ตอนที่ 10 : Page Eight 100%
ขาเรียวยาวเดินเข้าออฟฟิตตามปกติเช่นกันวันอื่นแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจนเขาสัมผัสมันได้คงเป็นบรรยากาศตรึงเครียดทันทีที่ยุนกิในคราบน้องสาวก้าวเข้าห้องทำงานทีม ห้องทำงานที่เขาเคยรำคาญทุกครั้งที่ก้าวขาเข้ามาในห้องนี้เสียงเอะอะโวยวาย หรือเสียงหยอกล้อของสมาชิกในทีมวันนี้กลับมีเพียงความเงียบและความตรึงเครียดโดยเฉพาะแผ่นหลังเล็กของคนที่เขาตกหลุมรักตรงหน้านั้น
ทุกสายตาจับจ้องไปยังจีมินที่ยืนนิ่งหน้าโต๊ะทำงานตัวเอง ยุนกิจัดการวางกระเป๋าทำงานวางลงบนโต๊ะก่อนจะขมวดคิ้วเขาหากันอย่างไม่เข้าใจกับเอกสารบนโต๊ะทำงานตัวเอง มือขาวหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ภาพข่าวการเปิดตัวเกมผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทที่เขาจำได้ว่ามันคือบริษัทคู่แข่งของบริษัทที่ยุนจีทำงานอยู่และเมื่อเปิดดูรายละเอียดของข่าวตัวละครต่างๆ ของเกมยิ่งสร้างความคุ้นเคยให้กับเขาเป็นอย่างดี
มันจะไม่คุ้นได้ยังไงในเมื่อมันคือตัวละครที่เขาออกแบบ!!
“นี่มันคืออะไรกัน”
เสียงแหบทุ้มพึมพำออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาว่าตัวละครรวมถึงคอนเซปเกมของทีมเขาถูกบริษัทคู่แข่งขโมยไปเปิดตัวขายทั้งๆ ที่พวกเขากำลังวางแผนเปิดตัวในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเพราะสิ่งที่มีตอนนี้มันยังไม่ใช่ตัวสมบูรณ์พร้อมปล่อยในตลาดได้ หรือเรียกง่ายๆ ว่ามันคือตัวเบต้าตัวทดลองเล่น และนั้นคือสิ่งที่บริษัทคู่แข่งขโมยมันไป
“เราโดนขโมยงานล่ะยุนจี”
เสียงแหบหวานเอ่ยให้คำตอบยุนกิ พร้อมกับหันหน้าไปมองร่างเล็กที่ยังคงยืนนิ่งมองโต๊ะทำงานตัวเองนิ่งเช่นเดิมจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะเขารู้ดีว่าจีมินตั้งใจทำงานแค่ไหนและเจ้าตัวคือคนรับผิดชอบแก้ไขส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ของเกมตัวนี้หลังจากส่งให้แผนก QA ของบริษัททดลองเล่น
“มีข่าวออกมาว่าจีมินเป็นคนเอาตัวเบต้าไปขายด้วย เจ้านั้นเลยเครียดแบบนั้น”
“ไม่มีทาง...”
ไม่มีทางที่จีมินจะเป็นคนเอางานของทีมไปขายอย่างแน่นอนเพราะเด็กคนนี้บริสุทธิ์และซื่อสัตย์กับงานของตัวเองแค่นั้นเขารู้ดีและเขาก็คิดว่าเขามองคนไม่ผิดอย่างแน่นอน คนที่เอาเวลาทั้งหมดมาอ่านหนังสือของเขาไม่มีทางที่จะเป็นคนไร้จิตสำนึกเอาผลงานของส่วนรวมไปแลกเปลี่ยนเป็นตัวเงินแน่นอน
“แต่ไม่มีใครมีโค้ดตัวล่าสุดนอกจากจีมินแล้วนะ เราก็เชื่อว่าจีมินจะทำมันหรอกนอกเสียจากเครื่องมันโดนแฮ็กนั้นแหละ”
แทฮยองเอ่ยออกมาอย่างใช้ความคิดในทีมที่รู้เรื่องกันก็ไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นฝีมือจีมินแต่จีมินไม่มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์ได้นอกเสียจากจับตัวคนก่อนเรื่องได้นั้นแหละ ความเชื่อใจในทีมมันเป็นเรื่องสำคัญก็จริงแต่มันทำอะไรไม่ได้เลยถ้าคุณไม่มีหลักฐานมาชี้แจงความบริสุทธิ์ของตัวเอง
“แล้วหัวหน้ารู้เรื่องหรือยังทั้งเรื่องเกมและเรื่องข่าวลือ”
ตอนนี้สิ่งเขาห่วงมากกว่าเกมโดยขโมยคงเป็นความรู้สึกและหน้าที่การงานของคนตัวเล็กนั้นแหละ เขาก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะหาทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจีมินได้ยังไงเพราะดูเหมือนคนที่เอาข่าวมาวางทุกโต๊ะทำงานนอกจากไม่หวังดีแล้วอาจจะเป็นคนเอาผลงานไปขายก็ได้
“รู้แล้วโดนผู้ใหญ่เรียกไปคุยอยู่ เราอยากรู้จริงๆ ใครมันกล้าทำว่ะแล้วต้องบ้าขนาดไหนถึงใส่ร้ายจีมินได้ จีมินมันไม่เคยไปมีเรื่องกับใครเลยนะ วันๆ ก็เห็นตัวติดกับเธอ”
“ใครเป็นคนเอาข่าวนี่มาวาง นายพอรู้ไหม?”
ยุนกิมองแทฮยองที่หันหน้ามองตัวเองด้วยสายตางุงงงก่อนจะส่ายหน้าเป็นคำตอบ ในเมื่อคนในทีมไม่รู้คงมีแต่กล้องวงจรปิดเท่านั้นแหละที่ให้คำตอบได้ แต่เขาไม่มีอำนาจที่จะไปขอเปิดดูกล้องวงจรปิดได้นี่สิปัญหา
“ทุกคนมาทำงานตอนเช้าก็เห็นไอ้ข่าวนี่หมดแล้ว กล้องวงจรปิดจะขอเปิดดูได้ก็ต่อเมื่อผู้ใหญ่สั่งหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดคนแจ้งเปิดนั่นแหละ ถ้าแจ้งตำรวจบริษัทไม่ยอมแน่ๆ เชื่อฉันสิยุนจี”
คิ้วเรียวขมวดเข้ากันอย่างใช้ความคิดในขณะที่สายตายังคงมองแผ่นหลังเล็กไม่ละสายตาด้วยความเป็นห่วง เขาไม่รู้ว่าตอนนี้จีมินกำลังรู้สึกยังไง ต้องการคนปลอบไหมหรือต้องการคนรับฟังบ้างหรือเปล่า เขากลัวว่าถ้าเข้าไปปลอบจะเป็นการตอกย้ำอีกคนให้แย่กว่าเดิม
ในเมื่อไม่ยอมแจ้งความ ก็เหลือเพียงทำให้ผู้ใหญ่ยอมให้เปิดกล้องวงจรปิดดูมันคงเป็นหนทางเดียวที่สามารถช่วยจีมินพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้และคงมีเพียงมินยุนกิที่ทำหน้าที่นี้ได้ ไม่ใช่ยุนกิในคราบน้องสาวเช่นนี้
“จีมิน คุณเตรียมตัวรายงานสิ่งที่คุณทำในแต่ละวันตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาให้ผมฟังในห้องประชุมด้วย ผู้บริหารกำลังรออยู่ ผมพยายามช่วยคุณอยู่นะจีมิน พูดความจริงผมเชื่อใจว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำ”
น้ำเสียงอบอุ่นใจดีของหัวหน้าทีมดังขึ้นพร้อมกับมือหนาตบไหล่บางของคนตัวเล็กอย่างให้กำลังใจ โดยยุนกิมองภาพตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง ถึงกับเรียกสอบพฤติกรรมโดยทีมผู้บริหารแบบนี้บริษัทคงเสียหายไม่มาก็น้อย
อดทนก่อนนะจีมินพี่กำลังหาทางช่วยเราอยู่
“แทฮยองฝากลางานให้ด้วยนะ”
“เห้ย เดี๋ยวดิ ยุนจี!!”
มือขาวคว้ากระเป๋าทำงานพร้อมกับเอกสารตัวปัญหาเดินออกจากห้องทำงานทันทีโดยไม่สนใจเสียงเรียกโวยวายของแทฮยองแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นเสี้ยวหน้าของคนตัวเล็กที่หมุนตัวเดินตามหลังหัวหน้าออกจากห้องทำงานไป เขาแทบอยากจะดึงคนตัวเล็กมากอดปลอบแรงๆ สักที
ถ้าความรักสามารถทำให้ใครอีกคนเจ็บปวดไม่ต่างกันเหมือนในนิยายที่เขาแต่งอยู่นั้น เขาคงกำลังรักจีมินมากแล้วจริงๆ
“พี่ครับ ผมมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ ร้านกาแฟชองดัมอีกหนึ่งชั่วโมง”
เสียงแหบทุ้มเอ่ยทันทีที่ปลายสายรับโทรศัพท์ก่อนจะวางสายทันทีที่พูดจบไม่รอให้ปลายสายเอ่ยตอบหรือโวยวายอะไรพร้อมออกรถขับออกจากบริษัทด้วยความเร็วจนพนักงานตรวจสอบความปลอดภัยมองตามอย่างตกใจ
✎ Page Eight __
ภายในร้านกาแฟเล็กๆ สุดปลายถนนย่านชองดัม ชายหนุ่มเจ้าของผิวขาวเด่นนั่งกุมแก้วมัคสีขาวสะอาดที่บรรจุอเมริกาโน่กาแฟรสโปรดอยู่มุมสุดของร้านดวงตาเรียวคมมองแก้วกาแฟอย่างเหม่อลอย จนบุคคลมาใหม่ได้แต่ยืนมองรุ่นน้องด้วยความไม่เข้าใจ
ให้เขารีบมาแล้วมาดูมันนั่งเหม่อแบบนี้เหรอว่ะมินยุนกิ! คิมฮีชอลคนนี้ก็มาการมีงานทำไหมว่ะ
“ไอ้ยุนกิ”
“มาแล้วเหรอ นั่งสิครับพี่”
คิมฮีชอลคนนี้อยากจะโบกหัวรุ่นน้องสักทีได้ไหม ได้น้ำเสียงไม่เดือดร้อนไม่สนใจว่าทำให้คนอื่นต้องเหนื่อยหอบขนาดไหนเนี่ยมันช่างกวนตีนนัก แต่เขาจะมองมันผ่านไปเพราะตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านนี่คือครั้งแรกที่เจ้ารุ่นน้องเป็นฝ่ายติดต่อเขามาด้วยตัวเองส่วนใหญ่มีแต่เขาส่งข้อความนัดมันมาดื่มซึ่งมันก็ปฏิเสธตลอดเวลา
เหมือนคนไม่อยากรู้จักเขาอย่างไงอย่างงั้น
“เออๆ ว่าแต่มีอะไรถึงให้พี่รีบออกมาแบบนี้ ที่บริษัทพี่พึ่งมีปัญหาอยู่”
“เรื่องนั้นแหละ”
คำตอบที่ทำให้ฮีชอลต้องขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจว่ายุนกิต้องการสื่ออะไร เรื่องนั้นแหละมันหมายถึงอะไรไม่ทราบเรื่องบริษัทเขามีปัญหาหรือเรื่องอะไร ยุนกิเป็นนักเขียนจะมารู้เรื่องภายในบริษัทเขาได้ยังไงกัน
“เรื่องอะไรว่ะ”
“เรื่องเกมโดนขโมย”
ท่าทางนิ่งเฉยก่อนจะยกกาแฟขึ้นจิบนั่นมันหมายความว่าอะไร มินยุนกิรู้เรื่องภายในบริษัทเขาได้ยังไงในเมื่อเจ้าตัวไม่ได้สนใจเกมแม้แต่น้อย วันๆ ก็หมกอยู่กับนิยายที่รักของมันถ้าไม่ติดว่าเป็นคนที่ทำให้เขาคบกับคนรักได้คิมฮีชอลจะไม่คิดไปคบให้เสียเวลาเลยจริงๆ
“เดี๋ยว นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
“ปาร์คจีมินไม่ผิด เขากำลังเป็นแพะพี่เปิดกล้องวงจรปิดได้ไหม ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ทำ”
น้ำเสียงจริงจังจนทำให้คนฟังอย่างฮีชอลรู้สึกประหลาดใจกับการพบกันครั้งนี้ของเขากับยุนกิเพราะตั้งแต่รู้จักกับยุนกิมาเขาไม่เคยเห็นสักครั้งว่าเจ้านี้จะจริงจังสนใจเรื่องของใครมากขนาดนี้แม้กระทั่งน้องสาวตัวเองที่ทำงานอยู่บริษัทเขานั้นยังไม่เคยเห็นจะตรึงเครียดเป็นเดือนร้อนใจอะไร
ถึงแม้ท่าทียุนกิจะดูชิลๆ แต่แววตาและน้ำเสียงที่ใช้มันปิดคนแบบเขาไม่ได้หรอก
“เป็นอะไรกับปาร์คจีมิน ตอบพี่มายุนกิ”
“...”
ดวงตาเรียวคมจ้องมองคนเป็นพี่ด้วยแววตานิ่งเฉยโดยที่อีกฝ่ายก็จ้องกลับมาอย่างคาดคั้นไม่แพ้กัน สุดท้ายยุนกิก็ต้องยอมแพ้เอ่ยประโยคที่เขาไม่คิดจะพูดมันออกมาให้ใครฟังแม้กระทั่งน้องสาวแท้ๆ ที่เขารักจนยอมทำเรื่องไร้สาระปลอมตัวไปทำงานแทนจนทำให้เขาได้พบกับปาร์คจีมิน
“ยุนกิ”
“เด็กคนนั้น... เป็นคนที่ผมรักตอนนี้”
คำตอบที่ทำให้คนฟังตกใจกับสิ่งที่ได้ยินในขณะที่คนพูดไม่ได้ตื่นเต้นหรือมีอาการอะไรนอกจากใบหน้านิ่งเฉยที่มองกลับมาอย่างกดดัน นิ่งจนเขารู้สึกว่าสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่นั้นเขาอาจจะหูฝาดก็ได้
“พี่หูฝาดใช่ป่ะ”
“ให้ถีบไหม?”
คิมฮีชอลคนนี้บอกได้เลยว่าตอนนี้เขารู้สึกสงสารปาร์คจีมินขึ้นมาแล้วแหละ เหมือนมีบาปที่ทำให้คนแข็งกระด้างแบบนี้ตกหลุมรักได้และบาปยิ่งกว่าคือคนที่อ่านหนังสือที่มันแต่งจนเป็นแฟนคลับมัน พวกแฟนคลับหนังสือจะเคยรู้ไหมนิยายรักที่อ่านติดกันนั่นแหละจะถูกแต่งออกมาจากคนด้านชาขนาดนี้
“ฉันล่ะสงสารจีมินจริงๆ สงสารแฟนคลับนายด้วยเฮ้อ...”
“ตกลงจะช่วยไหม?”
เสียงแหบทุ้มเอ่ยออกมาอย่างกดดันโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีสีหน้าท่าทางยังไงกับคำพูดที่ตัวเองพึ่งได้พูดไปคำสารภาพครั้งแรกที่เขาพูดมันออกมาด้วยตัวเองถึงจะไม่ได้พูดมันออกมาให้คนที่ควรฟังราวกับย้ำเตือนภายในจิตใจเขาได้เป็นอย่างดีว่าความรู้สึกของเขาตอนนี้มีกับเพื่อนน้องสาวเป็นแบบไหน
เขารักเด็กคนนั้นเข้าแล้วจริงๆ และสักวันเขาสัญญาว่าเขาจะพูดมันออกมาให้อีกคนฟังถึงแม้คำตอบจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวังก็ตาม แค่ได้พูดก็พอ...
“ได้ดิ นายจะไปดูเองหรือจะให้พี่ดู”
“ไปดูด้วยกันนี่แหละ ตอนนี้เลยได้ไหม?”
บางทีคิมฮีชอลก็รู้สึกว่าไอ้ท่าทางนิ่งเฉยของมินยุนกินี่มันหลอกลวงผู้คนชัดๆ มึงจะรีบไปไหนไม่ทราบครับพ่อน้องชายปล่อยให้พี่คนนี้ได้ดื่มกาแฟนั่งพักให้หายเหนื่อยในการบึ่งรถมาที่นี่บ้างได้ไหม!!
Next page
Vitamin J
กลับมาแล้วนะคะ จะทยอยลงจนจบนะ ใครที่รอกันต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้รอนานจนถึงว่าเราเลิกแต่งแล้ว ยังแต่งอยู่นะ
อย่าลืมเม้น หรือ #นิยายของชูก้า กันด้วยนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ช่วยน้องให้ได้นะคะมินยุนกิ