ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 4 (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.19K
      31
      1 ส.ค. 64

    รัตน์วลีสาวเท้าเปลือยเปล่าตรงไปยังราวระเบียง แต่ยิ่งเข้าใกล้ระเบียงมากเท่าไรขาของเธอก็ยิ่งสั่นมากขึ้นเท่านั้น ใจมันหวิวๆ สั่นๆ หูอื้ออึงไปหมด

    “มันไม่ได้สูงสักหน่อย ไม่เห็นน่ากลัวเลยสักนิด” รัตน์วลีประซิบปลอบใจตัวเองพลางก้าวเท้าไปจนร่างชิดกับราวระเบียง ทว่าปากของเธอพูดออกมาอย่างนั้นแต่ในใจกลับร้องลั่นว่า... ‘ไม่น่ากลัว มันไม่สูงตรงไหนเนี่ย!’ และความคิดนั้นก็ทำให้เธอก้าวถอยหลังสองก้าว

    “เธอทำได้อยู่แล้ว” หญิงสาวพยายามเกลี่ยกล่อมตัวเองอีกครั้ง หญิงสาวสูดหายใจก่อนจะสาวเท้าไปข้างหน้า เธอหลับตาปี๋ตอนที่ใช้มือสั่นๆ ผูกผ้าปูที่นอนกับราวระเบียง สาบเสื้อแหวกออกถูกลืมไปชั่วขณะ เมื่อความนึกคิดถูกความหวาดกลัวเข้าควบคุมจนหมด

    หญิงสาวยืดตัวขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึกเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ ก่อนจะเอื้อมมือบางสั่นเทาทั้งสองข้างไปจับราวระเบียงเอาไว้

    “อย่ามองลงไป... อย่ามองลงไป... อย่ามองลงไป...” ริมฝีปากที่ยังไม่หายบวมเจ่อขมุบขมิบท่องคำเดิมซ้ำๆ ระว่างที่ปีนข้ามราวระเบียงไปอยู่อีกฝั่ง เธอวางเท้าไว้บนขอบปูนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน ทุกอย่างเป็นไปอย่างเชื่องช้าเมื่อร่างของเธอสั่นและชาไปทั้งร่าง มือเล็กเปลี่ยนจากจับราวระเบียงไปจับผ้าปูที่นอนที่ผูกเอาไว้ 

    “ทำบ้าอะไรของเธอ!”

    “กรี๊ด!!!” เพราะเสียงตะคอกที่ดังขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ร่างเล็กที่กำลังค่อยๆ เลื่อนเท้าออกไปสู่ความว่างเปล่าอย่างระมัดระวัง ร่วงผลุบลงไปห้อยอยู่กลางอากาศเพราะความตกใจ 

    นัยน์ตากลมโตหลุบลงมองพื้นแข็งๆ ด้านล่างก่อนจะหลับตาแน่นด้วยความหวั่นใจ

    “ลืมตาแล้วก็ไต่ลงไปสิ”

    “...” รัตน์วลีกอดผ้าปูที่นอนไว้แน่น ดวงตากลมโตยังปิดสนิทขณะใบหน้าหวานส่ายไปมาสื่อความหมายว่า ‘เธอทำอย่างที่เขาบอกไม่ได้”

     “งั้นก็จับไว้แน่นๆ  เดี๋ยวฉันจะดึงเธอขึ้นมา”

    “...” รัตน์วลียังหลับตาแน่นแล้วส่ายหน้าไปมาเหมือนเดิม ‘ก็เธอลงมาได้ขนาดนี้ ขึ้นไปอีกที่ทำมาทั้งหมดก็ไร้ความหมายน่ะสิ’

    “โธ่เว้ย!” 

    เสียงสบถลั่นทำให้คนที่ห้อยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศสะดุ้ง แรงกระตุกที่เกิดขึ้นจากการตกใจทำให้ปมผ้าปูที่มัดไว้กับระเบียงหลุด ส่งผลให้ร่างเล็กลอยระลิ่วลงสู่พื้นเบื้องล่างต่อหน้าต่อตาคนที่พยายามคว้าปลายผ้าปูที่นอนอีกด้านไว้ทว่ากลับไม่ทัน

    “กรี๊ด!!!”

    “รัตน์!!!”

    เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงหวีดร้อง

    “เป็นอะไรหรือเปล่า” ร่างเล็กที่กองอยู่บนพื้นนิ่งสนิทจนเอริคใจเสีย ชายหนุ่มร้องถาม แต่เมื่อเห็นคนที่ยังนอนนิ่ง หลับตาแน่น ส่ายหน้าไปมาเขาก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก 

    “แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร”

    เขาถามอีกครั้งเมื่อคนที่ส่ายหน้ายังไม่ยอมขยับตัว หญิงสาวทำเพียงพยักหน้ารับ แต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัวเช่นเดิม

    “แล้วทำไมไม่ขยับตัว” 

    “...” รัตน์วลีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ก็ยอมขยับกายลุกขึ้นนั่งแต่โดยดี แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ทำเพียงแค่ลุกขึ้นนั่งแต่ก็ไม่ได้ขยับกายไปไหน

    “ไม่เป็นอะไรก็ไปจากตรงนี้เสียที อยากให้คนอื่นมาเห็นหรือไง หรือคิดจะเรียกร้องความสนใจ”

    “แล้วเรียกได้ไหมล่ะ” พอตั้งสติได้ และรับรู้ว่าตัวเองกลับมาอยู่บนพื้นแล้ว คนที่นั่งตัวสั่นอยู่บนพื้นก็กลับมาปากเก่งเหมือนเดิม

    “ถ้าฝันอยู่ก็ตื่นซะ”

    “จริงเหรอคะ แล้วที่พี่ยังยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงฉันหรือไง”

    “เฮอะ! ฉันเนี่ยนะห่วงเธอ ถ้าเธอตายอยู่ตรงนั้น ฉันก็กลายเป็นฆาตกรน่ะสิ” พูดจบเอริคก็สาวเท้ากลับเข้าห้องทันที ชายหนุ่มเลื่อนประตูปิดจนเกิดเสียงดังอย่างหงุดหงิด

    คำว่า ‘ห่วง’ ของรัตน์วลีสะกิดใจอย่างรุนแรง 

    เขาเนี่ยนะ ห่วงเธอ ไม่หรอก เขาห่วงก็จริง แต่ห่วงว่าถ้าเกิดเธอเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ หลักฐานนิ้วมือเขาเต็มระเบียงไปหมดแบบนี้ เขาคงตกกลายเป็นฆาตกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจากสภาพเธอตอนนี้เขาคงเป็นฆาตกรที่พยายามข่มขื่นก่อนฆ่าด้วย

     

    พอร่างสูงลับหายไปจากระเบียงรัตน์วลีก็ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ หญิงสาวค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นยืน

    “โอ้ย!”

    เสียงร้องอย่างเจ็บปวดที่ดังขึ้นเป็นเพียงเสียงแผ่วเบาและอู้อี้เมื่อเจ้าของเสียงกัดริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น จากที่เธอคำนวณไว้ตั้งแต่ต้น ความสูงจากพื้นถึงระเบียง ลบด้วยความยาวของผ้าปูที่นอน ความสูงของเธอ และความยาวช่วงแขน ถ้าเป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้ แม้ว่าเท้าจะไม่ถึงพื้น แต่ความสูงก็แค่เมตรนิดๆ ถึงจะตกลงมาก็คงเจ็บไม่มาก นั่นหมายถึงหากเธอไต่ลงมาได้จนสุดปลายผ้าปูได้นะ ไม่ใช่ตกลงมาตั้งแต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากผ้าปูที่นอนเลยสักนิดแบบนี้

    ตอนตกลงมาเธอทั้งกลัวทั้งตกใจ เลยจำไม่ได้ว่าลงมาอีท่าไหน รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้บั้นท้ายของเธอเจ็บระบมไปหมด แต่ที่หนักยิ่งกว่าก็คือข้อมือด้านขวา มันรู้สึกปวดและร้าวไปหมด จนเธอไม่รู้ว่าหากต้องขยับไปจากที่ตรงนี้ในตอนนั้นตอนที่...

    “ไม่เป็นอะไรก็ไปจากตรงนี้เสียที อยากให้คนอื่นมาเห็นหรือไง หรือคิดจะเรียกร้องความสนใจ”

    ถูกตะคอกใส่แบบนั้นเธอจะเธอจะตีหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สาใดๆ กับความเจ็บปวดที่รุมเร้าได้ไหม แค่ต้องถูกเขาดูถูกดูแคลนที่ทำตัวเหมือนผู้หญิงไร้ยางอายย่องเข้าห้องผู้ชาย ถูกไล่ตะเพิดออกมาอย่างกับหมูกับหมา เธอก็อับอายมากพออยู่แล้ว ไม่ต้องให้เขามาสมเพช หรือหาว่าเธอเรียกร้องความสนใจจากเขาอีก เพราะเธอไม่เคยคิดจะทำอย่างนั้นเลยสักนิด เธอไม่เคยอยากได้ความสนใจ ไม่เคยอยากได้ความเห็นใจจากเขา เขาอยู่ส่วนเขา เธออยู่ส่วนเธอ แบบที่เป็นตลอดมาก็ดีอยู่แล้ว 

     

     E-book เรื่อง “ปรารถนารักจอมทมิฬ” วางขายแล้วค่ะ โปรโมชั่นคุ้มๆ เพียง 159 บาท หมดโปรขาย 229 บาท

    รีบโหลดก่อนโปรหมดนะคะ >>>โหลดอีบุ๊กคลิ๊กตรงนี้<<<

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×