ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ひみつ] SECRETS ROOM♔

    ลำดับตอนที่ #7 : NO.7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 153
      0
      26 เม.ย. 61





                                  Application .

                 "เวลาของคุณใกล้จะหมดลงแล้วนะครับ"                




    บทที่ต้องการ :: ทหารรับจ้าง
    ฝ่าย :: รอสเพล่าร์

    ชื่อ-นามสกุล :: เรเซียส เอธาเลียห์ l Rezias  Athaliah
    เพศ :: ชาย
    อายุ :: 25 yrs.


    รูปร่างหน้าตา :: ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง สีผิวขาวโดดเด่นเมื่อตัดกับผมสีดำขลับล้อมกรอบใบหน้ารูปไข่ เช่นเดียวกับดวงตาสีรัตติกาลที่คล้ายจะดูดกลืนทุกสิ่งราวกับหลุมดำยามจดจ้องไปยังดวงตาคู่นั้น จมูกโด่งรับกับริมฝีปากบางได้รูปที่เวลายิ้มมักจะปรากฎเป็นรอยบุ๋มที่แก้มข้างซ้าย
    ส่วนสูง/น้ำหนัก :: 183cm./74kg.


    ลักษณะนิสัย ::

          ถ้าหากจะให้มองเรเซียสจากมุมมองของคนทั่วไปเขาก็คงจะเปรียบเสมือนชายหนุ่มสุภาพบุรุษ สุขุมนุ่มลึกดูน่าเชื่อถือ มาพร้อมกับรอยยิ้มจัญรวญใจ หรือแม้แต่รอยยิ้มแบบแปลกๆ ซึ่งนั่นก็แล้วแต่บุคคลที่เขาจะมอบให้น่ะนะ ทว่าภายใต้รอยยิ้มที่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนนั้น... กลับไม่มีใครรู้ว่าจุดประสงค์แท้จริงที่ซ่อนอยู่ของเขาคืออะไรกันแน่


         เรเซียสเป็นคนที่มีความสามารถในการแสดง ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวไปตามสถานการณ์ต่างๆ การควบคุมอารมณ์ความรู้สึก สีหน้า หรือบุคลิกภาพที่สามารถทำให้ผู้อื่นรู้สึกประทับใจได้ไม่ยาก  อีกทั้งยังมีวาทะศิลป์ในการพูด รู้จักการวางตัวในการเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังที่ดี เขารู้ว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนไม่ควรพูด เรเซียสสามารถพูดจูงใจให้ผู้คนคล้อยตาม โดยการจับจุดประสงค์และนำเสนอประโยชน์ที่ผู้ฟังจะได้รับ ใช้คำและน้ำเสียงสูงต่ำ หนักหรือเบาได้เหมาะสมกับสถานการณ์และผู้ฟัง


         แต่ถึงกระนั้นเรเซียสก็ไม่ใช่คนที่รัดตึงเกินไปเสียทีเดียว เรเซียสเป็นคนที่มีคารมในการสนทนากับผู้อื่น เขามักจะเปลี่ยนบรรยากาศให้ผ่อนคลายด้วยอารมณ์ขันทำให้การสนทนาไม่น่าเบื่อจนเกินไป ซึ่งลึกๆแล้วเรเซียสก็แอบมีความกวนประสาทอยู่หน่อยๆ(มั้ง) บางครั้งก็ชอบพูดจากำกวมแฝงความนัยลึกลับให้คนอื่นเก็บไปคิดให้ปวดหัวเล่นๆ และส่วนในเรื่องของการกระทำนั้นก็กวนประสาทจนชวนปวดหัวไม่ต่างกัน  /งานอดิเรกแก้เบื่อไปพลางๆของเรเซียสคือการลอบสังเกตุสีหน้าและพฤติกรรมของคนรอบข้าง ถึงจะดูแปลกไปหน่อยแต่เขารู้สึกว่ามันก็เพลินดีล่ะนะ


         จากความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น ทำให้เขาเป็นคนที่มักจะวิเคราะห์ความสามารถ ข้อดีหรือข้อเสียของสิ่งรอบตัวแล้วนำมาปรับใช้กับสถานการณ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งในวังวนของเกมประสาท เรเซียสมักจะมองการณ์ไกลและคำนึงถึงผลได้ผลเสียระยะยาวในอนาคตเสมอ ส่วนความละเอียดรอบคอบก็สำคัญเช่นกัน เพราะหากมีอะไรขาดตกบกพร่องไปนั่นก็หมายถึงความผิดพลาด และความผิดพลาดบางครั้งก็อาจหมายถึงความตายเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเรเซียสคิดจะทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเขาก็มักจะเตรียมทางหนีทีไล่ หรือคิดแผนสำรองเผื่อเอาไว้หลายแผนเผื่อเกิดสิ่งที่เหนือความคาดหมายเสมอ


         ปกติแล้วเรเซียสเป็นคนที่เก็บความลับเก่ง และไม่ใช่คนที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังนัก ถึงแม้จะสนิทสนมกันแค่ไหนเขาก็ไม่คิดจะเปิดเผยไพ่ใบสุดท้ายของตนเองอยู่ดี อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ซึ่งก็คงไม่ต่างจากใจคนเท่าไรนัก ดังนั้นเขาจึงเกลียดสิ่งที่เรียกว่าความผูกพันธ์มากที่สุด มันสามารถมอบความสุขในตอนที่ยังคงอยู่ ทว่ากลับเสียดแทงในวันที่มันจากไป เหลือไว้เพียงความทรงจำที่ยิ่งจำได้ว่าตอนนั้นมีความสุขมากเพียงใดยิ่งเจ็บปวดเพราะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปรักษาสิ่งนั้นได้อยู่ดี


       เรเซียสนั้นเป็นคนขี้เกียจกว่าที่คิด ความจริงแล้วเขาชอบที่จะนอนพักผ่อนไม่ก็อ่านหนังสือในเวลาว่างเหมือนแมวขี้เกียจมากกว่าไปทำอะไรจำพวกทรมาณคนอื่นเพื่อแก้เบื่อ หรือลากใครเข้ามาเล่นเกมประสาทบ้าๆนั่นหรอก  ยกเว้นคนพวกนั้นจะมาหาเรื่องก่อน หรือเป็นภารกิจที่ให้ค่าตอบแทนที่น่าสนใจและสมน้ำสมเนื้อ ถ้าหากเพื่อเม็ดเงิน แม้เหยื่อกรีดร้องจะอ้อนวอนร้องขอชีวิตดังแค่ไหนก็ราวกับเสียงนั้นไม่ได้ส่งไปถึงเขาเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายก็ถูกปิดฉากด้วยการส่งมอบความตายอย่างไร้ความเมตตา
    เรเซียสไม่ใช่คนดีอะไร แน่นอนว่าทุกการกระทำของเขาต่างหวังผลประโยชน์ที่จะได้รับทั้งนั้น จะเรียกว่าเห็นแก่เงินก็คงจะไม่ผิดนักหรอก ในเมื่อวันหนึ่งเขาเคยสูญเสียทุกอย่างไปเพราะไม่มีมัน อีกทั้งยังไม่เหลือสิ่งสุดท้ายที่ต้องปกป้องนอกจากตัวเอง



    ลักษณะการพูดจา ::เรเซียสมักพูดด้วยคำสุภาพ แทนตัวเองด้วย'ผม' และแทนผู้อื่นว่า'คุณ' แต่ละประโยคส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วยหางเสียงเสมอ ส่วนน้ำเสียงจะแตกต่างกันไปตามสภาพอารมณ์และสถานการณ์ ซึ่งอาจมีการเว้นช่วงในบางครั้ง เสียงพูดเวลาปกติจะเป็นเสียงโทนเรียบนิ่งแต่แฝงด้วยความนุ่มทุ้ม ตัวอย่างเช่น
    -"ว้า... แย่จัง"
    -"เอาล่ะ คิดให้ดีนะครับ...แล้วผมจะกลับมาใหม่"
    -"อรุณสวัสดิ์ ไม่ทราบว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหมครับ?"
    -"ทำแบบนี้นิสัยไม่ดีเอาซะเลยนะครับ:)"



    ประวัติคร่าวๆ :: 

         เรเซียสเติบโตมาในครอบครัวที่เคยอบอุ่น  พ่อของเขาเป็นพ่อค้าที่ค่อนข้างร่ำรวยมีกินมีใช้ไม่ขาด ทว่าภายหลังกลับติดการพนันจนทำให้เกิดหนี้ก้อนโตท่วมหัว ฐานะทางบ้านที่เคยร่ำรวยก็ถูกลดระดับลงมาจนต่ำต้อย 

         จากที่เคยต้อนรับด้วยความดีใจยามพ่อกลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารเย็นพร้อมหน้ากัน บัดนี้แม่ของเขากลับถูกทุบตีทุกครั้งที่พ่อกลับบ้านเพราะต้องการเงินที่แม่หามาไปเล่นการพนัน ส่วนแม่และตัวเขาก็ต้องทำงานหนักประทังชีวิตไปวันๆ  ไม่นานพ่อของเขาก็จากโลกไปด้วยการฆ่าตัวตาย ทิ้งหนี้สินที่ตนเองก่อไว้ให้ครอบครัวชดใช้ 

    ทว่าความทรมาณที่เคยได้รับนั้นไม่ได้มีเพียงจากพ่อของเขาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการข่มขู่และทำร้ายจากเจ้าหนี้อีกด้วย

        .


         เด็กชายวัยหกขวบเดินไปตามตรอกสลัมแคบๆและสกปรกพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดีทั้งที่กำลังเคี้ยวขนมปังอยู่ในปาก ส่วนในมือก็ถือถุงกระดาษที่บรรจุไปด้วยขนมปังเช่นเดียวกัน 
     
         ขนมปังพวกนี้เป็นค่าตอบแทนหลังจากที่เรเซียสไปช่วยงานที่ร้านขนมปังของคุณป้าเบทธานี่ย์ล่ะ! ป่านนี้คุณแม่ก็คงจะทำซุปเห็ดอุ่นๆไว้รอกินกับขนมปังที่เขาหามา สำหรับเด็กน้อยแล้วอาหารที่แม่ทำน่ะน่ากินที่สุดในโลกอยู่แล้ว ถึงแม้มันจะเป็นแค่เมนูธรรมดาง่ายๆก็เถอะ

         ...กึก

    เรเซียสชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงประหลาดคล้ายกับของแข็งกระแทกกับอะไรบางอย่าง ดังมาจากมุมตรอกเล็กๆที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าผ้านวมเก่าๆ ตะเกียง และเตาผิงถูกจัดไว้อย่างง่ายๆให้พอซุกหัวนอน นั่นแหละที่อยู่ของพวกเรา...

         "ดะ..ได้โปรด อย่าทำแบบนี้เลย ฮึก.." เสียงสะอื้นด้วยความขมขื่นของหญิงสาวดังขึ้นอย่างหน้าเวทนา ทว่ากลับไม่มีใครสนใจ ซ้ำยังย่ำยีอันน่ารังเกียจกับร่างกายของเธอต่อไป ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะของชายอีกสี่คนที่ยืนล้อมขนาบเจ้าหล่อน

         "เฮ้! แม็กซ์ ถ้านายสนุกพอแล้วขอฉันต่อด้วยสิ"

         "ฮ่าๆ เงินไม่มีแล้วยังมีหน้ามาร้องขออะไรแบบนั้นอีกหรอ? ไอ้สร้อยคอไร้ค่าเส้นนั้นน่ะฉันไม่ต้องการหรอก" 

         ชายหนึ่งในนั้นกล่าวขึ้นด้วยความคึกคะนอง มือเล็กจิกเข้าด้วยกันจนเลือดซิบกับสิ่งที่พวกนั้นทำกับแม่ของเขา สองเท้ากำลังจะก้าวออกไปทว่ากลับรู้สึกถึงของแข็งที่ฝ่าเท้าราวกำเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าไม่ควรบุกเข้าไปโดยบุ่มบ่าม เขาก้มลงไปเก็บก็พบกับหินสีเขียวอมฟ้าใสๆที่ถูกถักหุ้มเป็นสร้อย ซึ่งเรเซียสจำได้ว่าแม่ของเขามักจะใส่สร้อยเส้นนี้อยู่เสมอ

         เด็กน้อยอยากจะออกไปร้องขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก ทว่าที่แหล่งนี้อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากตลาดอยู่ค่อนข้างมาก กว่าจะกลับมาถึงก็คงจะไม่ทัน ส่วนคนในสลัมน่ะเหรอ... เขาเริ่มจะเข้าใจกับการใช้ชีวิตแบบเซอร์ไวเวิลแล้วล่ะ หากพวกเขาไม่ได้ค่าตอบแทนที่มากพอพวกเขาก็ไม่คิดที่จะเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงช่วยคนที่ไม่รู้จักหรอก 

         เพราะคนที่จะปกป้องแม่ได้มีแค่เขาเท่านั้น...

         เรเซียสพยายามมองหาสิ่งที่พอจะใช้เป็นอาวุธได้ จนกระทั่งไปเจอก้อนกรวด และเศษไม้ขนาดกลางที่วางพาดอยู่บนลังไม้ ซึ่งถ้ามีแรงมากกว่านี้เขาก็อยากจะหักให้เป็นปลายแหลมเหมือนกัน

         เขาโยนก้อนกรวดออกไปเป็นอันดับแรกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้พวกนั้นหันไปอีกทาง

    "เมื่อกี้เสียงอะไรวะ!! เอ็งไปดูทางซ้ายซิเผื่อมีคน" ชายคนที่อยู่กับแม่ของเขาสั่งให้ชายอีกคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

         อ่า... ได้ผลด้วยแฮะ

         เมื่อเห็นเช่นนั้นเด็กชายจึงรอจังหวะอยู่ในมุมที่ลับตาคน รอจนกระทั่งชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะทุบเข้าที่ท้ายทอยอย่างเต็มแรงเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะมีได้ 

    ...ทว่ารอบนี้มันกลับไม่ได้ผล ชายคนนั้นกลับดูปกติดีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เด็กชายหน้าซีดฉับพันเมื่อเห็นถึงหายนะที่กำลังตามมา 

         "แกคิดว่าแรงแค่นี้จะทำอะไรฉันได้ห๊ะ!!"

    ชายฉกรรจ์ตวาดเสียงดังลั่น เรเซียสพยายามหนีไปตั้งหลักใหม่ ทว่ากับถูกต่อยเข้าที่ท้องอย่างเต็มแรงจนล้มลงไป  ก่อนจะตามมาด้วยแรงกระทืบไปตามร่างเล็ก

         "มีหนูสกปรกโผล่มาอีกแล้วว่ะพวกเรา!"  เด็กชายถูกหิ้วมาอยู่ตรงกลางวงต่อหน้าแม่ของเขา ก่อนจะถูกปล่อยลงกับพื้นอย่างไร้เยื่อใย เขามองใบหน้าของผู้เป็นมารดาที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาที่กำลังมองมาทางนี้เช่นกัน

         ชายอีกคนนั่งลงยองๆในระดับสายตาเดียวกัน มือหยาบกระชากเข้าที่กลุ่มผมสีดำของเด็กชายที่หายใจรวยรินอยู่บนพื้นให้เงยหน้าขึ้น

         "ฉันยอมทุกอย่างแล้ว อย่าทำอะไรกับลูกของฉันเลย นะ... ปล่อยเขาไปเถอะ"

    หญิงสาวยังคงอ้อนวอนแม้จะรู้ว่ามันไม่ได้ผลก็ตาม เธอสามารถยอมได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต สำหรับเธอแล้วไม่มีสิ่งไหนสำคัญมากไปกว่าลูกชายคนเดียวของเธออีกแล้ว ต่อให้เป็นเงินทองหรือทรัพย์สินก็มิอาจเทียบได้เลยสักนิด 

         "แกคงจะรู้ใช่ไหมว่าหนูสกปรกสมควรถูกกำจัดยังไง" ชายคนนั้นกล่าวด้วยแววตาเย้ยหยัน

         ...ถุย

         น้ำลายถูกพ่นใส่คนตรงหน้า 

         "คนที่ควรจะเก็บคำถามนั้นไปคิดก็คือพวกแกนั่นแหละ" เด็กชายว่าพร้อมแสยะยิ้ม เขาเดาว่าคนพวกนี้คงจะโกรธเมื่อได้ยินคำนี้ เรเซียสใช้ขนาดตัวที่เล็กลอดออกมาจากหว่างขาของชายคนหนึ่งเพื่ออกมานอกวง พลันสายตากลับเหลือบไปเห็นขวดเหล้าวางกลิ้งอยู่ แน่นอนว่าเขาย่อมคว้ามันมา ก่อนจะฟาดไปที่หัวของชายสักคนที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างไม่ลังเล

         เสียงเศษแก้วแตกกระจายดังขึ้น พร้อมกับเลือดที่ไหลไปตามขมับของชายผู้โชคร้ายที่กำลังนอนฟลุบอยู่ที่พื้น ท่ามกลางสายตาของชายที่เหลือกำลังมองพรรคพวกของตนล้มลงไป

    ทว่าเมื่อเรเซียสหันกลับไปทางมารดาอีกทีกลับพบว่าคนพวกนั้นกำลังใช้มีดสั้นจ่อเข้าที่คอหอยของเธออยู่ ไม่ทันจะมีโอกาสได้ทำอะไร โลหิตสีแดงสดอันเป็นผลจากหลอดลมที่ฉีกขาดกระเด็นมาถูกที่ใบหน้าของเด็กชาย ดวงตาเบิกโพลงเมื่อเห็นมารดาของตนตายไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย 

         'วิ่ง-ไป...'

    ถ้อยคำสุดท้ายที่ไร้เสียงถูกส่งผ่านมาจากริมฝีปากของผู้เป็นแม่

         ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ไม่มีเวลาสำหรับการเสียน้ำตา และไม่มีเวลาสำหรับการบอกลาครั้งสุดท้าย ความเจ็บปวดพรั่งพรูอยู่ในอกจนแทบจะร้องไม่ออก เด็กชายวัยหกขวบได้แต่วิ่งออกไปไกลๆตามคำสั่งสุดท้ายของมารดา


         'ขอโทษนะครับ... คุณแม่'

         .

         /หลายปีผ่านไป 

       ...เคยมีบางคนกล่าวว่าเวลาสามารถเยียวยาได้ทุกสิ่ง ถ้าเช่นนั้นสำหรับเขาแล้วคงต้องใช้เวลาสักร้อยปีเลยล่ะมั้งในการลบเลือนรอยแผลเป็น

         เรเซียสได้พบกับตาลุงคนหนึ่งที่แม้จะท่าทางเจ้าเล่ห์และกวนประสาทไม่น้อย แต่ก็ดูเป็นบุคคลที่น่าเคารพคนหนึ่ง เขาคนนั้นได้สอนหลายๆสิ่งให้กับเด็กชายวัย10ปี ทั้งการต่อสู้ การปรุงพิษ ยุทธศาสตร์และการมองเกม แน่นอนว่าวิชาความรู้เหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาฟรีๆ เรเซียสยังต้องทำงานเป็นคู่มือต่างๆให้กับเขา แต่นั่นก็ทำให้เด็กชายได้เรียนรู้กระบวนการทำงานมากขึ้น

         จนกระทั่งเติบโตขึ้น เรเซียสจึงได้ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้างตั้งแต่ยังวัยรุ่นและสั่งสมประสบการณ์มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนตาลุงคนนั้น หรือ 'ดาร์ซิโอ' ก็ได้แยกย้ายไปที่ไหนซักแห่งที่เขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน โดยเจ้าตัวเพียงแค่ทิ้งท้ายไว้ว่า

         'ที่ไกลๆ ไม่ต้องตามหาหรอกเจ้าหนู'

         (...)


    ชอบ :: การสังเกตุพฤติกรรมของคนรอบข้าง/ชาร้อน/หนังสือ
    ไม่ชอบ :: อากาศร้อนอบอ้าว/อะไรก็ตามที่น่ารำคาญ
    แพ้ :: ขนสัตว์
    กลัว :: ความผูกพันธ์


    อาวุธ :: หน้าไม้อาบพิษ
    ความสามารถพิเศษ :: การเจรจา/การต่อสู้ระยะประชิด แต่ถ้าเอาตามที่ถนัดก็คงจะเป็นการต่อสู้ระยะไกลจำพวกลอบโจมตีมากกว่า/การปรุงยาพิษ
    พลังพิเศษ :: สร้างหลุมมิติ(ตัวอย่างการใช้งานเช่น หากยื่นแขนเข้าไปในหลุมมิตินั้นทว่าผู้ใช้งานกลับปิดมิติเสียก่อนก็จะทำให้แขนข้างนั้นขาดเป็นต้น งงมั้ยคะ55555)

    เพิ่มเติม ::
    -ในตอนสมัยที่พ่อของน้องยังอยู่ พ่อของน้องได้ขายบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านเพื่อใช้หนี้ไปหมดแล้วค่ะ ทำให้น้องกับแม่ต้องไปอยู่แบบตามมีตามเกิด แต่กระนั้นก็ใช่ว่าจะใช้หนี้หมดอยู่ดี
    -น้องมักจะสวมสร้อยหินของแม่ที่เคยเก็บได้เสมอ


    (c)               Chess theme
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×