คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 4 อดีตที่ผูกพัน 4-5
มาอัปต่อแล้วค่ะ ฝากกดแอดแฟน
สั่งซื้อหนังสือทำมือเรื่องอื่นๆทางแฟนเพจ
E-book ทุกเว็บ
MEB คลิก!!! Get it now
ookbee
สามวันถัดมาจิรายุทธกลับมาบ้านเพื่อเก็บของใช้และเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วเตรียมไปอยู่ดูแลเด็กหญิงอีกเป็นเดือน
รวมถึงยังต้องเข้าไปเคลียร์งานที่ให้คนอื่นมารับผิดชอบแทนเอาไว้ในช่วงนี้
ถ้าเขาไม่ใช่ลูกชายเจ้าของบริษัทป่านนี้อาจจะถูกไล่ออกไปนานแล้ว
“จะไปไหนตาเจมส์!”
เสียงเรียกดังลั่นบ้านมาจากเชิงบันไดหน้าประตูใหญ่
คุณหญิงวราภาในชุดผ้าไหมเนื้อดีเรียบหรูกำลังยืนหน้าตาบึ้งตึงด้วยความโมโห
ทางด้านข้างตัวมารดามีคนรับใช้ประจำตัวคือกิ่งจันทร์และนวลตองสาวใช้ที่อายุมากกว่าเขาประมาณสิบปี
หล่อนยืนชะเง้อคอยาวมองมาด้วยความสงสัยใคร่รู้
เพราะตอนนี้ทุกคนในบ้านนอกจากคุณหญิงวราภาก็ไม่มีใครรู้เรื่องอุบัติเหตุของจิรายุทธแม้แต่คนเดียว
เขาเคยกลับมาบ้านครั้งหนึ่งแล้วขนเสื้อผ้าไปตั้งแต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุไม่กี่วัน
จากนั้นลูกชายตัวดีก็หายหน้าไปเลย มาวันนี้เธอเพิ่งจะได้เห็นหน้าลูกอีกครั้ง
วราภาก็ไม่อยากจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่
เพราะกลัวคนอื่นจะมารู้เรื่องนี้เข้า เธอจึงได้แต่มองดูเงียบๆ
แต่พอเห็นสภาพลูกชายตอนนี้ชักเริ่มทนไม่ไหว
“ผมจะรีบไปสนามบินครับ
เดี๋ยวตกเครื่อง” จิรายุทธตอบโดยไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม
แต่คิดว่ามารดาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังจะไปที่ใด
“เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ
เลิกทำตัวไร้สาระแล้วกลับไปทำงาน!”
คุณหญิงตวาดแว้ดพลางมองกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่อยู่ในมือลูกชายด้วยความไม่พอใจ
ทุกเรื่องที่ลูกชายทำอยู่ในสายตาเธอมาตลอด
แต่เธอก็ไม่คิดว่าเขาจะมีความอดทนกับเด็กไร้หัวนอนปลายเท้าได้ขนาดนั้น เห็นทีว่าเธอคงต้องรีบทำอะไรสักอย่าง
“ผมลางานกับผู้จัดการแล้ว”
“ลูกไม่รู้หรือไงว่าคุณผดุงกำลังจ้องฮุบกิจการโรงแรมอยู่”
วราภาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจเมื่อเอ่ยถึงลูกพี่ลูกน้องของสามีที่กำลังทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำ
ยิ่งตอนนี้เจ้าสัวนพพลล้มป่วยลงทำให้เข้าไปประชุมได้บ้างไม่ได้บ้าง
จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในกิจการบริษัทที่กำลังจะเปลี่ยนมือเป็นผู้บริหารคนใหม่
คุณหญิงวราภาจึงต้องเป็นคนมานั่งแทนในตำแหน่งท่านประธานใหญ่ชั่วคราว
ซึ่งตั้งใจจะรักษาตำแหน่งนี้ไว้ให้ลูกชายจนกว่าเขาจะพร้อม
“ถ้าเขาอยากได้ก็ยกให้เขาไปเลยครับ”
จิรายุทธพูดด้วยความประชดกึ่งรำคาญ
ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจมามัวแก่งแย่งชิงดีกับใครในเรื่องพวกนี้หรือลงสนามสู้กับใครทั้งนั้น
เพราะความรู้สึกของเขานั้นอ่อนแอเกินไป
มันเต็มไปด้วยความกังวลว้าวุ่นเกี่ยวกับเด็กหญิงที่ชื่อพลอยน้ำเพชรว่าชีวิตเธอจะเป็นยังไง
“จะบ้าเหรอตาเจมส์ ลูกพูดอย่างนี้ได้ยังไง!”
มารดามองลูกชายตาโตด้วยความตกใจ เหมือนเห็นเขาสติไม่สมประกอบไปแล้ว
เธอไม่แน่ใจว่าเขาสมองกระทบกระเทือนเพราะอุบัติเหตุไปด้วยอีกคนหรือเปล่า
ไฟในการทำงานหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ นั้นไม่มีให้เห็นอีกต่อไป
เหลือเพียงชายหนุ่มที่มีสีหน้าอิดโรยเคร่งเครียด
แววตาระทมทุกข์กับเหตุการณ์สะเทือนใจ
“ผมขอตัวครับคุณแม่” เขาพูดจบก็ไม่รอให้มารดารั้งตัวเอาไว้ต่อก่อนเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ที่เพิ่งมาจอดถึงในบ้าน
เพราะคุณหญิงวราภาสั่งห้ามใครออกไปส่งเขาทั้งนั้น
+----------+
จิรายุทธเข็นกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากเข้ามาในห้องพักคนป่วยที่โรงพยาบาลห้องเดิมที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่นานเป็นเดือนร่วมกับเด็กหญิง
เสื้อผ้าและของใช้ที่เอามารอบนี้คงสามารถใช้ได้นานอีกหลายสัปดาห์
จนกว่าจะกลับไปเอาใหม่ที่บ้าน
แต่พอวางของในมือลงเขาก็พลันขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
ก่อนมองสภาพบนเตียงคนป่วยที่เรียบกริบและมีผ้าปูเตียงผืนใหม่
หัวใจชายหนุ่มหล่นวูบตกใจเมื่อเห็นว่าของใช้เด็กหญิงก็หายไปจากห้องนี้ราวกับไม่เคยอยู่มาก่อน
“มาเยี่ยมเด็กที่อยู่ห้องนี้เหรอคะ”
พยาบาลหญิงวัยกลางคนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับคนที่เดินตามมาอีกสองคน เป็นชายหนุ่มวัยกลางคนกับพนักงานทำความสะอาดที่ปลีกตัวเข้าไปทำความสะอาดในห้องน้ำ
“เด็กหายไปไหนครับ
เมื่อวันก่อนยังอยู่ห้องนี้” ชายหนุ่มถามเสียงร้อนรน
เพราะรอบนี้นอกจากแวะไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าชุดใหม่
เขาก็ยังต้องแวะไปเอางานในบริษัทด้วยเพราะทิ้งไว้นานและตั้งใจจะเอามาทำที่นี่
จึงได้ไปจ้างเด็กสาวที่เป็นลูกของแม่ค้าที่ตลาดให้มาช่วยดูแลพลอยน้ำเพชรแทนชั่วคราวประมาณสองสามวัน
เขาย้ำแล้วย้ำอีกว่าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นให้รีบติดต่อเข้าโทรศัพท์มือถือเขาโดยด่วน
แต่ไม่มีใครติดต่อมาสักคน
“คุยกันตามสบายนะคะ
แต่เดี๋ยวคืนนี้จะมีคนไข้รายใหม่เข้ามาแอดมิดต่อ” พยาบาลบอก
หลังจากเข้ามาดูแลความเรียบร้อยภายในห้องคนป่วย
เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถรับผู้ป่วยจำนวนมากได้
โดยเฉพาะห้องนี้เป็นห้องพิเศษวีไอพีที่มีแต่คนต้องการเข้าใช้บริการ
“ผู้ปกครองเธอมารับไปแล้วครับ”
“ใครครับผู้ปกครองเธอ แล้วคุณเป็นใคร” จิรายุทธทำหน้างุนงงพลางมองชายแปลกหน้าที่เขาไม่เคยพบมาก่อน
เพราะจำได้ว่ามารดาบอกจะมารับอุปการะเด็กหญิงคนนี้
ดังนั้นผู้ปกครองเธอก็ต้องเป็นแม่ของเขา
“ผมชื่อวิชัยครับ
เป็นผู้ใหญ่บ้านของอำเภอนี้ แล้วให้พลอยกับแม่เช่าบ้านอยู่ในเขตรั้วบ้าน” ชายวัยกลางคนอธิบายด้วยความน่าเชื่อถือตามที่ได้รับคำสั่งมาจากเบื้องบนเป็นอย่างดี
“พลอยมันเป็นเด็กกำพร้าน่าสงสาร
แต่ผมดูแลไม่ไหวเพราะลูกหลานที่บ้านก็เยอะมาก”
“…”
“ผมเลยติดต่อหาคนมารับเลี้ยงเด็ก
ตอนนี้มีชาวต่างชาติมารับตัวไปแล้วครับ โชคดีจริงๆ”
“แต่แม่ผมบอกว่าจะมารับเลี้ยงเด็กคนนี้” จิรายุทธรีบแย้ง เต็มไปด้วยความมึนงงสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วกำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร.สอบถามมารดาแต่ก็ชะงักเมื่อผู้ใหญ่บ้านพูดต่อ
“คุณหญิงปฏิเสธแล้วนะครับ
เพราะคิดว่าเด็กไปอยู่เมืองนอกน่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า
แต่เธอได้ให้ทุนการศึกษากับพลอยไปจำนวนหนึ่ง”
“มีเบอร์ของครอบครัวชาวต่างชาติที่มารับดูแลไหมครับ”
“ไม่มีหรอกครับ
ผมไม่ได้ขอไว้เลย”
จิรายุทธรู้สึกใจหายวาบเพราะยังไม่ทันได้สั่งลาพลอยน้ำเพชร เธอก็ไปเสียแล้ว
เขาอยู่กับเธอมานานเป็นเดือนความผูกพันย่อมมี
และที่สำคัญเขาอยากเห็นพัฒนาการของเด็กหญิงว่าอาการบาดเจ็บจะเป็นอย่างไรต่อไป
เธอจะกลับมาเดินได้เป็นปกติไหม แต่ต่อไปเขาคงไม่ได้เห็นหน้าเธออีกแล้ว
+----------+
ความคิดเห็น