ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOODIE RETURN ll ผู้ร้ายสวมรอยรัก

    ลำดับตอนที่ #22 : GOODIE21 ll เป็นโจรครั้งที่21 {อัพ100%} คนที่ควรห่วง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.09K
      14
      23 ธ.ค. 60


    EP21
    -เป็นโจรครั้งที่21-


    ฉันบอกเขาว่าเธอมาที่นี่เพื่อที่จะคุยกับเขาเรื่องกอล์ฟกับน้องชาย แล้วเขาก็ยื่นไอ้นี่มาให้เขาบอกว่าถ้าเธอมีอะไรอยากคุยกับเขาให้โทรไปตามเบอร์นี้

    มีอะไรก็ให้โทรไปแทนงั้นเหรอ...

    กลับเข้าชั่วโมงกิจกรรมได้แล้ว นั่งตรงนี้นานฉันชักจะเริ่มเบื่อแล้วทันทีที่ส่งหมดเบอร์โทรศัพท์ให้เสร็จ พี่แอลก็ไม่ได้รอให้ฉันเปิดปากถึงเรื่องคืนก่อนอีกแต่เลือกที่จะโวยวายออกมาเองพร้อมกันนั้นก็เก็บข้าวของลุกออกจากโต๊ะม้าหินไปซ้ำร้ายยังหันมาเร่งลุกสิ! น้องกะเหรี่ยง!”

    แต่ว่า ฉันยังไม่มีโอกาสได้คิดหรือชื่นชมเบอร์โทรศัพท์ในกำมือนานนักหรอก พอถูกพี่แอลเร่งมาแบบนั้น ก็เลยจำต้องเก็บข้าวของของตัวเองลงกระเป่า ลุกออกจากโต๊ะม้าหินตามหลังเธอไปอย่างเสียไม่ได้

    นี่คงเป็นอีกครั้งที่ฉันเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องของคณะแบบไม่ค่อยมีสมาธินัก ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือว่าโชคร้าย ที่ฉันดันมีสิทธิพิเศษซึ่งดันรู้จักกับพี่แอลเป็นการส่วนตัว เลยทำให้ฉันไม่โดนลงโทษอะไรรุนแรงนัก นอกจากเต้นท่าน่าเกลียดๆ ตามคำสั่งของพวกรุ่นพี่เท่านั้น

    แต่นับว่าการถูกลงโทษก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับสภาพจิตใจของฉันตอนนี้อยู่เหมือนกันนะ การได้เต้น ได้หัวเราะไปกับเสียงการตีกลองเชียร์ มันทำให้ในหัวที่ต้องทนแบกความคิดและความรู้สึกมากมายที่มีตั้งแต่เข้ามาพักอยู่ในกรุงเทพฯ บรรเทาลงบ้าง

    ไม่รู้เลยว่าหากฉันต้องอยู่ที่นี่เพียงลำพังอย่างคนไร้เพื่อน ไร้คนรู้จัก ไร้คนพูดคุยให้รู้สึกผ่อนคลายความเครียดที่มีลงบ้าง ถึงตอนนั้นตัวเองจะเป็นอย่างไร...

    เย็นวันนั้นหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม ฉันพร้อมด้วยกระเปาผ้าใบเดินก็พาตัวเองเดินกลับหอพักเพียงลำพัง วันนี้ไร้ซึ่งการถูกรบกวนจากสิ่งรบเร้ารอบกายเหมือนอย่างปกติ นอกจากอ้ายก็อตจะไม่ติดต่อมาหาเหมือนอย่างปกติแล้ว วันนี้อ้ายกอล์ฟเองก็หายหน้าหายตาไปตลอดทั้งวันเช่นกัน

    มันแปลกที่พวกเขาสองคนหายไปพร้อมกันแบบนี้ ในเมื่อพวกเขาเป็นพี่น้องกันนี่จะหายไปพร้อมกันมันแปลกตรงไหน อีกอย่างฉันก็เป็นแค่คนนอก แม้จะรู้สึกร้อนรน กระวนกระวายใจแค่ไหน สุดท้ายก็ได้แค่ตั้งข้อสงสัยเท่านั้นแหละว่าพวกเขาหายไปไหน...

    เอ๊ะ! เดี๋ยวสิ! ยังมีอีกคนนี่นาที่พอจะให้คำตอบที่ฉันอยากรู้ได้!

    เขาบอกว่าถ้าเธอมีอะไรอยากคุยกับเขาให้โทรไปตามเบอร์นี้พอนึกถึงคำพูดพี่แอลเมื่อช่วงสายขึ้นมาได้ ฉันก็ไม่รอช้าที่จะเปิดกระเป๋าผ้าหยิบกระดาษเบอร์โทรที่ได้รับมาขึ้นมาดู ไวเกินกว่าที่ต้องคิดหรือตัดสินใจว่าอะไรควรหรือไม่ควร

    รู้อีกที มือข้างที่เหลือก็กำลังหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดโทรออกตามเบอร์ที่เขียนอยู่บนกระดาษไปแล้ว...

    [ตู๊ดดดดดดด...] แม้ว่าเท้ายังคงก้าวไปบนฟุตบาธไม่หยุด แต่ขณะเดียวกันหูก็คอยเงี่ยฟังเสียงตอบรับจากปลายสายอย่างใจจดใจจ่อ 

    มันตื่นเต้นนะที่ฉันกำลังมีโอกาสได้พูดคุยกับคนรู้จักของอ้ายกอล์ฟและอ้ายก็อตแบบนี้ คิดไม่ออกเลยว่าควรจะถามคำถามอะไรใส่เขาก่อนเมื่อปลายสายยอมกดรับ

    [ฮัลโหลครับ...] ไม่นานเสียงเข้มที่ฉันอยากฟังก็ดังลอดผ่านสายกลับมาในที่สุด การที่เป็นเช่นนั้นส่งผลให้เท้าสองข้างที่เคยก้าวเป็นจังหวะหยุดลงโดยฉับพลัน หัวใจเองก็กำลังเต้นรัวในแบบที่ไม่เคยเป็น จนกระทั่งปลายสายกล่าวทักผ่านสายเป็นหนที่สอง [ฮัลโหล ฮัลโหล...ได้ยินไหมครับ]

    ดะ ได้ยินค่ะ!” อาการตื่นเต้นบวกกับความประหม่าทำฉันรีบตอบรับปลายสายกลับไปทันทีก่อนเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามด้วยคำพูดที่พอจะนึกได้ในยามนั้น อะ อ้ายคืออ้ายซีแม่นก่อ?

    สิ้นเสียงถาม ปลายสายก็เงียบลงไป แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่จะเอ่ยตอบรับกลับมา

    [ใช่...นั่นใคร พริกก่อ?] ด้วยคำถามที่เหมือนรู้อยู่แล้ว

    ชะ ใช่เจ้า...ที่ป๊ะกันวันก่อน ตั๋วยังจำเฮาได้แม่นก่อ?

    [อ้อจำได้! ที่ยะเมาบ่เนียนที่ผับคืนก่อนแม่นก่อ ทำไมจะจำไม่ได้?] อ่า...ให้ตายสิ ขายขี้หน้าชะมัด [แล้วมีอะหยังถึงได้โทรมาแบบนี้?]

    นะ น้องมีเรื่องสงสัย...ตอนนี้อ้ายว่างคุยกะน้องก่อ?

    [ตอนนี้ตั๋วอยู่ไหน?]

    มหาลัยเจ้า...ฉันตอบแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่าการที่โทรหาเขาแบบนี้มันเป็นการรบกวนอีกฝ่ายมากน้อยแค่ไหน เพราะถามไปแล้วอีกฝ่ายก็ไม่ยอมตอบ ตอนแรกก็คิดแบบนี้แหละ 

    แต่เมื่อปลายสายพูดขึ้นต่อจากนั้นไอ้ที่รู้สึกเกรงใจก็เริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นตื่นเต้นเมื่อสิ่งที่ได้รับการตอบกลับมานั้นอยู่เหนือความคาดหมายขนาดนี้...

    [รออยู่เฮาอยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวเข้าไปรับ

    30 นาทีต่อมา...

    ฉันในตอนนี้เหมือนกำลังถูกแม่มดสาปให้เป็นก้อนหินอยู่ภายในร้านกาแฟของมหาลัยใกล้กับตึกศิลป์ ไร้เสียง ไร้การขยับเขยื้อนร่างกาย แม้แต่การกลอกตามองไปรอบตัวยังดูยากไปหมดสำหรับเวลานี้ เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็คงเพราะเบื้องหน้าฉันมีใครอีกคนที่ไม่คิดว่าจะได้พบหน้าตัวเป็นเพื่อพูดคุยนั่งอยู่ด้วยน่ะสิ

    ตั้งแต่ที่อ้ายซีบอกว่าจะมารับในสาย ตอนแรกฉันก็คิดอยู่ว่ามันอาจจะเป็นมุกตลกของเขาเพียงเท่านั้น แต่ใครจะคิดล่ะ ว่าผู้ชายที่บอกว่าจะมาหาเมื่อ 25 นาทีก่อนผ่านสายโทรศัพท์ตอนนี้จะปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าจริงๆ แถมเขายังเป็นฝ่ายเลี้ยงกินกาแฟแบบนี้!

    เป็นอะไรไป ทำไมนั่งตัวแข็งแบบนั้นล่ะ?เสียงเข้มของคนตัวสูงตรงหน้าทำฉันสะดุ้งนิดๆ เพราะทำตัวไม่ถูกจำต้องรีบก้มหน้าก้มตาดูดกาแฟจากแก้วตรงหน้าเพื่อลดอาการประหม่าที่มีให้หมดไป แต่การทำเช่นนั้นดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะดูออกถึงได้กล่าวออกมาอีกครั้ง ไม่ต้องอายก็ได้นะ ยังไงเราก็คนบ้านเดียวกัน

    คำพูดเสมือนอยากให้ผ่อนคลายของอ้ายซี ทำฉันแอบช้อนตามองเขาเล็กน้อย ก่อนพบว่าทุกการกระทำที่ฉันแสดงออกอยู่ในตอนนี้ล้วนแล้วแต่ถูกนัยน์ตาคมคู่นั้นจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ที่พอจะสร้างความกล้าให้แก่คนขี้อายอย่างฉันบ้างก็ดูจะเป็นรอยยิ้มบ่งบอกถึงความใจดีของเขานั่นล่ะ

    หนูไม่คิดว่า...อ้ายซีจะมาหาจริงๆนี่คะเพราะเริ่มตั้งตัวได้ ฉันเลยบอกความรู้สึกของตัวเองไป หากแต่นั่นกลับทำให้คนฟังหลุดหัวเราะออกมาเบาๆคล้ายชอบใจ ซ้ำร้ายยังพูดอะไรแปลกๆออกมา

    พริกเนี่ยเป็นคนเก็บสีหน้ากับความรู้สึกไม่อยู่เหมือนอย่างที่ไอ้กอล์ฟบอกจริงๆด้วย

    ว่ายังไงนะคะ?จนอดย้อนด้วยความแปลกใจไม่ได้

    เปล่า ไม่มีอะไรอ้ายซีส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนเป็นฝ่ายขยับท่าทางมาอยู่ในท่าเท้าคาง โดยยังคงสายตามายังด้วยความสนอกสนใจอีกทั้งยังเป็นฝ่ายชวนคุยคล้ายกับจะเปลี่ยนเรื่อง แล้วคืนนั้นที่แกล้งเมาน่ะ ไอ้กอล์ฟมันเชื่อหรือเปล่า

    ไม่รู้เป็นเพราะเคยถูกเขาจับได้มาก่อน หรือเพราะรู้สึกอับอายเมื่อนึกถึงเรื่องคืนก่อนกันแน่ เมื่ออีกฝ่ายยิงถามมาแบบนี้ทั่วหน้าก็ร้อนขึ้นจนเผลอเบือนสายตาหลบไปจากการถูกจ้องมอง ส่วนปากก็ตอบคำถามกลับไปแบบไม่เต็มเสียงนัก

    มะ ไม่รู้สิคะ...

    งั้นเหรอ?และดูเหมือนว่าคนตัวใหญ่จะไม่ได้สนใจคำตอบที่ได้เท่าไหร่นัก สิ่งที่เขาตอบรับกลับมาคล้ายกับเป็นการพูดแบบขอไปทีแค่นั้น ไม่รู้หรอกว่าอ้ายซีรู้อะไรมา แต่หากว่าฉันไม่ได้ตื่นเต้นจนเพี้ยนล่ะก็

    พริกเนี่ยเป็นคนเก็บสีหน้ากับความรู้สึกไม่อยู่เหมือนอย่างที่ไอ้กอล์ฟบอกจริงๆด้วย สิ่งที่อ้ายซีหลุดพูดออกมานั้น มันคือเรื่องของฉันที่เขารู้จากปากอ้ายกอล์ฟ

    แล้วที่พริกโทรหาพี่วันนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?

    มะ มีค่ะ!” ความตื่นเต้นและอาการประหม่าซึ่งยังคงมีอยู่ส่งผลให้ทันทีเมื่อสิ้นเสียงอ้ายซี ปากก็เริ่มขยับไปเองอย่างลืมตัว ทำเอาคนตัวใหญ่ตรงหน้าหรี่ตาลงเล็กน้อยคล้ายกำสงสัย 

    ครั้นจะถอยหลังกลับและเปลี่ยนเรื่องคุยก็ดูท่าจะไม่ทัน เพราะคนตรงหน้าดันต่อยอดคำตอบของฉันออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    มีเรื่องอะไรไหนบอกสิ?

    ทั้งที่อยากรู้อะไรหลายๆอย่าง แต่พอเอาเข้าจริง ลิ้นมันก็ดันแข็งไปเสียดื้อ แถมในหัวก็ยังว่าง เหมือนกับคำถามทั้งหมดที่มีมันได้หายไปนับตั้งแต่ที่ผู้ชายคนนี้ปรากฏอยู่ตรงหน้าในระยะใกล้ชิด

    อาจเพราะอ้ายซีเองน่าจะมองท่าทีฉัน นั่นเลยเป็นอีกหนที่เขาเอ่ยขึ้น

    เรื่องที่อยากคุยน่ะเกี่ยวกับอะไรล่ะ ระหว่างไอ้กอล์ฟกับไอ้ก็อต?แถมยังเป็นคำถามที่ตรงอย่างสุดๆ

    เพราะรู้ว่าโอกาสดีๆอย่างนี้มันมีเข้ามาไม่ได้บ่อยๆ ฉันจึงควรคว้าโอกาสที่มีเอาไว้ให้มากที่สุด ต่อให้จะรู้สึกประหม่าหรือตื่นเต้นแค่ไหน ฉันก็คงต้องกลั้นใจฝ่าความรู้สึกเหล่านั้นไปให้ได้

    ทั้งสองเลยค่ะทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อหาคำตอบและความรู้สึกแปลกๆที่ยังติดค้างอยู่ในใจ

    ว่ามาสิ...อ้ายซีเองก็ดูจะใจดีเกินกว่าที่ฉันคาดไว้ เขาดูเตรียมพร้อมรับมือกับทุกๆคำถามที่คาดว่าจะหลุดจากปากฉันอย่างตั้งใจ ไม่ได้แสดงท่าทีบ่ายเบี่ยงหรือเลี่ยงที่จะคุยเหมือนอย่างคนอื่น

    วะ วันนี้อ้ายกอล์ฟกับอ้ายก็อตหายไปค่ะ หนูสงสัยว่าพวกเขาหายไปไหน?

    เป็นห่วงเหรอ?ฉันพยักหน้าทันทีที่ถูกย้อน

    เป็นห่วงอ้ายก็อตน่ะค่ะ เขาไม่เคยหายไปแบบนี้...

    ห่วงก็อตแล้วถามถึงไอ้กอล์ฟด้วยทำไมล่ะ?” แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกอีกฝ่ายย้อนกลับมาแบบนี้

    ก็พวกเขาหายไปนี่คะ หายไปพร้อมกันแบบนี้หนูก็...เสียงของฉันเงียบลงในช่วงท้ายประโยค และเป้นฝ่ายหลุบสายตาไปจากนัยน์ตาคมตรงหน้าก่อน เมื่อรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เอ่ยออกไปนั้นอาจทำให้อ้ายซีตั้งคำถามยอกย้อนกลับมาอีกหน

    จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ ฉันกำลังกลัวที่ต้องบอกเหตุผลล่ะมั้ง ว่าเหตุผลที่อยากรู้ว่าพวกเขาหายไปไหนพร้อมกันก็เพราะฉันกลัวว่า การที่ฝาแฝดคู่นั้นอยู่ด้วยกัน แล้วอ้ายกอล์ฟอาจจะหลุดปากพูดเรื่องความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดในคืนนั้นให้อ้ายก็อตฟัง

    เฮ้ออ...แต่แล้วความคิดในหัวกลับมีอันต้องสะดุดลง เมื่อจู่ๆผู้ชายตรงหน้าพ่นลมหายใจหนักๆออกมาเสียงดัง จำต้องช้อนตามองอ้ายซีอีกครั้งด้วยความสงสัย และพบว่าตอนนี้เขาไม่ได้มองฉันเหมือนอย่างตอนแรกอีกแล้ว แต่เลือกจะมองผ่านกระจกใสออกไปนอกร้านแทน

    แม้ว่าเขาจะไม่ได้มองแต่เขาก็ยังพูดกับฉันอยู่

    ไม่ต้องห่วงไปหรอก สองคนนั้นเขาไม่ได้ไปด้วยกัน...พูดเหมือนกับรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร ไอ้ก็อตน่ะ มันก็มีธุระของมันไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก

    และหากว่าสิ่งที่อ้ายซีกำลังพูดออกมานั้น เป็นการทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นล่ะก็ บอกเลยว่าเขาทำได้ดีทีเดียว ทว่า ท่ามกลางความสบายใจที่ฉันได้รับมากลับต้องหยุดลงอีกครั้งด้วยคำพูดของอ้ายซีนั่นแหละ

    คนที่พริกควรห่วงน่ะ น่าจะเป็นไอ้กอล์ฟมากกว่านะ

    To Be Continued...

    เราหายไปแพ็กหนังสือสำหรับจัดส่งมางับ แฮ่ๆ

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต #ผู้ชายสายโจร

    ll Character ll












    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ติดตามเรื่องนี้จิ้มที่หน้าอ้ายกอล์ฟโลด

    ^

     รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน 
     ส่งฟีดแบ็กทางทวิต เพจ คอมเม้น
     หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×