ตอนที่ 5 : ตอน ผู้ชายคนนั้นใจสั่น 100%
“ แล้วแกจะไปบอกเขาทำไมเหล่าาาาอีริก!!!!” เสียงของหญิงร่างบางเอ่ยว่าเพื่อนชายที่อยู่ห้องเดียวกันอย่างอีริกด้วยความโมโห! ในขณะที่ชายผู้เป็นเจ้าของชื่อยักไหล่อย่างไม่ยีหละอีกต่างหาก
ขวับ ขวับ ขวับ!
“ เห้ย!! นี้มัน / ยัยคนนั้น!!! / คนที่ทำร้ายประธานเรานี้หว่า!!!! ” เสียงอุทานของเหล่าเมมเบอร์ชายอีกสามคนที่ไล่ล่ายัยตัวแสบที่เอาถังน้ำถูพื้นราดหัวประธานหอของพวกเขาคือยัยปลวกนี้ไม่ผิดตัวแน่นอน!!!! จากสีหน้าและน้ำเสียงของเหล่าสมุนของผมเอ่ยออกมาพร้อมกัน นั้นนิ่งทำให้แผนที่วางไว้นิ่งไปได้สวยกว่าที่คิดแหะ
“ ห๊าาาาาาา!!!? / ฮันน่านักเรียนทุนน่ะเหรอ!!? / เห่ยถึงขั้นทำร้ายP4เลยเร๊อะ!!!?? / ใจกล้าอะไรปานนั้น / มีเรื่องกับแบล็ควูฟงี้ก็อยู่ยากน่ะสิเธอ / นั้นน่ะสิฉันก็ว่างั้นแหละ ” เสียงอุทานและคำซุบซิบของประธานหอพัก เหล่าเมมเบอร์ เลขาฯทั้งหมดต่างขานร้องเป็นเสียงเดียวกันด้วยความตกใจ
“ อะ เอ้ย เปล่านะ มันไม่ใช่แบบนั้น…!!” ร่างบางพยายามจะอธิบายสถานการณ์ เพื่อแก้ต่าง แต่อย่าคิดนะว่าคนอย่างผมจะปล่อยให้รอดไปได้ง่ายๆ ผมกำชับท่อนแขนที่ล็อคคอพี่สาวให้เข้ามาตัวมากขึ้นจนเธอสะดุ้งอย่างตกใจ!!
หมับ!!
“ ว๊ายยยย...นี้นาย!!!”
“ รุ่นพี่...ไม่ทราบว่าเข็มกลัดรุ่นของคนร้ายที่ยังลอยนวลได้ทำตกไว้โดยสลักอักษรย่อว่า H.G. นี้จะบังเอิญตรงกับชื่อของพี่ไปรึเปล่านะ” ผมชูเข็ดรุ่นรูปนกอินทรีย์เลขรุ่น สองร้อยสามขึ้นมาพลางทอดมองใบหน้าที่กำลังตื่นตระหนกของคนในอ้อมแขนก็ยิ่งทำให้ผมสนุก ฮะฮ่ะฮ่า หน้าพี่เขาซีดยิ่งกว่าอะไรดี ผู้หญิงคนนี้แสดงออกมาทางสีหน้าจนผมอ่านออกหมดเลยให้ตายสิ!
“ อะ...อาจ..อาจจะเป็นของเฮนลี โกลเมซ หรือเฮอร์ไมนี่ เกรซเวคอร์ก็ได้นี้หน่า !!!” ว่าแล้วว่าจะต้องเอาเรื่องนี้มาอ้าง คิดว่าจะหนีคนอย่างผมไปได้งั้นเหรอ ไม่-มี-ทาง!
“ หึ พวกเธอทั้งสองคนยังมีเข็มรุ่นอยู่ที่ตัวครับ ว่าแต่เข็มรุ่นของพี่น่ะหายไปไหนล่ะ ปกเสื้อคลุมนักเรียนไม่ยักติดเลยนี้หน่าาา~” ผมงัดไม้แข็งด้วยการรูดซิปเสื้อฮูทตัวหนาของพี่เขาลง เสื้อคลุมสีน้ำเงินที่มีเพียงด้ายปักบอกชั้นปี แต่เข็มกลัดรุ่นที่ควรปักอยู่ที้ปกเสื้อมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“......!!!!”
“แหม ถ้าจะบอกว่าลืมไว้ที่หอล่ะก็...แบบนี้มันก็น่าสงสัยนะว่าไหม...พี่ฮันน่า(^ ^)”
“ ฉัน...คือฉัน”
“ หลักฐานและพยานครบครันแบบนี้ เห็นทีว่าเราคงมีเรื่องคุยกันอีกยาวเลยล่ะ...พี่สาว (^___^)” ผมฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับมองนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของหญิงตรงหน้าอยากหยอกล้อ ใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกและอ้าปากพะงาบๆนี้ ทำให้ผมอยากจะไล่ต้อนให้จนมุมขึ้นไปอีก
“ อีริกกกกกก อีริ๊กกกกกกกก T___T ”พี่เขาพยายามจะพุ่งตัวไปหาชายขี้เก๊กที่ใส่แว่นตานั้นอย่าวเอาเป็นเอาตาย เห๊อะ!! ใครเขาจะปล่อยให้หลุดมือเป็นครั้งที่สามกันเล่า!!! ยิ่งเป็นผู้ชายอันตรายศัตรูหมายเลขหนึ่งแบบนั้นด้วยแล้วล่ะก็...นั้นยิ่งกระตุกต่อมหงุดหงิดของผมให้เดือดพล่านไปยกใหญ่!!
หมับบบบ!
“ ร้องไปเขาก็ไม่สอดมือเข้ามาช่วยหรอก…เรามาคุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่า มานี้!!!! ”
“ โนนนนนนนนน ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ไปปปปปป ”
“มาด้วยกันสะดีๆ!!!!” แม้คนตัวบางจะออกแรงยื้อเพื่อต้านกำลังกับผมก็ตาม แต่ผมก็ใช้ท่อนแขนคว้าพี่เขาให้แบบฉุดกระชากทั้งลากทั้งถูจนได้สนทนากันแบบส่วนตัวสักที
ณ ดาดฟ้า
“ นี้ฉันขอโทษนายไปแล้วนี้..จะเอาอะไรอีกละ คืนของของฉันมาได้แล้ว!” ร่างบางพูดพลางทำท่าจะกระโดดชิงเอาเข็มดบัดรุ่นของเธอคืนมา แต่ทว่าอีกฝ่ายที่สูงถึง185นั้นก็ทำให้ความพยายามเหล่านั้นสูญเปล่า โว้ยยยย ไอ้หมอนี้สูงอย่างกับเปรต!!!!
“ หึ ไม่มีวันคืนให้ จนกว่ารุ่นพี่จะทำตามเงื่อนไขของผม” ผมเอ่ยพลางยักคิ้วข้างเดียวใส่ สาวสวมแว่นถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ เงื่อนไขอะไรห้ะว่ามาเร็วๆ!!”
“ เงื่อนไขก็ง่ายแสนง่าย พี่จะต้องเป็นคู่เต้นรำของผมในวันจบงานกีฬาสี (^[++++]^) ”
“ ห๊าาาาาาา !!!!?” เต้นบ้าเต้นบออะไรไร้สาระจริงๆ!!
“ ไงง่ายใช่มั้ยล้ะ ตามนี้นะ โอเค ตกลง!! ” ว่าเสร็จไอ้เบื้อกนั้นก็คว้าแขนฉันแล้วกจับเช็คแฮนเองพูดเองเออเองได้อย่างหน้าตาเฉยเลย!!!!
“ นี้….!!!!!! ” ขณะที่สาวน้อยหน้านิ่วกำลังร้องท้วง แต่ก็ไม่ทันสะแล้ว ชายหนุ่มทอดน่องออกไปจากดาดฟ้าและปิดประตูใส่หน้าเธอเป็นที่เรียบร้อย
ปังงงงง...
ฉันเต้นรำเป็นสะที่ไหนกันเหล่า -_- โอ๊ยยยยย!!! วันๆเจอแต่เรื่องบ้าบอคอแตกประสาทจะแดกอยู่แล้ว กลับหอแล้วหาวิธีจิ๊กเอาเข็มกลัดคืนจะง่ายกว่าไหมนะ เห้ออออ ปวดหัวจริงๆ ขณะที่ร่างบางเอาแต่ก้มหน้าก้มตาขบคิดอนู่นั้นเอง ประตูบานเดิมก็เปิดออกพร้อมกับใบหน้าที่แผ่จิตสังหารของเมมเบอร์และเลขาหอแบล็ควูฟที่ปากประตู
ชิ้งงงงงงง…
(-(-(-(- -) -)-)-) >>> (= =^^^)
“ หึหึหึ...เอาไงกับยัยอีแร้งนี้ดีครับรุ่นพี่เกรล” กรีเซลหนึ่งในสมาชิกหัวเราะในลำคอพลางบั่นนิ้วมือทั้งสิบจนดังกร๊อบแกร๊บไปหมด
“ เอาเล็บกรีดหน้าแล้วตบจนกว่าสิวนั้นจะหลุดดีไหมคะพี่ ” ไดน่าเมมเบอร์หญิงเองก็เสนอเช่นกัน อือหือ ตบจนกว่าสิวจะหลุดเลยเหรอ มันเข้าข่ายทำร้ายร่างกายเลยนะนั่น!!!
“ แค่ทำถังน้ำหกใส่นิดเดียวเอง...จะ ใจเย็นก่อนดีกว่าไหมพวกนาย แหะๆ” ร่างบางพูดพลางหัวเราะเสียงแห้งๆ
“ น้ำถูพื้นหกใส่หัวประธานแบบนั้น!!! ยัยนี้มันต้องการหยามแบล็ควูฟชัดๆ!!!” สีหน้าของพวกเมมเบอร์ฝั่งนั้นแทบอยากจะฉีกอกสาวตรงหน้าเสียให้ตายคาที่
“ ไอ้บ้า!!! ตอนนั้นมันมีคนผลักฉันเว้ยยยย!!!”
“ ฮันน่า เราก็ร่วมงานกันมานานไม่น่าทำงี้เลยนะ ” คราวนี้รุ่นพี่เกรลถึงกลับออกปากด้วยสีหน้าเรียบตึง
“ เกรลใจเย็น เรื่องนี้ฉันอธิบายได้!! ”
“ ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยยัยปลวก! เธอมันก็แค่นักเรียนจนๆที่ใฝ่สูงอยากจะเข้ามาเรียนที่นี้เท่านั้นแหละ!!! นอกจากสมองก็ไม่มีดีอะไรสักอย่าง!” ไดน่าเมมเบอร์สาวแผดเสียงลั่น
“.........” ผิดคาดร่างอรชรถึงกับชะงัก เธอก้มหน้าลงและไม่ได้ตอบโต้อะไร คำพูดที่ดูแคลนของหนึ่งในเมมเบอร์ที่ตวาดพี่สาวนั้นทำให้ผมฉุนกึก!! ผมที่ย้อนกลับมายังดาดฟ้าก็ได้ยินประโยคนั้นพอดี เลยแทรกตัวคั้นกลางพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะฟิวส์ขาด
“ นี้มันปัญหาของฉัน….ออก-ไป ” ผมกำฝ่ามือของตัวเองแน่นจนมันสั่นนิดๆ เดือดชะมัด ต่อให้ผู้หญิงตรงหน้าจะผิดขนาดไหนแค่ไหนก็ไม่เห็นต้องพูดจาว่าเธอแรงขนาดนั้น!! และนั้นคือสิ่งที่ผมไม่ชอบ!!!
“ อะ...คะ...คาร์” ไดน่าชะงักเมื่อเห็นสีหน้าที่โมโหของคาร์ดอส ประธานหอที่ไม่เคยแสดงโหมดนี้ให้เห็นเลยสักครั้ง
“ การสอบทุกวิชาให้ไม่ต่ำกว่า85 แบบนี้เขาไม่เรียกว่าไม่มีดีหรอก ขอโทษพี่เขาสะ
ไดน่า!!! ” ร่างสูงยืนกรานเสียงแข็ง หญิงสาวที่หลบอยู่ด้านหลังได้แต่มองแผ่นหลังกว้างที่อยู่ๆก็เป็นฝ่ายปกป้องด้วนแววตางุนงง
“ คาร์…!!!” เมมเบอร์สาวมองค้อนพลางเอ่นด้วยน้ำเสียงที่ขัดใจตนเองจนถึงที่สุด!! แค่พอเห็นสีหน้าที่มองมาอย่างเย็นชาและแววตาที่เก็บกักโทสะอันเดือดพล่านนั้นก็ทำให้ไดน่าสาวผมบ็อบกัดริมฝีปากอย่างขัดใจ
“ หึ่ย...ขอโทษ!” ว่าเสร็จสาวเจ้าของทรงบ็อบก็กระแทกเท้าแล้วลงไปจากดาดฟ้า โดยมีเมมเบอร์คนอื่นๆร้องรียกชื่อเมมเบอร์สาวด้วยความเป็นห่วงก่อนจะผละออกไปแต่โดยดี
“ ชาลรอฉันข้างนอกแปปหนึ่ง ”
“ ครับ ” ชายร่างสูงอีกคนขานรับอย่างว่าง่าย การที่นายน้อยอาการฟิวส์ขาดและถึงกับออกปากแบบนั้นก็ทำให้เขาแอบลอบยิ้ม จริงอย่างที่คิด...นายน้อยไม่ใช่คนที่ชอบคนที่เปลือกนอก ผู้หญิงคนนี้คงมีดีอะไรสักอย่างสินะ
...ปัง…
“ ขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อกี้ด้วยนะ….”
“ อ่า...ไม่เป็นไร มันก็จริงอย่างที่เด็กคนนั้นว่า ฮะฮ่ะ...ฮะฮ่ะฮ่า” เสียงหัวเราะแห้งๆนั้นทำให้ผมรู้สึกแย่ แววตาของพี่เขาหม่นไปโดยสิ้นเชิง สีหน้าที่ดูก็รู้ว่าเธอพยายามฝืนยิ้ม
“ ไม่จริงหรอก กับอีแค่สิวกับกระเท่านั้น ถ้าถอดแว่นตาสวมคอนแท็คเลนส์ รักษาสิวกระจุดด่างดำให้หายและเซ็ทผมอีกสักหน่อย….. ” คำพูดที่เอ่ยอย่างมาด้วยน้ำเสียงทุ้ม พลางถือวิสาสะถอดแว่นสายตาหนาเต๊อะ และหลับตาข้างหนึ่งพลางจินตนาการใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาของสาวตรงหน้า ก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มออกมาจากใจโดยไม่รู้ตัว พอผมได้มองหน้าพี่สาวเขาตรงๆแล้วลองนึกอินเมจจิ้น ก็ถึงกลับอึ้งไปชั่วขณะ เอาจริงๆแล้ว โครงหน้าพี่เอาจริงๆจัดว่าใช้ได้เลยแหะ
“ …..ว้าว ” นะ...น่ารักเชี่ยๆ คำอุทานปนเสียงกระเซ่านั้น ทำให้สาวเจ้าที่กำลังรับฟังถึงกลับตกใจ สีหน้า แววตา และน้ำเสียงเมื่อกี้...อะไรกันของไอ้หมอนี้
“ ...เอ่อ...งั้น….ละ แล้วเจอกันวันเสาร์นี้นะ ไปล่ะ ” ผมเลิ่กลั่กก่อนจะยัดแว่นตาคืนให้และโบกมือลา เชี่ยเอ้ย...เมื่อกี้โคตรใกล้ หน้าพี่เขาเลยนี้หว่า โอ๊ยหัวใจผมจะวาย =////= แต่ว่าผมพี่เขาหอมมากจริงๆ ทุกครั้งที่ลมบนดาดฟ้าพัดมันจะได้กลิ่นแชมพูลอยคลุ้งมาด้วย ให้ตายซิ....หัวใจเราสามารถเต้นแรงขนาดนี้ได้ด้วยเหรอวะ!!
ณ โรงยิมกลาง
ตกเย็นท่ามกลางเสียงเอะอะของเหล่านักกีฬาที่แย่งกันใช้พื้นที่โรงยิมส่วนกลางกันอย่างคึกคัก ร่างสูงทอดกายเข้ามาพร้อมสหายคู่ใจ เหล่าสมาชิกหอแบล็ควูฟต่างพากันหยุดชะงักและกล่าวทักทาย แต่แล้วนักเรียนชายเกรดสิบเอ็ดรูปร่างบึกบึนพอประมาณก็กึ่งจ็อกกิ้งเข้ามาหาพร้อมกับเอ่ยบางอย่าง
“ เอ่อ เทอร์เนอร์พอจะมีเวลาไหม...พอดีอยากให้ช่วยเป็นคู่ซ้อมคาลาเต้ให้กับพวกเด็กใหม่หน่อย” ร่างสูงที่กำลังฮัมเพลงในลำคออย่างอารมณ์ดีก็พยักหน้าตอบตกลงก่อนจะถอดเสื้อคลุมสีดำของตนเองแล้วพาเฃดบนบ่ากว้าง
“เยสสสส...ขอบใจมากเดี๋ยวไปเอาชุดนายมาให้นะ!!! ”ว่าเสร็จรุ่นพี่ตัวหนาก็วิ่งแจ้นไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอีกคน ร่างสูงปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออกระหว่างทาง ทำให้บรรดาสาวๆต่างหอที่รวมพลมาออที่นี้ในช่วงเย็นกรีดร้องกันจ้าละหวั่น เหล่าชมรมอื่นๆจำพวกกีฬาและศิลปะการต่อสู้แขนงอื่นๆก็ปี่มาทาบทามร่างสูงเช่นกัน
“ เทอร์เนอร์ชมรมฟุตบอลของฉันละนายว่างไหม / มาเทรนให้บาสหน่อยสเทอร์เนอร์ / ชมรมยิงธนูดีกว่า!! / เทควันโด้ต่างหาก!!/เคเบิลเทนนิสเหอะคาร์ดอส ”เสียงเอะอะและการเบียดเสียดที่มารุมตื้อทำให้ชาลต้องออกปากปรามพวกเขาเหล่านั้นทันทีตามหน้าที่
“ ประธานเทรนให้หมดทุกชมรมไม่ไหวหรอกครับ อย่าดันครับ เห้ยยยยอย่าดัน…!!!!” เสียงโหวกเหวกของชาลทำให้คาร์ดอส ยอมโผล่หน้าออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ร่างสูงสอดแขนซ้ายขวาลงไปในชุดสีดำด้วยรูปร่างที่สูงโปร่ง เหล่าบรรดาสาวๆที่อออยู่ปากประตูโรงยิมกว้างต่างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเมื่อเห็นหน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกแพ็คสุดเซ็กซี่ กางเกงคาราเต้ที่นุ่งต่ำนั้นทำให้ร่องกล้ามเนื้อนั้นโผล่ออกมาอย่างเด่นชัดจนสาวๆเลือดกำเดาแทบพุ่ง
0///0) (0[]0) (0,,0
“ แกรรรรรร ฉันอยากย้ายยยยยย!!!!!”
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด/ อร๊ายยยยย หล่อ!!!! ”
ร่างสูงไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงอึกกระทึกจากด้านนอก เขาระเบิดเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีดังขึ้นพลางจัดการรัดสายคาดเอวหน้าห้องไปด้วย
“ 5555555555555 ” เพิ่งเคยเห็นไอ้ชาลมันสบถด้วยคำพูดแบบนั้น ปกติมันน่ะเคร่งครัดแถมสุภาพชนจะตายไป! แก่นแท้ความเป็นหมาป่าคงจะเริ่มสำแดงเดชแล้วสินะ
“ ปะ ประธานขำอะไรครับ ” ชาลหันกลับมาหาผมที่ขำจนตัวงอ โอ๊ยยยย วันนี้มีแต่เรื่องดีๆจนหยุดยื้มหยุดหัวเราะไม่ได้เลยเว้ยยยยยย!!!
“ หึ เพิ่งรู้ว่าแกก็พูดแบบนั้นเป็นกับชาวบ้านเขาด้วยยังไงเล่า ” ผมพูดพลางเท้าเอวแล้วฉีกยิ้มกว้าง ในขณะที่ชาลยืนเหงื่อตกพร้อมทำหร้างงเป็นไก่ตาแตก
แปะ แปะ แปะ แปะ
“โห่ยยยยยย ใครที่อยู่ที่นี่ไปที่โรงอาหารใกล้ๆนี้ได้เลย...ฉันเลี้ยงเอง55555555!!” ร่างสูงเสยเส้นผมสีบลอนต์พร้อมตบลงบนบ่ากว้างของสหายแล้วจากไป ในขณะที่เหล่าฝูงชนที่อยู่ในโรงยิ้มทำตาลุกวาวพลางรีบกู่ไปตามร้านน้ำ/อาหาร/ร้านค้าสุดหรูในโรงอาหารของโรงเรียนกันจนหมด
“ นี้ชาล….” จู่ๆเสียงต่ำของหญิงสาวก็ดังขึ้นจากด้านชายผู้เป็นเจ้าของชื่อ
“ ถามจริงคาร์มันเป็นบ้าอะไร เห็นเดินฮึมฮัมในลำคอ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และมิหนำซ้ำยังทำเป็นป๋ากระเป๋าหนักนั้นอีก ” สายตาของทั้งคู่จับจ้องไปยังชายหนุ่มที่เอาแค่กระลิ้มกระเลี่ยหน้าชื่นตาบานพลางซักซ้อมเด็กฝึกคาราเต้ด้วยทีท่าใจดี แถมยังอ่อนมือให้จนมันผิดสังเกต
“ นั้นน่ะสิครับพี่เกรล...ผมเองก็สงสัย ” ถ้าให้เดาคงเป็นเรื่องผู้หญิงชื่อฮันน่า เลขาฯคนนั้นที่อยู่เกรดสิบสองแน่ๆ แต่เอ๋….มีอะไรถึงทำให้นายน้อยอารมณ์ดีได้ถึงขนาดนี้กัน
และแล้วพอเทรนนิ่งเหล่ามือใหม่ให้สองชมรมอันได้แก่ ชมรมคาราเต้และเทคควันโด้เสร็จผมก็ขอตัวออกมาทันที เหงื่อที่ชุ่มไปจนทั่ว ทำให้ผมรู้สึกเหนียวเหนอะหนะชะมัด อ๊าาาา เหนื่อยเป็นบ้า ดีที่ชาลมันก็คอยสับเปลี่ยนให้ผมได้มีเวลาพักบ้าง แต่ถึงงั้นก็เถอะ ตอนนี้ไม่มีใครซ้อมที่โรงยิมกลางนี้อีกแล้ว ผมที่นั่งพักเพราะไม่อยากจะลุกไปไหน ไอ้หมอนั้นเลยอาสาไปซื้ออะไรมาดับกระหายให้แทน
“เห้ออออ เงียบดีจัง” ผมพรึมพร่ำเมื่อได้ยินแค่เสียงสายลมที่พัดเข้ามายังโรงยิมใหญ่ แม่บ้านเริ่มเข้ามาทำความสะอาดตามหน้าที่ ผมจึงจำต้องหิ้วเป้ของตัวเองและชาลติดมือมาและผละออกไปจะได้ไม่เกะกะเขา
ตอนนี้...สามทุ่มแล้วหรอเนี้ยไวชะมัด ผมออกมายืนรับลมด้านนอก สนามหญ้าด้านหน้าช่างกว้างสุดลูกหูลูกตานัก ค่ำคืนในแต่ละวันช่างมีมนต์เสน่ห์พิลึก มันเย็นยะเยือกและรู้สึกสบายยามที่ผมได้ออกกำลัง ดวงจันทร์ที่ลอยเด่นนั้นยิ่งเพิ่มงามบนท้องฟ้าที่มืดมิดได้มากพอๆกับขนาดของมัน. ว่าแต่เจ้าชาลช้าชะมัด...ผมตัดสินใจเดินรับลมเพื่อคลายกล้ามเนื้อสักหน่อยดีกว่า แต่แล้วผมที่ทอดน่องกินลมชมวิวมาได้สักพัก...ก็ต้องหยุดขะงักเพราะได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
เหมียว…...เหมี้ยววว
แมว….??
เท้าของผมหยุดเดินทันทีที่ได้ยินเสียงนั่นดังออกมาจากอีกฟากของฝั่งโรงยิมใหญ่ ผมตัดสินใจเดินตามเสียงนั้นไปจนเริ่มจะได้ยินชัดขึ้นเรื่อยๆ….นั้นมันหอพักบลูอีเกลนี้น่า...ถ้าขืนข้ามฟากไปโดยพละกาลคงไม่ใช่เรื่องดี แต่ด้วยความสงสัยที่พอตัวทำให้ผมตัดสินใจกวาดสายตาหาต้นเสียงเจ้าปัญหานั้นแทน
เหมียว….
เสียงนั่นอีกแล้ว...อยู่ไหนนะ
ขณะนั้นเองสายตาผมก็ไปสะดุดกับร่างบอบบางของผู้หญิงคนหนึ่งเข้า เธอนั่งพิงอยู่ที่ศาลามุมหนึ่งพลางวางหนังสือที่อยู่ที่มือนั้นลง และนั่งย่อตัวพลางเอื้อมไปทำอะไรสักอย่างตรงใต้หอพักตัวเอง รูปร่างนั้นคุ้นตาชะมัด มาทำอะไรลับๆล่อๆกันแน่ ผมชะเง้อมองแผ่นหลังผู้หญิงคนนั้นที่เพิ่งจะคลานออกมาพร้อมกับสัตว์ตัวน้อยขนสีดำสนิทที่ไม่ว่าดูยังไงก็เป็นลูกแมวที่ยังไม่หย่านมแม่ชัดๆ หน้าแบบนั้น...ฮันน่า เกรย์?!! ตอนนี้ในหัวผมเต็มไปด้วยคำถาม ร่างบางอุ้มลูกแมวตัวจ้อยไว้ที่แขนข้างหนึ่งก่อนจะเอามืออีกข้างล้วงๆควักๆอะไรสักอย่างที่อยู่ในกระเป๋า.
นั่นมัน….ปลากระป๋อง?? สาวเจ้าพยายามเหมือนมองรอบๆตัวตลอดเวลา ก่อนจะหยิบกล่องกระดาษขนาดพกพาออกมาแล้วเทอาหารให้เจ้าลูกแมวน้อย ท่าทางแบบนั้นสงสัยเธอคงไม่อยากให้ใครจับได้ละมั้ง สีหน้าที่อมยิ้มยามที่ลูกแมวนั้นยอมกินอาหารที่เอามาให้ นัยน์ตาสีน้ำตาลมองสัตว์ตัวน้อยด้วยความเอ็นดู มือเรียวลูบไล้ขนปุยนุ่มไปมาเพื่อให้มันรู้สึกผ่อนคลาย
“ โทษทีนะที่วันนี้มาช้า…”
วันนี้? แสดงว่าพี่เขาทำแบบนี้มาได้สักพักแล้วงั้นเหรอ?
“ กินเยอะๆจะได้โตไวๆ...พรุ่งนี้จะหาอะไรอร่อยๆมาให้อีกน๊าาา”
ภาพของผู้หญิงที่ดูยังไงก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแท้ๆ แต่นั้น...กลับทำให้ผมรู้สึกประทับใจอย่างน่าประหลาด ผมอดที่จะมองภาพนั้นแล้วยิ้มตามเธอไม่ได้เลย ราวกับว่ารอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นส่งตรงมายังความรู้สึก...และมันกำลังทำให้ใจผมเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง หึ...ยังใจดีเหมือนเดิมเลยนะครับพี่สาว
Writter: เป็นไงกันบ้างค่ะ ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้นต์ด้วยนะ ไรต์ชอบอ่าน อิอิ
มาลุ้นกันต่อไปน๊าาาา ว่าพระเอกเราตะทำไงต่อ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

20 ความคิดเห็น
-
#12 moon_lovers (จากตอนที่ 5)วันที่ 7 สิงหาคม 2560 / 10:055555พระเอกน่ารักอ่ะแกรรร#120