ตอนที่ 8 : บทที่ 4 - ขัดใจ ( 100% )
ฝากกดไลค์แฟนเพจด้วยนะคะ ^^ จะได้ติดตามผลงานกันง่ายขึ้น
https://www.facebook.com/DekDHayase/
เม้นๆ โหวตๆ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ^_^
บทที่ 4
ขัดใจ ( 100% )
ข่าวงานแต่งงานของตระกูลปรมเทพโด่งดังขึ้นหน้าหนึ่งในแวดวงไฮโซ บรรดานักข่าวพากันเขียนพาดหัวข่าวอย่างครึกโครมการถึงความหรูหราและยิ่งไปกว่านั้นค่าสินสอดร้อยล้านก็เป็นที่ฮือฮาสำหรับทุกคน เหตุนี้เองที่ทำให้พัชระรู้สึกหงุดหงิดจนต้องมาหาที่ลงกับร่างบาง
“ทำไมฉันหาเสื้อเชิ้ตสีดำไม่เจอรัตนาวดี” น้ำเสียงติดตะคอกเอ่ยถามคนที่กำลังงุ่นง่านอยู่กับการเตรียมอาหารเช้า ภาพตรงหน้ากลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชายหนุ่ม ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วที่เขาและเธอใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
“ปกติมันต้องอยู่ในตู้ แต่นี่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ”
“สักครู่นะคะ” ว่าแล้วก็วางมือจากทุกอย่างแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องนอน หญิงสาวใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็ถือเสื้อเชิ้ตสีดำตัวโปรดของชายหนุ่มมาส่งยื่นให้กับเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฉันเห็นตู้เสื้อผ้าของคุณไม่เป็นระเบียบฉันก็เลยจัดทุกอย่างให้ใหม่ ตรงนี้เป็นโซนเสื้อผ้าทั่วไป ตรงนี้เป็นชุดสูท และตรงนี้เป็นจำพวกเสื้อเชิ้ต อ่อ ส่วนตามลิ้นชักก็จะเป็นพวกเนคไท กางเกงใน และ…”
“พอๆ !” พัชระรีบยกมือห้าม “นี่เธอวุ่นวายกับกางเกงในฉันเลยเหรอ” ถามตาโต
รัตนาวดีหลุดขำออกมาอย่างลืมตัว…
“หัวเราะอะไร” ถามเสียงห้วน รู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า เกิดมานอกจากมารดาก็ไม่เคยมีใครล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเขาขนาดนี้มาก่อน
“ฉันเพียงแต่ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีค่ะ” เสียงหวานตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ยิ่งทำให้พัชระรู้สึกหมันไส้จนอดไม่ได้ที่จะแกล้งคนตัวเล็ก
“ทำแค่นี้เขาไม่เรียกว่าเป็นภรรยาที่ดีหรอกนะ” ใบหน้าคมเข้มแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ประชิดร่างบางที่หมดหนทางหนี
“คุณจะทำอะไร” รัตนาวดีถามเสียงสั่น ความหรรษาเมื่อครู่พลันหายไปในพริบตา
หญิงสาวหารู้ไม่ว่าใบหน้าไร้เดียงสาบวกกับดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้นเปรียบเหมือนขนมหวานชั้นเลิศที่ทำให้หัวใจแกร่งสั่นคลอน ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธความงามของภรรยาตรงหน้าได้ แม้ไม่ได้แตะต้องเฉกเช่นคู่รักคู่อื่น แต่เสน่ห์เหลือร้ายของเจ้าหล่อนก็มีมากโขนัก รัตนาวดีรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้ายามมองสบนัยน์ตาคมเข้ม หญิงสาวรู้สึกโกรธตัวเองที่ทำตัวอวดดีจนตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“คุณจะเขยิบเข้ามาใกล้ฉันทำไมคะ ฉันอึดอัด” รัตนาวดีถอยหนีจนแผ่นหลังติดกับกำแพงหนา มองซ้ายมองขวาหาสิ่งป้องกันตัว ซึ่งคนตรงหน้ารู้ทันความคิดของเธอ
“อย่าคิดหาอะไรมาตีหัวผัวนะจ้ะเมียจ๋า” พัชระว่ายิ้มๆ มือหนาจับปลายคางเรียวให้เงยขึ้นสบตากับตน “จะว่าไปเราสองคนก็อยู่กินกันมาได้สักระยะแล้วนะ ฉันว่าฉันควรจะ…อื้ม ! เธอว่าไหม ?” คนพูดแกล้งแลบลิ้นเลียมุมปาก
การกระทำของเขายิ่งยั่วประสาทของร่างบาง
“ยะ อย่ามาบ้านะคุณพัชระ ไหนคุณบอกว่าเกลียดฉันไง” หญิงสาวหาเรื่องเอาตัวรอด
“เกลียดน่ะใช่ แต่ความเกลียดกับความอยากมันไม่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน ฉันกำลังคิดว่าตัวเองโง่หรือเปล่าที่ปล่อยให้เธอลอยนวลอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ตัวฉันมีสิทธิ์อันชอบธรรมในตัวเธอทุกอย่าง” เสียงเข้มเอ่ยพลางสำรวจร่างกายอ้อนแอ้น เขาแกล้งเพ่งมองใบหน้าหวานด้วยสายตาหื่นกระหายหวังแหย่ให้เธอกลัวเล่นๆ แต่ทำไปทำมาหัวใจไม่รักดีก็กลับสั่นไหวขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“คนบ้า ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว” รัตนาวดีใช้ช่วงจังหวะที่เขาเผลอตัวผลักอกแกร่งให้ถอยห่าง ยังไม่ทันได้พาร่างออกจากห้องเชือดมือหนาก็คว้าตัวเธอไว้ได้ทันก่อนที่สองเท้าเล็กจะก้าวพ้นขอบประตูห้อง
“กรี๊ด !”
พัชระใช้ความชำนาญตวัดร่างบางให้ตกอยู่ภายใต้อาณัติของตนอย่างรวดเร็วโดยมีเขาทาบทับอยู่ด้านบน ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างปลายจมูกโด่งรั้นเพียงแค่ฝ่ามือกั้น สัมผัสได้ถึงลมหายใจของทั้งคู่ที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว แก้มนวลออกสีแดงระเรื่อ ความร้อนผ่าวปรากฏชัดจนผู้เป็นเจ้าของต้องแอบลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างคนวิตกกังวล แต่เจ้าหล่อนจะรู้หรือไม่ว่าการกระทำเช่นนี้ราวกับเป็นการยั่วอารมณ์บุรุษเพศให้ลุกโหมกระพือ พัชระทอดสายตามองใบหน้าหวานไม่วางตา และราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ริมฝีปากหยักสวยที่ชอบเอาแต่ต่อว่าคนตัวเล็กก็กดแนบชิดกับเรียวปากอิ่ม รัตนาวดีเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้กับตน หญิงสาวที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ไม่สามารถทำอะไรกับร่างหนาได้เลย แม้ใจอยากจะผลักไสเขาให้ออกห่างแต่ร่างกายกลับตอบสนองโดยธรรมชาติ อาการเลิ่กลั่กแบบคนไม่ประสาในเรื่องอย่างว่าพยายามจูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสา พัชระยิ่งชอบใจนัก ชายหนุ่มครางในลำคอเมื่อส่งเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากเล็ก ขบเม้มเรียวลิ้นเล็กให้ผู้เป็นเจ้าของได้สั่นสะท้าน
มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามเนื้อนวลอย่างช้าๆ โดยเริ่มจากเรียวขายาวที่ตอนนี้ถูกเสือร้ายถกกระโปรงพีทสีฟ้าอ่อนให้ร่นขึ้นมาถึงเอวเล็ก พัชระใช้ช่วงจังหวะที่รัตนาวดีกำลังเพลิดเพลินกับรสจูบแสนหวานค่อยๆ สอดมือเข้าไปทักทายกุหลาบงาม เพียงแค่ปลายนิ้วแกร่งบดคลึงกลีบเกสรร่างบางก็ได้สติขึ้นมาทันที !
“อย่านะคุณพัชระ !”
พลั่ก !
รัตนาวดีถีบคนตัวโตออกกระเด็นจนพัชระตกเตียงไม่เป็นท่า จากนั้นก็รีบคว้าผ้านวมผืนหนาขึ้นมาปกปิดร่างกายที่เกือบจะถูกเขาลอกคราบออกอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยตื่นตระหนกไม่คิดเลยว่าเขาจะร้ายกาจถึงเพียงนี้
“เป็นบ้าอะไรของเธอ หะ !” คนที่ถูกผลักตกจากสวรรค์ชั้นเจ็ดตะคอกถามลั่น อารมณ์วาบหวามเมื่อครู่พังทลายสิ้น
“คุณ… ก็ คุณจะรังแกฉัน” ตอบเสียงสั่น
“เหอะ ผัวจะนอนกับเมียบ้านเธอเรียกว่ารังแกหรือหะ ประสาทหรือเปล่า” ชายหนุ่มชี้นิ้วไปที่สมองของตนประกอบคำพูด
“แต่ฉันไม่เต็มใจ และคุณก็คงเป็นลูกผู้ชายพอที่จะไม่ขืนใจผู้หญิง ใช่ไหมคะ ?” รัตนาวดีใช้คำพูดเล่ห์เลี่ยมเข้าช่วย
“หึ !” พัชระเอามือทุบกำแพงห้องนอนอย่างหงุดหงิด รัตนาวดียอมรับว่ากลัวแต่เธอคิดว่าตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ
“ฉันขอโทษ… ขอเวลาฉันทำใจสักระยะได้ไหมคะ แล้วถ้าพร้อมเมื่อไหร่ฉันจะไม่ขัดใจคุณเลย” คนพูดเอ่ยเศร้าๆ แม้จะไม่ได้รักใคร่กันเหมือนคู่อื่น แต่เธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาแล้ว เรื่องสัมพันธ์ทางกายแน่นอนว่ามันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ไม่วันใดก็วันหนึ่งเธอก็ต้องเป็นของเขาอยู่ดี…
“คะ คุณ” รัตนาวดีตกใจเมื่อจู่ๆ ร่างสูงก็พุ่งเข้ามาประชิดตัวเธออีกครั้ง ชายหนุ่มรั้งร่างแม่ภรรยาตัวน้อยเข้าสู่อ้อมแขน จมูกโด่งฝังลงกับแก้มนวลแรงๆ ราวกับผู้ใหญ่ที่หมันเขี้ยวเด็ก “ปะ ปล่อยเถอะค่ะ ฉันอึดอัด”
“กอดแค่นี้บอกอึดอัด แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เธอจะให้ความเป็นเมียที่สมบรูณ์แบบกับฉันได้ บอกหน่อยสิแม่ตัวดี” พัชระว่าให้ และยิ่งเธออยากให้เขาปล่อยอ้อมกอดก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น
“ก็บอกแล้วไงคะว่าขอเวลา คุณไม่เข้าใจคำว่าขอเวลาหรือคะ” หญิงสาวเสียงสูง เริ่มโมโหเช่นกันที่เขาเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้
“ก็อยากช่วยให้เธอปรับตัวได้ไวๆ ไง” พัชระแถไปเรื่อย ไม่วายหอมแก้มนวลอีกครั้ง แต่คราวนี้คนตัวเล็กไม่ยอมถูกเอาเปรียบง่ายๆ รัตนาวดีใช้เล็บอันแหลมคมของตนจิกเข้าที่ท่อนแขนบึกบึน
“โอ๊ย นี่เธอ” คนถูกประทุษร้ายร้องลั่น กระโดดถอยห่างอัตโนมัติ เป็นผลดีให้ผู้กระทำมีช่องทางหายใจได้สะดวก รัตนาวดีรีบวิ่งออกจากห้องด้วยกลัวว่าจะถูกจับอีกครั้ง
“ยัยบ้าเอ๊ย เจ็บชะมัด” ร่างสูงกัดฟันเมื่อทำอะไรหญิงสาวไม่ได้ ดวงตาคมมองผลงานของภรรยาด้วยความแค้นใจ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำแบบนี้กับเขาสักคนยกเว้นเธอ
คอยดูนะ… อย่าให้ถึงที่เขาบ้างแล้วกัน
ทางด้านคนที่วิ่งหนีก็เข้ามาหลบภัยอยู่ที่ห้องนอนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเธอตั้งใจว่าวันนี้จะลองพูดกับเจ้าของบ้านดีๆ ว่าจะขอย้ายมานอนที่ห้องนี้เป็นการส่วนตัว แต่ก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร และจากเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ทำให้เจ้าหล่อนไม่กล้าเอ่ย เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มหัวเสียไม่น้อยที่เธอขัดใจเขา เกิดพูดถึงความต้องการในใจคงได้มีปากเสียงกันแน่ คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็เลือกที่จะไม่พูดเสียดีกว่า
“เกือบแล้วไหมเรา” รัตนาวดีพูดกับตัวเอง ยกมือขึ้นลูบใบหน้าหวังไล่ความกังวลออกจากกาย แต่มันกลับไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นแม้แต่น้อย เมื่อมโนสำนึกยังจดจำรสจูบและรอยสัมผัสของเขาได้ขึ้นใจ !
“บ้าที่สุด ! นี่เราทำไมถึงได้ปล่อยตัวขนาดนี้นะ”
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนถึงเนื้อถึงตัวกับเธอเท่าเขามาก่อนเลยสักครั้ง ส่วนหนึ่งที่ร่างกายของเธอตอบสนองคงเป็นเพราะธรรมชาติที่มันพาไป เนื่องด้วยร่างกายของมนุษย์ถือเป็นสิ่งที่ควบคุมยากยิ่งนัก ความชำนาญของพัชระจึงสามารถชักจูงรัตนาวดีให้หลงกลได้ไม่ยาก ไม่แปลกที่หญิงสาวจะเผลอตัว
และ…เผลอใจ
ห้าโหลลลล หกโหลลล เจ็ดโหลลล แปดโหลลล 555 >< เพื่อนแพงคนเดิม เพิ่มเติมคือมาอัพบทที่ 4 ให้แล้วน้า ^^ ใครรออ่านเรื่องนี้อยู่บ้างเอ่ยยย ? ชอบไม่ชอบยังไงเม้นบอกกันด้วยนะคะ ^^ จะได้เป็นกำลังใจให้กันเนอะ อัพมาได้หลายตอนแล้วยังไม่มีคอมเม้นเลย นักอ่านผู้น่ารักเม้นๆ กันหน่อยเร็ว >< มามะ เก๋ารออ่านคอมเม้นดีๆ อยู่น้า ^^ ส่วนใครที่ติดตามเพื่อนแพงมาตั้งแต่เรื่องแรกๆ ก็ฝากอุดหนุนนิยาย E-Book ของเก๋าด้วยน้าค้า มีลิ้งค์มาให้ทุกคนเลย และที่สำคัญ ช่วงนี้อยู่ในช่วงโปรโมรชั่นทุกเรื่องเลยนะคะ ^^ รีบๆ หน่อยเร็ว เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะคะ เดี๋ยวช้าหมดอดไม่รู้น้า อิอิ ^^
ผลงาน E-BOOK ของเพื่อนแพงทั้งหมดค่ะ ฝากด้วยนะคะ ^^
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
