ตอนที่ 4 : บทที่ 1 - ยลโฉมว่าที่เจ้าสาว ( 50% )
ฝากกดไลค์แฟนเพจด้วยนะคะ ^^ จะได้ติดตามผลงานกันง่ายขึ้น
https://www.facebook.com/DekDHayase/
เม้นๆ โหวตๆ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ^_^
บทที่ 1
ยลโฉมว่าที่เจ้าสาว
บทที่ 1
ยลโฉมว่าที่เจ้าสาว ( 50% )
ร่างสูงที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จกำลังเตรียมตัวไปทำงาน ใบหน้าหล่อเข้มที่บรรดาสตรีต่างคลั่งไคล้ตึงเครียดไม่ยิ้มไม่แย้มเมื่อได้ยินคำบัญชาจากผู้เป็นบิดา
“ทำไมผมต้องไปด้วย” น้ำเสียงห้วนเอ่ยถาม
“ถามอะไรโง่ๆ แกกำลังจะแต่งงานกับลูกสาวเขาก็ต้องไปพูดคุยทำความรู้จักกับครอบครัวเขาหน่อยดิวะ” ชายชราส่ายหน้าเอือมระอา
“แลพ่อจะอยากให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ซะเหลือเกินนะครับ” พัชระยิ้มเหยียด
“แน่สิ ลูกสะใภ้ดีๆ แบบนี้มันหายากนี่หว่า” คนพูดยิ้มละไม ต่างจากลูกชายโดยสิ้นเชิง
“พ่อรู้ได้ว่ายัยนั่นเป็นคนดี”
“เอ้า ไอ้ลูกคนนี้ ไปเรียกว่าที่ภรรยาว่ายัยนั่นได้ยังไงกัน” มือหนาทำท่าจะฟาดศีรษะคนปากเสีย
พัชระไม่สนท่าทีหัวฟัดหัวเหวี่ยงของบิดา ชายหนุ่มมองรูปถ่ายในมืออย่างพินิจพิจารณาแล้วเป็นอันต้องเบ้ปาก ผู้หญิงอะไรหาความงามไม่เจอ จืดชืดไร้ชีวิตชีวาที่สุด ปากนั่นหรือก็ซีดเซียวเหมือนคนป่วยที่รอเวลาฝังลงหลุม สรุปตามความคิดของร่างสูงแล้วหญิงสาวหาได้มีความน่าพิสมัยไม่
“พ่อจะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงซังกะตายแบบนี้จริงๆ เหรอ” น้ำเสียงหงุดหงิดเอ่ยอีกครั้ง เขารับไม่ได้ ให้ตายยังไงก็ไม่มีวันยอมรับคนแบบนี้เป็นภรรยาได้
“เขาเป็นคนดี” บิดาพูดสั้นๆ
“ผมไม่สนว่าจะดีหรือเลวแต่ผมอายคนอื่น พ่อลองคิดดูนะ ผมเป็นถึงผู้บริหารมีชื่อเสียงทางสังคมเวลาออกงานก็ย่อมมีมีคนคอยจับจ้อง แล้วถ้าวันหนึ่งเอายัยนี่ไปเดินขนาบข้างด้วยผู้คนได้หัวเราะเยาะแย่ว่าผมพาสาวบ้านป่าบ้านไพรมาเข้ากรุง โอ๊ย ! แค่คิดก็แทบอยากเอาหน้ามุดดินหนี” พัชระบ่นเป็นหมีกินผึ้ง
ผู้ให้กำเนิดได้แต่ส่ายศีรษะให้กับความคิดของบุตรชาย
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านไม้หลังโตที่ถูกรายล้อมไปด้วยไม้ดอกนานาชนิด กลิ่นหอมของธรรมชาติลอยพัดแตะจมูกผู้มาเยือน พัชระเผลอสูดดมเอาอากาศอันบริสุทธิ์เข้าปอดเนื่องจากไม่บ่อยนักที่เจ้าตัวจะได้พานพบบรรยกาศสบายๆ เช่นนี้ สภาพแวดล้อมต่างจังหวัดนั้นร่มเย็นและสงบต่างจากเมืองหลวงที่แสนวุ่นวายด้วยผู้คนและมลพิษอยู่ทุกเชื่อวัน
ร่างสูงเดินตามหลังบิดาไปตามทาง… สายตาก็กวาดมองไปรอบๆ อย่างพินิจพิจารณา พื้นที่รอบบ้านนั้นกว้างขวางนัก ตัวบ้านเองก็สวยสง่าตามแบบฉบับบ้านทรงไทยในสมัยก่อน หากแต่เครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งตระหง่านนั้นช่วยส่งให้บ้านหลังนี้ดูไม่โบราณเกินไป
“เอ๊ะ ?” ชายหนุ่มหยุดชะงักเมื่อมองเห็นร่างเล็กบอบบางของใครคนหนึ่งเข้า เธอผู้นั้นกำลังนั่งจัดแจกันดอกไม้อยู่บนโต๊ะม้าหินอ่อน ใบหน้าไร้เครื่องสำอางค์ดูสวยสะอาดตา ใบหน้ารูปไข้ประดับไปด้วยดวงตากลมโตอันมาพร้อมกับคิ้วโก่งเรียวงาม จมูกโด่งรั้นเชิดขึ้นเล็กน้อยรับกับริมฝีปากบางกระจับ ผิวพรรณขาวเนียนผ่องประกาย ทุกองค์ประกอบช่างงดงามไม่ต่างจากนางในวรรณคดีแม้แต่น้อย
“มองอะไรเจ้าพัช ?” คนที่อยู่เบื้องหน้าสงสัยเมื่อเห็นลูกชายหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ คนถามไม่ได้รับคำตอบหากแต่สายตาพลันเห็นบุคคลที่ทำให้ลูกชายของตนนิ่งงันราวกับต้องมนต์สะกด
“อ๋อ… มองเจ้าสาวตัวเองอยู่นี่เอง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยพลางอมยิ้ม คำพูดของขายชราเรียกสติของร่างสูงให้กลับเข้าร่างอีกครั้ง
“พ่อว่าไงนะครับ”
“นั่นน่ะหนูรัตนาวดี ว่าที่เจ้าสาวในอนาคตของแก”
พัชระอ้าปากค้างด้วยไม่อยากเชื่อในสายตา จริงหรือ ? ผู้หญิงคนนี้เป็นคนๆ เดียวกับคนที่เห็นในรูปหรอกหรือ ? ไม่อยากจะเชื่อ
ทำไมตัวจริงช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
“สวยล่ะซิ” เอ่ยแซวลูกชายตัวโต
“สวยกับผีน่ะสิ !” เสียงเข้มแก้เก้อ ก่อนจะกระแอมไอออกมา “เข้าไปข้างในเถอะพ่อ” มือหนาดันแผ่นหลังของบิดาให้เดินไปข้างหน้า แต่คนขี้แกล้งกลับทำในสิ่งที่ชายหนุ่มแทบอยากกัดลิ้นตาย
“หนูรัตจ้ะ !”
“พ่อ จะไปเรียกเขาทำไม ?!” พัชระถลึงตาใส่
ไม่นานร่างบางก็เดินเข้ามาหาบุคคลทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มือเรียวยกขึ้นไหว้คนตรงหน้า
“สวัสดีค่ะคุณลุง มาหาคุณพ่อหรือคะ” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง ดวงตากลมโตเลื่อนมองมาที่ชายหนุ่มร่างสูง “เอ่อ…”
“อ้อ ลืมแนะนำเสียสนิท” ชายชราจับไหล่กว้างของบุตรชาย “นี่เจ้าพัชระ ลูกชายคนโตของลุงเอง” พูดแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“เหรอคะ คราแรกหนูก็คิดว่าคุณลุงมีแค่พีชคนเดียว ไม่นึกว่า…” เสียงหวานต้องหยุดชะงักเมื่อเจอสายตาอัมหิตที่แผ่กระจาย ก่อนที่เจ้าหล่อนจะยกมือไหว้ชายหนุ่ม “สวัสดีค่ะ เอ่อ… พะ พี่พัช”
“ใครเป็นพี่เธอ ?” น้ำเสียงไม่พอใจ ทำเอาใบหน้าหวานเจื่อนลงทันที
“ทำไมพูดกับน้องแบบนั้นล่ะลูกคนนี้”
“ก็ผมไม่เคยมีน้องสาว” คนพูดดันกระพุ้งแก้มกวนประสาท
“เจ้าพัช…!” บิดาทำเสียงดุเพราะรู้สึกว่าเจ้าลูกชายตัวดีเริ่มทำตัวเกเรไร้เหตุผล
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณลุง” รัตนาวดีเอ่ยห้ามทัพระหว่างสองพ่อลูก
“แต่ว่า…”
“หนูไม่ถือสาหรอกค่ะ อีกอย่างคุณพัชระก็ดูสูงวัยเกินกว่าจะเป็นพี่ชายของหนูได้เช่นกัน” วาจาเหน็บแนมหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากบาง ทำเอาเลือดลมของคนถูกต่อว่าพุ่งปรี๊ด
“นี่เธอ !!!”
พัชระตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องร่างบางแต่กลับถูกมือหนาของบิดาดึงแขนไว้เสียก่อน รัตนาวดีเชิดหน้าขึ้นสู้ไม่เกรงกลัว ยิ่งทำให้พัชระโกรธจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
“พ่อก็เห็นว่ายัยนี่พูดจาไร้มารยาทกับผม”
“ฉันได้รับการกระทำแบบไหนก็แค่ตอบโต้การกระทำแบบนั้นค่ะ” พูดด้วยรอยยิ้ม
พัชระอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าแม่สาวหน้าหวานจะพิษสงร้ายกาจใช่เล่น ผิดกับชายชราที่ลอบมองว่าที่ลูกสะใภ้ของตนด้วยความชอบอกชอบใจ
‘เจ้าพัชเจอคู่ปรับสมศักดิ์ศรีซะแล้วสิ’
“พ่อ !”
“เอาล่ะๆ” บิดายกมือห้ามปรามลูกชาย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีกับสาวเจ้า “พ่อเราอยู่ข้างในใช่ไหม ขอลุงขึ้นไปเยี่ยมเยียนหน่อยนะ”
“เชิญค่ะคุณลุง” รัตนาวดีผายมือเชื้อเชิญตามมารยาท พอร่างของบิดาพ้นสายตาเท่านั้นแหละพัชระที่อารมณ์ยังกรุ่นโกรธอยู่ก็หาเรื่องกับร่างบางทันที
“ยัยเด็กไม่มีมารยาท ไม่มีใครสั่งสอน !”
รัตนาวดีได้ยินแบบนั้นก็เกิดความไม่พอใจ จ้องหน้าเขาไม่ยอมเช่นกัน
“ด่าตัวเองอยู่หรือคะ ?”
“เธอ !!” พัชระชี้หน้าหวาน
“ถนัดจังเลยนะคะชี้หน้าว่าคนอื่นเนี่ย” ไม่พูดเปล่าแต่ยังใช้ปลายมือเรียวปัดนิ้วชี้ของร่างสูงแบบไม่ใยดี “การกระทำแบบนี้แหละค่ะที่เขาเรียกว่าไม่มีมารยาท ไม่มีใครสั่งสอน”
“เธอ…!”
“เอ… แต่จะว่าไปก็พูดว่าไม่มีใครสั่งสอนไม่ได้นะคะ เพราะดูท่าแล้วคุณลุงคงจะอบอรมมาเป็นอย่างดี แต่ของแบบนี้มันอยู่ที่กมลสัน เอ๊ย จิตใต้สำนึกของบุคคลนั้นๆ มากกว่าค่ะ”
พูดจบสาวน้อยก็ยิ้มหวานให้ชายหนุ่มหนึ่งทีก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปแบบไม่สนใจคนข้างหลังที่ตอนนี้ควันออกหูจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง
ให้ตายเถอะ ! นี่น่ะเหรอว่าที่เจ้าสาวในอนาคตของเขา
“ไอ้ทัศน์ !”
“ไอ้พงษ์ !”
ชายชราสองคนร้องทักพร้อมกันด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้เจอฝ่ายตรงข้าม ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าเพื่อนแท้เพื่อนยากเพื่อนตายกันเลยทีเดียว ผ่านร้อนผ่านหนาวร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจนนับครั้งไม่ถ้วน
“โอ้โห แก่ขึ้นเยอะเลยนะเว้ย”
“น้อยๆ น่ะเว้ย รุ่นนี้ไม่มีคำว่าแก่ว่ะ” ทัศนัยเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะ ก่อนที่ปรายตาจะเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งเข้า “นี่เจ้าพัชหรือเจ้าพีชกันเนี่ย ?”
“นี่เจ้าพัชระ คนโต” พีระพงษ์ตอบ มือหนาเหี่ยวย่นกอดคอลูกชายให้เข้ามาใกล้ตน “ไหว้ลุงทัศสิไอ้ลูกชาย”
พัชระต้องปรับสีหน้าให้เข้าสู่โหมดปกติ ยกมือไหว้บุคคลสูงวัยตรงหน้าด้วยความเคารพ บรรยกาศมันคงจะดีกว่านี้หากถัดไปอีกไม่กี่ก้าวไม่มีร่างบางระหงส์ยืนอยู่
“สวัสดีครับคุณลุง”
“เห้ย หล่อใช่เล่นนะเนี่ย” เอ่ยปากชมเสียงดัง
“แน่นอน ดูพ่อมันซะก่อนเว้ย” พอได้ทีวีระพงษ์ก็โอ้อวดตัวเองทันที
“ไม่นะ ฉันว่ามันหล่อกว่าแกสมัยตอนเป็นหนุ่มๆ ซะอีก”
“เอ้าไอ้นี่ ปากเสียแล้วไง ลูกฉันก็ต้องหล่อเหมือนฉันสิวะ” คนพูดแกล้งหงุดหงิดตามประสาเพื่อนฝูง “ว่าแต่แกเถอะ ได้แม่พันธ์ดีสิท่าหนูรัตถึงได้สวยดุจนางฟ้า”
“แหวะ !”
ทุกสายตาหันไปมองพัชระเป็นทางเดียว เมื่อรู้ตัวว่าถูกจับจ้องเจ้าตัวจึงแสร้งพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อน
“เออ พอดีว่าขับรถมาไกลน่ะครับเลยรู้สึกคลื่นไส้” ชายหนุ่มว่าแล้วยิ้มแหยๆ
“งั้นเหรอๆ เอางี้ รัตเดี๋ยวหนูพาพี่เขาไปในครัวแล้วหาอะไรเปรี้ยวๆ แก้คลื่นไส้ให้พี่เขาทานหน่อยไป” ทัศนัยผลักภาระหนักอึ้งไปทางลูกสาว
“แต่พ่อคะ หนู…” รัตนาวดีทำหน้าไม่บอกบุญ
“ดีเหมือนกัน เด็กๆ จะได้คุยกันด้วยเพราะอยู่ตรงนี้ก็คงเบื่อมีแต่คนแก่ ฮ่าๆ” พีระพงษ์สนับสนุนอีกแรง
“พ่อ…” พัชระลากเสียงยาวไม่พอใจ
“ทำความรู้จักกันไว้นะ ไปๆ พาพี่เขาไปเร็วเข้า เดี๋ยวเกิดมาอ้วกในบ้านลุงขี้กียจทำความสะอาด” ชายชราพูดติดตลก หากแต่เป้าหมายของทั้งสองคือต้องการให้ลูกๆ ของตนได้ทำความรู้จักกันเอาไว้
“เชิญค่ะ”
แม้จะไม่ชอบสุดชีวิตแต่ด้วยความที่เป็นคนมีมารยาทและได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี รัตนาวดีจึงพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ภายใน เลือกที่จะไม่แสดงมันออกมาต่อหน้าผู้ใหญ่
ร่างของเด็กทั้งสองที่เดินตามกันไปนั้นเรียกรอยยิ้มได้ดีจากผู้ใหญ่ทั้งสอง…
_______________________________________________________________________
ฝากนิยาย E-BOOK ของเพื่อนแพงด้วยนะคะ ^_^
เรื่องนี้อยู่ในช่วงโปรโมชั่นลดเหลือเพียง 99 บาท จาก 299 บาทค่ะ
![]() |
|
![]() |
|
เรื่องนี้ราคา 200 บาท เป็นหนึ่งในตัวละครของแก็งค์ Devil เรื่องของซีโร่ค่ะ
![]() |
|
เรื่องนี้อยู่ในช่วงโปรโมชั่นลดเหลือเพียง 59 บาท จาก 139 บาทค่ะ
![]() |
|
เรื่องนี้อยู่ในช่วงโปรโมชั่นลดเหลือเพียง 59 บาท จาก 99 บาทค่ะ
![]() |
|
เรื่องนี้ราคาเบาๆ น่ารักๆ เพียงแค่ 99 บาทเท่านั้นค่ะ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
