ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Playboy Lover ฉีกกฎหัวใจตามล่านายจอมเจ้าชู้

    ลำดับตอนที่ #1 : PLAYBOY LOVER 00 | {100 %}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.35K
      69
      15 พ.ค. 60

    นิยายมีการอัพเดทซ้ำ เพื่อประชาสัมพันธ์

    *******************************



    00


     

       วันนี้เป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส และคิดว่าต้องเป็นวันที่ดีของฉันแน่ๆ ฉันเป็นคนอารมณ์ดี เพื่อนๆในห้องต่างก็ชอบฉันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง และส่วนมากก็จะมีแต่ผู้ชายมารุมจีบเกือบทั้งโรงเรียน

       แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อฉันกำลังเดินไปเข้าห้องเรียนและดันได้ยินเสียงประหลาดเข้า มันดังมาจากทางพุ่มไม้ที่ห่างไกลจากผู้คนหน่อย และฉันก็เป็นคนที่ชอบสงสัยอะไรง่ายๆด้วย มันเลยทำให้ฉันพาตัวเองเข้าไปใกล้พุ่มไม้นั่น ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เสียงนั่นก็ยิ่งเด่นชัดเต็มรูหู

      “อะ...อ๊ะ"

      “อะ...อ่า”

       เสียงผู้หญิงกับผู้ชายที่กำลังทำกิจกรรมอะไรบางอย่างกันอยู่หลังพุ่มไม้นั้น ทำให้ฉันยืนตัวแข็งทื่อขยับไปไหนไม่ได้ มันไม่ได้ชัดแค่หู แต่ภาพก็ยังเด่นชัดด้วย พวกเขากำลังทำเรื่องอย่างว่ากัน โดยผู้ชายขึ้นคร่อมร่างผู้หญิงเอาไว้ และสอบสะโพกไปมา อยากจะเดินหนีไปนะ แต่มันติดตรงที่ว่าขามันไม่ยอมขยับนี่สิ

       “อ๊ะ...ระ...แรงๆคะ”

       “อ่า...”

       ฉันยืนมองพวกเขาอยู่นาน โดยที่ไม่ได้เดินไปไหน ก่อนที่ต่อมาจะมีเสียงใครคนหนึ่งมาเรียกฉันจากทางด้านหลัง ทำให้พวกเขาสองคนที่กำลังทำเรื่องนั้นกันอยู่เงยหน้าขึ้นมามองฉันที่ยืนอยู่ในระนาบเดียวกับพวกเขา เพียงแค่มีพุ่มไม้บังเอาไว้เท่านั้น

       “วิวาห์” คุณครูที่เดินเข้ามาในโรงเรียนคงจะเห็นว่าฉันยืนจ้องอะไรอยู่นานล่ะมั้ง ก็เลยเดินเข้ามาถาม ทำให้ฉันต้องรีบเดินไปทางคุณครู เพราะกลัวว่าคุณครูจะเดินมาเห็นภาพอะไรแบบนี้

       “คะ” ฉันขานรับและส่งยิ้มแห้งๆไปให้คนตรงหน้า

       “มาทำอะไรที่นี่จ๊ะ”

       “คะ...คือว่าหนู” จะตอบว่ายังไงดีล่ะ ฉันหันกลับไปทางพุ่มไม้นั้นก็ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย พวกเขาคงรู้ว่ามีคนแอบดูก็เลยรีบหนีไปล่ะมั้ง

       “ทำไมไม่เข้าเรียน?” คุณครูยังคงยิงคำถามใส่ฉันต่อเมื่อเห็นว่าฉันได้แต่ยืนอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดอะไร

       “กำลังค่ะ” ฉันตอบแค่นั้น แล้วเดินเลี่ยงมาทางหลังอาคารเรียนเพื่อที่จะมาเข้าห้องน้ำก่อนเข้าเรียน เพราะมันเป็นกิจวัตรประจำวันของฉันไปซะแล้ว

       ทำไมวันนี้ฉันต้องมาเห็นเรื่องแบบนั้นด้วยนะ ฉันไม่ได้ซื่อจนดูไม่ออกว่าพวกเขากำลังทำอะไรกัน เพราะเพื่อนผู้ชายที่อยู่ในห้องก็ชอบเอาคลิปอะไรพวกนี้มาเปิดดู ฉันไม่ได้ดูภาพเคลื่อนไหวหรอกนะ ได้ยินแค่เสียงที่ดังออกมาเท่านั้นเอง อีกอย่างฉันก็อายุสิบเจ็ดปีแล้ว โตแล้วด้วย เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นยังเรียนอยู่เลยนะ ไม่แน่ว่าอาจจะอายุเท่าฉันก็ได้ ทำไมต้องมาทำเรื่องแบบนี้อยู่ที่โรงเรียนด้วย น่าเกลียดที่สุดเลย

       ฉันยืนล้างมืออยู่สักพักก่อนจะเดินออกมา แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเจอเข้ากับผู้ชายคนเดิมที่อยู่หลังพุ่มไม้นั่น เขายืนกอดอกพิงกำแพงก่อนจะช้อนสายตามองฉัน เพียงเท่านั้นล่ะหัวใจของฉันมันก็เต้นแรงแทบระเบิดออกมาเลย คนตรงหน้าค่อยๆยืนตัวตรงก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋า ทุกการกระทำของเขาฉันจดจำใส่เมมโมรี่ความจำเอาไว้หมดแล้ว

       ผู้ชายคนนี้หล่อมาก เขาเหมือนเจ้าชายที่ยืนอยู่บนบังลังก์เลย โคลงหน้าคมคายได้รูป ผิวพรรณเนียนละเอียดเจิดจ้า นี่ถ้าเป็นตอนกลางคืนฉันว่าร่างกายเขาต้องสว่างเรื่องแสงได้แน่ๆ การแต่งตัวก็หล่อเท่เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า แทบกลิ่นน้ำหอมยังฟุ้งกระจายไปทั่ว สายตาที่ดูเหมือนเสือพร้อมที่จะขย้ำเหยื่อ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นเสือผู้หญิง

       ไม่ว่าใครได้เข้าใกล้เป็นต้องตกหลุมรักกันหมดทุกคนเลย รวมถึงฉันได้ หัวใจฉันเต้นแรงไม่เป็นส่ำ เกิดมาสิบเจ็ดปีไม่เคยเต้นแรงขนาดนี้มาก่อนเลย ทำไมพอเห็นเขาคนนี้แล้วมันถึงได้เต้นแรงแบบนี้นะ หรือว่ามันเป็นสัญญาณที่จะบอกว่าฉันกำลังมีความรัก มันต้องใช่แน่ๆเลย

       หมับ!

       ไวกว่าความคิดฉันก็ถลาเข้าไปกอดผู้ชายตรงหน้าอย่างลืมอาย ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันต้องทำอย่างนั้นเหมือนกัน รู้ตัวอีกทีก็กอดเขาไปแล้ว นี่ถ้าพ่อแม่รู้ว่าลูกสาวเพียงคนเดียวมาทำเรื่องแบบนี้พวกท่านคงตัดหางปล่อยวัดฉันเป็นแน่ แต่แล้วไงฉันกอดไปแล้วอ่ะ

       “ทำไรว่ะ?” เขาเองก็ดูจะตกใจกับการกระทำของฉันเหมือนกันนะ ถึงกับร้องออกมาเสียงดัง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันผละออกจากเขาหรอก ผู้ชายคนนี้คือเนื้อคู่ของฉันที่ฟ้าส่งมาแน่ๆเลย “ปล่อยดิว่ะอึดอัด”

       เขาพยายามแกะมือฉันออก และด้วยแรงที่เขามีมากกว่าฉันทำให้ฉันต้องผละออกจากเขาอย่างเสียดาย คนอะไรหล่อจนบรรยายไม่ถูก หล่อสุดจะบรรยาย เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ คนนี้ล่ะที่จะมาเป็นพ่อของลูกในอนาคตฉัน

       “ฉะ...ฉันชื่อวิวาห์คะ” ฉันรีบแนะนำชื่อตัวเองทันทีเพื่อที่จะให้เขารู้จักว่าที่ภรรยาในอนาคตของตัวเอง แต่เขากลับขมวดคิ้วกลับมาเหมือนไม่พอใจที่ฉันทำแบบนี้

       “ไม่ได้ถาม”

       “...”

       ฉันหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเขาสวนมาแบบนี้ พูดแบบไม่ไว้หน้ากันเลย เจ็บปวดเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรลองใหม่ก็ได้ การจีบผู้ชายคงไม่อยากนักหรอก ฉันเองก็เคยเล่นเกมจีบผู้ชายมาแล้ว ไม่ว่าจะเล่นกี่ครั้งก็สมหวังหมด และคราวนี้ก็เช่นกัน

       “พี่หล่อมากๆเลยค่ะ” ฉันยืนบิดไปบิดมาจนตัวจะกลายเป็นเกลียวอยู่แล้ว แต่เขาแค่ยักไหล่กลับมาแค่นั้น ก่อนจะกลับเข้ามาทำหน้าโหมดเย็นชาเหมือนอย่างตอนแรก

       “ใครก็พูดงั้น” ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะ แต่เขาก็หล่อจริงๆนั้นล่ะ เทวดายังอายเลยคิดดูสิว่าหล่อขนาดไหน

       “ฉันชื่อวิวาห์คะ” ฉันบอกชื่อของตัวเองไปอีกรอบเพื่อที่จะให้เขาบอกชื่อของเขาออกมาบ้าง แต่ปรากฏว่าเขาก็ยังไม่ยอมบอกชื่อออกมาอยู่ดี

       “แล้ว?”

       “พี่จะไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอค่ะ?” ฉันส่งยิ้มบางไปให้คนตรงหน้า แต่แล้วใบหน้าของเขากลับฉายแววตกใจปนแปลกใจนิดหน่อย แต่ก็เพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นก่อนจะกลับมาทำหน้าปกติตามเดิม

       “ฉันเวลล์ นายแบบในเครือของPrince

       นายแบบในเครือของPrinceเหรอ? สุดยอดมาก ใครที่ไม่หล่อไม่รวยจริงไม่มีทางได้เข้าไปเป็นนายแบบในเครือนี้ได้นะ อีกอย่างเขาต้องเป็นคนใหญ่คนโตมากด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันได้มีวาสนาได้กอดเขาด้วย เพราะปกตินายแบบในเครือนี้ไม่ได้มาปรากฏตัวให้ใครได้เห็นง่ายๆนะ เขาเป็นพวกชอบเก็บตัวมากกว่า เพราะประชาชนของเมืองนี้ส่วนมากต่างพากันคลั่งไคล้หลงใหลมาก ถ้าเห็นล่ะก็จะต้องเป็นบ้าเหมือนฉันนี่ล่ะ

       “ฉันชอบพี่ค่ะ เห็นครั้งแรกก็รู้เลยว่าเป็นเนื้อคู่” ฉันพูดออกมาอย่างที่ตัวเองคิด บางทีนี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้มั้งที่ทำให้เราได้มาพบกันแบบนี้

         “ง่ายไปป่ะว่ะ?” พี่เวลล์เองก็ดูเหมือนจะตกใจมากเหมือนกันนะที่เห็นฉันพูดออกมาแบบนั้น ไม่ไหวแล้วอ่ะอยากหิ้วพี่เขากลับบ้านไปฝากพ่อกับแม่ว่านี่คือลูกเขยของท่านในอนาคต

       “พี่ไม่คิดเหมือนฉันเหรอค่ะ” ฉันเดินเข้าไปกอดแขนพี่เวลล์อย่างด้านหน้ามาก แต่เขาคงยังไม่ได้รู้ตัวล่ะมั้งเพราะเขาหันกลับมาถามด้วยความสงสัย

       “คิด?”

       “พี่เวลล์ ฉันวิวาห์ วอแหวนด้วยกันทั้งคู่เลย”

       “แล้ว?” นี่เขาพูดได้แบบคำต่อคำหรือไงกันนะ เหมือนกลัวว่าดอกพิกุลจะร่วงออกมาจากปากยังไงยังงั้นเลย พูดน้อยชะมัดเลย พูดมากกว่านี้ฉันไม่ว่าหรอกนะ เพราะฉันก็อยากได้ยินเสียงของเขาด้วย เสียงของเขาเพราะมากเลยนะ ฉันว่าเขาต้องร้องเพลงเพราะมากแน่ๆเลย

       “โลกสร้างเราเกิดมาเพื่อคู่กันค่ะ” พูดจบฉันก็เอาหน้าของเองถูไถไปกับแขนของพี่เวลล์ และเขาก็คงจะรู้ตัวแล้วล่ะ ถึงกลับผลักหัวฉันให้ออกไปจากตัวเขาด้วยท่าทางรังเกียจ

       “แต่ภาษาอังกฤษเขียนคนล่ะตัวกันป่ะ?” ร่างสูงพูดพร้อมกับปัดแขนตัวเองที่ฉันกอดเอาไว้ เหมือนว่าฉันมันเป็นตัวเชื้อโรคอะไรทำนองนั้น ทำร้ายจิตใจกันมาก แต่ถ้าคิดว่าการทำแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันเลิกยุ่งกับเขาแล้วล่ะก็คิดผิดค่ะ

       “แล้วไงคะ?” ฉันยืนกอดอกเชิดหน้าบ้าง “เราคนไทยต้องใช้อักษรไทย”

       ฉันรู้สึกเริ่มรักวิชาภาษาไทยขึ้นมาก็วันนี้ล่ะ อย่างน้อยก็มีข้อมาคัดค้านเขาคนนี้ได้ พี่เวลล์เองก็เหมือนจะไปต่อไม่เป็นเลยนะ เห็นแล้วก็อยากหัวเราะ เพราะตั้งแต่ที่เราคุยกันมาเขาทำหน้าเหนือกว่าฉันตลอดเลย บางทีก็แอบหมั่นไส้เหมือนกัน แต่เพียงไม่นานเขาก็โพล่งขึ้นมาด้วยประโยคที่ทำเอาฉันแทบหงายหลัง

       “เธอหลุดออกมาจากโรงบาลบ้าป่ะ?”

       เจ็บปวดรวดร้าวที่สุด พี่เวลล์เห็นฉันเหมือนคนบ้าขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่นะ ฉันออกจะสวย มีดีไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฐานะ หน้าตาก็ดูจะเพียบพร้อมไปหมด อีกอย่างผู้ชายในโรงเรียนนี้มีแต่มารุมล้อมฉันทั้งนั้น แต่ทำไมพี่เวลล์ถึงได้เมินฉันแบบนี้

       “ฉันเองก็ผ่านผู้หญิงมาจนนับไม่ถ้วนแต่ไม่มีใครเหมือนเธอเลยว่ะ”

      “ก็ดีแล้วนี่คะ จะได้ไม่จำเจ” ฉันยังคงยิ้มให้เขาต่อไป “ไม่ได้โหลเหมือนผู้หญิงที่ผ่านมาของพี่”

       “...” พี่เวลล์ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น แต่เลือกที่จะหันหลังกลับเพื่อไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ตอนที่ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำเหมือนว่าเขากำลังรอใครเลยนะ

       แต่ก่อนที่พี่เวลล์จะได้เดินหนีไปไหนฉันก็รีบคว้าชายเสื้อของเขาเอาไว้ซะก่อน ทำไมเดินหนีกันแบบไร้มารยาทแบบนี้ ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องชอบเมินกันด้วย ทีเมื่อกี้ฉันยังเห็นเขาทำเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงคนอื่นเลย ทีกับฉันทำไมเย็นชาขนาดนี้ก็ไม่รู้ พี่เวลล์หลังกลับมามองฉันก่อนจะสะบัดมือฉันออกอย่างไม่ไยดี

       “อะไร?” น้ำเสียงก็ห้วนสั้นกระชับได้ใจความดี

       “เราสองคนจะได้เจอกันอีกไหมคะ?” ฉันถามออกไปอย่างมีความหวัง ฉันอยากเจอพี่เวลล์อีก เพราะฉันกำลังจะตามจีบเขาอย่างจริงจังไงล่ะ ขอใช้เวลาไม่นานในการเอาพี่เวลล์มาเป็นแฟน

       “อย่าเจอกันเลย”

       อ้าวเห้ย! ทำไมมาพูดตัดเยื่อขาดใยแบบนี้ล่ะ โหดร้ายมากเลย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจเลยนะ แต่ทำไมถึงต้องมาเมินเฉย เย็นชา ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันด้วย คนอะไรใจจืดใจดำได้ถ้วยจริงๆ มาดับฝันกันตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มจีบด้วยซ้ำ แต่คนอย่างวิวาห์ซะอย่าง ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ เพราะฉะนั้นฉันจะเดินหน้าต่อไป เมินได้เมินไป เพราะฉันจะทำให้เขาหันกลับมามองฉันเอง ฉันเชื่อว่าตัวเองทำได้

       “พี่เวลล์พูดแบบนี้ต้องการให้ฉันเลิกยุ่งกับพี่ใช่ไหม?”

       “...” เขาไม่ตอบแสดงว่าจริงสินะ

       “เสียใจด้วยค่ะ เพราะฉันชอบพี่ไปแล้วจะต้องเดินหน้าจีบต่อไป” พูดจบฉันก็เดินออกไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าลงทันทีเมื่ออีกฝ่ายเรียกเอาไว้ซะก่อน

       “อยู่ห่างจากฉันดีกว่า ถ้าไม่อยากตกเป็นของเล่นของฉัน”

       คิดว่าที่พูดมาแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันเลิกยุ่งกับเขาแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าไม่เด็ดขาด ฉันไม่เคยใจเต้นแรงกับใครมาก่อนเลยนะ ผู้ชายตรงหน้าฉันคนนี้คนแรกเลยล่ะที่ทำให้ใจฉันเต้นแรงจนเจ็บไปหมดแบบนี้อ่ะ

       “อยากค่ะอยาก ฉันอยากเป็นของพี่” ฉันหันกลับไปพูดแทบจะทันทีที่เขาพูดจบ มาเสนอให้แบบนี้ฉันก็ต้องรีบคว้าเอาไว้สิ ฉันอยากเป็นแฟนพี่เวลล์มันผิดตรงไหนกัน สมัยนี้ผู้หญิงไม่รอให้ผู้ชายมาจีบหรอก ผู้หญิงรุกเองง่ายกว่าเยอะ อีกอย่างผลที่จะสมหวังก็มีมากกว่าด้วย

       “แต่ฉันไม่เอาเธอว่ะ” แต่ก็คงไม่ใช่กับคนตรงหน้าฉันคนนี้สินะ เพราะเขาช่างใจแข็งซะเหลือเกิน อยากรู้จริงๆเลยว่ากินก้อนหินเป็นอาหารหรือไง

       “แต่ฉันอยากได้พี่เป็นแฟนนี่คะ” ฉันก้มหน้ามองมือตัวเอง ส่วนปากก็เอ่ยพูดอย่างน้อยใจ ทำไมการจีบผู้ชายถึงได้ยากแบบนี้นะ ไม่เห็นเหมือนเกมที่ฉันเล่นเลย แปปเดียวก็ได้เป็นแฟนกันแล้ว

       “เมื่อกี้เธอไม่เห็นไงว่าฉันทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น?”

      เออ! จริงด้วย พี่เวลล์กับผู้หญิงคนนั้นกำลังทำเรื่องอย่างว่ากันตอนกลางวันแสกๆ อีกอย่างตรงหลังพุ่มไม้ด้วย โดยไม่แคร์เลยว่าใครจะเข้ามาเห็น แต่ที่จริงแล้วที่ตรงนั้นก็ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านไปผ่านมาหรอกนะ ฉันดันหูดีเองก็เลยได้เห็นแบบนั้น ฉันเห็นแล้วยังไงล่ะ เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นอย่างเราอยู่แล้ว ฉันไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกนะ เพราะว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นกับฉันสักหน่อย

       “ค่ะ”

       “ไม่กล้ว?” คราวนี้พี่เวลล์ไม่ได้เดินหนีฉัน แต่กลับเดินต้อนฉันให้เดินเข้าไปในห้องน้ำ ดีหน่อยที่ไม่ใครมาเข้า เพราะมันเป็นเวลาเรียน ฉันยังไม่ได้เข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ คุณครูต้องเขียนรายงานพ่อกับแม่ฉันแน่เลย

       “...”

       “ฉันฟันแล้วทิ้งนะ”

       พี่เวลล์ยังคงเดินต้อนฉันให้ไปชิดกับประตูห้องน้ำ ทำให้แผ่นหลังของฉันแนบชิดเข้ากับประตูห้องน้ำ หมดทางหนีไปโดยปริยาย นี่มันไม่ใช่ละครน้ำเน่านะที่นางเอกมาติดกับพระเอกแบบนี้อ่ะ ไม่ไหวเลย ถ้าจะมีอะไรกันในห้องน้ำนี่ฉันไม่โอเคเอามากๆเลยนะ เพราะที่นี้มันเป็นศูนย์รวมของสิ่งสกปรกทั้งนั้นเลย

       ฉันพยายามดันหน้าอกของคนตรงหน้าให้ออกห่างจากตัวแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเลย เพราะเขาไม่ยอมขยับไปไหน อีกอย่างเขายังก้าวเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิมจนปลายจมูกของเราชนกัน ฉันได้แต่มองสบนัยน์ตากับพี่เวลล์อยู่อย่างนั้น มองเห็นเงาตัวเองในดวงตาคู่สวยของเขาด้วย แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปกว่านี้ ฉันก็รีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่ปากของเราจะประกบกัน ฉันไม่ได้เล่นตัวหรอกนะ ฉันอยากจูบกับพี่เวลล์จะตายไป แต่ฉันอยากให้เราจูบกันด้วยความรัก ไม่ใช่แบบนี้

       “พะ...พี่เวลล์ไม่เหนื่อยเหรอค่ะ เมื่อกี้ก็รอบนึงแล้วไม่ใช่เหรอ” ร่างสูงชะงักหน้าค้างไว้อย่างนั้นก่อนจะแค่นยิ้มออกมา ดูยังไงก็เหมือนพวกโรคจิตที่ชอบแก้ผ้าอยู่กลางสี่แยกไฟแดงอะไรประมาณนั้น

       “ฉันไหว”

       “พะ...พี่ไม่ทำหรอก”

       “ท้า?” ฉันคิดว่าเขาคงทำจริงๆแน่ เพราะดูจากหน้าตาที่หื่นกระหายขนาดนี้ ทำชัวร์ แต่นี่มันโรงเรียนนะ อีกอย่างฉันยังอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนด้วย มาทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้เลยนะ วิวาห์ไม่ยอมเด็ดขาดเลย

       “ถ้าพี่ทำข้อหาพรากผู้เยาว์เลยนะค่ะ”

       “เธอก็รู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันต้องกลัวป่ะสาวน้อย”

       “ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนพี่จะไม่รังเกียจเธอเหมือนฉันเลย” ฉันเริ่มต่อว่าคนตรงหน้า ทั้งที่ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม “ฉันไปทำอะไรให้พี่ ทำไมต้องมาทำเหมือนฉันเป็นเชื้อโรค วางตัวแบบที่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เหรอคะ”

       “ที่พูดมาแบบนี้คือต้องการให้ฉันเอาเธอให้ได้ใช่ป่ะ?” พี่เวลล์ถอยห่างจากฉันออกไปเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ฉันหายใจได้สะดวกขึ้น เขาคงเห็นว่าฉันเริ่มหอบหายใจถี่ๆ เพราะเมื่อกี้ฉันก็กลั้นหายใจนานอยู่เหมือนกัน “เอาสิไปทำบนรถฉันก็ได้”

       “มะ...ไม่ใช่นะค่ะ”

       “รีบทำรีบเสร็จ ฉันมีงานต้องไปทำต่อ” พี่เวลล์เริ่มร่ายยาวแบบไม่ฟังคนอื่นเขาพูดเลย “ฉันให้เธอได้แค่สองชั่วโมง เธอจะเสร็จหรือไม่เสร็จก็เรื่องของเธอ”

       “มะ...”

       “ว่าไง? หรืออยากทำตรงนี้” ฉันที่กำลังจะปฏิเสธก็ถูกเขาสวนขึ้นมา พร้อมกับกระชากแขนฉันเข้าไปในห้องน้ำชายทันที และดีหน่อยที่ห้องน้ำชายก็ไม่มีใครอยู่เลย

       “มะ...ไม่ใช่นะคะ”

       “อยากให้ฉันฟันเธอไม่ใช่ไง?” พี่เวลล์ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกไปด้วย ก่อนจะตวัดหางตามามองฉันที่ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก

       “พี่เข้าใจผิดแล้วค่ะ” ฉันตั้งสติก่อนจะรีบพูดออกไปอย่างเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นฉันต้องเสียตัวตอนอายุสิบเจ็ดปีแน่ พี่เวลล์หยุดการกระทำของตัวเองลงก่อนจะมองหน้าฉันด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรเท่าไร “ฉันอยากเป็นแฟนพี่เท่านั้น ไม่ได้อยากทำเรื่องแบบนี้”

       “ฝันกลางหรือเปล่า” พี่เวลล์เองก็พูดสวนขึ้นมาเหมือนกัน เหมือนกับว่าที่ฉันพูดไปมันไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นจริง “ฉันไม่ชอบผูกมัดกับใคร ผู้หญิงที่ผ่านมารู้กฎนี้ดีอยู่แล้ว เธอเองก็น่าจะรู้เอาไว้บ้าง”

       “แต่ฉันจะทำให้พี่อยากผูกมัดกับฉัน”

       “ผู้หญิงทุกคนก็พูดแบบนี้ แต่ก็ไม่เห็นทำได้สักคน” ร่างสูงไม่ได้มองฉันขณะพูดหรอกนะ เพราะเขากำลังติดกระดุมเสื้อให้กลับเข้าไปเหมือนเดิม พอเห็นแบบนี้ฉันก็ค่อยโล่งอกหน่อย

       “งั้นฉันจะเป็นผู้หญิงคนแรกเองค่ะ”

       “...” พี่เวลล์หรี่ตามองฉัน ก่อนจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฉันเต็มที แต่นี่มันเพิ่งจีบ อาจจะยังไม่ติดง่ายๆหรอก มันต้องใช้เวลากันหน่อย เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีเถอะ เพราะฉันจะตามอ่อยเขาไปทุกที่เลย

       “ฉันจะตามพี่ไปทุกที่ ติดตามพี่อย่างกับเงาเลยคอยดู”

       “คิดว่าทำได้?” ถามแบบนี้เหมือนดูถูกกันเลย เดี๋ยวจะทำให้ดู ลองให้วิวาห์ตั้งใจทำอะไรแล้วไม่มีทางที่จะไม่สำเร็จ มันจะต้องมีแต่คำว่าสำเร็จกับสำเร็จเท่านั้น

       “ชัวร์” ฉันยักไหล่กลับไปอย่างมั่นใจว่าตัวเองทำได้แน่ เรื่องแค่นี้หมูมาก การตามจีบผู้ชายเป็นเรื่องถนัดอยู่แล้ว

       แลดูเป็นผู้หญิงกร้านโลกมาก ช่างเถอะฉันชอบแหกกฎของพ่อกับแม่อยู่แล้ว ลองดูก็ไม่เสียหาย เพราะฉันจะทำตามใจตัวเองดูสักครั้ง

       “น่ารำคาญ” พี่เวลล์เดินออกมาจากห้องน้ำทันทีที่พูดจูบ ทำให้ฉันต้องวิ่งตามเขาออกไปด้วย พี่เวลล์หยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะหันกลับมามองฉันอีกครั้ง “ไปแอบดูคนอื่นเขาทำไม?”

       ฉันอ้าปากค้างทันที ว่าแล้วเชียวที่เขามายืนรอใครอยู่หน้าห้องน้ำก็คงจะเป็นฉันนี่ล่ะ เพราะเขาเห็นฉันไปแอบดูเขานี่นา น่าอายชะมัดเลย พี่เวลล์ยังคงจ้องฉันไม่เลิก เหมือนต้องการจะกดดันกัน แบบว่าเอาให้ตายกันไปข้างนึง

       “ว่าไง?”

       “ฉะ...ฉันไม่ได้จะไปแอบดูนะคะ ฉันแค่ได้ยินเสียงเลยเดินเข้าไปดูเท่านั้นเอง” ฉันก้มหน้ามองมือตัวเองอย่างรู้สึกผิด

       “ไม่คิดอยากทำแบบนี้บ้าง?” พี่เวลล์ยิ้มกรุ้มกริ่มกลับมาให้ฉัน ฉันนี่รีบส่ายหน้าปฏิเสธแทบไม่ทัน แค่ได้เห็นฉันยังขนลุกขนพองเลย ถ้าเกิดขึ้นกับตัวฉัน ไม่อยากจะคิดเลย ต้องแก้ผ้าให้ผู้ชายเห็นเลยนะ

       “มะ...ไม่ค่ะ”

       “ก็ดีอย่าได้ตามฉันอีก เพราะฉันอาจจะอดใจไม่ไหวฟันเธอขึ้นมาก็ได้”

       พี่เวลล์เดินเข้ามาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินจากไป ถ้าเขาคิดว่าจะขู่ฉันด้วยเรื่องแค่นี้ บอกเลยว่าฉันไม่กลัว ที่จริงแล้วก็กลัวแต่ไม่แคร์มากกว่า เพราะฉันจะเดินหน้าจีบพี่เวลล์ต่อไป จนกว่าเราสองคนจะได้เป็นแฟนกัน ฉันตะโกนพูดกับเขาที่เดินออกไปไกลพอสมควร แต่ฉันเชื่อว่าเขาได้ยิน เพราะเขาหยุดชะงักก่อนจะออกเดินต่อไปโดยไม่หันกลับมาหาฉันอีกเลย

      “ฉันจะเป็นสตอล์กเกอร์พี่คอยดู”






    -100 %-





    -วิวาห์นางจู่โจมแรงมาก-
    เปิดตัวแปปเดียวนางเอกของเราก็กระโจนเข้าหาอีพี่เวลล์เลย
    แต่ก็นะ! อีพี่เวลล์เองก็น้อยหน้าซะที่ไหนล่ะ 5555555
    ชอบประโยคนี้ของนางมากอ่ะ 'ฟันแล้วทิ้ง' อย่างนี้ถึงเข้าโหมดคลาสโนว่าหน่อยโน๊ะ
    มีอย่างที่ไหนเข้าใจผิดวิวาห์ซะใหญ่โตว่าอยากทำบนรถ 555555
    เออ!ก็น่ารักทั้งคู่อ่ะนะ แต่งแล้วก็หลงรักคู่นี้ขึ้นมาซะงั้น
    ถ้าชอบเวลล์กับวิวาห์เม้นท์ให้เค้าหน่อยนะตัวเธอ จะได้มีกำลังใจมาอัพต่อเนอะ พลีสสสส
    #1 เม้นท์ = 1000 กำลังใจที่สวยงาม

    #มีคำหยาบนิดหน่อยเพื่ออรรถรสในการอ่านนะงับ





    -ฝากเพจอีกสักที-
    เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ (^O^)/
    V
    V
    V
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×