คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 2 ต้นเหตุแห่งรัก (3)
ความเคียดขึงอย่างกระจายอยู่บนใบหน้าขณะที่อุรัสยาก้าวเท้าไปตามทางเดินทางเดินในคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยจังหวะสม่ำเสมอ
คฤหาสน์โปรโดส เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนตั้งอยู่บนพื้นที่มหาศาลใจกลางเมืองรีโอเดจาเนโร เมืองที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ตัวบ้านสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเด่มผสมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัวห้องโถงและทางเดินในบ้านถูกตกแต่งสไตล์ร่วมสมัยเน้นความหรูหรา คุมด้วยโทนสีขาว เทา และครีมตั้งแต่การแต่งแตงไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ พื้นห้องโถงปูด้วยหินอ่อนชั้นดี เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกจัดวางและตกแต่งผสมผสานกลมกลืนกันอย่างมีรสนิยม ส่วนห้องนอนในบ้านจะถูกตกแต่งและใช้สีตามความชอบของผู้เป็นเจ้าของห้อง อย่างเช่นห้องเธอทั้งสีห้อง และเฟอร์นิเจอร์จะถูกคลุมโทนด้วยครีมและชมพูเบจ ส่วนห้องของคริสเตียนที่เธอเพิ่งย้ายมาอยู่จะถูกตกแต่งด้วยสีน้ำตาลอ่อน สีครีม และเขียวให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย
“อ้าว คุณเอื้อทำไมตื่นเช้าจังครับ”
เสียงเฮนรี่พ่อบ้านที่คอยดูแลบ้านหลังนี้มานานพอๆ กับอายุของบ้านหลังนี้เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นอุรัสยาสาวเท้าเข้ามาในห้องอาหาร สีหน้าล้อเลียนของอีกฝ่ายทำให้หน้าของเธอแดงจัดทั้งๆ ที่รู้ดีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายเข้าใจไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง
“มันชินน่ะคะ คุณลุงล่ะคะ” อุรัสยาตอบคำถามของอีกฝ่าย ก่อนจะถามหาคนที่ต้องการพบทันที จิตใจของเธอมันร้อนรุ่มมาทั้งคืน และตอนนี้ก็ไม่อยากรีรออะไรอีกแล้ว
“ต้องเรียกคุณพ่อสิครับถึงจะถูก”
“ก็เรียกแบบนี้มาตั้งสิบกว่าปีนี่คะ มันติดปากน่ะคะ”
“ต่อจากนี้ต้องฝึกเรียกคุณพ่อให้ชินแล้วนะครับ”
พ่อบ้านสูงวัยเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มใจดี แต่อุรัสยากลับยิ้มไม่ออก เพราะเธอไม่เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมตัวเองต้องฝึกเรียกผู้มีอำนาจมากที่สุดในบ้านหลังนี้ว่าคุณพ่อให้ชิน เพราะแค่วันเดียวสถานะใหม่ของเธอก็ไม่มั่นคงเสียแล้ว และถ้าเมื่อไรที่ระหว่างเธอกับเขาต้องจบลงจริงๆ ยังไงเธอก็ต้องกลับไปเรียกท่านว่าคุณลุงอยู่ดี
“คุณท่านเดินทางไปต่างประเทศครับ” เพราะเห็นอุรัสยาเงียบไป เฮนรี่จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ไปต่างประเทศหรือคะ ไปตั้งแต่เมื่อไร” อุรัสยาขมวดคิ้ว ก็เมื่อคืนจวบจนงานเลี้ยงใกล้เลิกเธอยังเห็นท่านอยู่ในงานอยู่เลย แล้วเป็นไงมาไงวันนี้ท่านถึงได้เดินทางไปต่างประเทศได้
“ใช่ครับ เห็นบอกว่าเพื่อนชวนไปเที่ยวรอบโลก ท่านให้ผมจัดข้าวของสำหรับเดินทางไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน พองานเลี้ยงเมื่อคืนเลิก ท่านก็ออกเดินทางเลยครับ ตอนนี้คงกำลังอยู่บนเครื่อง”
“งั้นก็ยังโทรหาไม่ได้สินะคะ” อุรัสยาถามก่อนจะกัดริมฝีปากอย่างคิดไม่ตก
“น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ แต่ท่านฝากข้อความถึงคุณเอื้อด้วยนะครับ”
“ข้อความอะไรคะ”
“คุณท่านสั่งไว้ว่า ถ้าเช้านี้คุณเอื้อถามถึงท่านให้ผมบอกคุณว่า สิ่งที่คุณคริสเตียนสั่งให้ทำ ให้คุณตอบคุณคริสเตียนไปว่ารอให้ครบหนึ่งปีก่อนครับ แล้วก็มีข้อแม้ด้วยข้อหนึ่ง”
“ข้อแม้อะไรคะ”
“ข้อแม้ที่ว่าก็คือ...”
อุรัสยาไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไงกับคำตอบที่ได้ และข้อแม้ที่ได้ฟัง ถามว่ามันทำให้ความหนักหน่วงในใจของเธอคลายลงได้ไหม คำตอบก็คือ ‘ไม่’ คำตอบที่ได้ไม่ได้ทำให้เธอสบายใจขึ้นเลยสักนิด
แต่ถ้าให้บอกว่ามันทำให้หัวใจของเธอหนักอึ้งขึ้นอีก เธอก็ตอบว่า ‘ใช่’ ไม่ได้อีกเช่นกัน
เธอไม่รู้ว่าตัวเองอยากให้ฐานะสามีภรรยาของเธอกับเขามันจบลงเสียเดี๋ยวนี้ให้มันจบๆ กันไป หรือยื้อมันต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ตัวเองได้อยู่ข้างๆ เขาให้นานที่สุด เธอไม่รู้เลยว่าแบบไหนที่ตัวเองต้องการ และแบบไหนที่มันจะทำให้เธอเจ็บปวดน้อยกว่ากัน
“เช้านี้มีอะไรกินบ้างครับลุง อ้าวเอื้อตื่นแล้วเหรอ”
คาร์ลอสที่สาวเท้าเข้ามาในห้องอาหารเอ่ยทักพ่อบ้านสูงวัย ก่อนจะหันมาทักอุรัสยาที่ยืนขมวดคิ้วพยายามคิดหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง
เมื่อคนที่ถูกทักไม่มีท่าทีว่าจะรับรู้ถึงการมาของเขา ชายหนุ่มก็เดินเข้าไปใกล้ยกมือหนาขึ้นวางกลางศีรษะเล็กของคนหน้ายุ่ง ก่อนก้มลงไปจะเอ่ยเรียกชื่อคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวใกล้ๆ ใบหูเล็ก
“เอื้อ”
“อุ้ย! พี่คาร์ล” มือหนาอบอุ่นที่แตะลงบนศีรษะ และเสียงที่ดังขึ้นข้างหูทำให้อุรัสยาสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ ความคิดที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกราวกับอากาศรอบตัวอันตรธานหายไป “เอื้อคิดว่าพี่กลับสเปนตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเสียอีก”
“เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย ว่าแต่เราเถอะ เหม่ออะไรอยู่ พี่เรียกตั้งนานกว่าจะได้ยิน”
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะคะ”
“ไม่เรื่อยเปื่อยล่ะมั้ง หน้าเครียดเชียว มีอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงของคาร์ลอสอบอุ่นและอัดแน่นไปด้วยความห่วงใย
ฝากผลงาน แนวเจ้าพ่อ มาเฟีย ไว้สักเรื่องจ้า
ความคิดเห็น