ตอนที่ 12 : Page Ten 100%
สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง ผมรู้ดีกว่าคุณกำลังสับสนแค่ไหนแต่ได้โปรดเชื่อความรู้สึกของคุณเพราะนั้นคือคำตอบของความจริงที่คุณตามหา...
จีมินที่กำลังเดินเข้าห้องด้วยจิตใจที่สับสน หลังจากที่เขาผ่านเรื่องราวถูกใส่ร้ายจากคนของทีมอื่นจนเกือบโดนไล่ออก เขาอยากจะขอบคุณคนที่ช่วยหาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เขาแต่เมื่อจะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเขาถามประธานคิมถึงหลักฐานก็ได้คำตอบเพียงว่า…
‘ผมไม่สามารถเอ่ยชื่อเขาออกมาได้ เพราะผมรับปากเขาไว้แล้ว เอาเป็นว่าเขาอยู่ใกล้ตัวคุณและเป็นคนที่ห่วงคุณมากกว่าใครคนหนึ่ง’
ชื่อแรกที่ฝุดขึ้นมาในสมองคือมินจี แต่ผู้หญิงตัวแค่นั้นจะทำอะไรเสี่ยงอันตรายแบบนั้นได้ยังไงถึงยุนจีจะไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยเหมือนผู้หญิงคนอื่นก็ตามแต่ยังไงเพื่อนเขาก็คือผู้หญิง ไหนจะขอเปิดดูกล้องวงจรปิดอีกเขาพอรู้ว่ายุนจีรู้จักกับประธานคิมแต่ไม่ได้สนิทถึงขั้นนั้นจากที่เคยถามยุนจีก็บอกแค่เคยเจอประธานคิมมาหาพี่ชายแค่นั้น
หรือจะเป็นพี่ยุนกิพี่ชายของยุนจี...
มือเล็กเปิดประตูห้องเดินเข้าห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนล้า แขนเล็กก่ายหน้าผากก่อนเหม่อมองเพดานพร้อมเริ่มทบทวนความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ นอกเหนือจากความสงสัยในความช่วยเหลือแล้วเขายังไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสาวในระยะเวลาช่วงหลายเดือนผ่านมา
คนเราจะพึ่งตกหลุมรักใครได้ทั้งๆ ที่รู้จักกันมาหลายปีแล้วเหรอ?
ดวงตาคู่เล็กปิดลงอย่างอ่อนล้าภาพเหตุการณ์หลังจากเขาออกมาจากห้องประชุมฝั่งผู้บริหารความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยยามที่อยู่ในอ้อมกอดเพื่อนสาวยิ่งสร้างความสับสนให้เขามากกว่าเดิม อ้อมกอดที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ ที่เขาได้กอดกับเพื่อนสนิทคนนี้
อ้อมกอดของมินยุนจีไม่ได้อบอุ่นและแข็งแกร่งเท่ากับมินยุนจีที่เขาได้รับเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา...
“เฮ้อ... ไปอาบน้ำนอนได้แล้วปาร์คจีมิน”
คนตัวเล็กลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับคว้าชุดนอนเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำหวังว่าน้ำเย็นๆ จะทำให้หัวใจที่แสนว้าวุ่นของเขาตอนนี้สงบลง เขาอยากจะลืมความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังจากเขาได้รับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้นให้หมดสิ้นมันจะดีกว่านี้ถ้าคนที่ทำให้หัวใจเขาเป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อนสาวคนสนิทอย่างมินยุนจี...
ถ้าพระเจ้ามีจริงลูกขอแค่สิ่งที่รู้เห็นไม่ใช่สิ่งที่เห็นแต่เป็นสิ่งที่ลูกรู้สึกจะได้ไหมเพราะความรู้สึกของเขาตอนนี้มินยุนจีไม่ใช่มินยุนจีเพื่อนสนิทเขาตั้งแต่วันที่อีกคนเปลี่ยนไปถึงแม้โครงหน้าลักษณะภายนอกจากคล้ายคลึงแค่ไหนก็ตามแต่กายภาพคนเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้เพียงช่วยข้ามคืน
เขารู้ดีและสาเหตุที่เขายังคงปฏิบัติกับยุนจีเหมือนเคยเพียงแค่หวังว่าอีกคนจะเอ่ยบอกความจริงกับเขาด้วยตัวเองก็เพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะสาเหตุอะไรเขายินดีรับฟังเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาได้เสมอไม่ใช่การที่อีกคนเลือกปิดบังเขาเช่นนี้
โดยการส่งใครที่ทำให้หัวใจเขาวุ่นวายมาเป็นตัวแทนตนเอง บางทีเขาก็ต้องการที่ปรึกษาที่ไม่ใช่ยุนจีเหมือนกัน...
✎ Page Ten __
ขาเรียวเล็กก้าวเข้าประตูคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยตุ๊กตากระต่ายหลากหลายรูปแบบทั้งสีขาวสะอาดตา สีแดงร้อนแรงหรือสีชมพูอ่อนที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน คาเฟ่เล็กๆ ในย่านชานเมืองตกแต่งด้วยสีสันที่ให้ความรู้สึกสยองขวัญสำหรับปาร์คจีมินเป็นอย่างมาก ถ้าเลือกได้ร้านคาเฟ่แห่งนี้เขาจะตัดออกจากตัวเลือกในการมานั่งชิลเป็นแห่งแรกถึงแม้เครื่องดื่มและขนมหวานจะอร่อยมากขนาดไหนก็ตาม
แต่สุดท้ายความคิดที่ไม่คิดจะเหยียบสถานที่แห่งนี้ต้องพับลงเพียงเพราะจีมินต้องการความช่วยเหลือจากใครที่อาศัยอยู่ในสถานที่แสนน่ากลัวเช่นนี้
จอนจองกุกคือชื่อของหนึ่งเจ้าของร้านแห่งนี้คือคนที่เขาต้องการความช่วยเหลือ
“สวัสดีครับพี่จิน”
เสียงหวานเอ่ยทักชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่กำลังเซตเครื่องทำกาแฟอยู่ด้านหลังเคาท์เตอร์ด้วยรอยยิ้ม พี่จิน หรือคิมซอกจินแฟนหนุ่มของจอนจองกุกรุ่นน้องคนสนิทของปาร์คจีมิน
“อ่าว ไม่เจอนานเลย มาหาจองกุกเหรอ? เช็คของอยู่หลังร้านมั้งให้พี่ไปตามให้ไหม?”
ซอกจินที่ละมือจากงานตรงหน้าหันมาคุยกับรุ่นพี่ของคนรักกำลังทำหน้าบุญไม่รับอยู่อีกฟากของเคาท์เตอร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สำหรับเขาใบหน้าน่ารักของคนตัวเล็กคนนี้เป็นเรื่องปกติที่มักเห็นทุกครั้งที่เจ้าตัวมาเยือนร้านเขากับคนรักบางทีเขาก็ไม่เข้าใจจีมินเหมือนกันว่าจะเอียนอะไรกับสภาพร้านเขานักหน้าสีแดงชมพูขาวมันไม่สวยตรงไหน จะบอกว่าปาร์คจีมินไม่ถูกกับสีชมพูก็คงไม่ใช่ก็หัวเจ้าตัวนี่สีชมพูสดใสแทบจะกลืนไปกับสีร้านเขาอยู่แล้ว
มาทำหน้าบุญไม่รับเพราะสีร้านเขาแต่หัวตัวเองก็สีเดียวกับร้านเขาไหมล่ะปาร์คจีมิน
“ไม่ดีกว่าครับ ผมขอลาเต้ร้อนแล้วฝากบอกจองกุกทีถ้าเสร็จแล้วให้ไปหาผมที่โต๊ะด้วยนะพี่จิน”
ซอกจินพยักหน้ารับคำก่อนจะคีย์ออร์เดอร์แล้วปล่อยให้จีมินเดินไปหาที่นั่งมุมสงบๆ ตามที่เจ้าตัวต้องการ ดวงตาคมมองตอบแผ่นหลังเล็กด้วยความสงสัยก่อนนะยักไหล่อย่างไม่สนใจแล้วจัดการหน้าที่ของตัวเองต่อไปพร้อมกับเดินไปยังหลังร้านเพื่อบอกคนรักว่าจีมินมาหาตามที่คนตัวเล็กได้ฝากไว้
ในขณะที่จีมินเลือกที่นั่งมุมสุดของร้านที่ดูเหมือนจะมีสีสันอ่อนที่สุดแล้วก่อนจะนั่งลง ใบหน้าน่ารักเหม่อมองออกมาไปนอกหน้าต่างแขนเรียวเท้าคางมองบรรยากาศนอกร้านแสนสงบไม่ต่างจากภายในร้านแม้แต่น้อย อาจจะเพราะนี่ยังอยู่ในช่วงสายพนักงานหรือแม้แต่เด็กนักเรียนก็พึ่งเข้าทำงานหรือเข้าเรียนกันทำให้ร้านแห่งนี้เงียบสงบ
วันพฤหัสซึ่งเป็นวันทำงานของมนุษย์ออฟฟิตเช่นเขานั้นควรจะนั่งทำงานในบริษัทมากกว่าจะมานั่งชิลอยู่ในร้านคาเฟ่สีหวานแบบนี้ ปาร์คจีมินไม่ได้โดนไล่ออกหรืออะไรเพียงแค่หลังจากประชุมเรื่องผลงานของทีมเขาโดนขายทางฝ่ายบริหารลงความเห็นให้เขาหยุดงานพักผ่อนหลังเจอเรื่องราวร้ายๆ เป็นเวลาหนึ่งวันแล้วให้กลับมาทำงานได้ตามปกติเขาเลยมานั่งเป็นคนว่างงานอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ
ตึก
เสียงแก้วมัคสีอ่อนถูกเพ้นท์ลายกระต่ายสีชมพูถูกวางลงด้านหน้าคนตัวเล็กที่กำลังนั่งเหม่อลอยพร้อมกับใบหน้าน่ารักราวกระต่ายแสบตาโตนั่งลงฝั่งตรงข้ามด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ที่จีมินคุ้นเคยมันดี รอยยิ้มบางๆ ถูกขยับตอบให้อีกคนก่อนมือเล็กจัดการดึงแก้วมัคบรรจุลาเต้ร้อนเข้าหาตัว จมูกรั้นสูดดมกลิ่นเครื่องดื่มอย่างผ่อนคลายโดยทุกการกระทำล้วนอยู่ในสายตาคนเป็นน้องทั้งสิ้น
“อะไรที่ทำให้พี่จีมินของผมถ่อร่างตันๆ ของพี่มาหาผมถึงที่ได้เนี่ย”
เสียงหวานที่ด้วยน้ำเสียงกวนประสาทเล็กน้อยเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีเรียกสายตาหมั่นไส้จากคนเป็นพี่ทันที จีมินมองรุ่นน้องคนสนิทคาดโทษก่อนจะจิบลาเต้ร้อนๆ ฝีมือคนรักของเด็กตรงหน้า รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏเล็กน้อยทันทีที่ได้สัมผัสรสชาตินุ่มลิ้นของลาเต้สูตรเฉพาะของปาร์คจีมินซึ่งมีกี่หนึ่งในนั้นรวมมินยุนจีเพื่อนสาวของเขาเช่นกัน
ลาเต้ร้อนโรยผงช๊อคโกแลตเครื่องดื่มโปรดปรานของปาร์คจีมิน
“มีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อย”
จีมินเอ่ยตอบทันทีที่วางแก้วมัคลงมือเล็กกุมแก้วมัคอย่างประหม่าเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาปรึกษาจองกุกถึงที่นี่ทันทีที่ตื่นนอนเพราะความค้างคาใจที่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้ตัวเองนั้นแหละทำให้เขานอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำไม่รู้ว่าคนเป็นสาเหตุนั้นจะรู้ตัวไหมว่าทำให้ใครคนหนึ่งนอนไม่หลับแบบนี้
“ผมว่าไม่นิดแล้วมั้ง ทำให้พี่หอบร่างมาหาผมถึงร้านได้ที่สำคัญ ตาเนี่ยคล้ำได้อีกป่ะ”
นิ้วเรียวทั้งสองของจองกุกชี้ไปยังใต้ตาของคนตัวเล็กที่เบะปากให้กับความรู้ทันของเจ้าตัวก่อนจะหลบสายตาจับผิดมองฟองนมบนแก้วแทน ก่อนจะเอ่ยประเด็นค้างคาใจออกมาให้อีกคนได้ฟังโดยจองกุกที่กำลังมองรุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้าด้วยแววตาขี้เล่นในตอนแรกเปลี่ยนเป็นผู้ฟังที่ดีทันทีที่ริมฝีปากอิ่มเริ่มขยับเล่าเรื่องราว
“เฮ้อ... ไม่รู้ว่ะ พี่รู้สึกว่าเขาไม่ใช่เขาที่พี่รู้จักแต่สิ่งที่เห็นกับสองตามันคือสิ่งที่บอกว่าเขาก็คือเขาอาจจะแปลกๆ ไปบ้างก็ตาม แต่ความรู้สึกพี่มันพยายามเถียงตลอดเวลาที่ได้สบตาคู่นั้นว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่เห็นตอนแรกพี่ไม่ได้ใส่ใจอะไรจนกระทั่งความรู้สึกมันมากขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ได้อึดอัดหรือไม่ชอบใจแต่มันเพียงแค่สร้างความสับสนให้พี่แค่นั้น”
จองกุกที่เห็นจีมินหยุดพูดพร้อมกับฟันซี่เล็กที่ขบริมฝีปากล่างอย่างประหม่าอดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย เขาไม่รู้หรอกว่าคนที่พี่จีมินกำลังเล่าอยู่นั้นคือใครแต่ท่าทางของคนตรงหน้าในตอนนี้เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนทั้งๆ ที่รู้จักกันมาเกือบสิบปี
ใครกันที่ทำให้พี่ชายที่แสนสดใสคนนี้กลายเป็นคนคิดมากได้ขนาดนี้
“สิ่งที่เห็นบางอย่างอาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้นะพี่จีมิน เรื่องบางเรื่องมันอาจจะมีเหตุผลจำเป็นที่เขาเปลี่ยนไปทำให้พี่รู้สึกสับสน”
“มันไม่ใช่แค่บางอย่างจองกุก พี่รู้สึกว่าคนที่พี่เจอตลอดระยะเวลาเกือบสี่เดือนหลังมานี้มันเป็นคนละคนกับคนที่พี่รู้จักเลยต่างหาก ไม่ว่าจะนิสัยบางอย่าง ความอบอุ่น ความอ่อนโยนที่คนนั้นๆ ไม่ควรมี”
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิดในขณะที่แย้งคำพูดของรุ่นน้องตรงหน้าออกมายิ่งได้พูดออกมาเขาก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจในความรู้สึกตัวเองมากขึ้นว่ามินยุนจีในระยะเวลาให้หลังมานี้ไม่ใช่เพื่อนสนิทของเขาจริงๆ
“แล้วถ้างั้นอะไรคือสิ่งที่พี่สับสนอยู่ในตอนนี้?”
คนตัวเล็กถอนหายใจเล็กน้อยก่อนเอ่ยคำถามกลับให้จองกุกแทนที่จะเป็นคำตอบในคำถามอีกคน คำถามที่ลึกๆ แล้วเขาอยากจะเอ่ยถามเพื่อนสาวของเขาด้วยตัวเองมากกว่า
"คนเราจะพึ่งรู้ตัวว่ารักคนที่เรารู้จักมาหกปีได้ไหมว่ะ"
“...”
จองกุกได้แต่มองใบหน้าน่ารักของรุ่นพี่เงียบๆ ไม่ตอบปล่อยให้อีกคนได้ระบายออกมา เขาคิดว่าตอนนี้ในใจพี่ชายเขาคนนี้มีคำถามล้านแปดค้างคาอยู่ในใจอยากระบายออกมาให้คนรอบข้างได้มากกว่าขอคำตอบจากเขาบางครั้งแค่เราได้เอ่ยมันออกมาแทนการคิดในใจคำตอบมันอยู่ในคำถามอยู่แล้ว เขาเคยเป็นตอนก่อนคบกับพี่จินเขารู้ดีว่าความสับสนและความคลุมเครือมันให้ความรู้สึกแย่แค่ไหน
"แล้วคนคนเดียวกันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันได้ไหม?... พี่ไม่รู้ว่ะจองกุก พี่ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ควรรู้สึกยังไงกับเพื่อนตัวเอง”
“คำตอบมันอยู่ที่หัวใจพี่ว่ามันเรียกร้องอะไร ส่วนคำถามที่คนคนเดียวที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันนั้น... ถ้าผมพูดในฐานนะคนนอกนั้น บางทีเพื่อนของพี่คนก่อนกับคนที่พี่อยู่ด้วยอาจจะเป็นคนละคนกันเพราะคนคนเดียวกันอาจจะมีบ้างที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันแต่ไม่ใช่ในระยะเวลานานขนาดสี่เดือนแบบนี้ เพื่อนพี่มีแฝดหรืออะไรหรือป่าวบางทีอาจจะมีสาเหตที่ทำให้เพื่อนจำเป็นต้องหายตัวไปแล้วให้แฝดมาทำหน้าที่แทนก็ได้ ทุกเรื่องมันเป็นไปได้อยู่ที่พี่เลือกจะเชื่อเพราะเรื่องบางเรื่องให้สายตากับเหตุผลเป็นคำตอบกับพี่ไม่ได้หรอก”
คำตอบที่ได้รับจากจองกุกทำให้คนฟังอย่างจีมินนั่งนิ่งจนคนพูดขยับยิ้มบางๆ ก่อนจะนึกถึงเรื่องราวความรักของตัวเองพร้อมตัดสินใจเล่าให้อีกคนฟังเป็นตัวอย่างเผื่อพี่จีมินจะได้คำตอบแทนที่จะมาถามเขา
“...”
“เหมือนตอนผมก่อนคบกับพี่จินนั้นแหละ พี่ก็เห็นไหมว่าพี่จินเป็นผู้ชายอบอุ่นขนาดไหนและก่อนหน้านั้นผมเป็นยังไงพี่ก็น่าจะรู้ไม่มีอะไรที่จะบอกว่าเลยว่าถ้าผมเลือกพี่เขาแล้วผมจะมีความสุขเราจะเข้าได้ไหม แต่สุดท้ายผมก็ให้ความรู้สึกเป็นคนตอบแล้วมันก็อย่างที่พี่เห็น ผมไม่ได้บอกว่าถ้าพี่ทำตามความรู้สึกตัวเองแล้วทุกอย่างจะดีมันอาจจะไม่เหมือนสิ่งที่พี่หวังก็ได้แต่อย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่งพี่ก็มีความสุขกับสิ่งที่เลือกตามความรู้สึกตัวเอง...”
มือเรียวขยับกุมมือเล็กของรุ่นพี่ตัวเล็กพร้อมดวงตากลมโตจ้องเข้าไปในดวงตาคู่เล็กกำลังสะท้อนออกมามีเพียงความสับสน รอยยิ้มน่ารักราวกับกระต่ายซนถูกส่งให้จีมินที่กำลังจมลงอยู่ในความคิดตัวเองให้กลับมาตั้งใจฟังสิ่งที่รุ่นน้องตรงหน้ากำลังจะเอ่ยอีกครั้ง
“พี่ครับ ความรักคือการเสี่ยงทายถ้าพี่ไม่กล้าที่จะลองเสี่ยงพี่ก็ไม่รู้ผลลัพธ์ของมันหรอกนะ ที่สำคัญ... พี่กำลังหลงรักเพื่อนคนนั้นอยู่นะ เพื่อนของพี่ในรูปแบบเกือบสี่เดือนนี่คือคำตอบที่ผมจะบอกพี่จากที่เล่าให้ผมฟัง ทุกอย่างอยู่ที่พี่แล้วนะครับพี่จีมิน”
เขากำลังหลงรักมินยุนจีที่สำคัญคือต้องเป็นยุนจีในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาเท่านั้นด้วยนะ...
ให้ตายปาร์คจีมินคิดว่าตัวเองมีความกล้าเท่าไหร่กันในการหลงรักเพื่อนตัวเองที่ไม่ใช่เพื่อนแบบนี้ เขาไม่มีความกล้าที่จะเสียเพื่อนไปหรอกถ้ายุนจีไม่ได้คิดแบบเขาแต่ถ้าทุกอย่างเหมือนในสิ่งที่เขารู้สึก...
ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นผู้หญิงไม่ดีหรือเป็นผู้ชายเหมือนเขาก็ตาม เขาจะยอมเสี่ยงทายในรักครั้งนี้ดูสักครั้งถึงแม้จุดจบอาจจะไม่ได้สวยงามอย่างเช่นนิยายของคุณชูก้าที่เขาชอบอ่านก็ตามแต่อย่างน้อยเขาก็ได้ทำตามหัวใจตัวเองอย่างที่จองกุกพูดเพียงแค่คุณไม่ใช่มินยุนจีที่เป็นเพื่อนสนิทเขาจริงๆ เพียงแค่นั้น...
เพราะคำว่าเพื่อนมีค่ามากกว่าคำว่ารัก ถึงเป็นมินยุนจีจริงๆ เขาเลือกที่จะไม่เอาคำว่าเพื่อนไปเสี่ยงทายอย่างแน่นอน!
Next page
Vitamin J
เธอกำลังจะกลับมาพร้อมกับความจริงที่จีมินรู้ด้วยตัวเอง
เจอกันตอนหน้านะคะ
อย่าลืมเม้น + แท๊กด้วยนะคะ เรารออ่านอยู่เหมือนที่รออ่านฟิคนะ #นิยายของชูก้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หนูหมายถึงไรต์อะกลับมาต่อเร็วนะคะ ได้โปรด
แล้วความรู้สึกของยุนกิอีก ฮืออออออ