ตอนที่ 6 : บทที่ 3 - เจ้าบ่าว & เจ้าสาวป้ายแดง ( 50% )
ฝากกดไล
ค์แฟนเพจด้วยนะคะ ^^ จะได้ติดตามผลงานกันง่ายขึ้น
https://www.facebook.com/DekDHayase/
บทที่ 3
เจ้าบ่าว & เจ้าสาวป้ายแดง ( 50% )
รัตนาวดีเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ยอมออกไปเจอใครแม้แต่บิดาที่รัก ทัศนัยเครียดมากที่เป็นต้นเหตุทำให้บุตรสาวต้องเสียใจ ชายชราพยายามเรียกคนด้านในอยู่หลายครั้งและหลายวัน หากก็ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ จากหญิงสาว รัตนาวดีคงไม่รู้ว่ากำลังทำให้ผู้เป็นพ่อพลอยกินไม่ได้นอนไม่หลับไปด้วย
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ทัศนัยเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องของลูกรัก…
“รัตน์ลูก รัตน์… ออกมากินข้าวเถอะลูก หนูไม่ยอมกินอะไรมาหลายวันแล้วนะลูก เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ พ่อเป็นห่วง”
เงียบ… เหมือนพูดกับลมกับฟ้าที่ไม่มีการโต้กลับใดๆ ทั้งสิ้น แต่กระนั้นชายชราที่แบกความทุกข์ใจต่างๆ นานา ก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงเดินหน้าเรียกบุตรสาวร่ำไป
“รัตน์ อย่าทำแบบนี้เลยนะลูกนะ ออกมาคุยกันดีๆ เถอะลูก พ่อเป็นห่วงหนูนะลูก พ่อ…” พูดได้ถึงตรงนี้หัวใจของทัศนัยก็เจ็บปวด ลำคอแห้งผากราวกับขาดน้ำเป็นแรมปี นัยน์ตาทั้งสองข้างพลันแดงก่ำ
น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยร้องไห้ให้กับเรื่องอะไรง่ายๆ กลับไหลลงสู่อาบแก้มสาก
“พ่อขอโทษลูก ฮึก พ่อ พ่อขอโทษ…” มือหนาเหี่ยวย่นตามวัยลูบใบหน้าลวกๆ เพื่อต้องการให้น้ำตามันหายไป แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์เห็นใจเขา ประตูบานใหญ่ที่แกะสลักด้วยไม้สักหรูหราก็พลันเปิดออกพร้อมกับร่างบางแสนคุ้นเคย
“รัตน์…” ทัศนัยครางชื่อบุตรสาวเสียงแผ่ว
ใบหน้าสวยหวานที่ไม่ได้เห็นเสียหลายวันทำให้เขาอดกลั้นไม่ได้อีกต่อไป น้ำตาของผู้เป็นพ่อไหลราวกับต้องการประท้วงให้คนตัวเล็กรู้ว่าตลอดเวลาที่เธอหลบหน้าหลบตานั้นมันทรมานมากเพียงใด
หมับ !
รัตนาวดีสวมกอดบิดาแน่น หญิงสาวซบใบหน้าลงกับอกกว้างแล้วปล่อยโฮออกมาเสียตรงนั้น ทัศนัยลูบศีรษะผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจอย่างใคร่นึกสงสาร
“ทำไมคุณพ่อทำแบบนี้คะ ทำไมต้องผลักไสหนูให้ไปอยู่กับคนอื่นด้วย ทำไมคะ ทำไม…” เสียงหวานถามในสิ่งที่ค้างคาใจมานานหลายวัน
“พ่อไม่เคยผลักไสลูก ไม่เคยคิดและไม่มีวันคิดด้วย !”
“แล้วทำไมต้องให้หนูแต่งงานด้วยล่ะคะ หนูไม่อยากแต่งงานกับเขา หนูไม่ชอบผู้ชายมารยาททรามแบบเขา ฮึก หนูไม่เอา หนูไม่แต่ง” รัตนาวดีร้องไห้เป็นเด็กๆ
“ไม่ได้ลูก ยังไงลูกก็ต้องแต่ง” ทัศนัยยืนยันคำตอบ
ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเงยขึ้นสบตาคนตรงหน้า ความรู้สึกผิดหวังปะทุขึ้นจนแทบยืนไม่ไหว ทัศนัยรับรู้ถึงความรู้สึกของบุตรสาว ยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตาให้กับลูกรัก
“ฟังนะลูก การแต่งงานครั้งนี้มันเป็นสิ่งสำคัญมาก พ่ออยากจะ…”
“ไม่ !” รัตนาวดีปฏิเสธเสียงแข็ง
“รัตน์ลูก…” ทัศนัยเสียงอ่อน พยายามจะพูดให้อีกฝ่ายเข้าใจแต่เธอก็ไม่คิดจะฟัง
“หนูไม่ยอมเด็ดขาด คุณพ่อไม่มีทางบังคับหนูได้หรอกค่ะ หนูยอมคุณพ่อได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้เท่านั้นที่หนูไม่มีวันยอม” พูดจบรัตนาวดีก็หมุนตัวเตรียมจะเข้าห้องตามเคย
“แล้วถ้าพ่อบอกว่าพ่อกำลังจะตายล่ะ !”
เสียงเข้มแหบห้าวตามวัยเอ่ยขึ้น ใบหน้าอ่อนโยนฉายชัดว่าเจ็บปวดเหลือเกิน คำพูดของบิดาหยุดทุกการกระทำของบุตรสาว รัตนาวดีหันหน้ากลับมาเผชิญกับคนด้านหลังอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นน้ำตาของคนที่เลี้ยงดูเธอมาตลอดสิบกว่าปี
“ถ้าพ่อบอกว่าพ่อกำลังจะตาย ถ้าพ่อกำลังจะตาย ถ้าพ่อ…” พูดได้แค่นั้นชายชราก็ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาได้อีก ทุกอย่างกำลังบีบรัดจนเจ้าตัวแทบยืนไม่ไหว
สิ่งที่ปกปิดมาเนิ่นนานกำลังจะถูกเปิดเผยทั้งๆ ที่เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้
“คุณพ่อหมายความว่ายังไงคะ” รัตนาวดีเอ่ยถาม
ทัศนัยสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ร่างเล็ก
“พ่อกำลังจะตาย โรคร้ายมันกำลังจะพรากพ่อไปจากลูก” ทศนัยเอ่ยทั้งน้ำตา
“คุณพ่อเป็นโรคอะไรคะ คุณพ่อเป็นอะไร !”
เพียงแค่ได้ยินคำว่า ‘โรคร้าย’ ออกมาจากปากของบิดา หัวใจของรัตนาวดีก็แทบสิ้นใจ หัวสมองพลันคิดไปถึงอนาคตที่มันยังมาไม่ถึง ถ้าวันหนึ่งไม่มีท่านแล้วเธอจะอยู่อย่างไร ถ้าท่านไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้ทุกวันเธอจะทนได้ไหม ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียมารดาที่รัก ความเจ็บปวดและความโศกเศร้าเหล่านั้นยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจ แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านมานานจนเติบใหญ่ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ภาพของผู้ให้กำเนิดจางหายไปได้เลย
“พ่อเป็นมะเร็งลำไส้… ระยะสุดท้าย”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ลมหายใจขาดห้วงเมื่อได้รู้ความจริง !
“มันเกิดขึ้นนานแล้วหรือยังคะ”
“นานแล้วลูก นานแล้ว…” ทัศนัยร้องไห้อย่างไม่อาย “พ่อไม่อยากทำให้ลูกไม่สบายใจ ลำพังเราอยู่กันสองคนพ่อลูกก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรอยู่แล้ว พ่อไม่อยากให้ลูกต้องคิดมาก พ่อกลัวลูกรู้แล้วลูกต้องลำบากเพื่อหาเงินมารักษาพ่อ” ความในใจที่อัดอั้นมานานถูกเปิดเผยต่อหน้าบุตรสาวเป็นครั้งแรก
รัตนาวดีทรุดลงกับพื้นห้อง น้ำตาเม็ดโตอาบแก้มนวลใส หญิงสาวอยากให้เรื่องที่เพิ่งรับรู้เป็นเพียงแค่ความฝันไม่ใช่ความจริง
“โธ่ลูกพ่อ…” มือหนาเหี่ยวย่นรั้งร่างเล็กของลูกรักเข้าสู่อ้อมกอดแน่น สองพ่อลูกกอดกันทั้งน้ำตาต่างฝ่ายต่างร้องไห้เสียใจ “พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ พ่อผิดเองลูก”
“ไม่ใช่ค่ะ คุณพ่ออย่าโทษตัวเอง” รัตนาวดีเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของบิดา “หนูผิดเองที่ไม่เคยรับรู้ถึงปัญหาของคุณพ่อ ปล่อยให้คุณพ่อต้องทุกข์ใจเพียงลำพัง ถ้าจะมีใครสักคนที่ผิด คนๆ นั้นต้องเป็นหนูค่ะ หนูมันเป็นลูกที่แย่ หนูมันแย่ !” รัตนาวดีพร่ำโทษตัวเองไม่หยุด
“อย่าพูดแบบนั้นลูก ทุกอย่างมันเป็นเพราะพ่อไม่ยอมบอกความจริงกับลูก” ฝ่ายบิดาเองก็ไม่อยากให้ลูกสาวกล่าวโทษตัวเอง
“ฮือๆ คุณพ่อ…”
สองพ่อลูกกอดคอกันนั่งร้องไห้ให้กับโชคชะตาที่เล่นตลกกับชีวิต รัตนาวดีรู้สึกผิดที่ก่อนหน้าเอาแต่โกรธบิดาเรื่องที่บังคับให้เธอแต่งงาน มาตอนนี้เข้าใจแล้วว่าเหตุผลของผู้เป็นพ่อคือต้องการให้เธอมีที่พักพิงใหม่ยามที่ท่านจากไป ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ทัศนัยต้องการให้รัตนาวดีมีคู่ครองที่ดีและมีคนดูแล ลูกสาวเปรียบเสมือนเป็นแก้วตาดวงใจของเขา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่เขารักและทนุถนอมมาตลอดชีวิต หัวใจของพ่อทุกคนคงทนไม่ได้ถ้าหากว่าต้องปล่อยให้ลูกต้องเผชิญโลกเพียงลำพัง
ทัศนัยเพียงแต่อยากปกป้องดวงใจของเขาก็เท่านั้น…
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราท่ามกลางแขกเหรื่อมากหน้าหลายตา และแน่นอนทุกคนล้วนแล้วแต่มีชาติตระกูลมีชื่อเสียงในแวดวงสังคมทั้งนั้น บรรยกาศภายในงานถูกออกแบบในธีมเจ้าหญิงและเจ้าชาย พีระพงษ์เป็นคนคิดคอนเซ็ปต์ทั้งหมด เพราะเจ้าลูกชายตัวดีอย่างเจ้าบ่าวไม่ยอมแม้แต่จะออกความคิดเห็นใดๆ เลย พัชระบอกเพียงแต่ว่าอยากทำอะไรก็ทำ อยากจัดแบบไหนก็จัด หน้าที่ของเขามีเพียงแต่ปั้นหน้ายิ้มแย้มเป็นเจ้าบ่าวที่แสนดีเท่านั้น คราแรกที่ได้ยินเจ้าลูกชายตัวดีพูดแบบนั้นคนเป็นพ่อก็แทบอยากฆ่าให้ตายตรงหน้า แต่มาคิดๆ ดูแล้วก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาจะได้จัดการทุกอย่างได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องมารอฟังไอ้เจ้าคนกวนประสาทอย่างพัชระ
“ยินดีด้วยนะครับคุณพัชระ ผมเพิ่งเห็นรูปพรีเวดดิ้งหน้างานเมื่อครู่ เจ้าสาวสวยราวกับเจ้าหญิงเลยครับ” หนึ่งในผู้ถือหุ้นเอ่ยกับชายชราที่วันนี้ดูสง่าเป็นพิเศษ
“ขอบคุณครับ ลูกชายผมตาถึงน่ะครับ” ได้ทีพีระพงษ์ก็ขออวดอ้างเสียหน่อย แม้ว่าความจริงจะตรงกันข้ามก็ตาม
“สวยจริงๆ ค่ะ ดิฉันเห็นแค่รูปก็อยากเห็นตัวจริงเสียแล้วสิ ต้องสวยมากแน่ๆ เลยใช่ไหมคะ” คุณหญิงที่ควงคู่มากับสามีนักธุรกิจเอ่ย แม้น้ำเสียงจะจีบปากจีบคอตามประสาผู้ดี แต่ทุกคำที่พูดก็คือออกมาจากใจ
ความสวยของเจ้าสาวถูกร่ำลือกันปากต่อปาก พัชระเองที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องสูทระดับแขกวีไอพีก็พลอยอดตื่นเต้นไปกับคำชมเหล่านั้นไม่ได้
“ขนาดนั้นเลยหรือกร “” ชายหนุ่มถามคนสนิทที่ทำงานรับใช้เขามานาน
“จริงครับ” กรวิทย์ ยืนยัน ก่อนจะเอ่ยต่อ “แขกในงานอยากเห็นเจ้าสาวมากเลยครับตอนนี้ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้านายของผมเป็นเจ้าบ่าวที่โชคดีที่สุดในโลก”
พัชระได้ฟังก็อดหัวเราะออกมาดังๆ ไม่ได้ มีปากก็พูดกันไปใครจะมารู้ว่าความจริงแล้วบ้านนั้นขายลูกสาวกิน หึ ป่านนี้คงดีใจจนเนื้อเต้นที่จับผู้หญิงหิวเงินใส่ตะกร้าล้างน้ำถวายพานให้เขาได้ แต่ช่างเถอะ… ในเมื่อหลังจากนี้เขาจะทำให้หล่อนรู้ว่าหล่อนคิดผิดที่แต่งงานกับเขา พัชระยิ้มเย็นกับตัวเองเมื่อนึกไปถึงแผนร้ายในวันข้างหน้า
“ฉันต้องลงไปก่อนไหม หรือต้องรอผู้หญิงคนนั้น “” เสียงเข้มหันไปถามช่างแต่งหน้าที่ถูกจ้างมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
“ลงไปพร้อมกันดีกว่าค่ะ จะได้ควงคู่กันไป” ช่างแต่งหน้าที่เป็นสาวประเภทสองพูดแล้วยกมือป้องปากหัวเราะในท่าทีเขินอาย พัชระรำคานท่าทางแบบนี้ที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาเหยียดเพศหรือไรนะ เพียงแต่เวลาแบบนี้เห็นอะไรมันก็พาลหงุดหงิดไปหมดก็แค่นั้น
“แล้วอีกนานไหมกว่ายัยนั่นจะแต่งตัวเสร็จ” เจ้าบ่าวเลือดร้อนว่า
“นายครับ” กรวิทย์พยายามจะเตือนไม่ให้เจ้านายใช้สรรพนามไม่สุภาพเรียกเจ้าสาวต่อหน้าคนอื่น แต่ดูเหมือนว่าพัชระจะไม่แคร์ใดๆ ทั้งสิ้น ซ้ำชายหนุ่มยังส่งสายตาดุๆ มายังมือขวาคนสนิทอีกต่างหาก
“เอ่อ… คือ เดี๋ยวลูซี่จะลองโทรฯ ถามเมนี่ดูให้นะคะ” พูดจบสาวสองก็รีบปลีกตัวออกไปคุยโทรศัพท์นอกระเบียงทันที ใช้เวลาไม่นานเจ้าตัวก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าโล่งอก “ตอนนี้เจ้าสาวพร้อมแล้วค่ะคุณพัชระ”
“ก็แค่นั้น…” พัชระยักไหล่ก่อนจะเดินนำหน้าทุกคนออกไปจากห้อง ทิ้งให้กรวิทย์ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกต่อหน้าบุคคลอื่นที่ดูงุนงงไปตามๆ กัน
ร่างสูงดูดีในชุดสูทสีขาวเดินล้วงกระเป๋าไปยังห้องแต่งตัวของเจ้าสาวป้ายแดง พอถึงที่หมายมือหนาก็เคาะประตูรัวๆ แบบไร้มารยาท
“เอ้า คุณพัชระนี่เอง แหม อยากเจอเจ้าสาวจนต้องมาเคาะประตูเรียกเลยหรือคะ ใจร้อนจังเลยค่ะ รออีกนิสนะคะ” สาวสองนามว่าเมนี่ลากเสียงยาวก่อนจะเดินเลี่ยงหายเข้าไปในห้อง
“จะแต่งอะไรนักหนา ต่อให้ประทินโฉมเป็นครึ่งค่อนปีก็ไม่ได้ทำให้ราคาค่างวดของเธอมันสูงขึ้นหรอกนะ !” เสียงเข้มตะโกนไล่หลังช่างแต่งหน้า ทำเอาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากระจกบานใหญ่เจ็บไปทั้งใจ
รัตนาวดีรู้สึกอับอายที่ถูกคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าวเหยียดหยามศักดิ์ศรีต่อหน้าทุกคน เขาทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่น้อย จริงอยู่ว่าเขาและเธอไม่ได้รักกัน แต่เขาก็ไม่ควรเอ่ยวาจาเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่น เพราะยังไงเธอก็เป็นเจ้าสาวของเขา
“เอ่อ… สงสัยคุณพัชระจะหงุดหงิดน่ะ สงสัยอยากเจอเจ้าสาวไวๆ” เมนี่แกล้งพูดแก้เก้อ สงสัยข่าวลือที่ว่างานแต่งงานถูกจัดขึ้นโดยผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะเป็นความจริงเสียกระมัง
เห้อ… สงสารก็แต่หญิงสาวหน้าหวานที่ต้องทนกับผู้ชายอย่างพัชระ
“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ “” รัตนาวดีเอ่ยถาม ใบหน้าสวยดุจนางฟ้าไม่ยิ้มแย้มสักนิด นัยน์ตาหวานก็แลโศกเศร้าจนจับสังเกตได้
“ค่ะๆ” ทีมช่างแต่งหน้ารีบพูดเป็นเสียงเดียวกัน ก่อนจะค่อยๆ ประคองร่างบางให้ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็แบ่งหน้าที่กันไปคนละอย่างสองอย่าง โดยให้ช่วยกันประคองมือบ้าง จับชายกระโปรงบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อตัวเจ้าสาวคนสำคัญของงานในค่ำคืนนี้
“อะไรนักหนาวะ นานได้โล่เลย !” พัชระต่อยกำแพงเบาๆ ไปหนึ่งที การที่ต้องมานั่งรอคนอื่นไม่ใช่นิสัยของเขาสักนิด คนอย่างเขาไม่เคยรอใครมีแต่คนอื่นต้องรอเขาเท่านั้น
“ใจเย็นครับนาย” กรวิทย์คอยช่วยเตือนสติเจ้านาย
ปังๆ
มือหนาทุบประตูที่มีคนเจ้าปัญหาอยู่ด้านใน
“นี่ เร็วๆ หน่อยได้ไหม เวลาของฉันมีค่านะ !” เสียงเข้มตะโกน และเมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านในมือหนาก็ทำท่าจะประทุษร้ายบานประตูอีกรอบ
แต่ทว่า…
“เสร็จแล้วค่ะ”
เสียงหวานเอ่ยเพียงสั้นๆ
“ธะ เธอ…”
พัชระตาโตเมื่อได้เห็นหญิงสาวปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ร่างบางอยู่ในชุดสีขาวสะอาดตาโชว์แผงหลังสวยละมุนไร้ริ้วรอยอันน่ารำคานใจต่อผู้พบเห็น ใบหน้าสวยถูกประทินโฉมด้วยเครื่องสำอางชั้นดี แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้จัดจ้านเสียจนละทิ้งความอ่อนหวานของเจ้าตัว ลำคอระหงส์สวมใส่เครื่องประดับสุดหรูยิ่งเสริมให้อิสตรีดูสูงค่าและสง่างามเกินกว่าจะหาใครมาเทียบทานได้
หนำซ้ำกลิ่นกายหอมกรุ่นจากเรือนร่างเล็กยังทำให้หัวใจแกร่งดุจหินผาสั่นคลอนไม่เป็นท่า !
เป็นยังไงกันบ้างคะเรื่องนี้ ขอคอมเม้นหน่อยนะคะ ถ้าชอบหรือไม่ชอบยังไงบอกกันได้น้า ติ ชมได้ค่ะตามสไตล์เพื่อนแพงเลย ^^ อ่านแล้วเม้นๆ ให้กันด้วยนะคะ คอมเม้นก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้เพื่อนแพงมีแรงฮึดแต่งต่อเน๊อะ 555 ยังไงก็ฝากนิยาย E-Book ของเพื่อนแพงด้วยนะคะ ใครที่ยังไม่ได้โหลดเรื่องไหนก็ไปโหลดกันได้นะคะ ช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นทั้ง 6 เรื่องเลยค่ะ ลดเยอะมากกก!!! ย้ำว่าเยอะมากจริงๆ คืนกำไรให้นักอ่านค่ะ ^_^
ฝากนิยาย E-BOOK ของเพื่อนแพงด้วยนะคะ ^^
ตอนนี้อยู่ในช่วงโปรโมชั่นทั้ง 6 เล่มเลยค่ะ ลดเยอะมากๆ โลย ><
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
