ตอนที่ 20 : ข้ามคืนครั้งที่ 19 : ข้อเสียของคนเห็นแก่ตัว [100%]
TEMPORARY BLISS : CHAPTER 19
ข้ามคืนครั้งที่ 19 : ข้อเสียของคนเห็นแก่ตัว
#ฟิคคืนของชานแบค
“นายสูญเสียการใจเย็นไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
กึก !
“ฉันไม่ได้จะเอาลูกชายตัวเองมาขายหรือแลกกับหลานชายของนายหรอกนะชานยอล ฉันมาพูดในฐานะพ่อคนนึงที่เห็นลูกตัวเองเจ็บปวดกับคนที่ตัวเองไว้ใจ”พี่คริสว่าพลางสบตาผมนิ่งแสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน และมันคงมากพอที่จะทำให้ผมหยุดที่จะฟังพี่เขาได้บ้าง
ไม่ใช่เป็นหมาบ้าหวงหลานไม่ลืมหูลืมตา
“ฉันรู้ว่านายหวงหลานของนายมาก ฉันรู้ว่าอะไรคือสาเหตุนั้น”
“แล้วทำไมพี่ถึงยังวุ่นวายกับเขา”
“แล้วทำไมนายถึงวุ่นวายกับลูกฉัน”
“…”
“ถ้านายทำพลาดฉันก็พลาดเหมือนกัน นายสนใจลูกชายฉันขณะเดียวกับหลานชายของนายก็ดึงดูดฉันให้เข้าหา เราต่างคนต่างพลาดแต่ที่ฉันไม่โวยวายเหมือนนายเพราะฉันมีเหตุผลของฉัน เหตุผลที่อาจจะฟังดูขัดหูไปบ้าง แต่มันก็เป็นความจริง”
“พี่ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่”
“แบคฮยอนน่ะ เป็นเด็กดีนะ เขาไม่พูดหรอกว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร”
“…”
“แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันกลับไปแล้วเห็นเขาร้องไห้ด้วยความไม่เข้าใจ”
“อะไรนะ...”
“เป็นครั้งแรกที่เขาพูดความจริงว่าเขากำลังรู้สึกแย่กับสิ่งที่เขาพบเจอ”คำพูดของอีกฝ่ายทำให้หน้าผมชาดิกคล้ายกับโดนตบ ผมแทบไม่เชื่อในคำพูดของพี่คริสทว่าพอเห็นแววตาเศร้าสร้อยระคนเป็นห่วงลูกชายของเขามันก็พาให้ผมเปลี่ยนความคิด
แบคฮยอนเป็นแบบนั้น เขาไม่เคยเรียกร้องหรือพูดอะไรที่มันตรงกับความรู้สึกออกมา เขามักเป็นผู้ตามมากกว่าเป็นผู้นำ มีเพียงไม่กี่ครั้งที่เขาจะเอาแต่ใจและผมชอบด้านนั้นของเขา
ผมชอบด้านที่แสดงความเป็นเจ้าของ ด้านที่แสดงความรู้สึกออกมาตรงๆแม้ว่าผมจะเลือกปิดบังเขาบ้างก็ตาม ที่ผมเกลียดคือการที่เขามาระแคะระคายเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับจงแด เขากำลังทำตัวเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงพวกนั้นที่เข้ามาเพื่อหวังปอกลอกผม
ผมไม่ได้หมายความว่าแบคฮยอนไม่ดีเหมือนผู้หญิงพวกนั้นนะ ผมแค่ไม่ชอบที่เขาไม่เชื่อใจผม
ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำให้เขาเชื่อใจได้เท่าไหร่นัก
“นายกับเขาทะเลาะกัน ?”
“ไม่ เราแค่ผิดใจกัน”
“…”
“ผมโกรธที่เขาไม่เชื่อว่าผมกับจงแดเป็นแค่อาหลานกัน แล้วก็ทำให้เขาเคืองที่ผมเหมือนจะโบ้ยความผิดให้พี่ว่าพี่เข้าหาหลานผมก่อน”
“นั่นคือสาเหตุที่ทำให้นายไม่ไปง้อเขาเหรอ”
“ผมกำลังจะไป แต่พี่มาซะก่อน”ผมถอนหายใจว่ากันตามตรงผมเหนื่อยจริงๆพอต้องมาเจอกับปัญหาที่รับมือได้ยากแบบนี้ “พูดตามตรงนะพี่ พี่จะโกรธผมหรือว่าอะไรก็ได้ ครั้งแรกที่ผมเจอเขาผมคิดว่าเราจะเป็นเพียงคู่นอนกัน ผมแค่อยากเปิดโลกใหม่อยากให้เขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์เพียงลำพัง เพิ่งมาได้สติว่าตัวเองทำร้ายเขามากที่สุดก็ตอนที่คุณเลขาให้คำแนะนำเมื่อกี้นี้”
“…”
“ผมคงพลาดเองที่เข้าไปอยู่ในชีวิตเขา เฮ้อ ผมคิดว่าผมไม่ควรไปเจอหน้าเขาตอนนี้”
“ฉันว่านายกำลังจะกลายคนบ้านะ”
“พี่...”
“แทนที่จะมัวรักษาฟอร์มตัวเองไว้ ไปสนใจลูกชายฉันก่อนดีกว่าไหม เขาเสียใจเพราะนายอีกแล้วนะชานยอล”
กึก !
“เพราะแบบนั้นฉันถึงมาที่นี่ มาคุยกับนายว่านายจะเอายังไง”
“…”
“นายจะเดินหน้ากับลูกฉันไหมหรือว่าจะไม่สนใจกินทิ้งกินขวาง ฉันจะได้ให้คำแนะนำลูกถูกว่าคนที่ลูกหมายปองไว้เขาไม่ได้คิดถึงจิตใจลูกเลย”ถ้อยคำของพี่คริสกรีดลึกลงกลางใจผมทำเอาผมถึงกับเม้มปากแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างคนเครียดจัด ว่ากันตรงๆเลยนะผมไม่ได้คิดถึงความสัมพันธ์ระยะยาว คิดแค่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นวันนี้ตอนนี้และเดี๋ยวนี้เท่านั้น
ผมไม่เคยจริงจังกับใคร แต่กับแบคฮยอนมันไม่ใช่
ผมไม่ได้ไม่จริงจังแค่มันยังไม่ถึงขั้นที่ต้องก้าวไกล และผมก็ยังไม่แน่ใจ
ผมว่าอีกฝ่ายเองก็คงอยากจะใช้เวลาเหมือนกัน
“ว่าไงคุณนักธุรกิจใหญ่”
“...”
“ไม่ทราบว่าจะให้คำตอบผมได้หรือยัง”พี่คริสสบตาผมนิ่งกอดอกนิดหน่อยแสดงท่าทีกดดันผม ซึ่งก็ทำได้ดีทีเดียว “ฉันไม่ได้จะมาขายลูกกินหรือว่าแลกเปลี่ยนกับหลานชายนาย ฉันแค่ต้องการรู้ว่านายจะทำยังไงต่อหลังจากที่นายทำแบบนั้นไปแล้ว”
“ผม...”
“ฉันไม่ว่านายจะชานยอลถ้าเกิดนายจะไม่จริงจัง”
“…”
“แต่ฉันอยากให้นายไปเคลียร์กับลูกชายฉัน ถ้าโอเคกับความสัมพันธ์แบบนี้ฉันก็ไม่ขัดหรอกนะ” ผมไม่รู้เลยว่าภายใต้หน้ากากคุณพ่อผู้มีเหตุผลเขาซ่อนอะไรไว้บ้าง กำลังคิดจะโน้มน้าวให้ผมรักกับลูกชายเขาเพื่อที่จะเอาหลานของผมไปหรือเปล่า หรือแค่ต้องการจะเตือนสติให้คำปรึกษาเท่านั้น
ตอนนี้ผมเหมือนกับคนที่อ่านเกมไม่ออก สมองมันด้านชาจนคิดว่าอาจจะโง่ไปแล้วก็ได้
ผมหลุบตาต่ำพลางถอนหายใจ
“ก็ได้ ผมจะไปคุยกับเขา”
“ก็ดี...”
“แต่หลังจากนี้ผมไม่รู้แล้วนะว่าจะเป็นยังไง จะเดินต่อหรือไม่มันคงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาและผมในตอนนั้น พี่บอกเองนะว่าจะไม่ว่าผมน่ะ”
“ฉันไม่ว่าเพราะฉันเคารพการตัดสินใจของนาย”
“บอกตามตรงผมไม่ไว้ใจพี่เลยว่ะ”
“…”
“ผมกลัวว่าพี่จะดัดหลังผมอีกครั้ง”ผมพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คริสน่ะดีที่เป็นพ่อเข้าใจลูก เขาเลี้ยงลูกให้เติบโตมาอย่างสวยงามภายใต้ความมีเหตุผลและความเป็นไปได้ของโลกใบนี้ ผิดกับผมที่เลี้ยงหลานแบบไข่ในหิน มีอะไรดีก็ป้อน มีอะไรไม่ดีก็เอาออกจนจงแดเสียคน หนำซ้ำบางครั้งก็ยังปิดกั้นจนผมอ่านไม่ออกว่าเขากำลังรู้สึกยังไง
แน่ล่ะผมไม่ใช่พ่อคนนิ แต่ในเมื่อพ่อของจงแดไม่สนใจเขาผมก็ต้องรับหน้าที่นั้น
ผมอาจจะเลี้ยงหลานผิดไปบ้าง รักหลานมากเกินไปบ้างแต่ขอให้รู้ไว้ว่ามันคือความรักที่ออกมาจากใจ ผมไม่เคยอยากทำร้ายใครด้วยความรักของตัวเอง
แม้ว่าผมจะทำไปแล้วก็ตาม
“ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพี่ถึงสนใจเด็กแบบนั้น เขาไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของใครๆหรอกนะ”
“ก็ดีแล้วไงที่คนอื่นไม่ชอบ”
“หา ?”
“นายจะตามเก็บไหวเหรอถ้ามีคนชอบหลานนายเป็นร้อยคน”พี่คริสว่าพร้อมยกยิ้มมุมปากดูเจ้าเล่ห์มากจนผมแอบหน้าตึงไปชั่วขณะ “นายควรดีใจที่มีแค่ฉันคนเดียวที่ชอบหลานนายแบบจริงจัง”
“พี่คริส ! แบคฮยอนไม่ดีใจหรอกนะถ้าพี่จะเอาเด็กรุ่นลูกไปทำเมียเป็นแม่ใหม่เขาน่ะ”
“ความรักมันกำหนดได้ด้วยเหรอว่าจะเกิดขึ้นกับใคร” ร่างสูงเลิกคิ้วใส่ “แบคฮยอนจะต้องเข้าใจว่าทำไมฉันถึงเลือกจงแด”
“แต่ผมไม่เข้าใจ”
“งั้นฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนายถึงเลือกแบคฮยอน”
“อ๊ะ !”
“ผู้หญิงมีเป็นร้อย ดีกว่า สวยกว่า ตอบสนองได้ดีกว่าทำไมนายถึงเลือกลูกชายฉัน แค่เด็กธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่น”คำพูดของพี่คริสทำเอาผมถึงกับใบ้กิน แอบขมวดคิ้วนิดหน่อยตอนที่เขาบอกว่าลูกชายเขาธรรมดา ขอแย้งเลยว่าลูกชายเขาไม่ได้ธรรมดา ผมชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ความราบเรียบดูเฉยชาของเขาคล้ายจะสะกดผมไว้ให้ติดกับ
รู้ตัวอีกทีผมก็เรียกหาเขาทุกคืน เขาคือคนที่เติมเต็มชีวิตของผมทั้งๆที่ผมไม่เคยชอบเด็กมาก่อน
“ผมเลือกเขาเพราะว่าเขาคือแบคฮยอน”
“หืม ?”
“แบคฮยอน...คนที่ผมชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ”
“งั้นก็ไปหาเขาสิก่อนที่อะไรจะสายไปมากกว่านี้”
“พี่หมายความว่าไง ?”
“หมายความนายมีผู้ท้าชิงใหม่”
“…”
“เด็กคนนั้นก็อยากได้แบคฮยอนเหมือนกันJ”
-CHANYEOL PART END-
ผมหนีออกมาจากห้องของชานยอลโดยไม่ได้บอกเขา ไม่มีแม้กระทั่งโน้ตหรือข้อความทิ้งไว้ทำเหมือนเวลาที่เขาจะไป เขาก็ไม่ได้บอกอะไรผมเหมือนกัน ในตอนนี้ผมนั่งเหงาอยู่ที่บ้านพ่อของผมออกไปทำงานผมเจอเขาตอนที่กลับมา
แน่นอนผมทำให้เขาเสียเวลานิดหน่อยตอนเขาไปออดอ้อนเขา
พ่อเป็นกำลังใจสำคัญเดียวที่ผมเหลืออยู่ ถ้าไม่พึงพ่อผมก็ไม่รู้จะไปพึงใคร และนั่นพาให้ผมระบายความรู้สึกที่มีอยู่ด้านใน
ก่อนที่พ่อจะปลอบใจบอกกับผมด้วยถ้อยคำ
‘พ่อคงต้องเตือนสติเขาสักหน่อย’
‘พ่อจะทำอะไรครับ ?’
‘ก็แค่คุยกันเท่านั้น’
‘…’
‘ไม่ต้องห่วงนะ ทุกอย่างจะเรียบร้อย เชื่อพ่อสิ’
ผมไม่รู้เลยว่าพ่อจะทำอย่างที่พูดหรือเปล่า เพราะเขาก็ไม่ได้มีท่าทางโกรธเกลียดอะไรกับสิ่งที่ผมพูดไปแถมยังดูไม่ตกใจอีกต่างหากราวกับว่ารู้อยู่แล้ว แต่พ่อรู้คงไม่แปลกถึงเขาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเขาก็ยังคงส่งคนไปคอยสอดส่องผมตลอดเวลา
มันต้องมีบ้างที่เห็นผมกับชานยอลอยู่ด้วยกัน
ผมรู้ว่าพ่อจะไม่ขัดเวลาที่ผมคบใครต่อให้เป็นคนใกล้ตัวผมแค่ไหนเขาก็จะไม่ทำ เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน พ่อจะไม่ก้าวก่ายในสิ่งที่ผมพอใจที่จะทำ ผมบอกเขาเองว่าผมทำไปด้วยความอยากลอง ผมเลือกทางของผมเอง ผมเลือกที่จะของเล่นของเขาเอง
น่าสมเพชเนอะ
“คุณหนูทานอะไรหน่อยดีไหมคะ”
“...”
“ยังไม่ทานอะไรเลยตั้งแต่กลับมาเดี๋ยวจะปวดท้องเอานะป้าว่า”
“ไม่ครับ ไม่เป็นไร”
“…”
“ผมไม่หิว”ผมหันไปตอบป้าแม่บ้านซึ่งเป็นคนคอยดูแลผมมาตั้งแต่แม่ยังอยู่ ท่านแสดงสีหน้ากังวลหากแต่ผมกลับไม่คิดจะปลอบใจให้เธอผ่อนคลาย กลับกันยังฉายชัดความเศร้าทั่วนัยน์ตามือข้างนึงของผมถือโทรศัพท์คิดอยู่นานว่าควรจะโทรไปหาใครสักคนดีไหม
หรือว่าควรจะรอให้ใครโทรมาหาก่อนดี
ผมควรจะเอาแต่ใจมากกว่านี้หรือว่าทำตัวเป็นของตายรอคนมาหยิบใช้ ?
“ป่านนี้พ่อจะเป็นไงบ้างนะ” ผมพึมพำหลังจากป้าแม่บ้านลงไปแล้วพร้อมกับปิดประตูห้องนอนผมสนิทป้องกันคนอื่นมารบกวนผม แน่นอนมันทำให้ผมสามารถพูดคุยกับตัวเองได้โดยที่ไม่มีใครมากวน “จะคุยกับชานยอลเฉยๆหรือเปล่า”
ผมมั่นใจว่าพ่อของผมจะไม่ใช้กำลัง เขาเป็นพวกใช้คำพูดโน้มน้าวมากกว่าใช้หมัดแลกหมัดแบบลูกผู้ชายด้วยกัน เขาเป็นแบบนี้เสมอ สั่งสอนผมมาว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้กำลังตัดสินปัญหา นอกจากมันจะทำให้เราเจ็บตัวแล้วมันยังทำให้ภาพพจน์ของเราเสียอีกต่างหาก
บนพื้นฐานของสังคมที่จับตามองเราไม่ควรทำตัวให้เด่นสะดุดตามากเกินไป
ทว่าผมกลับกลายเป็นคนที่จืดจาง
ผมส่ายหน้าไปมาถอนหายใจทิ้งหนักๆก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าลงจากเตียงกะว่าจะลงไปเดินเล่นข้างล่าง อย่างน้อยมันก็น่าจะไม่เหงาเท่ากับการอยู่ข้างบนเพียงลำพัง พลันร่างกายของผมก็ต้องชะงักเมื่อผมเปิดประตูออกไปแล้วเจอกับ...
“จงอิน ?”
“เมื่อวานนายไปไหนมาแบคฮยอน”
“…”
“นายไปนอนกับเขามาใช่ไหม”จงอินถามผมเสียงแข็งซ้ำร้ายยังมองด้วยแววตาดุดันจนผมเผลอถอยหลังด้วยความผวา เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาผลักผมให้ถอยกลับเข้ามาปิดประตูห้องลงกลอนอย่างดี เล่นเอาผมถึงกับเบิกตากว้าง
จู่ๆก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน
“นะ...นายจะทำอะไรจงอิน”
กึก !
“นี่มันห้องฉันนะ”
“เพราะเป็นห้องนายไงฉันถึงจะทำให้มันเป็นห้องของเรา”
“!!!”
“ในเมื่อนายนอนกับเขาได้ นายก็นอนกับฉันได้เหมือนกัน แบคฮยอน !”
LOADING 100 PER
เจิมรอคนเห็นแก่ตัว งานนี้จะเป็นยังไง !
ขออภัยที่เอลมาอัพช้าน้า เผอิญพ่อเอลเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน
เอลเลยหัวหมุนเรื่องพ่อ เพิ่งได้กลับมาปั่นงานจ้า
รอเยอะอัพไวนาจา ใครอยากอ่านรีบเจิมไวๆ ไม่นานเกินรอ !
ฝากติดตามด้วยน้า อย่าลืมเม้นน้า
1 เม้น 1 กำลังใจให้กำลังใจแบคฮยอน
เมื่อพูดถึงค่ำคืนของพวกเขา อย่าลืมติดแท็กในทวิต !
#ฟิคคืนของชานแบค
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ละอะไรของจงอิน ฉันไม่ได้เชียร์ให้แกมาขืนใจแบคนะว้อยยยยยยย
นึกถึงความเปนเพื่อนที่มีให้กันมาหน่อยเด้~ อิช้อยจะบ้าตาย