ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.86K
      39
      15 ก.ค. 64

    พระจันทร์สีเหลืองนวลส่องสว่างอยู่กลางท้องฟ้าสีทมิฬได้เกือบชั่วโมงแล้วตอนที่โรลส์รอยซ์สีน้ำเงินเข้มวาววับแล่นเข้ามาตามถนนซึ่งทอดยาวสู่ตัวคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียว สวนกุหลาบที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง และต้นไม้ใหญ่น้อยที่คอยให้ร่มเงายามเมื่อแสงอาทิตย์ร้อนแรงราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้

    น้ำพุที่สะท้อนแสงไฟสีส้มนวลพวยพุงขึ้นสู่ฟ้า รูปปั้นม้าสีดำเท่าขนาดจริงแปดตัวตั้งอยู่กลางลานน้ำพุ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ความรุ่งเรือง ความสำเร็จ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบเป็นแหล่งอาศัยแห่งนี้บ่งบอกถึงความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี

    ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงในชุดสูทสีกรมท่าก้าวลงจากรถสปอร์ตคันหรูที่จอดสนิทหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบกายก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อพบกับความเงียบสนิท และไร้ผู้คน ชายหนุ่มเก็บความความสงสัยไว้แล้วก้าวเท้าในรองเท้าหนังราคาแพงเข้าไปในคฤหาสน์ที่ทำด้วยหินอ่อนทั้งหลัง

    คงเป็นเพราะเสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นหินอ่อนที่ดังขึ้นจากการก้าวเดินของเขาที่ทำให้บทสนทนาระหว่างชายสูงวัยกับหญิงวัยกลางคนชะงักลง

    “มาพอดี ไปกินข้าวกัน” นัยน์ตาสีเทาคมปลาบตวัดมองไปที่ร่างของลูกชาย รอยยิ้มบางๆ ถูกคลี่ยิ้มบนริมฝีปากตอนที่เอ่ยชวน ร่างสูงที่โรยราตามวัยลุกขึ้นจากโซฟาโดยมีภรรยาที่มีอายุห่างกันถึงสิบเก้าปี[KC1] ช่วยประคับประคอง

    “พ่อบอกมีเรื่องจะคุยกับผม” เอริคพูดขึ้นพลางเหลือบตามองร่างอวบอิ่มของหญิงวัยสี่สิบหกปีผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงแวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวตามร่างสูงวัยของผู้เป็นพ่อเข้าไปในห้องอาหารอย่างไม่มีทางเลือก

    “ถ้าไม่อ้างว่ามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย เราก็คงไม่มีเวลาว่างมากินข้าวกับพ่อสักมื้อน่ะสิ ช่วงนี้งานยุ่งมากเลยหรือไงถึงได้ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง”

    “ก็ประมาณนั้นครับ” เอริคตอบผู้เป็นบิดาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย นัยน์ตาเทาสบประสานกับนัยน์ตาสีเดียวกันแต่มากประสบการณ์กว่าที่มองมาราวกับจะแสกนให้เห็นถึงความคิดที่ซ่อนอยู่ในใจไม่หลบ ความคิดและความรู้สึกทุกอย่างถูกฉาบไว้ด้วยความว่างเปล่าไร้ความรู้สึก

    เขาไม่มีทางให้ใครได้รู้เป็นแน่ว่าทำไมช่วงนี้เขาได้เลือกพักที่คอนโดแทนที่จะกลับมานอนบ้านอย่างเช่นที่ทำมาตลอด เพราะเขาคิดว่าเหตุผลที่ทำให้เขาทำอย่างนั้นมันงี่เง่าเกินกว่าที่จะบอกออกไป 

    “บริษัทมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

    “เปล่าครับ บริษัทไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่ตอนนี้ผมคิดว่าเราควรจะขยายสาขาเพิ่ม” 

    แกรนด์เอ็นเตอร์ไพรส์กรุ๊ป เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาอยู่เกือบทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเขากับไรอันน้องชายฝาแฝดแบ่งกันดูแล โดยไรอันจะคอยดูแลสาขาที่อเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย ส่วนเขาก็ดูสาขาที่อยู่ในทวีปเอเชีย แอฟริกา แอนตาร์กติกา เนื่องจากอันตราค่าเข้าพัก การใช้บริการโรงแรม หรือแม้แต่การซื้อขายรีสอร์ท บ้าน หรือคอนโด จากบริษัทแกรนด์เอนเตอร์ไพรส์ค่อนข้างสูง ทำให้สถานที่ที่แกรนด์เอ็นเตอร์ไพรส์เข้าไปลงทุนสร้างอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดจะเป็นย่านที่เหล่าคนมีเงินเหลือกินเหลือใช้อาศัยอยู่กัน

    และอสังหาริมทรัพย์เท่าที่มีอยู่ในครอบครองตอนนี้ก็แทบดูแลไม่ทั่วถึงแล้ว ทว่าเขากลับคิดจะสร้างรีสอร์ทเพิ่มขึ้นอีกสักแห่ง นั่นเป็นเพราะการหาอะไรทำให้ยุ่งเข้าไว้ทำให้เขาไม่ต้องคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องหลีกเลี่ยงกับการพบเจอกับใครบางคนที่ทำให้เขาสับสนเสียจนไม่อยากกลับมาที่บ้านหลังนี้

    “เงินแค่ที่มีอยู่ก็มากเกินกว่าจะใช้หมดแล้ว ลูกควรใช้เวลาที่มีค่าหาความสุขให้กับตัวเอง”

    “มันก็ไม่แน่หรอกครับ” น้ำเสียงที่เคยราบเรียบติดจะหยันขึ้นนิดหนึ่งตอนที่เหลือบไปมองร่างสมส่วนของคนที่ยุ่งอยู่กับการจัดแจงแก้วน้ำและแก้วไวน์อยู่ตรงตำแหน่งหัวโต๊ะซึ่งเป็นที่นั่งประจำของโรเจอร์นายใหญ่ของบ้าน  คนถูกปลายตามองชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เพียงครู่เดียวหญิงวัยกลางคนที่ยังงดงามตามวัยก็ตีหน้าเรียบทำราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด

    โรเจอร์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ กับคำพูดที่ออกจากปากของลูกชาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีต่อกี่ปีความคิดของเอริคที่มีต่อกานต์สินีก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด แม้ว่าตอนนี้สีหน้าของเอริคจะไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมา ท่าทีก็ไม่ได้ต่อต้านเหมือนตอนที่ยังเด็ก แต่เขารู้ดีว่าภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย ท่าทีไม่ใส่ใจใยดีนั้น ซ่อนความรู้สึกเกลียดชังไว้อย่างมากมายเพียงใด 

    เขาเข้าใจความรู้สึกของลูกชาย ทว่าก็รู้สึกเห็นใจกานต์สินีจับใจ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่รับรู้ ไม่ตอบโต้มาโดยตลอด เขารู้ว่าเธอทำอย่างนั้นก็เพื่อให้เขาสบายใจ เขาเองทำผิดต่อเธอมามาก ทำให้เธอสูญเสียมาก็มาก มากเสียจนไม่รู้ว่าชาตินี้จะชดใช้ให้เธอได้หมดไหม แต่เขาก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมเสียลูกชายไปเพื่อเธอ ระหว่างเธอกับลูกชายเขาเลือกไม่ได้จริงๆ สิ่งเดียวที่เขาจะตอบแทนเธอได้ก็คือ ถ้าเธอทำอะไรแล้วสบายใจเขาก็จะไม่ขัด เธอต้องการอะไรเขาก็หาให้เธอทุกอย่าง แต่ดูเหมือนการทำอย่างนั้นยิ่งทำให้เอริคเกลียดกานต์สินีมากขึ้น และพาลเกลียดไปถึงรัตน์วลีที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องผิดพลาดระหว่างเขา กานต์สินี และเอมิเลียอดีตภรรยาหรือแม่ของเอริคเลยแม้แต่น้อย 

    และไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเปิดใจคุยกับเอริค หลายครั้งที่เขาพยายามจะคุยเรื่องนี้ พยายามพูดให้เอริคเข้าใจในตัวกานต์สินี แต่บทสรุปของทุกครั้งก็คือความเงียบ เอริคไม่เคยตอบโต้กลับมา ไม่เคยบอกว่าตนคิดอย่างไร ไม่เคยบอกว่าเชื่อสิ่งที่เขาอธิบายไหม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้คำตอบได้เป็นอย่างดี เขารู้มีเพียงเหตุผลเดียวที่เขาจะทำให้เอริคเข้าใจในตัวของกานต์สินี ทว่าเขาก็รู้ดีว่าเหตุผลนั้นอาจทำร้ายเอริคมากกว่าเดิม สิ่งที่เขาเลือกทำเพื่อความสุขของตัวเองทำร้ายคนมาหลายคน เขาไม่อยากให้ความเห็นแก่ตัวของเขาทำให้ใครต้องมาเจ็บปวดอีก โดยเฉพาะเมื่อคนคนนั้นคือคนที่เขารัก

    “นั่งเถอะค่ะ จะได้กินข้าว” กานต์สินีพูดขึ้นเพื่อทำลายความอึมครึมที่เกิดขึ้นจากความเงียบกริบที่เข้ามาครอบคลุม

    “ถ้าพ่อไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ ผมต้องรีบกลับไปทำงาน” เอริคพูดขึ้น นัยน์ตาสีเทาไม่แม้แต่เหลือบแลไปยังแม่เลี้ยงที่มีอายุห่างจากตัวเองเพียงสิบสี่ปี ทำราวกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่ในนี้

    “ไหนๆ ก็กลับมาแล้ววันนี้ก็อยู่บ้านเถอะค่ะ หรือกินข้าวก่อนค่อยกลับไปทำงานก็ได้” 

    กานต์สินีพูดขึ้นอีกทำเป็นไม่สนใจท่าทางของเอริคที่ทำราวกับตัวเองเป็นแค่อากาศธาตุ แต่เอริคก็ยังทำเหมือนเดิมเขาไม่ได้หันไปมองที่เธอ และทำเหมือนเสียงหวานนุ่มที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนนั้นเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไป ร่างสูงแกร่งหมุนตัวเพื่อเดินออกจากห้องอาหาร แต่เสียงของโรเจอร์ก็หยุดเขาไว้

    “กินข้าวกับพ่อสักมื้อไม่ได้เลยหรือไงไอ้เสือ นั่งๆ วันนี้มีแต่กับข้าวอร่อยๆ ทั้งนั้น” โรเจอร์เลื่อนเก้าอี้ตัวถัดจากหัวโต๊ะออก แล้วหันไปดึงเก้าอี้ตัวที่ตัวเองนั่งประจำออก ทรุดกายลงนั่ง นัยน์ตาคมมองไปยังเก้าอี้ตัวที่ถูกเลื่อนทิ้งไว้ ก่อนตวัดนัยน์ตาสีเทาที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ไปยังใบหน้าคมคายของลูกชาย 

    “...” เอริคอ้าปากขึ้นกำลังจะปฏิเสธ แต่เก้าอี้ที่ถูกเลื่อนออกด้วยฝีมือบิดาและนัยน์ตาที่ต้องมองมาก็ทำให้เขาต้องชะงักคำพูด แล้วเดินกลับมาทรุดกายลงนั่งอย่างไม่มีทางเลือก

    “ว่าแต่โครงการใหม่ที่กำลังจะทำ ตั้งใจจะสร้างที่ไหนล่ะ” 

    “ตอนนี้กำลังดูๆ อยู่ครับ ยังไม่ได้ตัดสินใจ”

    “หายไปเป็นเดือนๆ แน่ใจนะว่าเพราะโครงการใหม่อย่างเดียว ไม่ได้ไปติดสาวที่ไหน” 

     “เปล่าครับ ไม่มี”

    “ฮึ แน่ใจนะ” ตอนแรกโรเจอร์ตั้งใจแซ็วลูกชายเล่นๆ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมากลับถูกตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจังเหลือเกิน จนคนเป็นพ่ออดเย้าต่อไม่ได้

    “ถ้ามี...”

    “รัตน์ตักข้าวได้เลยจ้ะ”

    ถ้อยคำจริงจังถูกชะงักลงเมื่อเสียงเรียกชื่อเบาๆ ที่ออกมาจากปากของคนที่เขาทำราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้เข้ามาในโสตประสาท

    “...พ่อก็คงเห็นข่าวแล้ว ถ้าไม่มีข่าวก็แสดงว่าไม่มีจริงๆ พ่อก็รู้ว่าถ้ามีผมก็ไม่เคยปิด” แต่นัยน์ตามากประสบการณ์ที่เริ่มปรากฏแววแคลงใจที่จ้องมองมาก็ทำให้เอริครีบต่อประโยคที่พูดไม่จบ

    “แก้ตัวซะยาวเชียว” คำพูดเหยียดยาวที่ยาวกว่าปกติของลูกชายทำให้โรเจอร์อดกระเซ้าไม่ได้

    “แค่พูดเรื่องจริง” และคำพูดนั้นก็ทำให้คนไม่ชอบพูดมากรู้ตัว 

    “พอแล้วล่ะ หนูรัตน์” 

    “ค่ะคุณลุง”

    “...” เสียงตอบรับแผ่วเบาทำให้เอริคอดเหลือบตามองใบหน้าของเจ้าของเสียงหวานใสนั้นทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พยายามจะไม่มองไม่ได้ 

    วันนี้หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนขายาวทรงบอยขาดๆ สีซีด เส้นสมสีน้ำตาลธรรมชาติที่ถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยอยู่กลางศีรษะหลุดลุ่ยออกมาระใบหน้าเนียนใส เครื่องหน้าจิ้มลิ้มน่ามองแม้ว่าจะไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม ผิวนวลเนียนละเอียดบวกกับรูปร่างโปร่งบางทำให้เธอดูน่าทะนุถนอม 

    เธอไม่ได้แต่งหน้าเหมือนคืนนั้น และกลับมาใส่เสื้อผ้าแฟชั่นที่เขาไม่เคยบอกว่ามันสวย แต่เขากลับมองเธอเป็นเด็กกะโปโลปากจัดอย่างที่เคยมองมาตลอดไม่ได้ เขาไม่เคยสังเกตและก็ไม่รู้เลยว่านานเท่าไรแล้วที่เด็กหญิงซุ่มซ่ามจอมโวยวายคนนั้นเติบโตเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนไปตั้งแต่เมื่อไรกัน


    ‘ซีรีส์ชุดไฟเสน่หา’ โดย ‘สุนิตย์’

    1. ประกาศิตรักเทพบุตรมาร (E-book พร้อมให้โหลดแล้ว) >>>อุดหนุนอีบุ๊กคลิ๊ก<<<

    2. ปรารถนารักจอมทมิฬ (กำลังรีอัป E-book ปลายเดือนนี้)

    3. บัญชารักจอมเถื่อน(กำลังรีอัป E-book เร็วๆนี้)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×