คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ♣ Destiny ♣ Chapter 09
♣ Destiny ♣ Chapter 09
ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าอันแสนอบอุ่น
กลิ่นของดอกซากุระสีชมพูอันบานสะพรั่งอยู่ในสวนหย่อมของบ้านลอยคลุ้งอยู่ในสายลม
เด็กหนุ่มวัยสิบหกปีในชุดยูนิฟอร์มมัธยมปลายตัวใหม่ยืนเหม่อมองเมฆขาวที่ลอยผ่านบนท้องฟ้าสีคราม
“คุณหนูเจ้าค่ะ” เสียงของหญิงชราผู้คอยดูแลเขาดังขึ้น
เรียกให้เด็กหนุ่มหันไปสนใจ ในมือของเธอถือบางสิ่งเอาไว้
เป็นเหมือนกองผ้าสีขาวและแดงที่ถูกพับไว้อย่างเรียบร้อยและมีคันธนูอันหนึ่งวางทับอยู่ด้านบน
“เมื่อครู่คนที่ศาลเจ้าเอามาให้น่ะค่ะ
พวกเขากำลังจะย้ายออกไป เขาไปพบสิ่งนี้เข้าเลยคิดว่าเอามาให้พวกเราน่าจะดีกว่า”
อินุยาฉะเดินเข้าไปหาหญิงชราอย่างรวดเร็ว
เขามองมันอย่างละเอียด แล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมา สิ่งที่ย่าชิมาดะถืออยู่ คือชุดมิโกะของคิเคียว.....
เด็กหนุ่มหลับตาครู่หนึ่งเพื่อข่มน้ำตาเอาไว้
ตั้งแต่ที่เขาไปร้องไห้ที่หลุมศพของคิเคียววันนั้นเมื่อสองปีก่อน
เขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว....
“คิดถึงจังเลยนะครับ” เด็กหนุ่มระบายยิ้มบางๆ
ทำให้ชิมาดะที่มองดูอดที่จะน้ำตาซึมไม่ได้
“คุณหนู...”
“เดี๋ยวผมต้องไปโรงเรียนก่อน ถ้ายังไงช่วยเอาไปเก็บไว้แทนผมด้วยนะครับ” อินุยาฉะเอ่ยพร้อมยกมือขึ้นแตะที่แขนของชิมาดะ ก่อนเขาจะเดินออกจากตรงนั้นไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของหญิงชราที่มองตามเขาไปอย่างนึกเป็นห่วง เธอก้มลงมองของที่ตัวเองถือ ก่อนภาพใบหน้าและรอยยิ้มอันอ่อนโยนของหญิงสาวผู้จากไปเมื่อสองปีก่อน จะปรากฏขึ้นมาให้หวนคิดถึง
“คิเคียว
เขาน่ะเข้มแข็งขึ้นมากเลยนะ”
มันคงเป็นเรื่องโกหกที่เขาจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรแล้วกับเรื่องราวในอดีต
แต่เวลาสองปีที่ผ่านมาเรื่องราวอันเจ็บปวดเหล่านั้น ก็ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองและฝึกฝนตัวเองให้สามารถปกป้องตัวเองได้โดยไม่พึ่งพาใคร
อินุยาฉะไม่เพียงฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ต่างๆจนเทียบเคียงกับอาจารย์พละสุดโหดของโรงเรียน
แต่จิตใจของเขาเองก็แน่วแน่และมั่นคงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก มากเสียจนบางทีมันก็มากเกินไป
เมื่อเขาเอาแต่ปกปิดความอ่อนแอของตัวเองจากใครๆ
“เฮ้ อินุยาฉะ
ปีนี้เราก็ได้อยู่ห้องเดียวกันอีกแล้วนะ” เพื่อนหนุ่มผมดำ “มิโรคุ”
ในชุดเครื่องแบบม.ปลายวิ่งมากอดคอเขาจากทางด้านหลังขณะที่เขากำลังกวาดตาไล่ดูรายชื่อสมาชิกของห้องต่างๆเพื่อหาชื่อของตัวเอง
“ฉันนึกว่านายจะย้ายไปแล้วซะอีก”
อินุยาฉะหันหน้าไปเอ่ยแซวอีกฝ่าย ก็เมื่อวันจบการศึกษาเจ้าเพื่อนตัวดีของเขาดันไปพัวพันกับขาใหญ่ของอีกโรงเรียน
เล่นเอาพวกอาจารย์กับเขาตามไปช่วยกันยกใหญ่
“ยุ่งน่า” มิโรคุเบ้ปากเอ่ยอย่างงอนๆ
“ว่าแต่อินุยาฉะ......” มิโรคุผละแขนที่กอดคอเขาอยู่ออก
แต่เมื่อเขาจะพูดอะไรกับอีกฝ่ายต่อ ก็ถูกเสียงที่ดังมาจากที่หนึ่งขัดขึ้นเสียก่อน
“นี่มันอะไรกันเนี่ย
ฉันต้องอยู่ห้องเดียวกับหมอนั่นเนี่ยนะ!” น้ำเสียงโอดครวญของใครบางคนดังมาจากทางข้างหลังของพวกเขา จึงทำให้ทั้งคู่หันไปสนใจ
ก่อนจะพบกับร่างสูงที่สวมผ้าคาดผมสีน้ำตาลยืนอยู่ท่ามกลางฝูงคน
โดยมีรุ่นน้องที่เป็นเหมือนสมุนรับใช้อยู่ขนาบซ้ายขวา ซึ่งมันจะเป็นใครไปได้อีก นอกจาก.....
“เจ้าบ้าโคงะนั่นก็ด้วยเหรอเนี่ย” อินุยาฉะเอ่ยบ่นกับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่อะไรดลใจให้อาจารย์จับเขากับหมอนั่นมาอยู่ห้องเดียวกันได้ล่ะเนี่ย
“นายว่าอะไรนะ!” ฉายาหมาป่าโคงะที่ใครๆตั้งให้
ไม่ได้เพียงมีแต่การเคลื่อนไหวที่ไว แต่หูที่ไวราวกับหมาป่าของเขาก็ตอบสนองต่อคำพูดของอินุยาฉะที่เอ่ยออกมากับมิโรคุด้วยความเอือมระอานั้นด้วย
เมื่ออีกฝ่ายเดินฝ่าฝูงคนตรงดิ่งมาทางพวกเขาที่ยืนอยู่ด้วยใบหน้าที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ
ทำให้นักเรียนคนอื่นๆบริเวณนั้นแตกขยายออกเป็นวงกว้าง เพื่อหวังไม่ให้ตัวเองถูกลูกหลงจากการเผชิญหน้าของทั้งสองคน
“พี่โคงะ ใจเย็นๆนะพี่”
ลูกสมุนผมตั้งตาแหลมเปี้ยวคนที่ 1 พูดขึ้นด้วยหน้าเหลอหลา ขืนสองคนนี้มีเรื่องกันตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกได้เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
“ฮ่ะๆ
โคงะนายเองก็อยู่ห้องเดียวกันเหรอเนี่ย ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”
มิโรคุเข้าไปคั่นกลางเอามือขึ้นปรามทั้งคู่ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง โคงะหยุดยืนตรงหน้ามิโรคุ ก่อนมองเลยเขาไปหาอินุยาฉะที่ยืนกอดอกหันหน้าไปอีกทางที่อยู่ด้านหลัง
แต่อินุยาฉะก็ไม่วายปลายตามองมาทางเขาแว่บหนึ่ง นั่นทำให้เขาอดที่จะฉุนมากขึ้นมาอีกไม่ได้
“อินุยาฉะ นาย.....”
โคงะเอ่ยอย่างพยายามคุมสติของตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไมแต่ไอ้สายตาที่อีกฝ่ายมองมา
มันทำให้เขารำคาญใจอย่างบอกไม่ถูก
“มิโรคุ
นายอย่าไปเสียเวลาคุยกับคนพรรค์นั้นเลย ไปเหอะ” อินุยาฉะเอ่ยทิ้งท้ายราวกับต้องการยั่วโมโหอีกคน
แล้วจึงใช้มือลากแขนเพื่อนให้เดินตามเพื่อไปประจำที่ห้องเรียนของตัวเอง
“งั้นพวกฉันไปก่อนนะ”
มิโรคุเอ่ยพลางโบกมือลาด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เขาหวังว่าอย่างน้อยโคงะที่แยกเขี้ยวอยู่ตอนนี้คงจะไม่กระโจนมาหาเรื่องเพื่อนเขาต่ออีกยก
จนต้องถูกพาไปห้องปกครองตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอมหรอกนะ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ
อินุยาฉะ.....” โคงะเอ่ยเบาๆกับตัวเอง โดยสายตาก็ยังไม่ละไปจากเจ้าของเรือนผมยาวสีดำที่ชอบยั่วโมโหเขาคนนั้น
แม้เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้เขาติดใจอีกฝ่ายมากขนาดนี้ .....
“นี่พี่โคงะ
งั้นพวกผมก็ขอตัวไปก่อนนะ” ลูกสมุนตาแหลมหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หวังว่าพี่จะไม่ถูกพักการเรียนเพราะไปทะเลาะกับอินุยาฉะอีกล่ะ”
ลูกสมุนอีกคนเลยเสริมขึ้นพร้อมตบไหล่เขาเบาๆ เรื่องความไม่ญาติดีของพวกเขาสองคน
ก็เห็นแต่จะมีแต่พี่ใหญ่เขานี่แหละที่มักจะไปหาเรื่องอีกฝ่าย
“พวกนายสองคนนี่มัน!” ร่างสูงตะโกนหันไปหาทั้งคู่
ถ้าไม่สนิทกัน ทั้งสองคนคงไม่กล้าแกล้งยั่วเขาแบบนี้แน่ๆ
“ไปแล้วจ้า !!” ลูกสมุนทั้งสองยกมือขึ้นยอมแพ้พร้อมตะโกนแล้ววิ่งเตลิดหนีหายไปอย่างรวดเร็ว โคงะที่มองตามได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ดูท่าชีวิตมัธยมปลายปีนี้ของเราจะวุ่นวายขึ้นไปอีกแล้วสิเนี่ย.....”
............................................................................
“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ”
หญิงสาวผู้เข้มงวดซึ่งถูกเลือกเป็นหัวหน้าห้องอย่างเป็นเอกฉันท์ทันทีที่ทุกคนรู้ว่าเธอมาอยู่ห้องเดียวกัน
เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “ซังโกะ”
หนึ่งในสมาชิกสภานักเรียนที่ทำหน้าที่เป็นอย่างดีตลอดมา เธอเอ่ยขึ้น
ก่อนทุกคนจะทำความเคารพอาจารย์ผู้เข้ามาและนั่งลงเมื่ออาจารย์บอก
“เอาละนะทุกคน
ในปีการศึกษานี้ครูจะเป็นอาจารย์ประจำชั้น ปี 2 ห้อง A ของพวกเธอ ชื่อว่า คิริชิม่า
อาโอกิ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“งั้นเพื่อให้ครูได้รู้จักพวกเธอ
เรามาเริ่มแนะ......”
ปึ้ง!
เสียงที่ดังขึ้นเรียกให้สายตาของอาจารย์ประจำชั้นและนักเรียนในห้องทุกคนหันไปสนใจประตูทางหน้าห้องที่ถูกเปิดออกอย่างไม่ปราณี
ทุกสายตาจับจ้องไปที่หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มสีขาวที่ปกเสื้อเป็นสีเขียวมีโบสีแดงประดับอยู่ตรงกลางหน้าอก
และกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีเขียวซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของนักเรียนหญิงม.ปลายของโรงเรียนไม่ผิดแน่
ผมของหญิงสาวสีดำประบ่า ดวงตาสีดำที่สั่นเครือ และใบหน้าที่มีเหงื่อซึมพร้อมกับอาการที่หอบหายใจเล็กน้อย
“ขะ..ขอโทษค่ะ
ที่หนูมาสาย” หญิงสาวเอ่ย อาจารย์และนักเรียนทุกคนเรียกสติของตัวเองกลับมา
ยกเว้นก็แต่ อินุยาฉะ.....
นี่มันอะไรกัน.....
นั่นมัน.....
“ออ
ไม่เป็นไร วันนี้เปิดเทอมวันแรกจะยกให้สักวันละกันนะ เข้ามาสิ” อาจารย์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะอาจารย์!” หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มร่าเช่นกัน
เธอเดินเข้ามาภายในห้อง
แต่ไม่ทันเดินพ้นกระดานเข้าไปนั่งก็ต้องหยุดยืนนิ่ง
เมื่ออาจารย์มาหยุดยืนข้างๆเธอพร้อมยื่นชอร์กให้ตรงหน้า
“ถ้างั้นเราก็มาแนะนำตัวกัน
โดยเริ่มจากเราก่อนเลยแล้วกัน”อาจารย์เอ่ย หญิงสาวกระพริบตาปริบๆมองอาจารย์
ก่อนหันมาทางเพื่อนๆ ความตื่นเต้นประเดประดังเข้ามาในอก เมื่อสายตาทุกคู่ยังคงจับจ้องมาที่เธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะจักรยานคู่ใจของเธอมาเสียกลางทาง เธอก็คงไม่ต้องเข็นมันไปหาร้านซ่อมก่อนจะรีบวิ่งดิ่งมาที่นี่แล้วก็เข้าเรียนสายแบบนี้หรอก
โชคชะตาอะไรจะเล่นตลกกับเธอขนาดนี้กันนะ
“ค่ะ
เอ่อ”หญิงสาวหันไปเขียนชื่อของตัวเองบนกระดาน ก่อนหันมาทางเพื่อนนักเรียนที่นั่งกันอยู่
สายตาของพวกเขายังคงจับตามาที่เธอ “ฉันชื่อ
ฮิงุราชิ คาโงเมะ พึ่งย้ายมาจากโตเกียว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ้ะ”
หญิงสาวเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในใจของเธอจะตื่นเต้นมากๆก็ตาม
ชื่อของหญิงสาวที่เอ่ยออกมา
ทำให้อินุยาฉะที่มองดูอยู่ถอนหายใจออกมา ในอกของเขายังคงหลงเหลืออาการบีบรัดในอก
เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่ออีกฝ่ายนั้นแนะนำตัว ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับหญิงสาวในความทรงจำที่จากไป
ทำให้เขารู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อย
“ถ้างั้นคาโงเมะ
ไปนั่งที่ว่างตรงนั้นนะ” อาจารย์เอ่ยบอก พร้อมชี้ไปที่ที่นั่งแถวที่สี่ตัวที่สามจากทางหน้าต่างที่เยื้องจากทางที่นั่งข้างหน้าต่างไปสองที่
ซึ่งก็อยู่เยื้องขวามือขึ้นไปหนึ่งโต๊ะของอินุยาฉะนั่นเอง
“ค่ะ” คาโงเมะเอ่ยตอบ ก่อนเดินไปนั่งประจำที่ของตัวเอง และเธอก็สังเกตเห็นเด็กหนุ่มผมยาวสีดำที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่างที่เรียกความประหลาดใจให้เธอไม่น้อย เมื่อเธอเผลอคิดไปว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิงเสียอีก
อินุยาฉะที่รู้ว่าถูกมองอยู่
ก็รีบหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง
เมื่อเห็นหญิงสาวผ่านทางภาพสะท้อนในกระจกหันกลับไปสนใจที่หน้าชั้นแล้ว
เขาจึงเหลือบตามองเธออีกครั้ง ความรู้สึกที่คุ้นเคยมันเกิดขึ้นมาอีกครั้ง.....
เพราะว่าพวกเธอหน้าเหมือนกันอย่างงั้นน่ะเหรอ?.....
................................................................................
“สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อคาโงเมะ ตั้งแต่วันนี้ไปขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ” หญิงสาวยิ้มระรื่น เมื่อมาถึงชั้นดาดฟ้าพร้อมกันกับซังโกะ เพื่อมาเจอกับมิโรคุและอินุยาฉะที่นั่งรอกันอยู่ ที่แท้เธอก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กกับซังโกะแล้วพึ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนนี้นี่เอง
“สวัสดี
ฉันมิโรคุ แล้วนี่ก็....อินุยาฉะ.” มิโรคุเอ่ยกับคาโงเมะที่นั่งลงข้างซังโกะ
และตรงข้ามกับอินุยาฉะที่นั่งแผงเหล็กของดาดฟ้าอยู่
“อ่ะ
ยินดีที่ได้รู้จัก” คนที่ถูกแนะนำเอ่ยตอบเมื่อรู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายมองมาทางเขา
ก่อนจะเสมองไปทางอื่น ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอกันที่นี่อีก....
“นั่นสินะ
แถมนี่ยังอยู่ห้องเดียวกันด้วย จากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะอินุยาฉะคุง”
“เรียกแค่อินุยาฉะก็ได้”
เขาเอ่ยออกไปอย่างที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำตัวยังไงต่ออีกฝ่ายดี
“งั้น...อินุยาฉะ
จากนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ” คาโงเมะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เปล่งประกายของหญิงสาว
ทำให้ภาพของใครคนหนึ่งเด่นชัดขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง
......เหมือนเธอมากจริงๆ......
“อินุยาฉะ
อินุยาฉะ” เสียงของเพื่อนหนุ่มเอ่ย พร้อมภาพใบหน้าที่เข้ามาใกล้และชัดขึ้นเรื่อยๆ
“เหม่ออะไรของนายเนี่ย”
มิโรคุที่เรียกอยู่นานใช้มือบิดแก้มเพื่อนจนเรียกสติเขากลับมาได้สำเร็จ
“โทษที”
อินุยาฉะเอ่ยเบาๆ
มิโรคุจึงกวาดมือคล้องเข้าที่คออีกฝ่ายเข้ามาชิดพร้อมยิ้มกว้างให้
“จริงสิ
คาโงเมะพวกเธอย้ายของกันเสร็จแล้วหรือยัง เย็นนี้ให้ฉันไปช่วยไหม?”ซังโกะเอ่ยขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้
พร้อมหันไปหาคาโงเมะ
“เรียบร้อยแล้วล่ะจ้ะ
แต่ยังจัดของไม่เรียบร้อย เดี๋ยวต้องกลับไปทำความสะอาดกันต่อด้วย”คาโงเมะเอ่ยตอบ
พร้อมนึกถึงกองสิ่งของที่รอให้เธอกลับไปช่วยจัดการ
“งั้นพวกเราไปช่วยมั้ย!”มิโรคุเอ่ยด้วยน้ำเสียงดี๊ด๊าแสดงความอยากช่วยเสียเต็มประดา
“นายวางแผนอะไรไว้หะ
ตาลามกนี่ รู้มั้ยว่าบ้านของคาโงเมะจังอยู่ที่ศาลเจ้า
คิดอะไรไม่ดีๆระวังเทพเจ้าจะลงโทษเอานะยะ!” ซังโกะเอ่ยเตือน
“เธออยู่ที่ศาลเจ้าเหรอ”
อินุยาฉะเผลอเอ่ยออกมากับตัวเอง แต่นั่นก็ดังพอให้คาโงเมะและอีกสองคนได้ยิน
“ อืม
ใช่จ้ะ”คาโงเมะยิ้มตอบเสียงใส
เพราะอินุยาฉะที่นั่งเงียบๆอยู่นานจนเธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายจะรำคาญเธอหรือเปล่า
จริงๆก็สนใจฟังเรื่องของเธออยู่เหมือนกัน
อินุยาฉะนิ่งอึ้งครุ่นคิดกับตัวเอง
ไม่เอ่ยถามอะไรต่อ จนคนที่สัมผัสถึงความอึดอัดที่จะก่อตัวขึ้นอย่างมิโรคุต้องรีบเอ่ยขึ้นก่อน
“งั้นก็ไม่ไกลจากโรงเรียนมากน่ะสิ
แถมยังใกล้ๆกับบ้านพวกเราด้วย เอาไว้เย็นนี้เราทุกคนกลับด้วยกันล่ะกันเนาะ!”มิโรคุยิ้มกว้างแล้วร่ายยาว
“อ่ะ
อืมได้สิ” คาโงเมะยิ้มตอบ
เธอรู้สึกดีใจจริงๆที่ทุกคนต่างต้อนรับเธออย่างกระตือรือร้น
และทุกคนดูเป็นคนน่าสนใจกันทั้งนั้นเลย
“ได้เวลาเข้าเรียนแล้วล่ะ
ไปกันเถอะ”ซังโกะเอ่ยพร้อมลุกขึ้น ตามด้วยคนอื่นๆ
“อืม”
คาโงเมะพยักหน้ารับ ก่อนจะวิ่งไปเกาะแขนซังโกะจัง แล้วเดินนำเด็กหนุ่มทั้งสองเข้าประตูไป
มิโรคุมองเพื่อนเขาที่เดินอยู่ข้างๆนิ่ง
ในใจก็คิดว่าที่อีกฝ่ายจะเหม่อก็คงไม่แปลก
เพราะหากเขาเป็นอีกฝ่าย
แล้วต้องมาเจอกับคนที่หน้าคล้ายกับคนที่ตัวเองเคยรักมากขนาดนั้น
เขาเองก็คงจะอดประหลาดใจไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ....
ถ้าหากอินุยาฉะหลงรักคาโงเมะขึ้นมา.....
.
ก็หวังว่าครั้งนี้
เขาจะไม่เสียเธอไปอีกล่ะนะ......
....................................................
TBC.
....................................................
เพื่อไถ่โทษลงเลยสองตอนนนนน ดองไว้นานทุบไหแล้วน้าาาา O(∩_∩)O
หวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังใจและติดตามกันต่อไปนะ
ซียูนะจ๊าาาาาา <3
ความคิดเห็น