน”

    คราวนี้เจ้าของร่างคนเดิมย่อมไม่เห็นด้วย

    “ไม่ได้นะ ถึงฉันจะรู้ว่าฉันเคยทำอะไร แต่ฉันก็ไม่ได้เป็นคนทำในชาตินี้ เรื่องชาติก่อนมันจบไปตั้งแต่ตอนนั้น ฉันไม่รู้อะไรด้วย แล้วอีกอย่าง นี่ก็เป็นร่างที่ฉันเกิดมา ฉันเสนอว่าคนที่จากไปก็ไปเกิดเถอะ ฉันก็จะใช้ชีวิตต่อไป แบบที่ไม่แกล้ง ไม่รังแกใครอีก หมดเวรกรรมต่อกัน” 

    ข้อเสนอเล่นเอาคนที่ไม่เกี่ยวตาขวาง

    “ใช่ แกไม่รู้ว่าชาติก่อนแกทำอะไรใคร แต่เจ้ากรรมนายเวรแกรู้ ฉันต่างหากที่ไม่รู้และไม่เกี่ยว แกจะให้ฉันเป็นคนรับผิดชอบแล้วต่างคนแยกย้ายไม่ได้ เรื่องอะไรโยนเคราะห์มาให้ฉันล่ะ หึ เพราะเห็นแก่ตัวสินะคนเขาถึงได้แค้น ฉันเสนอว่าถึงฉันจะกลับร่างเดิมไม่ได้แต่ก็อยู่ร่างแกแทน แกต้องไป”

    “บีมเป็นคนเดียวที่ความเห็นขัดกับคนอื่น”

    “แล้วไง? แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง!”

    “อ่อ งั้นที่แกทำร้ายันชาติก่อนมันถูกต้องเหรอ?” ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ถูกกระทำจะยอม เพราะยังความเจ็บปวดยังเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน สังคมเราก็ย้อนแย้ง ตอนคนชั่วรังแกคนดีก็ไม่มีใครพูดอะไร แต่พอคนดีแค้นจะมาเอาคืน กลับมาคุ้มครองคนชั่วและบังคับคนดีให้ยอมให้อภัย

    “ไม่รู้ แต่ฉันไม่ยอมไป”

    “เอ้า สองคนนั้นบอกว่าเธอต้องไปนะ”

    “แกเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินห้ะ?”

    “ก็เป็นหัวหน้าชมรมกูคนเดิมได้ตายไปแล้ว ผดุงความยุติธรรมให้วิญญาณที่ถูกรังแก”

    “แกก็เข้าข้างผีด้วยกัน ฉันไม่ยอมรับการตัดสินของแกหรอก”

    “แกบอกว่าแกจำไม่ได้ว่าทำอะไรฉันบ้าง แต่ฉันจำได้ฉันถึงรอวันแก้แค้น แกบอกว่าแกไม่ยอมรับการตัดสินของนาว แล้วทำไมฉันต้องยอมรับการตัดสินของผู้คุมนรก ใครจะลงโทษแกเท่าไรก็ช่างมัน แต่ฉันเป็นผู้ถูกกระทำ ฉันไม่มีสิทธิ์ลงโทษแกให้เจ็บปวดเหมือนที่แกทำกับฉันเหรอ?

    บีมเงียบไป จริงสิ ใครควรมีอำนาจตัดสินใจ

    ผู้คุมนรก? กฎแห่งกรรม? เจ้ากรรมนายเวร?

    “ขนาดแกเห็นว่าแกทำร้ายฉันขนาดไหน แกยังไม่รู้สึกเสียใจ”

    “ฉันเสียใจ แต่... ฉันจำไม่ได้”  

    “เอางี้ ถ้าต่างฝ่ายกลับไปได้ จะทำอะไร?”

    นาวถามอีกครั้ง ทุกฝ่ายมอง แม้จะอยากยึดคำตัดสินของตัวเองแต่ก็เกรง

    “ฉันจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยทำ ชีวิตแบบคนทั่วไป เที่ยวกับเพื่อน กินข้าวกับแฟน กลับบ้านพ่อแม่” คำตอบแสนธรรมดา แต่ก็เป็นข้อเท็จจริง จะให้ทำอะไรยิ่งใหญ่กว่านั้นก็ไม่เคยอยู่ในความคิด และบางครั้งชีวิตธรรมดาก็มีเสน่ห์ ลองเสียความธรรมดาไปจะรู้ว่ายากลำบาก

    ลองเจอกับตัวคงไม่อาจปฏิเสธ

    “ฉันก็จะทำแบบนั้น”

    “แต่ถ้าคนหนึ่งได้กลับไป อีกคนก็ต้องไปเหรอ?”

    “งั้นถ้าไม่ต้องมีใครไปล่ะ?”

    “หมายความว่ายังไง?”

    “แบ่งกันใช้ ไม่ต้องมีใครไปเกิด ร่างของแกที่พังไปก็ต้องทำใจ แต่แกก็อยู่ร่วมร่างเดียวกันกับฉัน หากึ่งกลางที่เราจะอยู่ด้วยกันได้ ว่าเราจะทำหรือไม่ทำอะไร เราจะไม่ทำสิ่งที่ฝืนใจหรืออีกฝ่ายรับไม่ได้ แบ่งกันเถอะ จะได้อยู่ด้วยกันในร่างนี้ ส่วนเรื่องในอดีตฉันอยากขอโทษ ถ้าเธอมาอยู่ร่างเดียวกับฉันได้ฉันก็ยอม”

    “หึ ฉันไม่คิดมาก่อน ว่าคนเห็นแก่ตัวอย่างแก จะรู้จักแบ่งและขอโทษ”

    “มันพอได้ไหม?”

    “ได้ ต่อไปเรามาแบ่งกันใช้ร่าง”

    โทรศัพท์ดังขึ้นอีกคน ทุกคนในร่างยังคงแอบคิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×