คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่๕ ปากคนบ่นเป็นงาน
เค้กเดินลงมาซื้อข้าวกินเหมือนทุกวัน
“คุณเค้กใช่ไหมคะ?”
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้
เธอมีรูปร่างค่อนข้างสูงโดยไม่ต้องพึ่งรองเท้าส้นสูงแต่อย่างใด เค้าหน้าหวาน
ผมดัดลอนเกลียวตัดแสกข้าง ดวงตากลมโต
ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มอย่างเป็นมิตรแม้จะซ่อนความประหม่าอยู่ก็ตามที
เค้กขมวดคิ้วเหมือนคุ้นหน้าแต่จำไม่ได้แน่ชัด
“ใช่ค่ะ คุณคือ?”
“ฉันแคนดี้ค่ะ
เป็นแฟนคลับพี่กรรลอง”
“อ๋อ ค่ะ”
เค้กกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง
คาดเดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร
“ฉันไม่ได้มาหาเรื่องคุณค่ะ
ฉันเคยเจอพี่กรรลองอยู่หลายครั้งและก็เชื่อว่าเขาไม่มีทางทำอะไรแบบที่ข่าวลงกัน หมายความว่าฉันไม่เชื่อที่ใครกล่าวหาคุณเค้กด้วยค่ะ”
คะนึงนิจยังคงยิ้มคลายความตึงเครียดของสถานการณ์
“ที่ฉันมาวันนี้ก็เพราะฉันอยากช่วยเป็นกำลังใจให้คุณสองคน”
“ขอบคุณนะคะ”
เค้กรู้สึกดีขึ้นที่มีคนเชื่อข่าวลวง
ด้านคะนึงนิจก็พูดสิ่งที่เค้กคาดไม่ถึงว่าจะได้ยิน
“คือฉันอยากช่วยพี่กรรลอง”
......................................................................................................................................................
ประตูห้องถูกเคาะขึ้นขณะที่กรรลองนอนกินถั่วอยู่
พอยกบ้านให้เมียเก่า
กรรลองก็มาอยู่คอนโดโดยไม่ได้คิดจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เรื่องแขกก็ไม่มีใครมาเยี่ยมนอกจากเค้ก เพื่อนรุ่นน้องที่คบกันมานาน
เพราะเพื่อนในวงการก็ห่างไปกลัวโดนกระแสไปด้วย บางคนมีส่งข้อความมาถามบ้าง
แต่ก็มีครอบครัวกันแล้วคงไม่สะดวกมาถึงห้อง
คนที่มามีแต่เค้กเท่านั้น
แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแต่เค้กเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ
พี่กรรลอง”
“เค้ก? แคนดี้? มาด้วยกันเหรอ?” อดีตพระเอกขมวดคิ้วเมื่อผู้มาเยือนมีถึงสองคน แน่นอนว่าคนแรกคือเค้ก
สาวสวยผมตรงย้อมสีน้ำตาลเจ้าของแววตาทะเล้น ส่วนอีกคนก็คะนึงนิจหรือแคนดี้ สาวสวยร่างสูงดัดผมลอนที่ดูน่ารักและเต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อที่เขาก็สัมผัสได้
“แคนดี้แอบมุดอยู่ในกระโปรงรถค่ะ
เค้กก็เพิ่งเห็น”
“ใช่
ร้อนจนรองพื้นเยิ้มเลยเนี่ย ไม่ใช่แล้ว!”
กรรลองเกือบยิ้มให้กับการรับส่งมุกแม้จะฝืดไปหน่อย
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“มาเยี่ยมค่ะ
กลัวพี่เหงา” คะนึงนิจตอบตามตรง นึกถึงน้ำใจอันดีที่ชายหนุ่มเคยมีให้กับทุกคนไม่ว่าจะรวยจน
“เห็นเค้กบอกพี่กรรลองเครียดจนกินข้าวไปสองชามเลยมาดูสักหน่อย แคนดี้เข้าใจนะคะว่าตอนนี้พี่เครียดมาก
แต่ใครจะเชื่อยังไงก็เชื่อไป แคนดี้เชื่อว่าพี่ไม่ได้ทำแบบที่ใครพูดแน่นอน”
“ขอบคุณนะแคนดี้
แล้วนี่รู้จักกันด้วยเหรอ?”
“เพิ่งรู้จักแหละค่ะ
คุยไปคุยมาเกิดปีเดียวกัน เลยเป็นเพื่อนกัน”
“อ่อ”
กรรลองยังคงไม่แสดงกิริยาอะไรมากไปกว่าคลี่ยิ้มจางบนใบหน้าเรียบเฉย
ในช่วงเวลาที่แย่ยังมีคนเชื่อใจก็ยังดีกว่าไม่มีใคร หญิงสาวทั้งสองเข้ามานั่งและคอยพูดให้กำลังใจ
แต่จะว่าอ่อนแอก็ว่าเถอะ ชายหนุ่มเบื่อหน่ายประสาคนผิดหวังในชีวิต
ไม่จัดการแม้แต่หนวดที่เริ่มขึ้นรก
เพื่อนสาวเห็นความเฉยชาก็โวยลั่น
“ที่พูดไปไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม?”
“พี่ฟังน่าเค้ก
แค่ทำตามไม่ได้”
“โอ๊ย
เค้กเหนื่อย แกพูดดิแคนดี้” เค้กกุมขมับแล้วหันไปทางแขกใหม่แทน เผื่อว่าถ้าคะนึงนิจพูดกรรลองอาจจะเกรงใจและตั้งใจฟังกว่าที่เธอพูด
อย่างไรก็ตามเค้กไม่คิดทิ้งกรรลองไปแม้จะรำคาญความท้อแท้ของเขา
แต่ก็พยายามคิดว่าเป็นช่วงหนึ่งที่เสียหลัก ถ้าไม่มีคนช่วงกันประคองจะแย่ขึ้นไปอีก
“แคนดี้รู้นะคะว่าพี่เสียใจ
แต่พี่จะเสียใจจนไม่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ไม่ใช่แค่พี่ที่โดนด่า
แต่เค้กก็โดนด่าว่าเป็นชู้ด้วย ถึงเค้กจะมั่นแต่ก็ไม่มีใครชอบโดนด่าหรอกค่ะ
พี่ผิดหวังใช่ไหมคะที่คนที่พี่พยายามทำให้เขาทุกอย่างหักหลัง งั้นพี่ลองทำอะไรให้คนที่ไม่มีวันหักหลังพี่ไหมคะ?”
“ใคร?”
“ตัวพี่เอง”
ชายหนุ่มนิ่งไป
กรรลองไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองมานานแล้ว
ตั้งแต่เด็กก็ตั้งใจเรียนด้วยความคิดที่จะไปทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่
แต่งงานกับผู้หญิงที่เคยรักและสร้างครอบครัวด้วยกัน
ทุกอย่างที่ทำก็คือเพื่อพ่อแม่ลูกเมีย
แล้วตอนนี้เขายังเป็นภาระให้ผู้หญิงมาคอยปลอบแล้วยังทำให้เธอเป็นจำเลยสังคม
“เค้กไม่ได้รู้สึกแย่นะที่คนมาว่าเค้กเป็นชู้กับพี่
คนมีปากมันจะพูดอะไรก็ได้ แล้วก็เข้าใจว่าพี่ปกป้องเค้กไปจะโดนหนักกว่าเดิม
แต่เค้กรู้สึกแย่ที่พี่ไม่ทำอะไรเพื่อตัวเอง เกิดอีกหลายวันพี่นอนเน่าตายอยู่ในห้อง
เดือดร้อนเขาต้องมาลากร่างออกไปอีก นอกจากชู้แล้วเค้กอาจโดนหาว่าเป็นฆาตกร
พี่คิดว่ามันถูกแล้วเหรอ?”
“พี่อยากทำอะไร?”
“เคยคิดอยากทำละคร
อยากรู้ว่าถ้าตัวเองทำอะไรสักอย่างแต่คนอื่นไม่รู้ว่าเราทำ ไม่มีความลำเอียงไม่ว่าจะรักหรือเกลียดเข้ามาเกี่ยว
วัดกันที่ผลงาน เขาจะชมหรือด่ายังไง แต่ไม่มีไอเดีย พล็อตยังนึกไม่ออก
พี่เล่นมาหลายเรื่องก็จริง แต่บทมันก็ซ้ำ
ให้คิดใหม่ก็ไม่รู้จะเริ่มคิดยังไงเหมือนกัน”
“เค้กมีไอเดีย”
“พูดจริงเหรอ?”
“จริง พี่จะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ลองฟังดูก่อนคงไม่เสียหายอะไร” หญิงสาวยิ้มพราย
ใจชื้นขึ้นที่กรรลองที่มีชีวิตกลับมามีชีวาอีกครั้ง กรรลองขมวดคิ้ว
ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะมีพล็อตที่น่าสนใจ
เพราะตั้งแต่คบมาเธอดูไม่ใช่คนมีความสามารถด้านการประพันธ์อะไรทั้งสิ้น
“คิดได้ยังไง?”
“เอ้า
เค้กทำงานที่ไหน?”
“บริษัทกำจัดมนุษย์”
......................................................................................................................................................
“โอ๊ย
เรื่องนี้นกไปส่องมา อย่างแซ่บค่ะ”
นก
เพื่อนร่วมงานของเค้กผู้เป็นหนึ่งในแก๊งสาวงามประจำบริษัทพูดด้วยรอยยิ้ม
เค้กเป็นคนเอาใจเก่ง ถึงแม้จะโดนเรียกไปช่วยบ่อยแต่ก็ไม่เคยบ่น
ทำให้เมื่อเค้กต้องการความช่วยเหลือบ้างก็มีแต่คนแห่กันมา โดยเฉพาะเรื่องช่วยพระเอกหนุ่มหล่อที่กำลังเป็นข่าวฉาวดัง
“ขอบคุณมากครับ
ผมจะเอาไปทำละครนะ”
“ดีค่ะ
นกจะช่วยแชร์ให้นะคะ นกเป็นแฟนคลับคุณ จะรอวันที่ความจริงเปิดเผยค่ะ”
กลายเป็นว่ากรรลองได้เพื่อนของเค้กผลัดกันเล่าเรื่องเหลือเชื่อมาทำเป็นละครชุด
แคนดี้ที่ทำงานในกองถ่ายช่วยดูแลความเรียบร้อยและติดต่อคนรู้จักที่ไว้ใจได้ คนเขียนบทคือเทพสุราปากกาพญายม
หน่วยไอทีก็คือประกิต หนุ่มแว่นหูดำผู้รักความยุติธรรม แล้วยังได้กณิศ
หญิงสาวแขนเดียวแต่ทำงานเบื้องหลังได้หลายอย่าง
“สวัสดีครับคุณกรรลอง
สวัสดีครับคุณเค้ก เจอกันอีกแล้วนะครับ คงเป็นพรหมลิขิต
แต่ดูเหมือนพรหมจะแกล้งให้ผมได้เจอกับคุณแคนดี้ด้วย เอ่อ... สวัสดีครับคุณกณิศ”
ประกิตแซวสาวสวยทุกคนที่พบเห็น จะเว้นก็แต่กณิศ ถึงจะน่ารักแต่แววตาแฝงไปด้วยความลับบางอย่างชวนขนลุก
“ถ้าพรหมลิขิตจริง
ฉันขอเจอคุณอีกตอนคุณมาเป็นผู้ใช้บริการนะคะ”
“โธ่ คุณเค้ก ผมรู้ว่าคุณเขินถึงได้พูดแบบนี้
ความจริงไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะฆ่าผู้ชายที่หล่อและรวยมากแบบผมลงหรอก” หนุ่มแว่นก้มหน้าต่ำ เขาเป็นคนไม่มีโชคด้านความรัก แค่อ้าปากผู้หญิงก็เดินหนีไป
ปัณณรัตน์ส่ายศีรษะให้กับความไร้สาระของเพื่อนที่เห็นสาวงามเป็นไม่ได้
“แกเลิกบ้ากามสักครู่แล้วช่วยทำงานสักทีโว๊ย!”
“แล้วนี่นางเอกยังไม่มาเหรอคะ?”
“มาแล้วค่ะ”
เสียงใสของนักแสดงดาวรุ่งดังขึ้น
เธอคือแพรวพรรณ ดาราที่เคยผ่านข่าวฉาวมาไม่น้อยไปกว่ากรรลอง แต่ก็ต่อสู้กับมันมาได้อย่างสง่างาม
การปรากฏตัวของเธอทำให้กรรลองอุ่นใจขึ้นเป็นเท่าตัว เขามองคนที่อาสามาช่วยงานโดยไม่หวังผลตอบแทนด้วยรอยยิ้ม
ยามเจอปัญหาจึงพบว่าใครเป็นมิตรแท้พร้อมให้ความช่วยเหลือ
“ผมขอบคุณทุกคนนะครับที่ช่วยมา”
“อย่าคิดมากเลยครับ
คุณเป็นคนดีแต่โดนใส่ร้าย คนที่หล่อทั้งหน้าตาและจิตใจแบบผมก็ต้องช่วย”
“เค้กว่าเรามาทำงานกันเลยดีกว่าค่ะ”
“ดีมาก
ผมเห็นด้วย”
......................................................................................................................................................
‘ฝนตกขี้หมูไหล
คนโชคร้ายมาเจอกัน นำแสดงโดย แพรวพรรณ’
“อีบ้า!
ฉันเนี่ยนะจะตาย?”
บีม หญิงสาวลุกขึ้นโวยวายใส่เพื่อนที่ดูดวงให้ด้วยความหงุดหงิดและคิดว่าเป็นการแกล้ง
ทว่าแม่หมอจำเป็นกลับไม่มีท่าทีว่าเป็นการล้อเล่น เพราะคำทำนายที่ได้มาบ่งบอกว่าหญิงสาวดวงถึงฆาต
แต่เธอก็ไม่อยากให้เพื่อนใจเสียเกินไป แม้จะรู้ว่าสิ่งที่พูดไปไม่น่าผิดพลาดก็ตาม
“ที่ดูไปมันก็บอกอย่างนั้น
แต่จริงไหมฉันก็บอกไม่ได้”
แววตาจริงจังนั้นทำให้บีมนั่งลงรอรถตามเดิม
เธอคบกับเพื่อนมานานและรู้ว่าอีกฝ่ายดูดวงแม่นแค่ไหน เธอกำลังจะตายงั้นหรือ
มันก็มีความเป็นไปได้เพราะหลายเดือนมานี้เกิดเรื่องร้ายขึ้นหลายครั้ง จังหวะที่กำลังเครียดหน้าป้ายรถประจำทางนั่นเอง
มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็ขับมารวดเร็วและเสยขึ้นมา
โครม!
หญิงสาวอีกคนที่นั่งซ้อนท้ายล้มลงหัวกระแทกพื้น
สมองไหลนอง
คนแถวนั้นกรีดร้องให้กับการตายที่ไม่ทันมีใครตั้งตัว
ถ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นแนวตบจูบก็โดนปกหลอกแล้วค่ะ
มันคือนิยายรวมเรื่องสั้นจากขาเมาท์ชาวบริษัทกำจัดมนุษย์ และมีบทรับเชิญมากพอสมควร
สำหรับใครที่อยากอ่านที่มาของแขกรับเชิญ ปัณณรัตน์กับประกิตมาจากเทพสุราปากกาพญายม
กณิศกับแพรวพรรณมาจากมัจจุราชออนไลน์ อ่านกันได้ค่ะ
ความคิดเห็น