ตอนที่ 2 : ข้ามคืนครั้งที่ 1 : สัมผัสรุกเร้า [100%]
TEMPORARY BLISS : CHAPTER 1
ข้ามคืนครั้งที่ 1 : สัมผัสรุกเร้า
#ฟิคคืนของชานแบค
กึก !
“คุณล้อเล่น ?” ผมขมวดคิ้วแทบจะทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น มันดูเป็นคำถามที่หยาบคายมากสำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกัน ซ้ำร้ายกว่านั้นคือผมเป็นลูกชายเพื่อนของเขาที่เขานับเป็นพี่ ถึงผมจะไม่รู้ว่าพ่อสนิทกับผู้ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่ผมคิดว่าคงมากพอที่จะทำให้เขากล้าถามอะไรผมแบบนี้ได้
ผมมองเข้าไปในดวงตาเขาก่อนจะเป็นฝ่ายถูกเขาไล่ต้อนซะเอง
“ผมไม่ได้ล้อเล่น”
“แต่...”
“มันไม่ผิดที่ผมจะชวนคุณ”เขาตอบแบบนั้นแล้วยกยิ้มให้ผม “ผมชวนคุณได้ตราบใดที่ผมสนใจคุณและ...ผมก็ไม่สนว่าพ่อของคุณจะอนุญาตเรื่องนี้ไหม”
“…”
“ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจนะ มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไร” น้ำเสียงที่เหมือนกับว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ทำให้ผมเม้มปากแน่นเหล่มองปลายนิ้วร้อนผ่าวที่ไล้ไปตามหลังมือของผม ชานยอลเขยิบเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นพร้อมยื่นหน้ามาหา ลมหายใจร้อนผ่าวแตะลงบนจมูกของผม “เราแค่ปล่อยอารมณ์ ปล่อยใจไปกับอีกฝ่ายที่อยู่บนเตียงเดียวกัน...”
“ผม...ผมไม่ใช่เด็กดริ๊งค์นะ”
“ผมก็ไม่ใช่ป๋าเลี้ยงใคร”ชานยอลตอบ “ผมแค่สนใจคุณ และคิดว่าคุณควรได้รับการปลดปล่อย”
“ผม...”
“เวลาคนเราอกหัก เราก็คงอยากได้ใครสักคนปลอบใจ”
“…”
“พ่อของคุณคงเข้าถึงคุณในเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ผมยินดีจะรับมันไว้นะ” ชั่วขณะนึงผมเผลอคิดว่ามันจะไม่เป็นไร ถ้าลองเผลอใจไปกับใครสักคน บางทีถ้าเราได้ระบายอารมณ์ออกมามันอาจจะดีกว่าเก็บเอาไว้ ทว่าอีกใจของผมมันก็ห้ามผมไว้ บอกกับผมว่านี่มันไม่ถูกต้อง ถ้าพ่อรู้คงได้เกิดเรื่องราวใหญ่เกินกว่าจะยับยั้งได้
พลันหัวใจผมก็กระตุกเมื่อริมฝีปากร้อนระอุประทับลงมา ผมเบิกตากว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ชานยอลเลื่อนมือมากุมใบหน้าของผม ฝากฝังริมฝีปากลงมาจนแนบชิด เขามอบสัมผัสดูดดื่มที่ผมไม่เคยได้รับจากใครก่อนจะเรียวลิ้นชื้นเข้ามา ผมหายใจหอบนิดหน่อยตอนที่เขาเร่งจังหวะเกี่ยวกระหวัดลิ้นผมราวกับของเล่นชิ้นใหม่ ดูดกลืนหยาดน้ำใสๆที่มุมปากปลุกเร้าผมด้วยสัมผัสร้อนแรง
ร่างกายของผมมันร้อนไปหมด...
ผมภาวนาขอให้พ่ออย่าเพิ่งเดินมา ถ้าเกิดว่าพ่อเห็นว่าผมถูกคนตรงหน้าทำอะไร คงได้เกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่ เนิ่นนานกว่าจูบแรกของเราจะจบลง ผมเหมือนล่องลอยไปไกลและถูกกระชากกลับเข้าร่างเมื่อเขาไล้ปลายนิ้วไปตามเรียวปากชุ่มช่ำของผม
นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยห้วงอารมณ์ทำให้ผมหลุบตาต่ำ ความร้อนแผดเผาจนหน้าแดงไปหมด
“ผมชอบจูบของคุณ”
“อะ...”
“ผมอยากได้อีก”
กึก !
“อยากจูบคุณ...ทั้งตัว” หัวใจผมเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง พยายามอย่างมากที่จะตั้งสติหาทางคิดโต้ตอบเขาไป ชานยอลส่งยิ้มให้ผม เขาดูสนุกเมื่อเห็นว่าทำให้ผมล่นได้ เขาเกลี่ยเส้นผมของผมไปทัดหูก่อนจะยื่นหน้ามากระซิบ “ผมอยากให้คุณตอบตกลง มันจะไม่แย่อย่างที่คุณคิด”
“…”
“ความสัมพันธ์ของเรามันจะเริ่มในคืนนี้และมันจะจบลง...เมื่อตอนเช้ามาถึง”
“แค่ข้ามคืน...?”
“ใช่ แค่ข้ามคืน” ชานยอลตอบเขาพยักหน้าให้กับคำถามของผม “ไม่ต้องผูกมัด แค่เราอยู่ด้วยกันตอนกลางคืน และตอนเช้าก็ทางใครทางมัน”
“…”
“มันดีกว่าถ้าเราไม่ผูกมัดกับใคร แค่แชร์ความรู้สึกกันบนเตียง” เขาคลอเคลียอยู่ข้างหูผมเล่นเอาใบหน้าของผมร้อนจัด ผมคิดว่าตอนนี้ใบหน้าผมคงถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงไม่มากก็ปานกลาง ทีแน่ๆมันแสดงออกทุกอย่างที่ผมกำลังรู้สึก
ถึงผมจะไม่ค่อยชอบความสัมพันธ์แบบนี้เท่าไหร่
แต่ก็ไม่ถึงกับรังเกียจหรืออะไรหรอกนะ...
“คำตอบล่ะ ?”
“ตกลง”
สิบห้านาทีต่อมา
“หายไปไหนมาจงแด อานึกว่าเรากลับบ้านไปแล้วซะอีก” ชานยอลเอ่ยปากถามหลานของเขาที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเขา หลังจากที่เดินกลับมาจากห้องน้ำหรือจากการออกไปโทรศัพท์อะไรอย่างที่เขาบอก ซึ่งน่าแปลกที่เขาเดินนำพ่อผมมาก่อน ใบหน้าที่เรียบตึงนั่นมีความไม่พอใจแต่งแต้มอยู่
ผิดกับใบหน้าของพ่อผม
“มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นเหรอครับ ?” ผมถามพ่อด้วยความสงสัย เพราะท่านยิ้มอย่างพอใจ หนำซ้ำยังดูจะมีความสุขราวกับเพิ่งได้แกล้งคน ซึ่งคำตอบของผมคือการส่ายหน้าเป็นจังหวะเดียวกับที่อาหารที่สั่งมาพอดี พวกเราเลยทานอาหารกันไปเงียบๆ มีเพียงการสนทนาของพ่อกับชานยอลเท่านั้น
ส่วนผมกับคนตรงข้าม ไม่แม้แต่จะปริปากคุยกัน
จงแดแลดูเป็นเด็กหัวนอกที่ไม่แคร์ใคร จึงไม่แปลกถ้าเขาจะสนใจหน้าจอมือถือมากกว่าการทำความรู้จักกับแขกร่วมโต๊ะอย่างผมกับพ่อ และผมก็อึดอัดไม่น้อยเวลาที่ปลายรองเท้าของชานยอลแตะโดนรองเท้าผม หลายครั้งที่เขาขยิบตาให้ผมเป็นเชิงรู้กัน
ผมเกลียดการเล่นพิเรนทร์แบบนั้น ถ้าพ่อรู้ขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา
คงได้โกรธกันเป็นฟืนเป็นไฟ
“ผมจ่ายเอง”
“ไม่เป็นไร ถือว่ามื้อนี้ฉันเลี้ยงที่นายกลับมาโซล”
“งั้นเย็นพรุ่งนี้ผมจะเลี้ยงคืน ที่เดิม” ชานยอลส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับพ่อผมและนั่นทำให้เขาหัวเราะน้อยๆกับคำพูดนั้น ไม่นานนักหลังจากที่เราเช็คบิลกันเรียบร้อย พวกเราสี่คนก็เดินออกมาจากลานจอดรถและด้วยความบังเอิญรถของเราจอดข้างกัน
พลันผมก็ชะงักเมื่อพ่อหันมาบอกว่า...
“แย่แล้วแบค พ่อลืมไปเลยว่าต้องเข้าไปเอางานที่บริษัท” พ่อบอกผมแบบนั้น ใบหน้าของท่านแสดงความหัวเสียออกมานิดหน่อยเพราะวันนี้ท่านบอกว่าจะอยู่กับผมทั้งวันเพื่อให้ผมไม่คิดมากในเรื่องที่เจอมาก่อนหน้านี้ แต่การวนรถกลับไปที่บริษัทกับทางไปบ้าน มันห่างกันคนละซีกโลก กว่าจะขับไปถึงบ้านเพื่อส่งผมและวนรถกลับมาเอางาน คงปาเข้าไปเกือบตีสอง
และเหมือนชานยอลจะรู้ความคิดผม เขาถึงได้พูดขึ้นมา
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งแบคฮยอนที่บ้านให้ พี่จะได้รีบไปเอางานไม่ต้องวนรถไปมาหลายรอบ”
“อ๊ะ...!”
“จะดีเหรอ แบคฮยอนว่าไง ?”พ่อถามผมด้วยความห่วงใย แน่นอนว่าผมคิดว่าวิธีนี้มันดี ไม่ใช่เพราะผมอยากจะไปชานยอล แต่เพราะผมไม่อยากให้พ่อต้องวนรถหลายรอบและการขับรถตอนดึกๆมันก็อันตรายมากด้วย เลยคิดว่าถ้าให้พ่อรีบไปซะมันน่าจะดีกว่า
ผมจะไปด้วยก็ได้ แต่พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าเนี่ยสิ อีกอย่างไม่อยากให้พ่อรีบจนทำให้ตัวเองเกิดอันตราย
“แบคฮยอน ?”
“พ่อไปเถอะครับ”
“…”
“ผมกลับกับ...อาชานยอลก็ได้”
“ไม่เป็นไรแน่นะ ?”
“ครับ ผมไม่เป็นไร”
“งั้นตกลงตามนี้นะครับ ผมจะดูแลลูกชายพี่ให้ดีที่สุดเลย ไม่ต้องห่วง” ชานยอลส่งยิ้มให้ผมกับพ่อด้วยไมตรีจิตสุดๆ ผิดกับหลานชายของเขาที่แสดงท่าทีไม่พอใจออกมาทางแววตาราวกับว่าเขาไม่ยินดีกับข้อตกลงนี่ ซึ่งผมก็รู้สึกผิด บางทีเขาอาจจะไม่ชอบผมไม่ก็ไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวายกับช่วงเวลาแห่งครอบครัวของเขา
ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากอะไร พ่อผมก็หันไปถามเขาซะก่อน
“แล้วเราโอเคไหมจงแด ?”
“…”
“อยากให้อาไปส่งแทนไหม คอนโดชานยอลอยู่ใกล้กับบริษัทอา อาผ่านไปส่งเราก่อนได้นะ ถ้าเกิดอยากจะพักผ่อนมากกว่านั่งรถเทียวไปเทียวมากับชานยอล”จงแดกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายระคนใช้ความคิด เขาหันไปมองหน้าอาของเขาที่มองเขาเช่นกันก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เหมือนกับว่าทุกอย่างบนโลกช่างหนักหนาสำหรับเขาเหลือเกิน
เขาดูไม่แคร์โลกเลย
“ผมไปกับอาคริสนะครับ”
“จะดีเหรอ...”
“บอกพ่อด้วยว่าผมไม่กลับ” จงแดตอบแค่นั้นแล้วถือวิสาสะเดินไปขึ้นรถพ่อผมหน้าตาเฉย ชานยอลส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของหลานชายเขาพลางเอ่ยปากขอโทษพ่อผมเสียยกใหญ่ สุดท้ายเราทั้งหมดก็ต่างแยกย้ายกันไปโดยที่พ่อก็ไม่ลืมสั่งให้ผมโทรหาเมื่อถึงบ้านแล้ว
ชานยอลรอให้รถพ่อของผมออกไปก่อน จากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้ผม
เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ที่สุดที่ผมเคยเห็นมา...
“แบคฮยอน”
“ครับ ?”
“ผมยินดีไปส่งคุณถึงที่ก็จริง”
“...”
“แต่คืนนี้คุณต้องนอนที่คอนโดของผมJ”
“อะไรนะ...!”ยังไม่ทันที่ผมจะตอบตกลงอีกฝ่ายก็โน้มใบหน้าผมให้รับรสสัมผัสของเขา ริมฝีปากแสนหวานเคลื่อนผ่านอยู่บนเรียวปากของผมพร้อมกับลิ้นชื้นสอดเข้ามาเก็บเกี่ยวทุกหยาดหยดในโพรงปากที่ร้อนระอุ ชานยอลไม่สนว่าตอนนี้เรากำลังจูบกันนอกรถ นั่นแปลว่าทุกคนสามารถเห็นทุกการกระทำของเรา
ผมยกมือพยายามดันอกเขา ทว่าทุกครั้งที่ลิ้นร้อนหยอกเย้ากับลิ้นผม มันทำให้เรี่ยวแรงของผมอ่อนระทวยไปหมด
และก่อนที่ทุกอย่างจะเตลิดไปไกล
เขาก็ถอนจูบออกไปแล้วกระซิบข้างหูผมว่า...
“ผมหวังว่าคืนนี้ คุณจะทำให้ผมร้อนยิ่งกว่าตอนนี้ที่เราจูบกัน”
“ผม...”
“ผมจะไม่หยุดจนกว่าจะเช้า”
“…”
“คืนนี้เป็นคืนของเราแล้ว...แบคฮยอน”
LOADING 100 PER
เรื่องนี้เป็นอีโรติก (18-20+) อาจจะแรงไปในบางฉาก
แต่ถ้าอยากร้อนเร่าไปกับพวกเขาก็ขอฝากติดตามด้วยนะคะ
เพราะเรื่องนี้ใครที่รักมากกว่าย่อมแพ้ไป ใครที่รู้ตัวไวคือผู้ชนะ !
1 เม้น 1 กำลังใจให้กำลังใจแบมคนบาปนะครัช
เมื่อพูดถึงค่ำคืนของพวกเขา อย่าลืมติดแท็กในทวิต !
#ฟิคคืนของชานแบค
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เขิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ใจนู๋
ทำไมเพ้ชัลแบดจังเลยคะ
คุก
คุกๆๆ เสียงไอจิงๆค่ะ
มันใช่หรอออออออออออออออออออออออออออออ
อ่านได้ถึงอารมณมาก์คำพูดของตัวละครมันดูร้อนเเรงมันมีความรู้สึกที่เเบบเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครมากก
#งงป่ะ เอ่อเป็นว่าคือมันดีนั่นเเหละติดตามมมค่าาาาา