ตอนที่ 21 : ความรักดีดี 30 %
“เรื่องระเบียงริมน้ำ ให้คนงานมาจัดการเสริมเหล็กเพิ่มความแข็งแรงเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
“ครับนาย” ประวีณเลขาของอธิศวัสที่ตอนนี้ต้องดูแลรับผิดชอบทำงานแทนเจ้านายในช่วงที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงนอนในโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียด ทั้งที่เจ้าตัวเย้วๆ จะกลับรีสอร์ทตั้งแต่ที่ตาบวมปิดสนิทเริ่มมองเห็นนั่นแล้ว แต่ฟ้ารุ่งลดาไม่ยอม
“แล้วได้ทดสอบหรือยัง?”
“เอ่อ...ยังครับคุณธิศ ก็เพิ่งเสริมโครงสร้างเข้าไปเสร็จ อีกอย่างที่รีสอร์ทมีแขกทุกวัน”
“แล้วจะรออะไรล่ะ ยิ่งมีคนเยอะเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะอันตราย ปิดพื้นที่ตรวจสอบไปทีละส่วน”
“ครับๆ”
“อ้าว...ครับอย่างเดียวทำไม โทรศัพท์หานายบดินทร์เพื่อนฉันที่เป็นวิศวกรสิ ให้มันมาดูด่วนเลย”
ออกคำสั่งล้งเล้งเสียงดัง ทำให้ประวีณรีบจัดการให้ทันที เลขาของเขาเดินออกไปนอกระเบียงเพื่อจะคุยโทรศัพท์
พยาบาลพิเศษที่นั่งหน้ามุ่ยข้างเตียงรีบยกแก้วน้ำยื่นให้ อธิศวัสคว้ามาดูดอั๊กๆ ทันที ก่อนจะคืนให้สะบันงา
“ทำงานไม่ได้ดั่งใจเลยสักคน อีกกี่วันจะได้ออกโรงพยาบาลเนี่ย จะง่อยรับประทานอยู่แล้ว” บ่นหน้ายุ่งอย่างหงุดหงิดหัวใจ
“ออกไปสูดอากาศสดชื่นข้างนอกหน่อยไหมคะ?”
ใบหน้าคร้ามแบบหนุ่มไทยแลมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะส่ายหัวดิก
“อากาศดีอะไร ร้อนจะตายชัก ดูสิแดดเปรี้ยงๆ ออกอย่างนั้น” รีบพูดขึ้นมา
“ปันก็ไม่ได้จะพาพี่ธิศไปตากแดดเสียหน่อย” เจ้าตัวรีบว่า
“เคยมีใครบอกพี่ธิศไหมคะว่าเวลาสมองเครียดมากๆ มันส่งผลกับการทำงานของร่างกายด้วย ไอ้ที่เจ็บที่ป่วยมันเรื้อรังไม่หายสักที ก็เพราะไม่รู้จักปล่อยวาง ทำจิตใจให้โล่งๆ แจ่มใส มองอะไรในแง่บวกเข้าไว้”
“รู้ ยัยฟ้าก็พูดบ่อยๆ แต่เราก็เห็นนี่นาว่างานที่รีสอร์ทน่ะมันยุ่งแค่ไหน แล้วก็จะหาใครไว้ใจที่ทำแทนพี่ได้ทุกอย่างก็ไม่มีเลยสักคน”
“นี่ถ้าพี่ธิศตายไป สวรรค์ริมแควรีสอร์ทคงจะเจ๊งเลยสิคะ”
คนฟังสะอึก สายตาปราดมองคนพูดตาเขียวปั๊ด
“นี่เราแช่งพี่งั้นหรือ? ก็เพราะคำพูดพยาบาลอย่างนี้ไง ที่ทำให้คนป่วยไม่หายเสียที แทนที่จะให้กำลังใจคนไข้ ดันมาแช่งให้ตายเสียนี่” บ่นหน้ายุ่ง
“ปันเปล่าแช่งนะคะ ปันแค่สงสัยเท่านั้นจริงๆ”
อธิศวัสทิ้งศีรษะลงบนหมอน พ่นลมหายใจยาวเหยียด
“พี่ก็พยายามหาใครสักคนที่ไว้ใจได้ มาช่วยกันทำงาน แต่เพื่อนเราก็รักจะเป็นพยาบาลเสียเหลือเกิน แถมไม่ยอมย้ายกลับกาญเสียที ไม่รู้กรุงเทพมีดีอะไร จะว่าหลงแสงสีก็ไม่ใช่ ถามว่ามีแฟนซุกไว้ก็ว่าไม่มี”
สะบันงาไม่อยากตอบแทนเพื่อนว่า เป็นเพราะฟ้ารุ่งลดาไม่อยากอยู่กับพี่ชายขี้บ่นอย่างเขาต่างหากล่ะถึงไม่ยอมกลับบ้านเกิดเสียที
“พี่ธิศก็หาแฟนสิคะ อืม! อันที่จริงปันก็สนใจอยากมาทำงานรีสอร์ทอยู่นา แต่ว่าไม่มีใครชวน” เจ้าตัวหยอด แต่ อธิศวัสกลับส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“ไม่ต้องเสียเวลามาจีบพี่หรอก พี่ยังไม่คิดมีเมียตอนนี้”
“โถ! พี่ธิศขา แก่จนกระดูกกรอบแล้วนะคะ จะหวงเนื้อหวงตัวไปอีกทำไม...พอเจ็บป่วยก็ไม่มีใครมาเฝ้ามาดูแลอย่างนี้แหละ” เจ้าตัวหว่านล้อม
“ยากอะไร พี่ก็จ้างเรามาเฝ้าก็ได้ ไหนบอกสิ จะคิดค่าเฝ้าไข้คืนละเท่าไหร่?”
“แหมๆ พูดอย่างกับปันเป็นผู้หญิงหน้าเงินอย่างนั้นแหละ ที่มาเฝ้าให้นี่ ทำด้วยใจนะคะ” เจ้าตัวว่ากระเง้ากระงอดที่ชายหนุ่มไม่ยอมเล่นด้วย
“จ้าๆ ขอบใจมากมายมหาศาล เดี๋ยวพี่ให้สิทธิพิเศษเราพักฟรีที่รีสอร์ทเดือนละสามคืนเลยดีไหม?”
“ไม่เห็นจะดีเลย” เจ้าตัวว่าพร้อมกับย่นจมูกเข้าใส่ “แต่ถ้าพักได้ทุกคืนตลอดไปค่อยสนใจหน่อย” คำพูดเขินอายชะมดชะม้ายชายตาให้เขา
อธิศวัสส่ายหน้าดิก นี่ถ้าไม่ติดว่าสะบันงาเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวที่เขาพอรู้จักนิสัยใจคอหล่อนบ้าง เขาคงหลีกเลี่ยงไม่เข้าใจเจ้าหล่อนเป็นแน่ ดูพูดดูจาแต่ละคำ น่ากลัวเกิ๊น...
“ไม่รู้เป็นอะไร ทำไมถึงไม่ยอมกลับบ้าน ทั้งที่มีงานอยู่ที่นี่ แถมยังได้อยู่ใกล้พี่อีกด้วย นี่แก่ไปก็ไม่รู้จะทำยังไง? พี่ถามจริงเถอะปัน เราสนิทกับฟ้า ยัยฟ้ามีแฟนหรือเปล่า?”
เมื่อเป้าหมายตัวจริงมักเฉไฉ เขาก็ถามเอากับคนใกล้ตัวนี่แหละ
“ฟ้าน่ะไม่มีแฟนหรอกค่ะ ตั้งแต่ปันรู้จักฟ้ามา ก็เห็นเขาเครซี่อยู่คนเดยว นักอเมริกันฟุตบอลนั่นน่ะ...ชื่ออะไรน๊า?” ทำท่าคิด แต่คิดไม่ออก เพราะว่าฟ้ารุ่งลดาไม่ได้พูดถึงหนุ่มคนนี้มาพักใหญ่แล้ว
“วิลเลี่ยม โจนส์” อธิศวัสต่อให้เสร็จสรรพ
“ใช่ๆ วิลเลี่ยม โจนส์”
“ตอนนี้หมอนี่เป็นดาราดังแล้ว”
“ก็นั่นแหละ ตั้งแต่มีข่าวว่าเขาเป็นเกย์ ฟ้าก็เลิกเครซี่เขาละมั้ง” ตั้งข้อสังเกตสันนิษฐานเอาเอง
แต่อธิศวัสส่ายหน้าดิก
“หมอนั่นไม่มีทางเป็นเกย์เด็ดขาด” เขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ คงรอวันเปิดเผยแฟนตัวจริงนั่นแหละ
“เออ...นี่ปัน ช่วยพูดโน้มน้าวให้ยัยฟ้ากลับมาที่กาญหน่อยสิ” ชายหนุ่มวกกลับมาเรื่องเดิมแล้วเริ่มหาแนวร่วม
สะบันงามองหน้าครุ่นคิดท่าทางเป็นการเป็นงานของเขา ไม่อยากจะเฉลยให้ดีใจล่วงหน้าว่า ที่ฟ้ารุ่งลดากลับไปกรุงเทพฯ สองสามวันนี่ ก็เพื่อจะทำเรื่องลาออกนั่นแหละ ซึ่งเธอก็เห็นดีเห็นงามด้วย และคงจะทำเรื่องขอย้ายกลับมาประจำที่กาญจนบุรีเหมือนๆ กัน เพราะใกล้บ้าน จะได้อยู่ดูแลพ่อแม่ด้วย
“เอาอย่างนี้ไหมคะพี่ธิศ” ทำหน้าเป็นการเป็นงานขึ้นมา...ก็ชายหนุ่มอย่างมาทำหน้าซีเรียสใส่เธอก่อนนี่นา
“ว่ายังไง?” คนป่วยหันมาคุยด้วย
“ถ้าปันทำให้ฟ้าย้ายกลับมากาญได้ พี่ธิศต้องยอมให้ฟ้าควงไปก่อน ช่วงที่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน”
“หืม...” อธิศวัสทำเสียงในลำคอ “จะดีหรือ?” ทำเสียงไม่แน่ใจ แต่พอเห็นท่ายิ้มแฉ่งของแม่สาวจอมแก่นกระโหลกกะลา ก็ผงกหน้าส่งๆ
“ได้สิ แต่มีข้อแม้ว่ายัยฟ้าต้องย้ายกลับมาก่อนพี่ออกจากโรงพยาบาล โอเคไหม?”
“ได้เล้ย” สะบันงาลุกขึ้นยืนแล้วตะเบ๊ะรับทราบ ก็พอดีกับประวีณเปิดประตูกลับเข้ามา
“คุณบดินทร์บอกว่า พรุ่งนี้จะส่งคนมาจัดการให้ครับ” เลขาของเขารายงานความเรียบร้อยผู้เป็นนาย
“เฮ้ย! ได้ไง ฉันไม่เอาคนอื่น ต้องให้นายบดินทร์มันมาเอง ฉันไว้ใจมันคนเดียว”
“เอ่อ...แต่คุณบดินทร์แกติดงานอยู่ที่ทองผาภูมินะครับ...ผมเรียนให้แล้วว่าคุณธิศอยากให้มาเอง”
“นายนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ มาๆ ส่งโทรศัพท์มา เดี๋ยวฉันจะคุยเอง” ว่าพร้อมกับยื่นมือมารับเอาโทรศัพท์จากประวีนไปต่อสายหาเพื่อนตัวเอง ก่อนจะขอร้องแกมบีบบังคับให้ปลายสายเป็นคนมาดูแลงานนี้ให้ด้วยตัวเอง
“เห็นไหมต้องให้ถึงมือฉันทุกที” บ่นพร้อมกับคืนโทรศัพท์ให้ประวีณไป
“แล้วทำไมพี่ธิศไม่โทรเองเสียตั้งแต่แรกละคะ” สะบันงาถามรวนๆ กับอีกฝ่าย
“เอ้า...งั้นจะมีเลขาไว้ทำไม? คนอย่างนายอธิศวัสอยากได้อะไรก็ต้องได้”
สะบันงายิ้มแฉ่งให้เขา
“ปันก็เหมือนกันค่ะ...ความคิดเราสองคนนี่เหมือนกันเปี๊ยบเลยนะคะ” เจ้าหล่อนยิ้มพราย ที่หลอกล่อให้ชายหนุ่มสัญญาว่าจะยอมเป็นคู่ควงให้ จนกว่าจะมีแฟน
+++++++++
ใครอยากอ่านเต็มเรื่อง พร้อมให้โหลดจ้า ^^
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
