ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <ลานเรื่องสั้น, 3> - เปลือยสวาททาสพรหมจรรย์

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่๕ ปากคนบ่นเป็นงาน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 295
      5
      16 ก.ย. 61

    เค้กเดินลงมาซื้อข้าวกินเหมือนทุกวัน

    “คุณเค้กใช่ไหมคะ?”

    หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ เธอมีรูปร่างค่อนข้างสูงโดยไม่ต้องพึ่งรองเท้าส้นสูงแต่อย่างใด เค้าหน้าหวาน ผมดัดลอนเกลียวตัดแสกข้าง ดวงตากลมโต ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มอย่างเป็นมิตรแม้จะซ่อนความประหม่าอยู่ก็ตามที เค้กขมวดคิ้วเหมือนคุ้นหน้าแต่จำไม่ได้แน่ชัด

    “ใช่ค่ะ คุณคือ?”

    “ฉันแคนดี้ค่ะ เป็นแฟนคลับพี่กรรลอง”

    “อ๋อ ค่ะ”

    เค้กกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง คาดเดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร

    “ฉันไม่ได้มาหาเรื่องคุณค่ะ ฉันเคยเจอพี่กรรลองอยู่หลายครั้งและก็เชื่อว่าเขาไม่มีทางทำอะไรแบบที่ข่าวลงกัน หมายความว่าฉันไม่เชื่อที่ใครกล่าวหาคุณเค้กด้วยค่ะ” คะนึงนิจยังคงยิ้มคลายความตึงเครียดของสถานการณ์ “ที่ฉันมาวันนี้ก็เพราะฉันอยากช่วยเป็นกำลังใจให้คุณสองคน”

    “ขอบคุณนะคะ”

    เค้กรู้สึกดีขึ้นที่มีคนเชื่อข่าวลวง ด้านคะนึงนิจก็พูดสิ่งที่เค้กคาดไม่ถึงว่าจะได้ยิน

    “คือฉันอยากช่วยพี่กรรลอง”

    ......................................................................................................................................................

    ประตูห้องถูกเคาะขึ้นขณะที่กรรลองนอนกินถั่วอยู่

    พอยกบ้านให้เมียเก่า กรรลองก็มาอยู่คอนโดโดยไม่ได้คิดจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เรื่องแขกก็ไม่มีใครมาเยี่ยมนอกจากเค้ก เพื่อนรุ่นน้องที่คบกันมานาน เพราะเพื่อนในวงการก็ห่างไปกลัวโดนกระแสไปด้วย บางคนมีส่งข้อความมาถามบ้าง แต่ก็มีครอบครัวกันแล้วคงไม่สะดวกมาถึงห้อง

    คนที่มามีแต่เค้กเท่านั้น

    แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแต่เค้กเท่านั้น

    “สวัสดีค่ะ พี่กรรลอง”

    “เค้ก? แคนดี้? มาด้วยกันเหรอ?” อดีตพระเอกขมวดคิ้วเมื่อผู้มาเยือนมีถึงสองคน แน่นอนว่าคนแรกคือเค้ก สาวสวยผมตรงย้อมสีน้ำตาลเจ้าของแววตาทะเล้น ส่วนอีกคนก็คะนึงนิจหรือแคนดี้ สาวสวยร่างสูงดัดผมลอนที่ดูน่ารักและเต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อที่เขาก็สัมผัสได้

    “แคนดี้แอบมุดอยู่ในกระโปรงรถค่ะ เค้กก็เพิ่งเห็น”

    “ใช่ ร้อนจนรองพื้นเยิ้มเลยเนี่ย ไม่ใช่แล้ว!”

    กรรลองเกือบยิ้มให้กับการรับส่งมุกแม้จะฝืดไปหน่อย

    “มีอะไรหรือเปล่า?”

    “มาเยี่ยมค่ะ กลัวพี่เหงา” คะนึงนิจตอบตามตรง นึกถึงน้ำใจอันดีที่ชายหนุ่มเคยมีให้กับทุกคนไม่ว่าจะรวยจน “เห็นเค้กบอกพี่กรรลองเครียดจนกินข้าวไปสองชามเลยมาดูสักหน่อย แคนดี้เข้าใจนะคะว่าตอนนี้พี่เครียดมาก แต่ใครจะเชื่อยังไงก็เชื่อไป แคนดี้เชื่อว่าพี่ไม่ได้ทำแบบที่ใครพูดแน่นอน”

    “ขอบคุณนะแคนดี้ แล้วนี่รู้จักกันด้วยเหรอ?

    “เพิ่งรู้จักแหละค่ะ คุยไปคุยมาเกิดปีเดียวกัน เลยเป็นเพื่อนกัน”

    “อ่อ”

    กรรลองยังคงไม่แสดงกิริยาอะไรมากไปกว่าคลี่ยิ้มจางบนใบหน้าเรียบเฉย ในช่วงเวลาที่แย่ยังมีคนเชื่อใจก็ยังดีกว่าไม่มีใคร หญิงสาวทั้งสองเข้ามานั่งและคอยพูดให้กำลังใจ แต่จะว่าอ่อนแอก็ว่าเถอะ ชายหนุ่มเบื่อหน่ายประสาคนผิดหวังในชีวิต ไม่จัดการแม้แต่หนวดที่เริ่มขึ้นรก

    เพื่อนสาวเห็นความเฉยชาก็โวยลั่น

    “ที่พูดไปไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม?”

    “พี่ฟังน่าเค้ก แค่ทำตามไม่ได้”

    “โอ๊ย เค้กเหนื่อย แกพูดดิแคนดี้” เค้กกุมขมับแล้วหันไปทางแขกใหม่แทน เผื่อว่าถ้าคะนึงนิจพูดกรรลองอาจจะเกรงใจและตั้งใจฟังกว่าที่เธอพูด อย่างไรก็ตามเค้กไม่คิดทิ้งกรรลองไปแม้จะรำคาญความท้อแท้ของเขา แต่ก็พยายามคิดว่าเป็นช่วงหนึ่งที่เสียหลัก ถ้าไม่มีคนช่วงกันประคองจะแย่ขึ้นไปอีก

    “แคนดี้รู้นะคะว่าพี่เสียใจ แต่พี่จะเสียใจจนไม่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ไม่ใช่แค่พี่ที่โดนด่า แต่เค้กก็โดนด่าว่าเป็นชู้ด้วย ถึงเค้กจะมั่นแต่ก็ไม่มีใครชอบโดนด่าหรอกค่ะ พี่ผิดหวังใช่ไหมคะที่คนที่พี่พยายามทำให้เขาทุกอย่างหักหลัง งั้นพี่ลองทำอะไรให้คนที่ไม่มีวันหักหลังพี่ไหมคะ?”

    “ใคร?”

    “ตัวพี่เอง”

    ชายหนุ่มนิ่งไป

    กรรลองไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองมานานแล้ว ตั้งแต่เด็กก็ตั้งใจเรียนด้วยความคิดที่จะไปทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่ แต่งงานกับผู้หญิงที่เคยรักและสร้างครอบครัวด้วยกัน ทุกอย่างที่ทำก็คือเพื่อพ่อแม่ลูกเมีย แล้วตอนนี้เขายังเป็นภาระให้ผู้หญิงมาคอยปลอบแล้วยังทำให้เธอเป็นจำเลยสังคม

    “เค้กไม่ได้รู้สึกแย่นะที่คนมาว่าเค้กเป็นชู้กับพี่ คนมีปากมันจะพูดอะไรก็ได้ แล้วก็เข้าใจว่าพี่ปกป้องเค้กไปจะโดนหนักกว่าเดิม แต่เค้กรู้สึกแย่ที่พี่ไม่ทำอะไรเพื่อตัวเอง เกิดอีกหลายวันพี่นอนเน่าตายอยู่ในห้อง เดือดร้อนเขาต้องมาลากร่างออกไปอีก นอกจากชู้แล้วเค้กอาจโดนหาว่าเป็นฆาตกร พี่คิดว่ามันถูกแล้วเหรอ?”

    “พี่อยากทำอะไร?”

    “เคยคิดอยากทำละคร อยากรู้ว่าถ้าตัวเองทำอะไรสักอย่างแต่คนอื่นไม่รู้ว่าเราทำ ไม่มีความลำเอียงไม่ว่าจะรักหรือเกลียดเข้ามาเกี่ยว วัดกันที่ผลงาน เขาจะชมหรือด่ายังไง แต่ไม่มีไอเดีย พล็อตยังนึกไม่ออก พี่เล่นมาหลายเรื่องก็จริง แต่บทมันก็ซ้ำ ให้คิดใหม่ก็ไม่รู้จะเริ่มคิดยังไงเหมือนกัน”

    “เค้กมีไอเดีย”

    “พูดจริงเหรอ?”

    “จริง พี่จะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ลองฟังดูก่อนคงไม่เสียหายอะไร” หญิงสาวยิ้มพราย ใจชื้นขึ้นที่กรรลองที่มีชีวิตกลับมามีชีวาอีกครั้ง กรรลองขมวดคิ้ว ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะมีพล็อตที่น่าสนใจ เพราะตั้งแต่คบมาเธอดูไม่ใช่คนมีความสามารถด้านการประพันธ์อะไรทั้งสิ้น

    “คิดได้ยังไง?”

    “เอ้า เค้กทำงานที่ไหน?”

    “บริษัทกำจัดมนุษย์”

    ......................................................................................................................................................

    “โอ๊ย เรื่องนี้นกไปส่องมา อย่างแซ่บค่ะ”

    นก เพื่อนร่วมงานของเค้กผู้เป็นหนึ่งในแก๊งสาวงามประจำบริษัทพูดด้วยรอยยิ้ม เค้กเป็นคนเอาใจเก่ง ถึงแม้จะโดนเรียกไปช่วยบ่อยแต่ก็ไม่เคยบ่น ทำให้เมื่อเค้กต้องการความช่วยเหลือบ้างก็มีแต่คนแห่กันมา โดยเฉพาะเรื่องช่วยพระเอกหนุ่มหล่อที่กำลังเป็นข่าวฉาวดัง

    “ขอบคุณมากครับ ผมจะเอาไปทำละครนะ”

    “ดีค่ะ นกจะช่วยแชร์ให้นะคะ นกเป็นแฟนคลับคุณ จะรอวันที่ความจริงเปิดเผยค่ะ”

    กลายเป็นว่ากรรลองได้เพื่อนของเค้กผลัดกันเล่าเรื่องเหลือเชื่อมาทำเป็นละครชุด แคนดี้ที่ทำงานในกองถ่ายช่วยดูแลความเรียบร้อยและติดต่อคนรู้จักที่ไว้ใจได้ คนเขียนบทคือเทพสุราปากกาพญายม หน่วยไอทีก็คือประกิต หนุ่มแว่นหูดำผู้รักความยุติธรรม แล้วยังได้กณิศ หญิงสาวแขนเดียวแต่ทำงานเบื้องหลังได้หลายอย่าง

    “สวัสดีครับคุณกรรลอง สวัสดีครับคุณเค้ก เจอกันอีกแล้วนะครับ คงเป็นพรหมลิขิต แต่ดูเหมือนพรหมจะแกล้งให้ผมได้เจอกับคุณแคนดี้ด้วย เอ่อ... สวัสดีครับคุณกณิศ” ประกิตแซวสาวสวยทุกคนที่พบเห็น จะเว้นก็แต่กณิศ ถึงจะน่ารักแต่แววตาแฝงไปด้วยความลับบางอย่างชวนขนลุก

    “ถ้าพรหมลิขิตจริง ฉันขอเจอคุณอีกตอนคุณมาเป็นผู้ใช้บริการนะคะ”

    “โธ่ คุณเค้ก ผมรู้ว่าคุณเขินถึงได้พูดแบบนี้ ความจริงไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะฆ่าผู้ชายที่หล่อและรวยมากแบบผมลงหรอก หนุ่มแว่นก้มหน้าต่ำ เขาเป็นคนไม่มีโชคด้านความรัก แค่อ้าปากผู้หญิงก็เดินหนีไป ปัณณรัตน์ส่ายศีรษะให้กับความไร้สาระของเพื่อนที่เห็นสาวงามเป็นไม่ได้

    “แกเลิกบ้ากามสักครู่แล้วช่วยทำงานสักทีโว๊ย!

    “แล้วนี่นางเอกยังไม่มาเหรอคะ?”

    “มาแล้วค่ะ”

    เสียงใสของนักแสดงดาวรุ่งดังขึ้น เธอคือแพรวพรรณ ดาราที่เคยผ่านข่าวฉาวมาไม่น้อยไปกว่ากรรลอง แต่ก็ต่อสู้กับมันมาได้อย่างสง่างาม การปรากฏตัวของเธอทำให้กรรลองอุ่นใจขึ้นเป็นเท่าตัว เขามองคนที่อาสามาช่วยงานโดยไม่หวังผลตอบแทนด้วยรอยยิ้ม ยามเจอปัญหาจึงพบว่าใครเป็นมิตรแท้พร้อมให้ความช่วยเหลือ

    “ผมขอบคุณทุกคนนะครับที่ช่วยมา”

    “อย่าคิดมากเลยครับ คุณเป็นคนดีแต่โดนใส่ร้าย คนที่หล่อทั้งหน้าตาและจิตใจแบบผมก็ต้องช่วย”

    “เค้กว่าเรามาทำงานกันเลยดีกว่าค่ะ”

    “ดีมาก ผมเห็นด้วย”

    ......................................................................................................................................................

    ‘ฝนตกขี้หมูไหล คนโชคร้ายมาเจอกัน นำแสดงโดย แพรวพรรณ

    “อีบ้า! ฉันเนี่ยนะจะตา?

    บีม หญิงสาวลุกขึ้นโวยวายใส่เพื่อนที่ดูดวงให้ด้วยความหงุดหงิดและคิดว่าเป็นการแกล้ง ทว่าแม่หมอจำเป็นกลับไม่มีท่าทีว่าเป็นการล้อเล่น เพราะคำทำนายที่ได้มาบ่งบอกว่าหญิงสาวดวงถึงฆาต แต่เธอก็ไม่อยากให้เพื่อนใจเสียเกินไป แม้จะรู้ว่าสิ่งที่พูดไปไม่น่าผิดพลาดก็ตาม

    “ที่ดูไปมันก็บอกอย่างนั้น แต่จริงไหมฉันก็บอกไม่ได้”

    แววตาจริงจังนั้นทำให้บีมนั่งลงรอรถตามเดิม เธอคบกับเพื่อนมานานและรู้ว่าอีกฝ่ายดูดวงแม่นแค่ไหน เธอกำลังจะตายงั้นหรือ มันก็มีความเป็นไปได้เพราะหลายเดือนมานี้เกิดเรื่องร้ายขึ้นหลายครั้ง จังหวะที่กำลังเครียดหน้าป้ายรถประจำทางนั่นเอง มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็ขับมารวดเร็วและเสยขึ้นมา

    โครม!

    หญิงสาวอีกคนที่นั่งซ้อนท้ายล้มลงหัวกระแทกพื้น สมองไหลนอง

    คนแถวนั้นกรีดร้องให้กับการตายที่ไม่ทันมีใครตั้งตัว

    ถ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นแนวตบจูบก็โดนปกหลอกแล้วค่ะ มันคือนิยายรวมเรื่องสั้นจากขาเมาท์ชาวบริษัทกำจัดมนุษย์ และมีบทรับเชิญมากพอสมควร สำหรับใครที่อยากอ่านที่มาของแขกรับเชิญ ปัณณรัตน์กับประกิตมาจากเทพสุราปากกาพญายม กณิศกับแพรวพรรณมาจากมัจจุราชออนไลน์ อ่านกันได้ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×