ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC INUYASHA] Destiny พิชิตชะตา สัญญารัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ♣ Destiny ♣ Chapter 03

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 851
      56
      12 ส.ค. 61


    “ท่านพ่อ! ท่านแม่!

    ดวงตากลมโตสีอำพันมองพ่อแม่ของตัวเองอย่างไม่ละสายตา เขาทำได้เพียงเรียกชื่อของทั้งคู่เท่านั้น เขาตื่นขึ้นมาท่ามกลางบ้านที่เริ่มเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและพบว่าสองคนที่อยู่เบื้องหน้าเขามีคราบเลือดอยู่มากมาย แต่กลับไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดใดๆออกมา กลับยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนโยน

    “รีบออกไปจากที่นี่...กันเถอะครับ”เด็กน้อยบอกเสียงสั่นเครือ เปลวเพลิงที่ลุกลามอยู่รอบห้องและภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกใจไม่ดี

    เขาไม่รู้สึกร้อน ตราบใดที่เขาสวมกิโมโนสีแดงที่ท่านแม่มอบให้ แต่ไม่ใช่สำหรับท่านพ่อและท่านแม่ที่บาดเจ็บอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้

    “อินุยาฉะ พ่อกับแม่รักลูกเสมอนะ” ทั้งคู่เอ่ยบอกกับเด็กน้อยด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา พวกเขารู้ว่าเวลาแบบนี้ต้องมาถึง แต่ไม่นึกเลยว่าจะต้องให้เด็กน้อยมาเห็นพวกเขาจากไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ แต่เพื่อปกป้องเด็กน้อยตรงหน้า เพื่อให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อสิ่งนั้นแล้ว....

    พวกเรารักลูกนะ อินุยาฉะ...

    “ท่านพ่อ! ท่านแม่!

    โครม !

    เพดานบนหลังคาที่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ร่วงหล่นลงตรงหน้าเด็กน้อย ดวงตากลมโตเบิกกว้าง พ่อแม่ของเด็กน้อยถูกบดบังหายไปท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมลุกไหม้ มือเล็กพยายามหยิบซากไม้ตรงหน้าออกอย่างไร้สติ

    “ท่านพ่อ! ท่านแม่!”น้ำใสไหลอาบสองแก้ม ตะโกนเรียกบุคคลที่รักด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ

    “ฮึก...ท่านพ่อ ท่านแม่”ดวงตาสีอำพันฉายแววหม่นเศร้า เปลวเพลิงและซากไม้เบื้องหน้าสะท้อนอยู่ในดวงตาอันขุ่นมัว

    ความเจ็บปวดแสนทรมานในคืนนั้นไม่มีวันจางหายไปได้....ตลอดกาล

     

    ท่านพ่อ ท่านแม่....

     

    ............................

     

     “คุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนู!” มือเหี่ยวย่นของหญิงชราเขย่าปลุกเด็กหนุ่มให้ตื่นจากนิทราอันโหดร้าย

    “ท่านพ่อ ท่านแม่...”ดวงตากลมลืมขึ้นช้าๆ น้ำใสยังไหลออกมาจากหางตาอย่างที่เด็กหนุ่มไม่รู้ตัว เขามองดูหญิงชราที่คว้าตัวเขาเข้าไปกอดไว้แน่นอย่างอ่อนโยน

    “ไม่เป็นไรแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูอินุยาฉะ”

    “ย่าชิมาดะ...ฮึก”เด็กหนุ่มร้องไห้โฮออกมา ยามเช้าที่แสนสดใสส่องแสงจ้าอยู่หลังบานประตูเลื่อนกระดาษของห้องนั้น ความฝันที่คอยวนเวียนตามหลอกหลอนเด็กหนุ่มคนนี้ทุกค่ำคืน แม้เวลาจะผ่านมานานหกปีแล้วก็ตาม

    “คุณหนูเปิดเทอมแล้วนะเจ้าคะ ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทานอาหารเช้ากันเถอะเจ้าคะ”เมื่อเด็กหนุ่มเริ่มใจเย็นลง หญิงชราจึงเอ่ยบอกให้ลุกไปโรงเรียนด้วยรอยยิ้ม

    “ครับ”เด็กหนุ่มตอบ ก่อนหญิงชราจะขอตัวออกไปเตรียมอาหารเช้าที่ห้องครัว

    ถ้ามันเป็นแค่ความฝันก็คงจะดี...

    “งั้นผมไปนะครับ”เด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนเอกชนเอ่ยลา หญิงชรากอดเขาไว้อีกครั้ง

    “คุณหนูต้องเข้มแข็งและก้าวต่อไปนะเจ้าค่ะ”

    “ผมรู้ครับ”เด็กหนุ่มเอ่ยรับด้วยรอยยิ้ม ชิมาดะยิ้มตอบเขาก่อนจะมองแผ่นหลังของคุณหนูซึ่งตอนนี้อายุได้สิบสี่ปีแล้ว

    เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆนะเจ้าคะ....ท่านเส็ตโชมารู

     

    กริ๊ง กริ๊ง

    เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ทำให้หญิงชราเดินไปรับ เธอตกใจจนแทบทำหูโทรศัพท์ตกเมื่อได้ยินเสียงของคนที่โทรมา

    “นายน้อย...” หญิงชราเอ่ยแผ่วเบา เธอยังไม่อยากเชื่อหูตัวเองนัก เพราะนายน้อยเส็ตโชมารูไม่เคยติดต่อกลับมาเลยนับตั้งแต่จากไปในครั้งนั้น แต่เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายคอยส่งเงินและคอยดูแลอยู่ที่ไหนสักแห่ง

    “เขา...สบายดีไหมครับ”

    “สบายดีเจ้าคะ” หญิงชรามีน้ำใสซึมอยู่ที่ดวงตา เธอรู้สึกตื้นตัน เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงเป็นห่วงคุณหนูของเธอ

    “......”

    แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป เธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เพราะนับวันเด็กน้อยของเธอก็เริ่มไขว้เขว่ ไม่เชื่อว่าเส็ตโชมารูจะกลับมารับเขาอีกครั้ง

    “นายน้อยจะกลับมาหรือยังเจ้าค่ะ”

    “ยังครับ....” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเจ็บปวด เหมือนกับว่าอีกฝ่ายกำลังข่มใจและกำหมัดแน่นอย่างรู้สึกเจ็บใจ

    “ผมจะกลับไปตอนวันเกิดอายุครบสิบแปดของเด็กคนนั้น”

    “ทำไมล่ะเจ้าคะ?”หญิงชราถามอย่างไม่เข้าใจ แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะรู้สึกลำบากใจไม่น้อยที่จะตอบคำถามนี้  

    “เป็น..ข้อตกลงน่ะครับ”

    “แต่...” เมื่อได้ยินเธอจะเอ่ยท้วง อีกฝ่ายก็รีบตัดบทอย่างเร่งรีบ ซึ่งเธอก็ไม่รู้เพราะสาเหตุใด จะเป็นเพราะคำถามของเธอที่ทำให้ลำบากใจ หรือเพราะ ข่าวลือ ที่เธอได้ยินมากันแน่

    “ผมต้องไปแล้ว ขอบคุณนะครับ”

    และสัญญาณก็ตัดไป หญิงชรามองหูโทรศัพท์ ดวงตาของเธอมีน้ำใสไหลลงมาช้าๆ ไม่ว่าจะเพราะแบบไหนก็ตาม แต่เธอควรจะต้องบอกนายน้อยเอาไว้ ว่าเธอคงอยู่ดูแลเด็กคนนี้ด้อีกไม่นานแล้ว...

    “ฉันจะพยายามอยู่กับคุณหนูจนถึงวันนั้นนะเจ้าค่ะ นายน้อย...”                          

     

     


    …………………………………..

     

     

    “คิเคียวอยู่ไหม?”เด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวเจ้าของบ้านไม้ทรงญี่ปุ่นหลังนี้

    ภายในบ้านเงียบสนิท เขาเดินเข้าไปตามทางเดินเรื่อยๆ บ้านของหญิงสาวอยู่ในศาลเจ้าซึ่งใกล้กับบ้านของเขา เขามักจะมาเล่นกับหญิงสาวที่เป็นเหมือน พี่สาว คนนี้ของเขาเสมอ

     แม้ว่าเขาจะไม่ได้มองว่าเธอเป็นพี่สาวอีกแล้ว นับตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อน

    “คิเคียวอยู่ไหนน่ะ” อันที่จริงแล้วเขาถูกห้ามไม่ให้มาที่นี่เกือบสองอาทิตย์ได้แล้ว การไม่ได้เจอหน้าอีกฝ่ายมาเกือบสองอาทิตย์ มันทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูก

    “แค่กๆ”เสียงไอดังขึ้นทำลายความเงียบจากห้องหนึ่งของบ้าน เด็กหนุ่มเดินอย่างรวดเร็วตรงไปยังห้องนั้น เมื่อเขาเปิดบานประตูออกก็พบหญิงสาวที่ตามหานอนอยู่บนฟูกที่นอนด้วยสีหน้าซีดเซียว

    “คิเคียว!”เด็กหนุ่มปรี่เข้าไปนั่งลงข้างๆ หญิงสาวลืมตาที่สะลึมสะลือขึ้นมอง เธอฉายแววไม่พอใจ เมื่อเจอเด็กหนุ่มที่เธอพยายามห้ามไม่ให้มาที่นี่ เพื่อหวังไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอกำลังเป็นอะไร

    “เกิดอะไรขึ้น เธอเป็นอะไร!?

    “อินุ..ยาฉะ ฉันบอกนาย..แล้วใช่ไหม ว่าอย่ามาบ้านฉัน”คิเคียวบอกอย่างไม่พอใจ แต่อินุยาฉะไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ เพียงแต่มองดูและแสดงสีหน้าเจ็บปวดจนคิเคียวอยากจะลุกเดินหนีไปให้พ้นๆ ถ้าไม่ติดว่า....มันถึงที่สุดแล้ว

    ทำไมนายต้องมาวันนี้....ทำไมอินุยาฉะ...ทำไม                

    “เธอเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้!?”อินุยาฉะเริ่มร้อนรน เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับคิเคียวตอนนี้ดี เธอดูทรมานอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติหญิงสาวตรงหน้าเขาออกจะแข็งแรงและกล้าหาญ มั่นใจในตัวเอง ยิ่งตอนนี้เธอก็ใกล้จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังได้อยู่แล้ว

    แล้วทำไม....

    “อินุยาฉะ...นายออกไปจากบ้านฉัน เดี๋ยวนี้”คิเคียวเอ่ยเสียงแข็ง เธอไม่อยากให้เด็กหนุ่มตรงหน้าต้องเห็นใครจากไปต่อหน้าต่อตาเหมือนกับพ่อแม่ของเขา เพราะแค่นั้นก็เป็นฝันร้ายสำหรับเด็กคนนี้มากพอแล้ว....

    จะให้อินุยาฉะรู้ว่าเธอเป็นโรคที่ไม่อาจรักษาได้และตายจากเขาไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้เด็ดขาด...

    “ไม่! ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ”

    อินุยาฉะโน้มเข้ามาจะช่วยพยุงคิเคียวขึ้น แต่ก็ถูกเธอตวาดใส่เสียงดังจนต้องชะงัก

    “หยุดนะอินุยาฉะ!” อินุยาฉะมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าเสียใจและผิดหวังแสดงออกมาผ่านสีหน้าอย่างชัดเจน

     การที่เขารู้สึกห่วงคนตรงหน้าที่เขารัก มันผิดมากงั้นเหรอ?

    “ทำไมล่ะ....ทำไม ทำไมเธอจะต้องว่าฉัน ฉันเป็นห่วงเธอนะ!

    ทำไม? ก็เพราะถ้านายรู้นายจะทำสีหน้าแบบนี้ไงล่ะ...

    คิเคียวคิดอย่างหัวเสีย อินุยาฉะคือคนสำคัญของเธอ คือ น้องชาย ที่เธอเฝ้าดูแลมาตลอดนับแต่วันที่เส็ตโชมารูฝากเขาไว้ที่บ้านอินุคามิ เธอพยายามปกป้องเด็กคนนี้มาโดยตลอด และไม่อยากให้เด็กคนนี้เสียใจมากที่สุด...

    ฉันไม่อยากจากนายไป เหมือนที่หมอนั่นทำ...

    “ฉันรู้ อินุยาฉะ ขอโทษนะ”คิเคียวถอนหายใจ ภาพใบหน้าแสนเจ็บปวดของเด็กหนุ่มทำให้เธอทนต่อไปอีกไม่ได้ เธอเอื้อมไปจับมืออินุยาฉะเอาไว้ มือของเด็กหนุ่มอบอุ่นต่างจากมือของเธอที่เย็นเฉียบตอนนี้เสียเหลือเกิน

    “คิเคียว...ทำไมล่ะ ทำไม”อินุยาฉะไม่อาจเอ่ยความรู้สึกอึดอัดและคำพูดมากมายออกมาได้ เพียงแต่ถามอีกฝ่ายว่าทำไมเท่านั้น

    “ฉันอยู่ข้างๆเธอไม่ได้อีกแล้วล่ะ”หญิงสาวเอ่ยบอก ราวกับคำพูดที่คุ้นหู ถ้อยคำที่คล้ายคลึงกับใครบางคนที่เขารอคอยเสมอมา

    อินุยาฉะ ขอโทษนะพี่อยู่กับเราไม่ได้ เพราะพี่ต้องไปที่ไกลแสนไกล

    อินุยาฉะหลับตาลงสลัดคำพูดที่อยู่ในส่วนลึกของความทรงจำออก ความทรงจำอันหลอกลวง ก่อนลืมตาขึ้นสบกับคิเคียวด้วยดวงตาที่ขุ่นมัว

    “เธอจะทิ้งฉันไป...เหมือนกับท่านพ่อท่านแม่ แล้วก็...”                  

    “ฉันไม่ได้ทิ้งเธอ พวกเขาเองก็เช่นกัน” หญิงสาวเอ่ยกำชับ เมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูดตัดพ้อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอรู้ดีเรื่องที่อีกฝ่ายเปราะบางเกินไปกับเรื่องที่ต้องเสียคนที่รักไปต่อหน้าต่อตา

    “แต่พวกเธอก็จะทิ้งฉันไว้ข้างหลังแล้วก็จากฉันไป” เด็กหนุ่มตัดพ้อมืออุ่นกอบกุมมือขาวซีดที่เริ่มเย็นให้แน่นขึ้น

    “เธอยังมีหมอนั่นอยู่นะ” คิเคียวกำชับถึงคนในความทรงจำและคำสัญญาที่พวกเขาเคยมี ดวงตาของอินุยาฉะไหววูบ คนๆนั้นมีอิทธิพลกับตัวเขามากกว่าที่ตัวเขาเองคิดเสียอีก

    “เขา...อาจจะลืมฉันไปแล้ว คนๆนั้นไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว”น้ำเสียงของเด็กหนุ่มเริ่มสั่นเครือ เธอบีบมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ

    “ไม่ใช่หรอก....หมอนั่น จะต้องกลับมารับนาย...แน่ๆ นายบอกฉันเองนี่ อินุยาฉะ...” เธอระบายยิ้มให้อินุยาฉะ ทั้งที่ใบหน้านั้นขาวซีดแต่รอยยิ้มกลับทำให้เธอมีเสน่ห์เสมอ รอยยิ้มที่ทำให้เขาหลงรักเธอ

    “ว่าสัญญากันแล้ว” หญิงสาวเอ่ย

    “ฉัน...”

    คิเคียวมองดูอีกฝ่ายที่มีน้ำตาคลอหน่วยและเริ่มร้องไห้ออกมาเงียบๆ กี่ครั้งที่เธอเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ เธอเคยสงสัยว่าเส็ตโชมารูที่ดูเย็นชาคนนั้น ทำไมถึงได้เอ็นดูเด็กคนนี้และฝากเขาไว้ที่บ้านหลังนั้น และจากไปด้วยรอยยิ้มที่แสนเศร้าแบบนั้น

    เธอยังจำมันได้ดีรอยยิ้มในขณะที่โอบกอดร่างเล็ก รอยยิ้มแสนเศร้าที่ไม่เคยคิดว่านายน้อยผู้เย็นชาอย่างเส็ตโชมารูคนนั้นจะยิ้มออกมาได้

    แต่เมื่อได้อยู่กับเด็กคนนี้....เธอก็เข้าใจความรู้สึกของเขาได้เลย

    คนๆนั้น เขาทำทุกอย่างลงไปก็เพื่อเด็กคนนี้...

    “พอแล้วล่ะ ตอนนี้นายต้องคอยดูแลย่าชิมาดะแทนส่วนของฉันแล้วล่ะนะ”

    หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง หวังซ่อนน้ำใสที่เริ่มซึมออกมาคลออยู่ที่หางตา เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วงและเศร้ากับเรื่องของเธอไปมากกว่านี้

     

    ฉันไม่อยากจากนายไปไหนหรอกนะ ตราบใดที่ความโหดร้ายของโลกนี้ยังคงไม่เลือนหาย นายจะต้องพบเจอกับเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดมากขึ้นกว่านี้ ฉันเองก็อยากคอยอยู่ข้างๆ คอยปกป้องอยู่ข้างๆ

     

     “คิเคียว...”

     

    แต่มันก็ไม่ได้แล้วล่ะ....                         

     

     

    “อินุยาฉะ ฉันรักนายนะ เข้มแข็งเข้าไว้ น้องชายของฉัน”

     

    นายต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้นะ...อินุยาฉะ

     

    และนั่นก็คือคำพูดสุดท้ายของคิเคียวที่บอกกับอินุยาฉะ ก่อนที่เธอจะค่อยๆหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า เธอยังคงระบายยิ้มบางๆบนใบหน้าพร้อมกับน้ำใสที่ไหลจากหางตา

     แม้จะรู้สึกแย่ที่ต้องให้เด็กหนุ่มมาเห็นเธอจากไปต่อหน้าต่อตา แต่ถึงกระนั้นเธอก็ดีใจที่ได้เห็นหน้าเด็กคนนี้ ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป...

    และนึกขอบคุณเส็ตโชมารูที่ทำให้เธอมีโอกาสดูแลเด็กคนนี้

    หึ ..เส็ตโชมารู นายต้องกลับมารับและดูแลเด็กคนนี้ให้ดีๆ ไม่งั้นฉันจะมาจากยมโลกตามมาหลอกหลอนนายเลย...คอยดูสิ

     

     

     

    อินุยาฉะเม้มปากแน่นพยายามอดกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมา แต่ความรู้สึกข้างในมันเอ่อล้นท่วมในอก ภาพของหญิงสาวที่เป็นทั้งพี่สาวและคนที่เขาหลงรักกำลังนอนนิ่งอยู่ตรงหน้า แม้ใบหน้าจะประดับยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้เธอดูสวยเหมือนทุกครั้ง แต่ความเย็นเชียบของมือบางที่เขากอบกุมไว้ บ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่มีทางตื่นขึ้นมาคุยกับเขาได้อีกแล้ว

    “คิเคียว...คิเคียว!!!!!!

    ทำให้เขาไม่สามารถอดกลั้นความเศร้าและเสียใจเอาไว้ได้ เขาตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างไร้สติ

    และนั่นเป็นอีกครั้งที่การจากลาพรากเอาคนที่รักของเขาไป...



    TBC.




    ------------------------------------

    อินุผู้น่าสงสาร......งื้ออออออ

    ต้องมีคนอยากเอาไรเตอร์ถ่วงน้ำแน่=【】=" 

    หวังว่าทุกคนจะตั้งตารอตอนต่อไปกันนะง้าบบบ 

    //เผ่นนนนนนนนนนนนนนนนนนน


    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×