ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RACE ON ¼ ll แรงเขย่าใจร้ายเขย่ารัก

    ลำดับตอนที่ #7 : Race06 ll ความเจ็บของติ่งครั้งที่6 {อัพ100%} ติ่งผู้ตกอยู่ใต้ความเผด็จการ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.06K
      34
      8 ก.พ. 60



    EP05
    -ความเจ็บของติ่งครั้งที่5-


    ค่ะ บัตรนี้เท่ากับว่า น้องคือหนึ่งในทีมงานที่ต้องคอยช่วยดูแลงานและความวุ่นวาย รวมถึงดูแลความสะดวกให้หนุ่มๆวง SWAG ด้านหลังเวทีค่ะ

    บอกไม่ถูกเลยว่าตอนนี้ฉันควรจะรู้สึกยังไง ที่รู้ๆ ก็คือหลังจากที่สต๊าฟคนดังกล่าวพาฉันกับเหมียวมาส่งที่ประตูด้านหลังตึกแล้ว เนื้อตัวมันก็เต้นด้วยความตื่นเต้น

    ฉันไม่เคยเข้างานแฟนไซส์ในฐานะ Staff มาก่อนเลย กระถินเองก็คงจะไม่ต่างจากฉันนัก งานนี้คงต้องยกความดีความให้กับทอร์ชนั่นแหละที่ใจดีให้บัตรดังกล่าวมาอย่างฟรีๆ ด้วยสถานการณ์ที่พาไป กระถินก็เลยไม่ได้ถามหรือพูดเรื่องเทวินทร์ออกมาอีก ซึ่งฉันคิดว่านั่นน่ะมันก็ดีแล้ว

    เราทั้งคู่เกาะมือกันแน่น ค่อยๆ เปิดประตูหลังสำหรับStaffด้วยใจที่เต้นแรงยิ่งกว่าเสียงรัวกลอง ก่อนจะต้องตื่นเต้นหนักกว่าที่เป็นเมื่อภาพที่ปรากฏด้านหลังบานประตูคือภาพของกลุ่มชายหญิงในชุดเสื้อยืดสีดำสนิทสกรีนลายติดด้านหน้าว่า SWAG ส่วนด้านหลังคือคำว่าSTAFF และแน่นอนว่ากระถินกับฉันตกเป็นเป้าสายตาของพวกสต๊าฟคนอื่นๆ ด้านในทันที อาจเพราะว่าเราทั้งคู่แต่งกายด้วยชุดไปรเวทปกติไม่ใช่เสื้อสต๊าฟอย่างพวกเขาล่ะมั้ง

    ทำไงดีอ่ะ ไม่กล้าเข้าไปข้างในเลยอ่ะ” ฉันกระซิบบอกกระถินอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทันทีที่ก้าวเข้ามาด้านหลังงานสำเร็จ

    เอาเข้าจริงฉันเป็นคนไม่ชอบให้ใครจับตามองหรอกนะ เพราะการถูกกระทำอย่างนั้นใส่ มันจะทำให้ฉันสูญเสียความเป็นตัวเองยังไงล่ะ

    แล้วคนที่เขาให้บัตรแกอ่ะ เขาไม่มาด้วยหรือไง ไม่ลองโทรหาเขาดูล่ะ” กระถินเองก็ได้แต่กระซิบถามฉัน สายตาเธอกวาดมองภาพเหตุการณ์รอบตัวด้วอย่างนิ่งเฉยไร้อารมณ์

    หมอนั่นไม่มาหรอก เขาไม่ใช่คนชอบอะไรแบบนี้

    ไม่ชอบ แต่เอาบัตรพิเศษแบบนี้มาให้เธอ... กระถินย้อนอย่างไม่เชื่อหู

    อือ

    สงสัยจะว่าง

    =_= เอิ่ม ต้องบอกไหมล่ะว่าฉันแกบัตรพวกนี้มาด้วยการซักกางเกงใน!

    น้องสองคนตรงนู้น อย่ายืนเกะกะขวางทางเดินศิลปินนะคะ

    เสียงแกมดุของผู้หญิงคนหนึ่งทำทั้งฉันและกระถินสะดุ้ง รีบหันมองไปยังเจ้าของเสียงด้วยความตกใจ เธอแต่งกายเหมือนกับสต๊าฟคนอื่นๆ แต่ดูท่าจะเอาเรื่องกว่าหลายคนที่อยู่ที่ห้องนี้หลายเท่านัก

    มาร่วมงานหรือเปล่าคะ?”

    ฉันพยักหน้ารัวๆ แทนคำตอบ พลางบีบมือกระถินแน่นอย่างนึกหวาดๆ

    ถ้าเข้าร่วมงานทำไมไม่ไปเข้าหน้างานล่ะคะ ตรงนี้มันของสต๊าฟกับพวกทีมงาน

    คือว่าการ์ดด้านหน้าเขาไล่ให้เรามาเข้าทางนี้น่ะค่ะ คือบัตรของพวกเรามันเป็นบัตรสต๊าฟ” ฉันตอบอย่างหวาดๆ พลางรีบเปิดกระเป๋าหยิบบัตรสีขาวที่ได้มายื่นส่งให้เธอดูทันที

    หญิงสาวท่าทางเอาเรื่องคนนั้นพินิจพิจารณาบัตรในมือฉันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง

    ถ้าอย่างงั้นก็ช่วยยืนหลบให้เป็นที่ด้วยค่ะ อีกไม่กี่นาทีศิลปินจะเข้ามาด้านในแล้ว” คำพูดของเธอทำฉันรีบจับแขนกระถินเขย่าด้วยตื่นเต้นจัด ขณะรับปากหญิงสาวคนเดิมกลับไป

    ค่ะ ทราบแล้ว!”

    เพราะถูกเตือนมาอย่างนั้น ฉันจึงตัดสินใจดึงมือกระถินไปยืนหลบอยู่มุมหนึ่งของพื้นที่ด้านหลัง ซึ่งเต็มไปด้วยโต๊ะและราวแขวนเสื้อผ้ามากมายสำหรับศิลปิน

    ทีมงานบางคนกำลังยืนพูดคุยกันด้วยภาษาที่ต่างออกไป อย่างเช่นภาษาเกาหลี ซึ่งฉันคิดว่าเขาคงเป็นฝั่งสต๊าฟของค่ายเพลงแน่นอน ส่วนผู้หญิงที่มาเตือนฉันกับกระถินนั้นก็คงเป็นทีมงานทางฝั่งคนไทย

    ฉันกับกระถินพยายามทำตัวเนียนให้เป็นหนึ่งเดียวกับพวกทีมงาน แม้ว่ามันจะไม่มีตรงไหนพอจะเนียนไปกับพวกเขาได้เลยก็ตาม แต่แล้วในเวลาต่อมาไม่นาน ประตูบานใหญ่ที่ฉันกับกระถินเดินเข้ามาก่อนหน้านี้ก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของทีมงานกลุ่มหนึ่ง เสียงปรบมือคล้ายกับเป็นการต้อนรับดังขึ้นทันที ที่ชายหนุ่มดูดีทั้ง 5 คนเดินย่างก้าวเข้ามาที่สเตจด้านหลัง

    ออร่าความโดดเด่น เด้งโดดทะลุเข้าเบ้าตาแทบจะทันที พานให้พื้นที่ด้านหลังสว่างไสวมากกว่าที่เคยเป็น ชายหนุ่มทั้งห้าในนามSWAG ซึ่งประกอบไปด้วย Zen, จอนอุนมยอง[1], เควิน , ปาร์คฮันยู และคนสุดท้ายวอร์อปป้า ต่างก้มหัวทักทายบรรดาทีมงานอย่างเป็นกันเอง บ้างก็พยายามยกมือไหว้แทนภาษาที่พวกเขาพูดได้ไม่ชัดนัก 

    สวัสดีครับ วันนี้ฝากด้วยนะครับ

    ยินดีค่ะ เดี๋ยวไปนั่งรอตรงนั้นก่อนนะ ช่างจะได้แต่งหน้า ทำผมเลย นี่มันก็เรตมาเกือบ5นาทีแล้ว

    ครับ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะครับ” วอร์อปป้าก้มหัวให้สต๊าฟแบบไม่ถือตัว ก่อนเดินตามหลังน้องๆ ในวงไปประจำที่ของตัวเอง ฉันพยายามเขย่งยืดตัวไปมาเพื่อทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าสนใจ และแอบหวังเล็กๆ ว่าเขาอาจจะจำฉันได้

    วูบหนึ่งที่เหมือนเป็นช่วงวิเศษในชีวิต เมื่อในตอนนั้นวอร์อปป้าหันมามองฉันโดยบังเอิญพลางพยักหงกหัวลงเล็กน้อยพร้อมด้วยรอยยิ้มราวกับจะทักทาย แต่เพียงเท่านั้นเลือดลมในตัวมันก็สูบฉีดแรง จนแทบจะยืนไม่อยู่ จำต้องคว้ามือจับไหล่ของเพื่อนสนิทเอาไว้เพื่อทรงตัว

    อ๋อเนี่ยเหรอ...ดาราเกาหลี

    หล่อแรง ชอบแรง ฟินแรงงงงงง!” ฉันเสริมกระถินเสียงแหลมเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้กระถินรู้สึกไปด้วย แต่

    อือ ดูดี แต่…” อีกฝ่ายก็ยังใช้น้ำเสียงราบเรียบคล้ายกับไร้อารมณ์และส่วนร่วมตอบกลับมาอยู่ดี แถมยังมีถ้อยคำค้างคาด้วยความสงสัยเมื่อดันเงียบเสียงลงปล่อยให้ฉันรู้สึกค้างคา

    แต่อะไรอ่ะ?” เพราะว่าเธอไม่ยอมพูดสักทีฉันจึงต้องเร่งขอคำตอบ

    เคยมีเพื่อนสมัยมัธยมชอบคนชื่อวอร์ เห็นว่า...ก่อนหน้าที่เขาจะเดบิวต์ช่วงเป็นเด็กฝึกในค่าย เหมือนเขาจะเคยมีข่าวไม่ดีเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งด้วยไม่ใช่หรอ” คำพูดของกระถินที่กล่าวออกมานั้น ทำรอยยิ้มของฉันหุบลงโดยทันที เพราะเรื่องที่เธอพูดออกมานั้น ฉันเองก็เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรกวันนี้นี่แหละ “ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าเขาจะเคยตามตื้อสาวคนหนึ่งจนกลายเป็นเรื่องเป็นราว

    เอาอะไรมาพูดอ่ะ ฉันไม่เห็นเคยได้ยินเลย” และเพราะว่าฉันไม่ยอมปักใจเชื่อสิ่งที่เธอพูดง่ายๆ ปากก็เลยพลั้งถามออกไปอย่างงั้น

    มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ฉันจำเขามา เธออยากรู้ก็ลองไปหาดูใน Google สิ ถ้าจำไม่ผิดผู้หญิงที่เป็นข่าวกับเขา น่าจะเป็นออลจัง(Ulzzang[2])ของค่าย SHINNY ที่เกาหลีนั่นแหละ

    สำหรับติ่งแล้ว ไม่มีใครพอใจนักหรอก ที่จะมีใครสักคนพูดถึงเมนหรือผู้ชายที่เราชอบในด้านลบ ฉันเองก็เป็นนะ แต่เพราะรู้ว่ากระถินเองก็คงไม่ได้อยากจะพูดเรื่องอะไรแบบนี้นักหรอก ก็อย่างว่าเธอเป็นพวกถ้านึกอะไรขึ้นได้ก็จะพูดออกมาไม่หยุด ฉันก็เลยทำได้แค่รับปากส่งๆ แบบไม่เต็มเสียงนัก

    อะ อ่อเหรอ

    นี่เรา มางานด้วยเหรอเนี่ย” อาการคิดมากในหัวถูกทำให้หายไปด้วยคำพูดทักทายราวของผู้ชายคนหนึ่ง น้ำเสียงของเขาเหมือนกับว่าเราทั้งคู่สนิทกันมาก ไม่ต้องหันไปมอง เพียงแค่ได้ยินหัวใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้วล่ะ

    กระถินที่ยืนอยู่ข้างฉันในตอนนั้นก็เช่นกัน เธอทำตาโตด้วยความตกใจ เมื่อบุคคลที่เราทั้งคู่เพิ่งพูดถึงดันมายืนปรากฏตัวอยู่กึ่งกลางระหว่างเรา โดยที่มือหนึ่งของเขาถือวิสาสะคล้องคอฉันอย่างคนสนิทสนม

    วอร์อปป้า!!!

    ทำไมมาอยู่ตรงนี้กันได้ละคะที่นี่มันที่ของทีมงานเขานะ กรี๊ดดดดด ลิ้นฉันมันแข็ง ร่างกายเองก็เหมือนกับโดนสาปให้เป็นหิน ไม่รู้จะพูดอะไรตอบอปป้ากลับไปเลย T////ฉันรู้สึกถึงดาเมจบางอย่าง ตรงนี้พลังงานแรงมากคะบอกเลย!

    แมเพื่อนฉันได้บัตรของทีมงานมาค่ะ ก็เลยได้เข้ามาอยู่ด้านหลังสเตจ” กระถินตอบแทนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไม่ได้เปลี่ยนไปแม้ว่าวอร์อปป้าจะมายืนอยู่ตรงหน้าเราทั้งคู่ก็ตาม

    อ๋อ สมกับเป็นหัวบ้านแฟนเบส แฟนไซต์จริงๆ นะเราเนี่ย” วอร์อปป้าชมฉันปนน้ำเสียงติดตลก “ก็ดีแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนก่อน พี่ก็คิดอยู่ว่าจะทำยังไงถึงจะได้เจอแมอีก งั้นหลังจบงาน แมอยู่คุยกับพี่ก่อนแล้วค่อยกลับได้ไหม

    คุณพระ!!! ติ่งอยากจะดิ้น!

    เราก็ด้วยนะ เอ่อ…”

    กระถินค่ะ…” กระถินตอบด้วยเสียงที่ไม่ต่างจากเดิมนัก

    โอเค เอาเป็นว่าหลังงานจบเดี๋ยวรอพี่ที่นี่ก่อน ถือว่าจองตัวเราทั้งคู่ไว้แล้วนะ” วอร์อปป้าไม่ใช่แค่พูดแต่เขายังทำเสียงจุ๊บปากอยู่ข้างหูฉัน แม้จะมาแค่เสียงแต่อารมณ์ติ่งในตอนนี้มโนไปไกลหลายล้านกิโลแล้วว่า อปป้าจุ๊บแก้มฉันฟอดใหญ่

    ฮือออ จองทั้งชีวิตเลยก็ได้ค่ะ หนูสัญญาจะไม่ขัดขืน!

    วอร์ สวัสดีจ้า!” และในตอนนั้นเองที่ฉันตัดสินใจหันมองอปป้าแบบตรงๆ ดันมีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกออกมาก่อน นั่นจึงทำให้วอร์อปป้าผละตัวออกห่างฉันไปพร้อมด้วยเสียงตอบรับอย่างเป็นกันเอง

    มือของกระถินที่จับแขนฉันไว้ เริ่มเกิดแรงเขย่า พานให้ต้องเลื่อนสายตามองหน้าเธอ แล้วถามออกไป

    มะ มีอะไร?”

    ผู้ชายที่ยืนข้างผู้หญิงคนนั้น ใช่ทอร์ชที่เป็นนักแข่งรถหรือเปล่า?”

    ทอร์ชเหรอ?!

    ฉันรีบเหลียวหลังมองบุคคลตามที่กระถินว่าโดยทันทีด้วยความสงสัย ก่อนต้องทำตาโต เมื่อผู้ชายที่ชื่อทอร์ชอะไรนั่น มันคือคนเดียวกับผู้ชายที่พักอยู่บ้านพักเดียวกับฉัน และในวินาทีที่ตัดสินใจจะหลบหน้าหมอนั่น

    ยัยติ่ง!”

    =_=!

    กะแล้วว่าเธอต้องมาจริงๆ ไงล่ะบัตรที่ฉันให้ เจ๋งสุดๆ ไปเลยใช่ไหม?”

    อื้อสุดยอดไปเลย ฮ่าๆ” ฉันแค่นเสียงขำ บอกเลยว่าฉันเกลียดการเรียกของทอร์ชมาก เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกอาย หมอนี่น่ะไม่เคยเรียกฉันด้วยชื่อเล่นจริงๆ เลยสักครั้ง ถ้าไม่เรียกเตี้ยก็เรียกติ่ง ใครได้ยินเข้าคงขำพิลึก!

    นี่เพื่อนเหรอ?” อีกครั้งที่ทอร์ชกล่าวถามออกมา พร้อมทั้งหันมองกระถินที่มองเขานิ่งๆแต่เต็มไปด้วยความสนใจ

    อื้อ เพื่อนฉันชื่อกระถิน

    ยินดีที่รู้จักครับ ทอร์ชนะ” ทอร์ชดูเป็นคนอารมณ์ เขาจึงหันไปแนะนำตัวกับกระถินทันที แต่ใครจะคิดว่าสิ้นเสียงเพื่อนสาวคนสนิทจะถามเขากลับไปด้วยเสียงเย็นเยือกว่า

    คุณเคย...ขับรถแหกโค้งเลือดท่วมบ้างหรือเปล่าคะ?

    =_= << หน้าฉัน

    =O= << หน้าทอร์ช

    อ้าว!ทอร์ชรู้จักน้องแมด้วยเหรอ?”

    ขณะที่เราทั้งคู่ยังอึ้งกับคำถามของกระถินอยู่ จู่ๆ ใครอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็พูดแทรกความเงียบขึ้น และใช่ เขาคืออปป้าวอร์ อปป้าไม่ใช่แค่พูดแต่เขายังเดินกลับมาหาอีกครั้งพร้อมด้วยหญิงสาวอีกคน ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าเธอจะเป็นพี่สาวแท้ๆ ของทอร์ชนั่นแหละ แถมยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขาด้วย

    ดะ เดี๋ยวนะงั้นก็แปลว่าทอร์ชกับวอร์อปป้ารู้จักกันน่ะสิ!

    รู้ดิ ยัยนี่อยู่บ้านพักเดียวกับผม” ดูคำพูดคำจาพวกเขาสิ ดูสนิทสนมกันจนน่าอิจฉา T^T

    แม…” เสียงกระซิบของกระถิน ทำฉันเหลือบมองเพื่อนสนิทอีกครั้ง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เธอกระซิบถามออกมาอีกครั้ง “นี่อย่าบอกนะว่าคนที่ให้บัตรสต๊าฟเธอมาคือทอร์ชน่ะ

    ใช่” ฉันยิ้มแห้งๆ

    นี่เธอรู้จักกับคนพวกนี้เป็นการส่วนตัวขนาดนี้เลยเหรอ

    มะ มันก็ไม่เชิงอ๊ะ!” เสียงของฉันขาดหายไปในช่วงท้ายประโยค เมื่อจู่ๆ ฝ่ามืออุ่นของใครบางคนดึงตัวฉันเข้าไปขนาบข้างกายจนมือของกระถินที่เกาะไว้หลุดออก

    งั้นพี่จองคนนี้ก็แล้วกัน ฮ่าๆ” เสียงของวอร์อปป้าที่ดังแทรกเข้ามาแทบจะพร้อมกันทำฉันเงยมองเจ้าของเสียงด้วยความตกใจปนความสงสัย และเมื่อได้เห็นหน้าเขาอย่างตรงๆ ทั่วหน้ามันก็ร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

    หูยพี่ นั่นน่ะ แม่บ้านที่พักผมเลยนะ ฮ่าๆ” เสียงของทอร์ชที่แทรกสถานการณ์ออกมา พร้อมด้วยฝ่ามือของเขาที่เอื้อมมือยีหัวผมฉันจนยุ่ง เริ่มทำให้ร่างกายฉันแข็งทื่อไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวหรือรู้สึกอะไรก่อนดี เพราะแขนก็โดนวอร์อปป้ากอดไว้ หัวก็โดนมือไวแบบทอร์ชยีเล่น

    กับวอร์อปป้าน่ะฉันฟินแต่กับทอร์ชน่ะ ฉันไม่ฟิน! =_=

    เล่นอะไรเนี่ยทอร์ช!” ฉันที่ตอนนี้ไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงได้แค่พูดต่อว่าทอร์ชออกไปแบบนั้น อีกอย่างฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาคุยอะไรกัน จนกระทั่งสายตาฉันเหลือบไปทางกระถิน ซึ่งเอาแต่ยืนนิ่งเหมือนไม่รู้ว่าจะคุยกับใคร สายตาเธอกวาดมองไปรอบๆ ดูไม่ได้สนใจอะไรรอบตัวอย่างที่ฉันรู้สึก

    กระถิน มานี่สิ!” เพราะเห็นเธอเป็นอย่างงั้นฉันจึงเรียกเธอไปพลางกวักมือเรียกให้เธอเข้ามาหา กระถินเงยหน้ามองฉัน และขณะก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้เธอก็พูดขึ้น

    ฉัน...ปวดฉี่...

    อ้าว งั้นฉันไปด้วย…”

    ติ่งมาถ่ายรูปรวมด้วยกันมา!” อีกครั้งที่คำพูดของฉันถูกขัดด้วยฝีมือของพัตเตอร์ นั่นเลยทำให้กระถินกล่าวตอบกลับมา

    ไปถ่ายรูปเถอะ ฉันไปเข้าห้องน้ำคนเดียวได้ ตักตวงความสุขไว้เยอะๆ” สิ้นเสียงบอกกล่าวอย่างเข้าใจของเพื่อนสนิท มันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ทอร์ชซึ่งดึงฉันเข้าไปเบียดกับวอร์อปป้าพอดี เขาแทรกตัวประกบเพื่อให้บุคคลซึ่งเป็นพี่สาวถ่ายรูปให้ และเมื่อจะหันกลับไปหากระถินอีกครั้ง ปรากฏว่าเธอก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว

    การพูดคุยระหว่างวอร์อปป้าและทอร์ชดำเนินไปอีกครู่สั้นๆ ส่วนฉันก็อาศัยจังหวะที่พวกเขาคุยกันนั้น เพื่อรอกระถินกลับมา จนกระทั่งทีมงานเรียกตัวศิลปินให้สแตนบายรอบนสเตจด้านหลัง วอปร์อปป้าจึงขอตัวไปทำหน้าที่ของตัวเองก่อน เหลือแค่ฉันกับทอร์ชเท่านั้น

    และเมื่อสบโอกาสฉันก็รีบหันไปถามทอร์ชที่ไม่น่าปรากฏตัวอยู่ที่งานแฟนไซส์แบบนี้ทันที

    นายมาทำอะไรที่นี่!”

    พี่สาวลากมาอ่ะ ก็เลยต้องมา แล้วเธออ่ะ ฟินป่ะได้เข้ามาหลังสเตจแบบนี้

    ฟินมาก” เอ๊ะเดี๋ยวสิ! “ไม่ต้องมาพูดเลยนะ นายรู้จักกับวอร์อปป้าด้วยเหรอ?”

    ก็รู้จักอ่าดิ ฉันเคยตั้งใจว่าจะทาบทามพี่เขาไปเป็นพาทเนอร์ลงแข่ง Endurance ปีหน้า

    Endurance เหรอ… เหมือนจะเคยได้ยินคำนี้จากปากวอร์อปป้าเหมือนกันแฮะ

    รู้จักกันมานานยัง สนิทมากน้อยแค่ไหน เคยไปกินข้าวกับวอร์อปป้าป่ะ เล่าให้หมดนะ!” ฉันรีบรัวคำถามออกไปแบบไม่ต้องคิด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ พร้อมด้วยฝ่ามืออุ่นของเขาที่วางลงบนหัวก่อนจะตามมาด้วยแรงขยี้เบาๆ

    ถ้าถามเยอะขนาดนี้ กลับไปเธอต้องซักกางเกงในให้ฉันอีกสักโหลหนึ่งด้วยนะ

    “=_= อี๋!” (ถึงจะอี๋ แต่ก็เคยทำ)

    ฉันรู้จักกับพี่เขามาสักพักแล้วล่ะ สนิทไหมอันนี้ไม่แน่ใจ แต่ยังไม่เคยไปกินข้าวร่วมกับไอดอลชื่อดังหรอกนะ ฮ่าๆ” เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วทอร์ชน่ะใจดี ถึงจะชอบตั้งข้อตกลงมากไปหน่อย แต่เขาก็ใจดีที่จะยอมพูดหรือบอกในเรื่องที่ฉันอยากรู้อยู่เสมอๆ

    เดี๋ยวฉันจะไปแล้ว มีธุระต่อ ไว้เจอกันที่บ้านพัก

    อื้อ

    กลับไปแล้วซักกางเกงในให้ด้วยนะ ค่าบอก

    “=_=” อะ ไอ้หมอนี่!

    ทอร์ชหัวเราะอย่างชอบใจ จากนั้นก็เดินกลับไปหาพี่สาวของตัวเอง ปล่อยฉันให้ยืนอโลนโดดเดี่ยวเพียงลำพังอยู่ด้านหลังสเตจเพียงคนเดียว ฉันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าสะพาย เมื่อนึกขึ้นได้ว่าควรโทรหาเพื่อนรักที่หายตัวไปเข้าห้องน้ำสักพักใหญ่ ทว่า

    [ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้…]

    เอ๊ะกระถินปิดเครื่องเหรอ

    อีกครั้งที่ฉันลองกดโทรหาเธอซ้ำเป็นรอบที่สอง ผลที่ได้ก็คือไม่มีการตอบรับจากปลายสาย การที่เพื่อนรักหายตัวไปนานแบบนี้ มันก็เลยทำให้ฉันอดเป็นห่วงไม่ได้ จำต้องเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วพาตัวเองออกไปจากด้านหลังสเตจเพื่อตามหาเธอ

    โชคดีที่ด้านนอกประตูมีป้ายบอกทางไปห้องน้ำติดไว้ ฉันจึงไม่รอช้ารีบเดินจ้ำเท้าเดินไปทางด้านหลังตึกตามอย่างที่ป้ายบอก และคาดว่าตอนกระถินออกมาเธอเองก็คงจะเดินไปห้องน้ำที่อยู่ข้างหลังเหมือนกัน และในตอนนั้นเอง

    Rrrrrr Rrrrrrrrrr

    เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เท้าทั้งสองข้างจึงหยุดลง รีบเปิดกระเป่าเพื่อกดรับสายทันที ตอนแรกฉันคิดว่าคนที่โทรเข้ามาน่าจะเป็นกระถิน แต่ดันคิดผิดเพราะเบอร์ที่โชว์มันดันขึ้นเบอร์แปลก อ่อจริงสิ กระถินปิดเครื่องนี่นา หรือว่าบางทีแบตเธออาจจะหมดเลยใช้เบอร์คนอื่นโทรมาก็ได้

    ฮัลโหล?” ฉันรีบกดรับและกรอดเสียงผ่านสายเหมือนปกติทันที

    [ไง ฟินแย่เลยดิ ห่างสายตานิดเดียว เอาใหญ่เลยนะเสียงเข้มส่อแววประชดประชันจากปลายสาย ทำคิ้วฉันขมวดย่นติดกันเป็นปมอย่างนึกสงสัย รีบเลื่อนโทรศัพท์ลงเล็กน้อยเพื่อดูเบอร์อีกครั้งแล้วคิดในใจ

    ใครวะ!?

    [เงียบแบบนี้คือไร?] พอแนบโทรศัพท์ลงกับหู ปลายสายก็ถามออกมาอีกครั้ง เหมือนกับรู้จังหวะ แถมน้ำเสียงเขายังกดต่ำอย่างเยือกเย็น ยิ่งทำคนฟังอย่างฉันงุนงงมากเข้าไปใหญ่

    โทรผิดแล้วมั้งคะ?”

    [ถูกแล้ว นี่เธอจำเสียงฉันไม่ได้เหรอ?] ยิ่งปลายสายพูดออกมาแบบนี้ ฉันก็ยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่  สมองเริ่มประมวลผลสรุปรวมทั้งหมดที่ได้ยินจนกระทั้ง ภาพในหัวมาหยุดอยู่ที่หน้าของใครคนหนึ่ง

    แค่เพียงนึกถึงเท่านั้นขนก็ลุกซู่ไปหมดทั้งตัว

    เทวินทร์?” ฉันย้อนถามเสียงอ่อนแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก

    [ใช่ ฉันเองเขาตอบเพียงสั้นๆ สร้างความแปลกใจอย่างหนักหน่วงจนต้องอ้าปากค้าง

    คำถามก็คือ ไอ้หมอนี่เอาเบอร์ฉันมาจากไหน!?

    เพื่อให้คลายความสงสัยฉันจึงตั้งใจถามเขา แต่ว่า ยังไม่ทันได้พูดอะไร มันก็เป็นเทวินทร์เองนั้นแหละที่พูดแทรกเสียงเดิมขึ้นมาก่อน

    [หน้าตาดูมีความสุขเหลือเกินนะ เวลามีผู้ชายล้อมรอบอ่ะ] คำพูดกึ่งประชด ทำฉันเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีอารมณ์ก่อนจะต่อว่าเขากลับไป ขณะเริ่มก้าวเท้าเดินตรงไปที่ห้องน้ำซึ่งคาดว่ากระถินจะเข้าไปใช้บริการ

    อย่าเยอะ นายเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ! อื้อ!”

    ฟึ่บ!

    ฉันเบิกตากว้างอย่างขีดสุด เมื่อในตอนนั้น ดันมีมือของใครคนหนึ่งพุ่งเข้ารวบตัวฉันที่ไม่ทันระวังจากทางด้าน

    คนแปลกหน้าใช้แรงมหาศาลดึงตัวฉันให้หลบเข้าไปในซอกเล็กๆ ระหว่างตึกพลอยให้โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือร่วงลงกับพื้นทันที

    กึก!

    ปะ ปล่อยนะต้องการอะไร!!?” ฉันโวยวายอย่างไม่ต้องสงสัย

    เพราะบางทีบุคคลที่การกระทำเรื่องน่าตกใจอย่างอุกอาจแบบนี้อาจจะเป็นมิจฉาชีพก็ได้ แต่

    นาย!” สิ่งที่ฉันเจอเมื่อร่างกายถูกวงแขนกว้างปล่อยคืนสู่อิสระกลับน่าตกใจยิ่งกว่าเก่า เมื่อพบว่า คนที่เป็นผู้ลงมือกระทำเรื่องน่าตกใจครั้งนี้ไม่ใช่มิจฉาชีพแต่เป็นเทวินทร์!!!

    ยังไง ที่ถามไป?” ประโยคแรกที่เขาพ่นใส่หน้าฉันดูเหมือนเป็นคำขู่สำหรับการขอคำตอบเรื่องอะไรสักอย่าง “จะตอบได้ยัง?”

    น้ำเสียงของเทวินทร์ในตอนนี้ค่อนข้างหาเรื่อง ไม่ได้ติดกวนหรือติดทะเล้นเหมือนทุกที

    ตอบอะไร ปล่อยนะ ฉันจะไปหาเพื่อน!” ด้วยท่าทางที่ไม่น่าไว้วางใจ ทำฉันรีบตั้งท่าจะเดินหนีเขาออกจากซอกแคบของตัวตึก ทว่า

    กึก!

    เทวินทร์ที่ไวกว่าดันใช้ท่อนแขนของตัวเองกดทาบกับผนังเอาไว้ ปิดบังทางหนีทางเดียวที่มีจนมิด แล้วพูดออกมา

    เพื่อนเธอกลับไปแล้ว ฉันบังเอิญเจอเข้าตอนเดินหาเธอนี่เธอแหละ

    -_- ใครใช้ให้เดินหากันเล่า อยากรู้จริง!

    ไม่ใช่แค่เรื่องของกระถินเท่านั้นที่หมอนี่พูดออกมาจนฉันตกใจ เพราะอีกเรื่องที่ฉันตกใจไม่แพ้กันก็คงเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแพงที่หน้าจอปรากฏรูปของฉันตอนถูกวอร์อปป้ากอดโดยมีทอร์ชกำลังยีหัวนั่นแหละ ถ้าถามว่ามันน่าแปลกใจตรงไหน ก็เพราะว่ามันดันอยู่บนหน้าจอของเทวินทร์ยังไงล่ะ!

    มีคนส่งให้ฉันดูตอนระหว่างเดินหาเธอทั่วงาน เพราะแบบนี้ใช่ไหม เพื่อนเธอก็เลยขอตัวกลับก่อน” เทวินทร์อธิบายเสียงราบเรียบ ต่างจากปกติทั่วไป ก่อนจะเบือนหน้าพลางเก็บสมาร์ทโฟนของตัวเองใส่กระเป๋ากางเกง แล้วจิ๊ปากเสียงดังคล้ายกับไม่สบอารมณ์ แล้วต่อว่าฉันอีกครั้งแบบติดๆ กัน

    เธอเป็นโรคบ้าอะไรวะ ทำไมชอบไปเจ๊าะแจ๊ะกับผู้ชายคนอื่นนัก!”

    เลิกพูดบ้าๆ ได้ไหม ฉันก็แค่คุยกับ…”

    ตึงงง!!

    ร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ คนตัวใหญ่ตรงหน้ากระแทกฝ่ามือข้างที่เหลืออัดเข้ากำแพงอย่างแรง พานให้คำพูดที่มีถูกกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอ

    อย่าเถียง…” คำพูดสั้นๆ แกมสั่ง ถูกเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศความเงียบระหว่างเราทั้งคู่ 

    แววตาที่เทวินทร์ใช้จ้องฉันในตอนนี้ดูดุดันไม่มีแววความทะเล้นแฝงอยู่เหมือนที่ผ่านมา แถมนัยน์ตาคมคู่นั้นของก็ยังจ้องลึกผ่านนัยน์ตาฉันคล้ายกับจะบอกว่าสิ่งที่เขากำลังพูดและมันคือเรื่องจริงจัง

    อย่าทำให้ฉันหงุดหงิด เธอคงไม่อยากรู้หรอกใช่ไหม ว่าจะโดนอะไรบ้าง…”

    พะ พูดบ้าอะไรเนี่ย พอได้แล้วฉันจะกลับเข้างาน” ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่อง พลางใช้มือเพื่อดันแขนที่เขาใช้บังทางออก แต่เทวินทร์กลับไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น เมื่อเข้าใช้มืออีกข้างคว้าข้อมือฉันแน่นแล้วกดลงกับผนังกำแพงอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องมีคำพูดจา

    ฉันในตอนนี้มันสับสนไปหมด เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์วิกฤตแบบนี้มาก่อน สิ่งที่ฉันรับรู้ได้ตอนนี้ก็คือ เทวินทร์ไม่ได้มีอารมณ์ล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว

    ให้ตายสิ! หมอนี่เป็นคนแบบไหนนะ ทำไมถึงเดาอารมณ์ไม่ถูกเลยสักครั้ง!

    เจ็บนะ จะทำบ้าอะไรไม่ทราบ!” ถึงอย่างงั้น ฉันก็ยังพยายามใจดีสู้เสื้อ ต่อว่าเขาออกไป แต่แล้วมันก็เป็นฉันเองนั่นแหละที่ต้องเงียบเสียงลง เมื่อบังเอิญสบสายตาเข้ากับแววตาจริงจังคู่เดิมตรงหน้า

    เธอรู้อะไรไหม ยัยเต้าหู้?”

    “…” อะไรของหมอนี่นะแถมยังเรียกฉันว่าเต้าหู้อีก!!!

    การที่ฉันเจอเธอที่ห้างเมื่อคืน มันทำให้ฉันรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนใจร้อนแค่ไหน คำพูดของเทวินทร์ทำฉันนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก

    โดยเฉพาะเมื่อเขาเอ่ยประโยคต่อมา

    และคาดว่าในอนาคต ฉันคงจะขี้หึงมากด้วย

    หึงอะไร มีสิทธ์เหรอ?!” เดี๋ยวๆ หมอนี่กำลังจพะเริ่มพูดอะไรบ้าๆ แบบนั้นออกมาอีกแล้วถูกไหม?

    ก็เรื่องเมื่อคืนไง เธอยังไม่ได้รับผิดชอบเขาว่า

    ว๊อดดดด!?” ฉันหวีดเสียงสูงเมื่อเริ่มรู้สึกว่าเขากำลังจะพูดถึงเรื่องบ้าๆ เมื่อคืนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่า ครั้งนี้อีกฝ่ายจะไม่ตอบโต้อะไรกลับมาด้วยคำพูด หากว่านั่นคือเรื่องที่ดีบอกเลยว่าไม่ใช่  เพราะสิ่งที่เทวินทร์ทำคือการ โน้มหน้าลงมาใกล้ราวกับต้องการใช้ร่างกายตอบแทนคำพูด

    การที่เป็นเช่นนั้น ฉันจึงต้องรีบเบือนหน้าหลบพลางยกมือข้างที่ยังเหลือขึ้นปิดปากของตัวเองเอาไว้ ไม่รู้หรอกว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ถ้าหมอนี่คิดจะฉวยโอกาสแล้วล่ะก็ ฉันไม่มีทางยอมแน่!

    แต่ดูเหมือนว่าการกระทำของฉันมันจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม เมื่อเทวินทร์จงใจหยุดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้ห่างจากฝ่ามือของฉันไม่ถึงสองเซนติเมตร แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าในตอนแรก

    ฉันถูกใจเธอ…” ใบหูที่เป็นตัวรับฟังคำพูดประโยคนั้นร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ร่างกายทุกส่วนคล้ายกับถูกแช่แข็งด้วยถ้อยคำสั้นๆจากปากของเทวินทร์โดยไม่มีคำพูดจาใดโต้กลับไป หัวใจเองก็แย่ ที่ดันสั่นกับคำพูดประโยคดังกล่าวแทนที่จะต้องรู้สึกใจแค่เพียงอย่างเดียวเหมือนปกติ หลังประโยคต่อมาดังขึ้น อยากได้เป็นเจ้าของ

    ตึกตัก… ตึกตัก… ตึกตัก

    หนะ นี่เขาสารภาพรักเหรอ!?

    ทั้งที่เราเพิ่งเคยเจอคืนนั้นเนี่ยนะ!

    ขะ ขอโทษนะ… พอดีว่าฉันรีบ…” เพราะทำตัวไม่ถูกฉันจึงอาศัยจังหวะในช่วงที่เขาเริ่มสงบ ลดมือลงแล้วพูดออกไปเพื่อเลี่ยงสถานการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเรา

    แล้วในตอนนั้นเอง ที่เทวินทร์ใช้มือข้างที่กั้นทางออกพุ่งเข้าแตะที่แก้มของฉันอย่างรวดเร็ว เรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยจากฝ่ามือเขา สามารถบีบบังคับให้ฉันหันหน้าไปตามแรงได้ไม่ยาก

    ถือว่าพูดไปแล้ว ต่อจากนี้เธอต้องมีหน้าที่เป็นผู้รับ

    เลิกพูดอะไรบ้านั่นๆสักที ก็บอกแล้วไงว่าฉันน่ะ...อะ

    “มีหน้าที่รับ ก็รับไปซะ...และเป็นอีกครั้งที่ฉันต้องทำตาโตหลังสิ้นเสียงถ้อยคำเผด็จการที่ไม่แม้แต่จะคิดฟังใคร

    ฟึ่บ!

    ทุกอย่างมันรวดเร็วหากแต่ว่าภาพที่ปรากฏต่อสายตามันดันเคลื่อนไหวช้าลงราวกับจะจับทุกจังหวะ ทุกสิ่งที่คนตรงหน้าทำ ริมฝีปากร้อนที่เคยหยุดชะงักไปครั้งหนึ่งพุ่งเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว บดเบียดผิวปากทับลงมาค่อนข้างรุนแรง เหมือนฉากใดฉากหนึ่งจากซีรีส์เกาหลีที่เคยดูผ่านตาอยูบ่อยๆ

    การที่เขาทำเช่นนั้นมันทำให้คนถูกกระทำรู้สึกหายใจไม่ออก จนต้องเป็นฝ่ายขยับริมฝีปากหนีเพื่อสูดรับอากาศเข้าปอดอีกครั้ง ยังไม่ทันหายใจทั่วท้องดี ฉันก็ถูกฝ่ามือของเทวินทร์กดใบหน้าให้หันกลับเข้าไปอีกครั้งและทำบางสิ่งที่ฉันตกใจชนิดตั้งตัวรับไม่ทัน!

    อื้อ…” เรียวลิ้นร้อนระอุฉวยโอกาสสอดผ่านเข้ามาในปากอย่างช้าๆและฉวยโอกาส ทั้งที่นี่มันเป็นครั้งแรกระหว่างเราที่ควรจะเป็นแค่คนแปลกหน้าต่อกัน แต่เขากับไม่เบามือหรือหยุดความหนักหน่วงของริมฝีปากที่บดขยี้ลงมาเลยสักนิด

    ฉันไม่รู้ว่าไอ้ที่เขากำลังทำอยู่มันคืออะไร ทำเพื่ออะไร รู้แค่ว่ามันเรียกจูบ แต่จูบมันต้องใช้ลิ้นแบบนี้ด้วยหรือไงล่ะ!?!

    วินาทีนี้ฉันไม่สามารถประติดประต่อเรื่องอะไรได้อีก ไม่ว่าจะความคิดเขาหรือแม้แต่เรื่องที่จู่ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายบอกว่าถูกใจ แม้แต่ลมหายใจของตัวเองยังไม่สามารถควบคุมได้ ในหัวมันว่างจนแทบไม่เหลือความคิดใดให้ปวดหัว ยิ่งลิ้นของเขากวาดวนไปรอบๆ ภายในอย่างจาบจ้วง ล่วงเกินแบบไม่ให้เกียรติด้วยแล้ว ฉันก็ยิ่งรู้สึกแปลกในอกมากยิ่งขึ้นไปใหญ่

    สายตาที่เคยมองชัดตอนนี้กับพร่าเบลอ เหมือนกับมือที่เคยคิดจะปัดสิ่งขวางทางน่ารำคาญกลับบีบกำกระชับเสื้อที่คนตรงหน้าสวมอยู่เอาไว้แน่น ราวกับจะระบายความรู้สึกที่ได้รับมาให้หมดไป ยิ่งไปกว่านั้นเขายังกดขยี้ริมฝีปากเข้ามาแนบแน่น ราวกับตั้งใจจะฆ่าฉันด้วยริมฝีปากเดียว

    และในช่วงที่ฉันเหมือนกับว่าร่างกายกำลังจะขาดอากาศหายใจ เทวินทร์ก็ค่อยๆ ผละริมฝีปากพร้อมเรียวลิ้นร้อนรุกรานออกไปอย่างช้าๆ

    ถือว่านี่เป็นการลงโทษแรก ที่เธอไม่รอฉันแถมยังไปแจาะแจ๊ะกับผู้ชายคนอื่น...

    สมองสั่งการเหมือนถูกตัดไปในช่วงวินาทีนั้น หูได้ยินแต่ไม่สามารถจะตอบโต้อะไรคนตรงหน้ากลับไปได้ ร่างทั้งร่างทรุดทั้งยืนราวกับคนหมดแรง แต่โชคดีที่ถูกวงแขนแกร่งพุ่งเข้ารับไว้ได้ทัน

    ฉันพยายามหรี่ตามองหน้าผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง แต่มันยากเหลือเกินเหมือนกับว่าฉันกำลังจะเป็นลม และเสียงสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่ฉันจะด่ำดิ่งสู้ความมืดก็คือ

    เสียงของเทวินทร์ซึ่งกล่าวออกมาแบบจริงจังราวกับว่าฉันกำลังทำอะไรสักอย่างที่ผิดร้ายแรงต่อเขามาก

    ถ้ามีครั้งต่อไป เธอโดนยิ่งกว่านี้แน่

    To Be Continued...
    นอกจากหน้ามึน มั่นหน้าหลงตัวเอง มีหูไว้คั่นหัวแล้ว ยังเผด็จการด้วยนาจา

    หมายเหตุ

    [1] จอนอุนมยอง เรื่องของผู้ชายคนนี้สามารถติดตามแบบเต็มๆได้จากเรื่อง S.O.S วิกฤตรักร้าย มาเฟียที่รัก นะครับ

    [2] Ulzzang (ออลจัง) มีความหมายตามตัวว่า 'หน้าตาดี' หรือ 'ดูดี' บุคคลที่มีสถานะเป็นออลจังส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมจากทางอินเทอร์เน็ต เป็นที่สนใจ มีออลจังบางคนเป็นที่รู้จักจากการถ่ายแบบแฟชั่นเกาหลี บางรายแจ้งเกิดไปเป็นดาราหรือนักร้องก็มี

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต 

    #ชีวิตติ่งยิ่งกว่าเจ็บ #ติ่งแฟนวินทร์

    แก๊งลูกเทพ¼ 
     จิ้มซะจะได้ไม่เป็นธุระของพ่อกับแม่! 

        




    ll Character ll






    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้จิ้มเน้นๆที่หน้าเทวินทร์!

    ^
     รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน 
     ส่งฟีดแบ็กทางทวิต เพจ คอมเม้น
     หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×