คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ♣ Destiny ♣ Chapter 14
♣ Destiny ♣ Chapter 14
เมื่อเห็นใบหน้าอิดโรยของอินุยาฉะที่เข้ามาในห้องเรียนเมื่อเช้ามิโรคุก็พอจะรู้ว่าคงเกิดอะไรขึ้นอีกแล้วแน่ๆ
ยิ่งได้ยินเรื่องจากคาโงเมะว่าย่าชิมาดะเข้าโรงพยาบาลเมื่อวานอีกก็ไม่ต้องสงสัยเลย วันนี้เจ้าเพื่อนตัวดีก็เอาแต่เหม่อทั้งวันด้วยความเป็นห่วง
เขา คาโงเมะแล้วก็ซังโกะเลยตามมาเยี่ยมย่าชิมาดะด้วยกัน อีกอย่างวันนี้ก็วันทำงานพิเศษวันแรก
อย่างน้อยๆก็ต้องให้หมอนั่นรู้จักพึ่งพาเพื่อนอย่างพวกเขาบ้าง
“คุณหนู ทำงานพิเศษเหรอคะ”
ย่าชิมาดะเอ่ยขึ้นด้วยแววตาชื่นชมเมื่อได้ยินว่าอินุยาฉะไปสมัครงานพิเศษ ถึงในใจเธอจะแอบเป็นห่วงอยู่บ้างที่คุณหนูของเธอตัดสินใจทำแบบนี้ก็คงเพราะไม่อยากรับเงินจากตระกูลอินุไทโชก็ตาม
แต่นี่ก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆให้กับคุณหนูของเธอได้เรียนรู้ล่ะนะ
“ไม่ต้องห่วงนะคะ
ดิฉันอยู่ได้ คุณหนูไปเถอะค่ะ”
ชิมาดะระบายยิ้มอ่อนโยนให้เด็กหนุ่มที่แสดงสีหน้าลำบากใจ
เพราะคงไม่สามารถตัดสินใจปล่อยเธอไว้ได้
“ทำหน้าอะไรของนาย
เชื่อใจพวกฉันหน่อยสิ”คาโงเมะเอ่ยหน้ามุ่ยเป็นทีหยอกล้อ
“นั่นสิๆ
นายจะว่าพวกฉันดูแลย่านายไม่ได้หรือไง” มิโรคุเขย่าเจ้าเพื่อนตัวดี พร้อมยิ้มร่า
“จะสายแล้ว
ไปได้แล้ว”ซังโกะเอ่ยเสริม
ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของทั้งสามคนทำให้เขาเบาใจขึ้นมา
หลังจากที่วันนี้เขาเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องมากมายมาทั้งวัน
ถ้าเขายังทำหน้าเศร้าแบบนี้อยู่คนรอบตัวก็คงมีแต่จะเศร้าใจไปด้วยสินะ ในเมื่อย่าชิมาดะก็ยืนยันแบบนั้นเขาเองก็คงได้แต่ตอบรับ
แล้วพยายามล่ะนะ
“อืม..งั้นไว้เจอกันนะครับ”
อินุยาฉะระบายยิ้มเอ่ยบอก ย่าชิมาดะยิ้มตอบ ก่อนคุณหนูของเธอจะเดินออกจากห้องไป
เหลือเพื่อนสามคนไว้ในห้อง คาโงเมะ ซังโกะ และมิโรคุนั่งลงที่ข้างเตียง
โดยคาโงเมะนั่งอยู่ฝั่งขวา และมิโรคุกับซังโกะนั่งทางฝั่งซ้ายของเตียง
ซังโกะหยิบผลไม้สำหรับเอามาเยี่ยมที่ล้างเสร็จนั่งลงปลอกอยู่ข้างๆ อย่างพิถีพิถัน
“ต้องขอบคุณพวกคุณหนูมากนะคะ
ที่ช่วยดูแลคุณหนูอินุยาฉะมาตลอด”ย่าชิมาดะเอ่ยขึ้นกับทั้งสามคน
ทำเอาสามคนอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ เพราะพวกเขาก็ไม่คุ้นชินกับการถูกเรียกว่าคุณหนู
หรือชินกับการได้ยินย่าชิมาดะเรียกอินุยาฉะว่าคุ้นหนูเลยสักที
“พวกเรายินดีอยู่แล้วครับ”มิโรคุยิ้มกว้างแล้วเอ่ยขึ้น
เช่นเดียวกับซังโกะและคาโงเมะที่ยิ้มแล้วบอกยินดีเหมือนกัน
ย่าชิมาดะยิ้มให้พวกเขาก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อ
“ขอบคุณคุณหนูคาโงเมะด้วยนะเจ้าคะ
ที่ช่วยดิฉันไว้เมื่อวาน”
“อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ”คาโงเมะเอ่ยอย่างเขินๆ
แต่แล้วเมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อวาน เธอก็ทำสีหน้าจริงจังขึ้นมาเพราะมีบางอย่างคาใจของเธอมาตั้งแต่เมื่อวาน และเป็นเรื่องที่เธอไม่ได้บอกกับอินุยาฉะ
“เอ่อ ย่าชิมาดะคะ”คาโงเมะเอ่ยอย่างระมัดระวัง “หนูมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะถามค่ะ ได้มั้ยคะ”
“ได้สิเจ้าคะ”
“ คือ
เมื่อวานที่คุณย่า...คนพวกนั้นคือใครเหรอคะ” มิโรคุกับซังโกะมองคาโงเมะอย่างตั้งใจ
เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของเธอ
ย่าชิมาดะยิ้มเศร้าลง ก่อนมองทั้งสามคนแล้วตัดสินใจเอ่ยตอบ
“ย่าก็ไม่แน่ใจนักหรอกค่ะ
แต่คนพวกนั้นจับตาดูคุณหนูอยู่”
“จับตาดูเหรอคะ...”คาโงเมะมีสีหน้าหวาดหวั่น
จนมิโรคุอดไม่ได้ที่จะแทรกถามขึ้น
“ขอโทษนะครับคุณย่า
คาโงเมะจังมันหมายความว่ายังไงเหรอที่ว่าคนพวกนั้น”
“มีคนทำร้ายคุณย่างั้นเหรอ”ซังโกะวางแอปเปิ้ลกับมีดลงที่จาน
ถามขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง เมื่อคิดว่าคาโงเมะกับย่าชิมาดะไปพัวพันกับคนอันตรายที่ไหนเข้า
คาโงเมะมองทั้งสองคน จริงๆแล้วเรื่องราวที่เธอเล่าให้อินยาฉะฟังเมื่อวานมันก็แค่บางส่วน
เธอคิดว่าถ้าหากบอกอินุยาฉะอาจทำให้อีกฝ่ายเศร้ากว่าเดิมเลยตัดสินใจเก็บเอาไว้
แต่ถ้าเป็นสองคนนี้รู้ด้วยก็คงจะพอช่วยอะไรเธอได้บ้าง
ถึงทั้งวันเธอเองก็ไม่กล้าบอกอะไรกับพวกเขาก็ตาม
“เมื่อวานตอนฉันไปซื้อของแถวๆบ้านของอินุยาฉะฉันเห็นผู้ชายตัวผอมสูงสองคนในชุดสีดำท่าทางแปลกๆวิ่งสวนทางกับฉันที่เดินอยู่
แล้วพอฉันเดินไปที่หัวมุมก็เจอคุณย่าสลบแล้วตัวเปื้อนไปด้วยเลือด แถวนั้นไม่มีใครเลย
ฉันเลยคิดว่าเป็นฝีมือของสองคนนั้นน่ะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ”
ชิมาดะเอ่ยขัดขึ้น ทั้งสามหันไปหาหญิงชราเพื่อรอฟังสิ่งที่เธอจะบอก
“เป็นตัวดิฉันเอง
ร่างกายของดิฉันอ่อนแอลงทุกวัน” ย่าชิมาดะเอ่ยด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ
ทั้งสามคนมีสีหน้าประหลาดใจ
“แต่เมื่อกี้คุณย่าบอกว่าคนพวกนั้นจับตาดูอินุยาฉะนี่ครับ”
“เรื่องนั้นก็ใช่เจ้าค่ะ
พวกเขาจับตาดูพวกเรามาตลอด”
“ถ้าจะให้เล่าล่ะก็....ดิฉันกลัวว่าพวกคุณหนูจะมีอันตรายนะเจ้าคะ”
ชิมาดะเอ่ยอย่างเป็นกังวล ทำให้ทั้งสามคนยิ่งสงสัยเข้าไปอีก
ว่าเบื้องหลังของอินุยาฉะมีอะไรซ่อนอยู่ ขนาดมิโรคุที่รู้จักกับเขามานาน
ก็ไม่ได้รู้ความลับมากมายของอินุยาฉะเหมือนกัน
คาโงเมะคว้ามือของย่าชิมาดะมากุมไว้แล้วบีบเบาๆ
“บอกเราเถอะนะคะ” มิโรคุกับซังโกะพยักหน้า
แววตาของพวกเขาทำให้ชิมาดะยิ้มอย่างปลื้มใจ คุณหนูของเธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วสินะ
“งั้นได้เจ้าค่ะ”
ชิมาดะครุ่นคิดถึงเรื่องที่เธอพอรู้มาตลอดระยะเวลาหลายปี
และเลือกเรื่องราวบางสิ่งที่พอจะแบ่งปันให้กับเพื่อนๆทั้งสามของคนหนูของเธอได้
“ตั้งแต่เด็กคุณหนูมักจะถูกตามปองร้ายค่ะ
แต่พวกเขายังไม่เคยลงมือสำเร็จสักครั้ง
และคุณหนูเองก็ไม่ทราบเรื่องพวกนี้ด้วยเจ้าค่ะ”หญิงชราเอ่ยแววตาของเธอเศร้าลงเมื่อนึกถึงเรื่องต่างๆ
“ทำไมพวกเขาต้องคิดร้ายกับอินุยาฉะด้วยเหรอคะ”
คาโงเมะเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“เพราะคุณหนูมีบางอย่างที่พวกเขาต้องการเจ้าค่ะ” น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นสั่นเครือจนทั้งสามรู้สึกได้
บางอย่าง....
“แต่ดิฉันเองก็ไม่ทราบว่าคืออะไร
เมื่อไม่นานนี้คนที่ฉันได้พบ....”ชิมาดะชะงักไปเมื่อจะพูดบางอย่าง ก่อนเอ่ยขึ้นต่อ
“คนนั้นๆบอกกับดิฉันว่าให้ระวังคุณหนูให้ดีๆ
เพราะไม่นานหลังจากนี้คนเหล่านั้นจะต้องคิดลงมือแน่ๆ”
ในใจของเด็กทั้งสามเต้นระรัวอย่างหวาดหวั่น
อินุยาฉะเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้ถูกจ้องทำร้าย
“เพราะไม่แบบนั้นแล้ว....เหตุการณ์อาจเหมือนเมื่อตอนนั้น” ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง
ดวงตาของหญิงชรารื้นไปด้วยน้ำตาเมื่อนึกถึงคำพูดของคนนั้นๆที่มาพบเธอ และเหตุการณ์ที่น่าเศร้าที่ผ่านมา
“จะต้องเกิดการสูญเสียที่น่าเศร้าขึ้นอีก....”
มิโรคุและซังโกะใจวูบไหว เมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกเขาพอรู้เรื่องที่อินุยาฉะสูญเสียพ่อแม่และหญิงสาวคนสำคัญของเขาไป
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้เบื้องหลังลึกลงไปกว่านั้นก็ตาม
“จากเหตุการณ์เมื่อวาน
ก็ยิ่งทำให้ดิฉันรู้ตัว ว่าจริงๆแล้วเวลาของดิฉันก็เหลืออยู่ไม่มากแล้ว” ทั้งสามรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งมาจุกอยู่ที่อก
เมื่อคิดว่าหญิงชราตรงหน้าจะต้องจากไป
“แต่ดิฉันยังมีสัญญาที่ต้องรักษา.....”หญิงชราบีบมือของคาโงเมะเบาๆ จ้องมองเข้าไปยังดวงตาของเธอ หากนี่เป็นโชคชะตาที่ฟ้านำเธอคนนี้ที่หน้าตาเหมือนคิเคียวมาพบคุณหนูอีกครั้ง เพื่อปกป้องคุณหนูของเธอร่วมกับเพื่อนๆเหล่านี้ และหากเป็นเช่นนั้น...
“ซึ่งดิฉันอาจจำเป็นให้พวกคุณหนูช่วยเจ้าค่ะ”
น้ำเสียงที่หนักแน่น
สายตาที่เชื่อมั่นนั้นเพื่อส่งต่อสิ่งสำคัญให้แก่พวกเขาทั้งสาม
“ถ้าหากเป็นพวกคุณ
คงจะช่วยดูแลคุณหนูแทนดิฉันได้” หญิงชรายิ้มบางๆ
ถ้าเป็นพวกเขาต้องไม่ทำให้คุณหนูของเธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวได้แน่
และสามารถดูแลคุณหนูจนกว่าเขาคนนั้นจะกลับมาตามสัญญาที่ให้ไว้ได้แน่
ทั้งสามสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากหญิงชรา
พวกเขาไม่รู้ว่าอินุยาฉะแท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่
พวกเขาไม่รู้เบื้องหลังของอินุยาฉะเลยด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เข้าใจว่าอินุยาฉะจะต้องเคยสูญเสียสิ่งสำคัญมากๆในอดีต
จนเขาต้องพยายามแข็งแกร่งและปกปิดความอ่อนแอเอาไว้
“พวกเราสัญญาค่ะ”คาโงเมะเอ่ยขึ้น
มิโรคุและซังโกะพยักหน้ารับเช่นกัน ถ้าเทียบกับอีกสองคนเรียกได้ว่าเธอยังไม่ได้รู้จักเรื่องราวของอินุยาฉะมากนัก
แต่เธอเองก็อยากรู้จักอีกฝ่ายให้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้เช่นกัน
“ขอบคุณจริงๆนะเจ้าคะ” หญิงชรายิ้มออกมาอย่างอบอุ่น
“เพราะแบบนั้นคุณย่าเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะคะ”คาโงเมะจึงเอ่ยขึ้นเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น
แม้จะมีคำถามที่พวกเธออยากจะถามอีก
แต่สิ่งที่หญิงชราผู้อ่อนโยนคนนี้เล่าให้พวกเธอฟังก็คงมากพอแล้วสำหรับในตอนนี้
“มาค่ะ เดี๋ยวหนูปอกแอปเปิ้ลให้ทานนะคะ”ซังโกะเอ่ยแล้วหันไปจัดการปอกแอปเปิ้ลต่อ
“เดี๋ยวผมเอาน้ำให้นะครับ”มิโรคุเอ่ยด้วยรอยยิ้มแล้วลุกขึ้นไปเทน้ำ แววตาของเขาเปลี่ยนไปจริงจัง
เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆ หลังจากนี้เขาจะต้องไปหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังที่เกิดขึ้นรอบๆตัวของอินุยาฉะให้ได้
อินุยาฉะ.......
..................................................
“เฮ้ เด็กใหม่
นายมาช้า.....”เสียงของผู้มาใหม่ดังขึ้น
ก่อนฝีเท้าจะหยุดลงทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องหลังร้าน ทันทีที่อินุยาฉะหันไป
ทั้งคู่ก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ดวงตาสีอำพันสบเข้ากับดวงตาสีฟ้า
พร้อมจับจ้องร่างสูงในชุดยูนิฟอร์มที่สวมผ้ากันเปื้อนสีดำของร้านตรงหน้า
ผมยาวสีดำรวบสูง บนศีรษะสวมผ้าคาดหัวที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้
เจ้าบ้าโคงะ ?
“ไอ้ลูกหมา” โคงะยืนอึ้งเมื่อไม่เคยคิดว่าเด็กใหม่ที่รุ่นพี่บังคตซึไหว้วานให้ดูแลวันนี้จะเป็นอีกฝ่าย
“แกก็ทำงานที่นี่?”อินุยาฉะเอ่ยขึ้น
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
ใครจะไปเชื่อว่าเจ้าหนุ่มเลือดร้อนโชว์ออฟเก่งอย่างหมอนี่จะทำงานพิเศษกับเขาเป็นด้วย
“อืม แปลกหรือไง”โคงะเหมือนอ่านสีหน้าอีกคนออก
ทำเอาหงุดหงิดไม่น้อย อีกฝ่ายเห็นเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่เนี่ย
พวกบ้าพลังที่ชอบเป็นอันธพาลรังควานตัวเองงั้นเหรอ? อืม...ก็คงจะจริงแหละ
ปกติก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันดีๆสักหน่อย ใครใช้ให้อีกฝ่ายมันเก่งล่ะ
“แล้วบังคตซึ..ซัง?” อินุยาฉะถามขึ้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่จ้องเขาแปลกๆพร้อมขมวดคิ้วครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียว
นั่นทำให้โคงะเหมือนได้สติกลับมา
“วันนี้ไม่เข้าร้าน
แต่บอกให้ฉันช่วยดูแลเด็กใหม่ให้ด้วย ใครจะไปคิดว่าเป็นแกวะ”โคงะบ่นพร้อมทำท่าเบื่อหน่ายอย่างทุกทีที่ทำ
ก่อนเดินไปหยิบบางอย่างในล็อกเกอร์ของตัวเอง
“หือ” อินุยาฉะมองบัตรป้ายชื่อพนักงานในมือของคนที่ยื่นมาตรงหน้า
เขียนชื่อพร้อมติดรูปเขาเสร็จสรรพ
ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้ารุ่นพี่นั่นไปได้รูปเขามาเมื่อไหร่
แต่คงเป็นเจ้ามิโรคุเพื่อนตัวดีของเขาแน่ๆ
ทว่ามันก็น่าสงสัยที่มีรูปเขาขนาดนี้แต่โคงะกลับไม่รู้ว่าวันนี้คนที่จะเข้ามาทำงานด้วยจะเป็นเขา
โคงะมองอีกคนที่รับบัตรไป แล้วก็แอบต่อว่าตัวเองในใจ
ถ้าตอนที่ได้บัตรมาสังเกตดูสักนิด ไม่โยนเข้าตู้ไปเลย
คงจะรู้ได้ทันทีอยู่แล้วว่าเป็นหมอนี่ แกนี่น้าโคงะ ให้ตายสิ !
“เอาเถอะ”โคงะถอนหายใจ
จะยังไงก็เถอะจากนี้ก็คงต้องทำงานด้วยกันล่ะนะ “เอ้า ยูนิฟอร์มวางอยู่ตรงนั้น
ใส่แล้วรีบตามออกมาล่ะ”โคงะเอ่ยบอกพร้อมชี้นิ้วไปที่ห่อพลาสติกที่วางอยู่ที่เก้าอี้นั่งตัวยาวสีดำตรงผนังห้องที่ข้างในมีชุดยูนิฟอร์มตัวใหม่ของร้านบรรจุอยู่
อินุยาฉะมองตามไป
ก่อนมองดูท่าทางเก๊กๆของอีกคนก็อดไม่ได้ที่จะบ่นอุบอิบ“ทำเป็นสั่ง” ก่อนเหลือบมองอีกคนแล้วเดินไป
“คุยด้วยดีๆนะเว้ย” โคงะตอบกลับทันควัน
“เออๆ” อินุยาฉะบอกปัด โคงะมองตามอีกคน
พร้อมข่มใจไว้แล้วเปิดประตูออกจากห้อง ก่อนลอบถอนหายใจยาว “จะทำงานดีๆกับหมอนั่นได้มั้ยเนี่ยเรา”
....................................
“เฮ้ นายเคยทำมาก่อนมั้ยเจ้าลูกหมา”
โคงะเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาเห็นอินุยาฉะง่วนกับการจิ้มปุ่มเครื่องคิดเงิน
แล้วท่าทางเงอะงะนั่นก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว
เลิกหาเรื่องได้มั้ยฮะ ไอ้หมาป่าปัญญาอ่อน
อินุยาฉะส่งโทรจิตพร้อมสายตาอาฆาตใส่อีกคน
“ครั้งแรก” เขายอมรับตรงๆ ทำเอาโคงะประหลาดใจเล็กน้อย
หมอนี่ว่าง่ายเป็นกับเขาด้วยสินะ
“งั้นมาฉันสอนให้” โคงะบ่น
แต่ก็เริ่มสอนงานให้อินุยาฉะอย่างตั้งใจ ไม่นานอินุยาฉะก็พอทำได้
แต่มันคงเร็วไปถ้าจะให้รับมือที่แคชเชียร์
ขืนหมอนั่นทำพลาดเขาเองก็คงโดนหักเงินได้วยแน่ๆ
เขาเลยให้อินุยาฉะไปจัดการวางสินค้าในร้านหรือทำอย่างอื่นไปก่อนแทน
...................
เจ้าบ้านี่ช่วงนี้เห็นหลับในห้องเรียนบ่อยๆ
คงเพราะทำงานพิเศษสินะ...
ถึงว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมาตอแยคาโงเมะ
หรือหาเรื่องต่อยตีกับเขาเท่าไหร่....
“สักครู่นะครับ”
“ขนลุกวะ”อินุยาฉะพูดออกมาเบาๆ เมื่อเห็นโคงะโปรยยิ้มเจ้าเสน่ห์ให้ลูกค้าสาว
แล้วเหมือนอีกฝ่ายได้ยินเลยแอบส่งสายตาอาฆาตมาทางเข้าแว่บนึง
อินุยาฉะเลยหันมาสนใจเวฟสินค้าให้ลูกค้าต่อ
ทำอย่างอื่นนอกจากหาเรื่องต่อยตีชาวบ้านเป็นเหมือนกันสินะเจ้านี่....
.........................
“เสร็จซะที...”
อินุยาฉะถอนหายใจหลังจากจัดการเก็บกวาดร้านจนเสร็จ แล้วเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน
“ทำไมถึงมาทำงานพิเศษล่ะ” โคงะชะงักเมื่อถูกถามขึ้นด้วยคำถามที่เขาก็อยากถามอีกฝ่ายเหมือนกัน
โคงะยักไหล่ก่อนเอ่ยตอบ
“อะไรได้เงินฉันก็ทำหมดแหละ” เขาพูดขณะเปิดกระป๋องโค้กยกขึ้นดื่ม
ก่อนยกออกแล้วพูดต่อด้วยแววตาเศร้าลงเล็กน้อย
“ฉันไม่มีคนเลี้ยงแบบนายหรอกนะ” หัวใจของอินุยาฉะไหววูบ
เขาชะงักหยุดยืนนิ่งมองแผ่นหลังของอีกคน ในใจก็รู้สึกอยากต่อยเจ้าคนที่ยืนตรงหน้านี่ให้คว่ำขึ้นมาเสียเฉยๆ
แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความเศร้าบางอย่างที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้น
“อีกอย่างยืนด้วยตัวเอง
มันก็เท่กว่าเป็นไหนๆเลย”โคงะฉีกยิ้มกว้างเอ่ยขึ้น แล้วเดินเอากระป๋องไปทิ้งลงถัง
ทำเอาอินุยาฉะอดประหลาดใจไม่ได้
ทุกคนก็คงมีเรื่องราวที่ไม่อยากจะพูดถึงสินะ....
“นายนี่น่าอิจฉาชะมัด”อินุยาฉะเอ่ยแผ่วเบา
“แล้วเจ้าลูกหมา
ทำไมอยู่ๆนายอยากทำงานพิเศษล่ะ?”โคงะเอ่ยถามขึ้นเมื่อหันมาเห็นอีกฝ่ายก้มหน้าลงมองพื้น
“อยากทำอะไรให้เป็นประโยชน์บ้าง...ล่ะมั้ง”อินุยาฉะเอ่ยตอบเสียงนั้นแผ่วเบาเสียจนเหมือนเขาพูดกับตัวเอง
แต่โคงะก็พอจะดูออกว่าอีกฝ่ายคงมีเรื่องอะไรในใจ
ช่วงนี้เราเองก็เห็นเจ้านี่มีท่าทีแปลกๆอยู่เหมือนกันล่ะนะ..
..เหมือนเมื่อตอนนั้น.....
“งั้นเหรอ งั้นวันนี้แกก็มีประโยชน์กับฉันอยู่ล่ะนะ
ฮ่าๆ”โคงะเอ่ยเสียงร่า น้ำเสียงยียวนกวนประสาทอีกคน
ทำเอาเส้นเลือดที่ขมับของอินุยาฉะเดือดปุดๆ เมื่ออีกฝ่ายทำตัวว่าเหนือกว่าเขา
“แก...”
โคงะมองดูอีกฝ่ายที่เขม่นตามองเขาพร้อมกัดฟันขู่เหมือนหมาถูกแหย่ก็ทำให้เขาอดยิ้มขำไม่ได้
แบบนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย...
“ฉันไม่มีเวลามาสู้กับนายแล้วแหละ
กลับบ้านอาบน้ำนอนดีกว่า”โคงะเอ่ยอย่างอารมณ์ดีที่แหย่อีกฝ่ายสำเร็จ
ก่อนยกแขนประสานที่ท้ายทอยเดินหนีไปอย่างสบายอารมณ์
“หมอนั่น....”
........................
ภายในบ้านที่ปกติจะมีแสงไฟนวลอบอุ่น
กลิ่นหอมของอาหารที่ถูกเตรียมไว้บนโต๊ะ
เสียงเอ่ยต้อนรับและรอยยิ้มอ่อนโยนที่มักได้ยินเสมอ...
ตอนนี้กลับเงียบสงัด ความมืดปกคลุมทั่วทุกที่ภายในบ้าน อากาศหนาวเย็นพัดผ่านทางเดินให้ใจโหว่ง
เขามองดูมันอย่างไม่คุ้นชินนัก นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่รู้สึกแบบนี้
บ้านที่ว่างเปล่า ไม่มีเสียงของใครเอ่ยต้อนรับกลับบ้าน วันที่โลกของเขาไม่เหลือใคร
วันที่ต้องอยู่คนเดียว....
เหมือนวัยเด็กที่ไม่เหลือใคร.....
อินุยาฉะเดินเข้าไปที่ห้องๆหนึ่ง เขาทอดตามองไปยังกรอบภาพถ่ายที่มีบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสองของเขาตั้งอยู่
ก่อนระบายยิ้มบางออกมา น้ำใสไหลลงจากหางตาที่ปั้นหน้ายิ้มของเด็กหนุ่ม
“กลับมาแล้วครับ”
TBC.
...................................................
มาอัพตอนใหม่แล้ววว สรุปคนที่ปรองร้ายอินุยาฉะคือใครกันแน่นะ?
เรื่องราวจะเริ่มยุ่งเหยิงมากขึ้นแล้วล่ะนะ ช่วงนี้หนูอินุฮาเร็มเขาเยอะ
ถ้าท่านพี่ไม่รีบกลับมามีหวัง... //เผ่นนนน
//รีบเผ่นไปปั่นให้ท่านพี่กลับมาเร็วๆก่อนนะเจ้าคะ
พบกันตอนต่อไป ขอบคุณที่ติดตามนะคะทุกคนนน
ความคิดเห็น