ตอนที่ 12 : ตอน ผู้ชายคนนั้นกำลัง(เขิน) 100%
แต่เขารักทุกอย่างที่เธอคนนั้นเป็น....
ผลจากการซ่าส์เกินกำลังจนเจ็บข้อเท้านั้น ตอนนี้กำลังถูกอาจารย์ที่อยู่ห้องพยาบาลภายในหอพักนั่งเทศน์กันจนอ่วมทั่วหน้า พี่เกรลพอพันข้อเท้าเสร็จก็ถูกบ่นนิดหน่อยว่าทำอะไรไม่ระวัง ส่วนพวกผมที่มีอาการเลือดกยางออกนี้โดนด่าจนหูแทบแตก ดีที่อาจารย์หอเรานิสัยใจคอคล้ายๆกัน แถมยังเข้าใจนิสัยและบุคลิกของเด็กหอในแบล็ควูฟได้เป็นอย่างดี จึงไม่เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตมากนักหากยอมนั่งฟังคำแกบ่นจนกว่าจะพอใจได้ล่ะก็ วันนี้วันดีที่ผมจะได้เจอพี่สาวแบบสองต่อสอง ฉะนั้นกับอีแค่ปากแตกและหัวไหล่กับช่วงท้องช้ำเล็กน้อยนี้ไม่คณามือเลยบอกตรงๆ คนอื่นๆแยกย้ายไปพักผ่อนร่างกายตามคำแนะนำกันหมดแล้ว ส่วนผมกำลังนั่งรับลมพร้อมกับเอาน้ำแข็งประคบอยู่ตรงริมฝีปากเพื่อห้ามเลือดไปพลางๆ
ชาลอาสาไปเอาแฟลชไดท์ที่ดันลืมไว้บนห้องแบบด่วนจี๋ เพราะในนั้นมีเพลงซ้อมการแสดงและเต้นรำของผมในวันปิดงานกีฬาสีอยู่ เหลือผมคนเดียวที่ยังนั่งรับลมเย็นๆยามเย็นบนม้านั่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงยิมเท่าไหร่ แน่แหละที่สิงสถิตยิ่งมีไม่กี่จุดอยู่เดี๋ยวไปนั่งรอมั่วซั่วล่ะก็ มีหวังเจ้าชาลก็หาเหลือกกันพอดี เผลอแปปๆก็เกือบจะได้เวลานัด ไม่นานร่างของชายที่วิ่งกระหืดกระหอบก็ดังไล่ขึ้นมาเรื่อยๆพร้อมกับแฟลชไดท์สำคัญที่ต้องเอามาใช้ช่วงเย็นของวันนี้
“ ดูเหมือนโรงยิมจะไม่ว่างนะครับนายน้อย....ไปซ้อมเต้นรำที่ตึกดนตรีไม่ดีกว่าเหรอครับ ” เออ เจ้านี้ก็พูดมีเหตุผล แต่ประเด็นน่ะผมนัดพี่สาวไว้พร้อมระบุสถานที่ว่าต้องเป็นที่โรงยิมแล้วนี้น่ะสิ
“ เดี๋ยวพี่เขามาค่อยว่ากัน....หึๆ อ่าอากาศดีจัง ” เสียงเจือด้วยความอารมณ์ดีดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส ทำให้ชาลที่คอยรับใช้นายน้อยมาตั้งแต่เด็กๆรู้สึกพลอยมีความสุขไปด้วย ครอบครัวนายท่านแลนายน้อยเองมีพระคุณกับพ่อและเขาเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นการทำให้นายน้อยมีความสุขก็ถือเป็นการตอบแทนพระคุณได้เป็นอย่างดี
สองชั่วโมงผ่านไป
และเวลานั้นไวเหมือนโกหก....เมื่อคนที่กำลังรออย่างใจจดใจจ่อพบกับความผิดหวังที่ทำให้ถูกคอยจนเก้อ!!! นัดไว้สี่โมงเย็นนี้มันปาไปหกโมงกว่าแล้วแม่คุณยังไม่โผล่หัวโผล่หางมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย!!!!!
“ โว๊ยยยยยยยยยย!!! ไม่รงไม่รอมันแล้วเว้ย!!!!!! ” คนอารมณ์ดีกำลังเลือดลมเดือดพล่าน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองค้อนขวับราวกับระเบิดที่พร้อมจะปะทุ!!!
“นะ...นายน้อยครับ ” ราวกับเสียงเรียกของชายคนสนิทนั้นส่งไปไม่ถึง ร่างสูงที่กำลังหน้าบึ้งเดินลิ่วนำไปไกลโด่งสะแล้ว
ตึก ตึก ตึก
“ หลบสิวะ!!!!! ” เสียงของคนหงุดหงิดแล้วพาลดังขึ้นด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮากเต็มเหวี่ยง! สีหน้าคนกำลังอยู่ในโหมดอารมณ์ไม่จอยทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างส่งเสียงวี๊ดว๊ายกันให้จ้าละหวั่น พากันเดินหลบหลีกไม่อยากมีเรื่องด้วย
“ อ่า....ของขึ้นสะแล้ว” ชาลทำได้แต่อ้าปากพะงาบๆโดยที่ยังไม่ทันได้ออกแรงท้วงติงให้นายน้อยใจร่มๆ แต่ทว่าชายเลือดร้อนก็ดูเหมือนจะเดินดิ่วๆไปยังหอบลูอีเกลด้วยตัวเอง
ผมเดินฉับๆไปยังเขตของบลูอีเกลด้วยความรู้สึกที่โมโหจนถึงขีดสุด!!! เกิดมาไม่เคยต้องนั่งรอใครเท่าแม่นางคนนี้เลยสักนิด!!! แล้วดูสิ่งพี่แกทำกับผมเซ่!!!! สองชั่วโมงเลยนะเห้ยที่นั่งยิ้มแป้นจนดอกไม้ที่เบิ่งบานในใจตอนแรกนี้เหี่ยวจนไม่รู้จะเหี่ยวยังไง นัดไม่เป็นนัดปล่อยให้คนรอรอแล้วรอเล่ายังงี้ใช้ได้ที่ไหนวะ!!! เจอตัวเมื่อไหร่นะ หึ่มพ่อจะเล่นให้รึ่มหัวใจเลยคอยดูเถอะพับผ่า!!!! ร่างสูงเดินกวาดสายตามองร่างเล็กแต่ทว่ากลับไม่ยักเห็เลยสักมุมหนึ่ง จนกระทั่งเจอสาวเจ้ากลุ่มหนึ่งกำลังเดินผ่านมาทางนี้พอดิบพอดี! เขาจึงเข้าไปถามหาตัวต้นเหตุด้วยสีหน้าที่แทบจะแยกเขี้ยว
“ นี้เธอ.....!!!!! ”
(สะดุ้ง!!!!)
“ ว๊ายยยย เอ่อ....คะ ” สาวสองคนที่เดินจับคู่กันมาหลังจากเสร็จธุระที่หอสมุดส่วนกลางต่างพากันสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคนตรงหน้าเรียกด้วยน้ำเสียงกึ่งตวาดพลางถลึงตาใส่ด้วยท่าทีเกรี้ยวกราดเต็มทน
“ เลขาหอพวกเธออยู่ไหน.....” ร่างแกร่งถามพลางเท้าเอวด้วยสีหน้าที่ชักไม่สบอารมณ์ ฝีปากของสาวเจ้าทั้งคู่ยังไม่ทันได้ง้างปากตอบคำถาม ดูเหมือนว่าคนใจร้อนตรงหน้าจะยิ่งพาลหงุดหงิดจนเหวี่ยงอารมณ์ใส่ครั้งเป็นที่สอง
“ ฮันน่า เกรย์ เกรดสิบสองอยู่ไหน!!!!!? ”
(สะดุ้ง!!!!)
“ ว๊ายยยย...มะ...เมื่อกี้เห็นอยู่ที่หอสมุดค่ะ....” สาวบอกพร้อมกับมือไม้สั่นไปหมด
อยู่หอสมุดงั้นเหรอ....? ใบหน้าคมกำลังเบนความสนใจไปทางทิศของหอสมุดส่วนกลาง ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวดิ่วๆไปยังหอสมุดด้วยความว่องไว เสียงลอบถอนหายใจของสาวเนิร์ดคนหนึ่งดังขึ้นอย่างโล่งอกที่พวกตนไม่ได้มีเรื่องกับ P4หอแบล็ควูฟ ในขณะที่สาวเจ้าอีกผู้ยืนหน้าแดงกับความทะมัดทะแมงเมื่อครู่จนหน้าเห่อแดงไปจนถึงหู////
“ โหย ดีแค่ไหนที่ไม่ได้มีเรื่องกับหอแบล็ควูฟ คนอะไรหน้าตาก็ดีแต่พูดจาป่าเถื่อนชะมัด.....เนอะ ”
“ หะ หะ...อ่อ นั้นน่ะสิ...เล่นสะตกอกตกใจหมดเลย ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็รีบเออออเห็นด้วย
ประธานหอแบล็ควูฟงั้นเหรอ...? หน้าตาดี สูงสันทัด เก่งกีฬา แถมยังเด็ดขาด และยังได้ฉายาว่าหมาป่าไร้หัวใจอีก เท่ชะมัดเลยแหะ สาวช่างฝันแห่งบลูอีเกลนางหนึ่งนึกก่อนที่สายตาเจ้ากรรมจะแอบเหลือบไปมองชายหน้าคมที่ยังคงทิ้งกลิ่นน้ำหอมจากกายไว้จางๆยามที่เดินผ่านเธอไปเมื่อครู่
ผมสาวเท้ายาวๆของตนเองมาถึงหอสมุดส่วนกลางจนได้ เหล่าบรรดาเด็กหัวกะทิทั้งหลายหลากต่างเพ่งเล็งมาเป็นจุดเดียวกันพร้อมกับสีหน้างุนงงจนถึงขีดสุดว่า ไอ้หมอนี้มาทำอะไร แม้เปอร์เซ็นต์ในการจะเจอเด็กแบล็ควูฟโผล่มาที่นี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้แค่ไหนก็ตามเถอะ สีหน้าของผมตอนนี้ไม่รู้จริงๆว่าปั้นออกมาแบบไหนอยู่ แต่ที่รู้ๆคือเหล่าฝูงชนที่แออัดอยู่ขณะที่ตรงบริเวณบันไดและส่วนที่ยืนออรอลิฟต์นั้นรีบแหวกให้ผมผ่านไปราวกับรู้หน้าที่ ผมเดินขึ้นมาถึงหอสมุดประจำโรงเรียนจนได้และแน่นอนพี่สาวจะต้องซุกตัวอยู่ที่ไม่มุมใดก็มุมหนึ่งล่ะวะ!!! สายตาอำมหิตกวาดมองไปจนสะดุดเข้าที่ร่างบอบบางแสนมักคุ้นจนได้
เจอแล้ว.....เบี้ยวนัดมาอยู่ที่นี้น่ะเอง ว่าแล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ยกอยู่ที่ริมฝีปากพลางสาวเท้าเข้าไปหาเหยื่ออย่างใจเย็น สายตาทั่วบริเวณจับจ้องราวกับอย่างจะซุบซิบแค่ไหนก็ทำได้แค่ชะเง้อตามคนตัวสูงที่เดินหน้านิ่วเข้ามาประชิดด้านหลังของอีกฝ่ายเท่านั้น บรรณารักษ์เห็นทีท่านักเรียนที่มาใช้บริการเริ่มออกันเป็นจุดก็เลิกแว่นสายตาลงอย่างใคร่รู้ สักพักสายตาหวานที่กำลังอ่านตำราวิยาศาสตร์ศึกษาอยู่ก็ต้องสะบัดตามแรงที่กระชากข้อมือไปอย่างกะทันหัน สีหน้างุนงงเกิดขึ้นก่อนที่ดวงตาคู่โตจะเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าแรงมหาศาลที่กระชากข้อมือเธอให้หลุดจากตำราเล่มโปรดเป็นของใคร เรียวคิ้วก็กระตุกม้วนพร้อมกับขบริมฝีปากแน่น
หมับ!
“ ......!!!”
“ สวัสดี.... :)” เรือนผมสีบลอนต์ สีหน้านิ่งพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์แบบนี้ ไอ้เด็กบ้านี้มันชักจะไร้มารยาทกับรุ่นพี่มากเกินไปแล้ว!!
“ นี้นาย...ปล่อย!!!” คนตัวเล็กกว่าพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากพันธนาการ แต่ก็ไม่ได้ผลเปลี่ยนมาใช้มืออีกข้างช่วยงัดฝ่ามือหนาของอีกฝ่าย หมายจะให้อีกคนปล่อยข้อมือที่ฉุดยื้ออยู่
พี่เขาไม่รู้รึยังไงนะว่าการทำแบบนั้น....มันไม่ได้ช่วยให้หลุดจากคนที่เก่งศิลปะการป้องกันตัวแบบผมเลย คนตัวโตยิ้มพร้อมกับแค่นหัวเราะก่อนที่เปรยปาก
“ โอ้....ยังงี้ก็แหล่มน่ะสิ”
หมับ!
“……..!!!!?” เสร็จกัน!!! รวบไปทั้งสองมือเฉยเลย!!!!? สีหน้าตกใจจนถึงขีดสุดของหญิงที่ดื้อดึง เมื่อพบว่าตัวเองโง่ที่ดันเผลอไปเปิดช่องให้เข้าทาง เสียงขบฟันกรอดดังขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาที่มองค้อนขวับ รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้าคมเมื่อเห็นหญิงหน้านิ่งตรงหน้ากำลังแยกเขี้ยวใส่ เมื่อร่างสูงรวบฝ่ามือเล็กทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยมือเดียวได้สำเร็จก็ออกแรงฉุดกระชากกึ่งลากกึ่งจูงออกมาทั้งๆยังงั้น!
“ หึๆ...” เสียงแค่นหัวเราะในลำคอดังขึ้นจากคนตรงหน้าพลางไม่แยแสกับการกระทำอันเปล่าประโยชน์ของอีกคนที่มานะพยายามจะหลุดจากพันธนาการของตนเลยแม้แต่น้อย
“ เชิญดิ้นต่อตามสบาย...แล้วพี่จะได้รู้ว่ามัน เปล่าประโยชน์ ” คำที่เน้นย้ำยิ่งกระตุ้นความโมโหของอีกคนได้มากโขทีเดียว น้ำเสียงกลั๊วหัวเราะที่ดังอยู่เนืองๆทำให้ฮันน่ายิ่งขบฟันกรอด!!!
หน็อยไอ้เด็กบ้านี้!!!! ว่าแล้วตัวเธอก็ออกแรงยื้อมากขึ้นพลางพยายามจะเพิ่มแรงต้านด้วยการเบรกตัวเองให้ไม่ย่างก้าวตาม แต่ทว่านั้นกลับไม่ได้ผลเลยสักนิด
“ นายเทอร์เนอร์!!!! ” เสียงตวาดเรียกชื่อด้วยความลำคาญแต่ดูเหมือนว่าเจ้ารุ่นน้องหน้าหนาคนนนี้จะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด! นำเสียงที่ดังขึ้นอย่างลืมตัว เรียกความสนใจให้เหล่าชายหญิงที่มุงดูอยู่ได้เป้นอย่างดี ต่อไปคงได้มีข่าวลือบ้าๆแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียนแน่ๆ !!
“ ถ้าจะเสียงดังเชิญออกไปคุยกันข้างนอก.....” ว่าแล้วเสียงเอ็ดของอาจารย์บรรณารักษ์ดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่บึ้งตึงหลังจากได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากเด็กทุนคนดังของโรงเรียน เมื่อได้ยินเสียงดุเข้าทางดังมาจากท่านอาจารย์อาวุโสก็ยิ่งทำให้ร่างสูงยิ้มรับพร้อมกับค้อมตัวขอโทษกลายๆพลางลากร่างน้อยออกไปอย่างว่าง่าย
“ จะพาฉันไปไหน!!! นี้....!!!! ”
“ ทางนี้มันไม่ใช่โรงยิมนะ!!! เทอร์เนอร์!!!! ฉันแก่กว่านายนะตอบคำถามเดี๋ยวนี้!!!!!! ”
“ เห้อออออ.....” ไอ้เด็กบ้า
ฮันน่า เกรย์เริ่มเหนื่อยอ่อนเพราะไม่ว่าคนข้างหลังจะตะโกนแหกปากอะไรก็ดูเหมือนจะเป็นการกระทำอันเหนื่อยเปล่า นอกจากจะเจ็บคอแล้วยังเจ็บมือแถมยังสร้างจุดสนใจให้คนโดยรอบหันมาทอดมองอีกต่างหาก และแล้วดูเหมือนว่าสาวจอมพยศก็เริ่มที่จะสงบปากสงบคำพร้อมกับเดินตามเจ้าคนบ้าพลังไปโดยง่าย จะพาไปไหนก็ไปเหอะ ขี้เกียจจะถาม สาวเจ้านึกพร้อมกับเดินตามต้อยๆ
เลิกดิ้นแล้วเหรอ?
ตึกตัก ตึกตั่ก....
ตึกตัก ตึกตั่ก…
เมื่อเห็นปฎิกิริยาที่อ่อนโอนลงคล้ายกับว่าตอนนี้สาวเจ้าเป็นฝ่ายเดินตามหลังเขาโดยไม่ได้ปริปากอะไรอีกต่อไป รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นพร้อมกับความคิดบางอย่าง ท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมดวงใจที่กำลังสั่นไหวกลับดังสะท้อนก้องอยู่ในร่างของผู้เป็นเจ้าของ จนไม่อยากให้หญิงที่เดินตามอยู่ด้านหลังได้รับรู้ สายตาคมทอดมองไปข้างหน้าในขณะที่ดวงจิตยังจดจ่ออยู่ที่สัมผัสนิ่มๆที่ครอบครอง ใจมันก็ยิ่งเต้นตึกตักขึ้นมาสะยังงั้น.... หวังว่าผมจะยังหันหลังทั้งๆแบบนี้โดยที่พี่สาวไม่มีวันได้เห็นก็คงจะดี ตอนนี้ชักไม่อยากให้ถึงตึกดนตรีเลยแหะ ให้ตายซิ หุบยิ้มเอาไว้ไม่อยู่เลย////
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
