ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RACE ON ¼ ll แรงเขย่าใจร้ายเขย่ารัก

    ลำดับตอนที่ #5 : Race04 ll ความเจ็บของติ่งครั้งที่4 {อัพ100%} พรหมลิขิตของติ่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.96K
      48
      7 ก.พ. 60



    EP04
    -ความเจ็บของติ่งครั้งที่4-




    วะ วอร์อปป้า...

    เพราะมนุษย์ทุกคนไม่ได้โชคดีบ่อยๆ หากมีโอกาสได้ใช้ความโชคดี ฉันก็อยากจะใช้มันให้เต็มที่ เพราะแบบนั้นเท้าที่ตอนแรกพยายามมุ่งตรงเพื่อหาทางออกกลับลำโดยฉับพลัน หัวใจที่ได้พักการรัวจังหวะถี่ๆ เริ่มกลับมาเป็นแบบเดิมอีกครั้ง เมื่อจิตใต้สำนึกสั่งให้ตัดสินใจก้าวเท้าพุ่งไปยังคนละทิศละทางกับจุดหมายแรกที่จะไป

    ทั้งที่มันเป็นครั้งที่สองของคืนนี้แล้วแท้ๆ ที่จะได้มีโอกาสเจอวอร์อปป้าใกล้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ความชอบและความรักที่มีให้มันก็ไม่อาจทำให้ฉันสามารถควบคุมอารมณ์และความรู้สึกให้กลับมาเป็นปกติได้เลย

    พรุ่งนี้หนูจะไปงานแฟนไซน์นะคะอปป้า~เสียงของเด็กวัยรุ่นกลุ่มเล็กซึ่งดูแต่งตัวแตกต่างจากวัยรุ่นคนอื่น ยิ่งพาให้ใจฉันสั่นผิดจังหวะ โดยเฉพาะเมื่อเสียงเข้มของชายตัวสูงดูมีออร่าดังตอบโต้พวกเธอกลับมา

    ครับ งั้นพรุ่งนี้เราเจอกันที่งานนะ

    กึก...

    ฉันเหมือนคนหายใจติดขัด เมื่อเท้าก้าวมาหยุดอยู่เบื้องหลังกลุ่มเด็กวัยรุ่นซึ่งคาดว่าน่าจะมีความชอบเดียวกัน  สายตามองจ้องไปยังผู้ชายตรงหน้า รู้ไหม ฉันมีคำพูดมากมายอยากจะบอกเขา อยากลองทักเขาบ้างเหมือนแฟนคลับคนอื่นๆ แต่เพียงแค่ได้เข้าใกล้แค่สองเอื้อมแขน คำพูดที่มีมันก็คล้ายกับจะหายไปหมด

    จนกระทั่ง...

    อ้าว เธอ...คนที่ฉันอยากคุยด้วยมากที่สุดเป็นฝ่ายเอ่ยทักออกมาเอง ใช่คนที่เอาน้ำมาให้พี่หรือเปล่าคะ?

    คะ คะ ค่ะ!” บ้าจริง! แค่คำสั้นๆ คำเดียวยังพูดยากลำบากขนาดนี้

    ขอโทษนะ พี่ไม่ได้กินเลยสักอึก พอดีมันหกหมดเลยทั้งที่เรื่องแบบนั้นไม่จำเป็นต้องบอกกันด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังพูดราวกับแคร์ความรู้สึกของคนให้ ไม่โกรธกันนะ

    ความน่ารักและดูใจดีของวอร์อปป้าไม่ได้มีเพียงแค่ในจอโทรทัศน์ จอยูทูป บนปกอลบั้ม หรือบนภาพโปสเตอร์เท่านั้น ไม่ว่าในที่ที่มองเห็นไกลๆ จะเป็นอย่างไร พอได้อยู่ใกล้เขาก็เป็นแบบนั้น

    ใช่หรือเปล่าอ่ะแก...

    ไม่รู้สิ แกลองถามดู...เสียงซุบซิบของกลุ่มวัยรุ่นซึ่งดูท่านะจะอายุพอๆ กันซึ่งยืนพูดคุยกับวอร์อปป้าก่อนหน้า ทำฉันเหลือบมองด้วยความสงสัย และต้องพบเข้ากับรอยยิ้มทักทายจากตัวแทนของเด็กกลุ่มนั้นพร้อมคำทักทาย

    ขอโทษนะคะ...พี่ใช่ขุ่นแม่กาละแมร์หรือเปล่าคะ?

    คะ...ค่ะใช่สิ้นเสียงตอบดูเหมือนว่าพวกเธอทั้งหมดดูจะชอบใจถึงได้หวีดเสียงแสดงท่าทางดีอกดีใจออกมาแบบนั้น

    หนูชอบมากเลยค่ะ หนูตามทุกข้อความที่พี่คอยแปลข่าวตลอดเลย

    ระ เหรอคะ...ขอบคุณนะคะปกติเคยแต่ตามกรี๊ดคนอื่น แต่พอมีคนแสดงท่าทางดีอกดีใจใส่แบบนี้มันก็เขินๆ อยู่เหมือนกันนะ

    อะไรกันๆ ไหงความสนใจของพวกเราถึงกลายมาเป็นผู้หญิงคนนี้ได้ล่ะ?เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้งเมื่อวอร์อปป้าซึ่งเคยตกเป็นจุดสนใจกลายเป็นคนที่ถูกติ่งด้วยกันเมินไปชั่วขณะ แต่การทักท้วงของเขาก็แทนทำฉันลมจับในวินาทีนั้นเหมือนกัน เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากถามคำถามของตัวเอง

    ผู้หญิงคนนี้เขาเป็นใครเหรอครับ? ซึ่งถ้าเขาแค่ถามเฉยๆ ฉันก็คงไม่รู้สึกอะไร หากแต่ไม่ใช่ในตอนนี้

    ตอนที่วอร์อปป้ากำลังวางมือของตัวเองลงบนไหล่ฉัน!!

    ขุ่นแม่กาละแมร์ค่ะอปป้า

    หืม...ขุ่นแม่เหรอครับ?

    ค่ะ พี่กาละแมร์เป็นเหมือนกูรูของวง SWAG เลยนะคะอปป้า พี่เขาคอยตามข่าวและแปลให้แฟนคลับคนอื่นๆ ได้รู้แบบวิต่อวิเลยค่ะ พวกหนูแล้วก็แฟนคลับส่วนใหญ่ตามข่าวของอปป้าจากพี่เขานี่แหละ

    หูฉันได้ยินสิ่งที่น้องแฟนคลับตรงหน้าให้คำตอบวอร์อปป้า แต่ใจมันดันไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเลยสัด ถ้ามืออปป้ายังวางอยู่บนไหล่ในระยะใกล้ขนาดนี้ ฉันไม่สามารถสนใจอย่างอื่นได้จริงๆ โดยเฉพาะในตอนที่กลั้นใจเหลือบมองหน้าเจ้าของฝ่ามือดังกล่าวแล้วพบว่าเขากำลังมองฉันกลับมาในระยะที่ใกล้พอกัน

    น้องกาละแมร์...เนี่ยน่ารักจังแถมยังชมพานให้หัวใจรัวแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ขอบคุณนะคะที่คอยติดตามผลงานวงพวกพี่ตลอดเลย

    ขอยาดมหน่อยค่ะ!!!

    ไหนๆ ก็ได้เจอวอร์อปป้ากับพี่กาละแมร์แล้ว ถ้ายังไงพวกหนูขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ?เพราะกลัวว่าจะตัวเองจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน ฉันจึงอาศัยจังหวะในตอนที่น้องๆ แฟนคลับพูดกับศิลปินที่ตัวเองรัก พยายามกระเถิบตัวออกห่างจากอปป้านิดหน่อยแต่ว่า

    พี่กาละแมร์ไม่ถ่ายรูปคู่กับวอร์อปป้าเหรอคะ?คำถามที่ชวนให้ความรู้สึปั่นป่วนก็ดังขึ้นมาอีก เมนพี่คือวอร์อปป้านี่คะ?

    จริงเหรอ?คำถามต่อมาไม่ใช่เสียงของน้องแฟนคลับหรอก หากแต่เป็นเสียงของวอร์อปป้าซึ่งฟังดูคล้ายกับแปลกใจและดีใจไปในคราวเดียวกัน

    คะ...ค่ะจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย ได้แต่ตอบและแสดงทีท่าประหม่าขัดสุดใส่ศิลปินที่ชอบไม่หยุด แต่ไม่ใช่กับมือที่ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือให้น้องๆ ตรงหน้าหรอกนะ

    ก็แหม! โอกาสไงโอกาส ถ้าพลาดไปแล้วชาตินี้จะมีโอกาสได้ใกล้ขนาดนี้อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้!

    วอร์อปป้าเองก็ยังคงความเฟรนลี่ไว้เสมอต้นเสมอปลาย ทันทีที่น้องแฟนคลับรับมือถือไป เขาก็เริ่มขยับตัวเขามาเบียดชิดฉันอีกครั้ง พลางโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้ดูใกล้ชิดกับแฟนคลับของตัวเองมากขึ้น รู้สึกได้ถึงฝ่ามืออุ่นของอีกฝ่ายวางทาบลงบนบ่าได้ชัดกว่าในครั้งแรก เหมือนว่าเขากำลังโอบไหล่ โดยที่ระยะห่างระกว่างแก้มเราทั้งคู่ก็ใกล้กันเพียงแค่หันไปหา

    ฉันเกร็งไปหมด มันเหมือนกับความฝันที่มีมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

    อีกรูปนะคะ!”

    ฟึ่บ!

    อะ...ฉันทำตาโตเมื่อจู่ๆ วอร์อปป้าผู้แสนในดีกระชับวงแขนบนบ่าดึงฉันเข้าไปเบียดกับตัวเองอีกครั้งชนิดแก้มเบียดแก้ม พลางชูสองนิ้ว ยิ้มสู้กล้อง

    และถ้าหากนี่เป็นความฝัน ฉันคงเป็นติ่งที่ฝันได้น่าอิจฉามากกว่าใคร...

    ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะพี่กาละแมร์ หนูจะคอยตามข่าวที่พี่รายงานนะแต่ไม่นานระยะว่าที่จะได้แอบอิงอปป้าเกินกว่าแฟนคลับหลายๆ คนของฉันและกลุ่มน้องแฟนคลับก็จบลง

    แต่ก็จบแล้วไม่ได้จบเลย...

    พวกหนูขอตัวก่อนคะ พรุ่งนี้เจอกันที่งานนะคะอปป้า กาละแมร์

    แล้วเจอกันนะครับ

    เมื่อน้องแฟนคลับกลุ่มเดินคล้อยหลังออกไป วอร์อปป้าก็เริ่มหันมาชวนฉันคุยอีกครั้ง

    คอยตามข่าวสารวงแบบนี้ เหนื่อยหรือเปล่าคะ?เขาพยายามใช้น้ำเสียงและแสดงออกต่อฉันอย่างเป็นกันเหมือนรู้ว่าฉันกำลังเกร็งและประม่ามากแค่ไหนที่ได้คุยกับเขาใกล้ๆ แบบนี้

    ไม่หรอกค่ะ ก็หนูชอบ...มันคือการบอกรักที่ฉันอยากทำมากที่สุดเลยนะรู้ไหม

    ขอบคุณนะคะที่ชอบและนี่คงเป็นคำพูดที่ฉันอยากฟังมากที่สุดพอๆ กับสิ่งที่อยากบอก ฝากติดตามผลงานของ SWAG ต่อไปเรื่อยๆ ด้วยนะ

    ยะ ยินดีเสมอค่ะบรรยากาศระหว่างฉันกับวอร์อปป้าในยามนี้เหมือนว่ามีแค่เราสองคน หูไม่ได้ยินคำพูดอื่นได้นอกจากคำขอบคุณ สายตาก็เช่นกัน ที่เวลานี้สามารถมองหน้าศิลปินอันเป็นที่รักได้เพียงที่เดียว

    แต่ไม่นานนักหรอก บรรยากาศหวาดหยดระหว่างศิลปินและแฟนคลับที่ฉันใฝ่ฝันก็เป็นอันต้องสะดุดลง เมื่อเวลาเดียวกันนั้น มีเสียงกระโชกโฮกฮากของใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้น

    เฮ้ย!!” เสียงของชายคนดังกล่าวฟังคุ้นหู และมันทำให้ทั้งฉันและวอร์อปป้าต่างรีบหันไปยังต้นเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง จนได้พบเข้ากับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งอีกคนซึ่งมีลักษณะการแต่งตัวเหมือนวอร์อปป้าทุกระเบียดนิ้ว ต่างก็แค่สีเสื้อยืดด้านในที่ของวอร์อปป้าเป็นสีขาว แต่ของชายคนดังกล่าวเป็นสีดำ!

    ทะ เทวินทร์!” ฉันหลุดสบถชื่อของผู้ชายคนนั้นออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่ออีกฝ่ายรีบจ้ำเท้าเดินตรงดิ่งแทรกผู้คนตรงมาทางเราทั้งคู่

    น้องกาละแมร์รู้จักไอ้วินทร์ด้วยเหรอ?ฉันยังไม่ทันได้ตอบอะไรวอร์อปป้ากลับไป ความมือไวของเทวินทร์ก็พุ่งเข้ากระชากแขนฉันให้ถอยห่างจากวอร์อปป้าทันทีอย่างรวดเร็ว

    เทวินทร์ไม่ได้มองหน้าฉัน แต่สายตากำลังมองจ้องไปยังวอร์อปป้าแบบไม่ชอบใจ ส่วนปากก็ต่อว่าไปด้วย

    ใครใช้ให้เธอมาคุยกับไอ้ไม่หลอนี่!?”

    เสียงฮือฮาดังขึ้นแทบจะวินาทีนั้นเมื่อคำถามของเทวินทร์สิ้นสุดลง ปฏิกิริยาตอบโต้อัตโมติของฉันคือการกระตุกปากอย่างนึกหมั่นไส้หลังได้ยินคำต่อว่าดังกล่าว กลับกันนั่นดันใช้ไม่ได้กับวอร์อปป้า

    ไม่เจอนาน ยังเหมือนเดิมเลยนะน้องชายซึ่งพูดเหมือนกับว่ารู้จักกับเทวินทร์มานาน

    ใครน้องมึง?ทั้งที่วอร์อปป้าพูดดีกับเขาแท้ๆ แต่หมอนี่กลับใช้คำพูดคำจาวอนโดนตบให้ปากเบี้ยวไม่หยุด โดยเฉพาะคำถามต่อมา กลับมาทำไม!?”

    มีงานต้องทำ แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ได้ข่าวว่ามีคนทาบทามให้ไปลงแข่ง Endurance ปีนี้เหรอ?

    ยุ่งไรด้วย?

    เด็กน้อยอย่างมึงจะทำได้เหรอวินทร์?ตอนแรกฉันก็ไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของวอร์อปป้ามากนักหรอก แต่ยิ่งฟังฉันยิ่งรู้สึกได้ถึงความกดดันผ่านน้ำเสียงและคำพูดนิ่งๆ ใจดีของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แข่งระดับโลก ถ้ายังฝีมือกระจอกแบบนี้ จะเอาอะไรไปชนะประเทศอื่นเขาวะ?

    คนฟังกัดฟันกรอดหลังวอร์อปป้าพูดจบ จนฉันรู้สึกถึงอาการสั่นจากร่างกายเขาได้ชัด

    อยากรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมา ฝีมือไปถึงขั้นไหนเหมือนกัน...วันเสาร์มาลองแข่งกันสักแมชไหม?

    มึงเอาเวลาที่จะแข่ง เก็บไว้ร้องเพลงเถอะ!” ส่วนนั่นคือคำตอบของเทวินทร์

    ด้วยบรรยากาศที่เริ่มเปลี่ยนไป อีกทั้งตอนนี้การต่อปากต่อคำของคนทั้งคู่ก็เริ่มเป็นที่สนใจของคนรอบข้างมากขึ้น ฉันที่ตอนนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างคนทั้งคู่จึงเริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกมีที่มาที่ไปอย่างไร ฉันที่เป็นคนนอกจึงได้แค่ยืนมองเฉยๆ ด้วยความเกร็ง

    เพราะพ่อกับแม่ตามใจมึงมากไงวินทร์ มึงเลยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน...

    ...

    เมื่อไหร่จะโตสักทีวะวินทร์

    ฟึ่บ!

    เทวินทร์แสดงทีท่าตอบโต้กลับคำต่อว่าและคำถากถางทั้งด้วยการกระทำ เขาไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่ใช้เพียงนิ้วกลางในการบอกทุกความรู้สึกแทนคำพูด ก่อนเป็นฝ่ายหันหลังเดินหนีออกมาโดยไม่ลืมที่จะดึงฉันให้ตามออกไปด้วย

    ฉันรับรู้ได้ว่าตอนนี้เทวินทร์กำลังหงุดหงิดอย่างสุด วัดจากการย่างก้าวของฝีเท้าและมือที่บีบแขนฉันแน่นจนเริ่มรู้สึกปวด แถมยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มจะทนไม่ไหว

    นี่หยุดบีบได้ไหม มันเจ็บ!”

    ลงโทษไง ที่ไม่ยอมฟังคำสั่งเขาบอกเสียงเรียบหากแต่น้ำเสียงยังคงแสดงความเคืองจัดจากเหตุการณ์เมื่อครู่เอาไว้ อีกทั้งยังต่อว่าวอร์อปป้าต่อหน้าต่อหน้าทั้งที่รู้ว่าฉันบ้าคลั่งมากแค่ไหน เนี่ยนะเหรอ คนที่เธอบอกชอบนักหนา ไม่เห็นจะมีอะไรดี!”

    ฉันรักของฉันมาตั้งนานยังไม่เคยคิดจะว่าวอร์อปป้าด้วยถ้อยคำแรงๆ สักครั้ง แล้วไอ้หมอนี่มันเป็นใคร!

    นายมีสิทธิ์อะไรว่าวอร์อปป้าแบบนั้นไม่ทราบ!

    แล้วไง แถมซัดหน้าแม่งต่อหน้าเธอด้วยยังได้เลยเขาพูดใส่อารมณ์ ทั้งที่เท้ายังเร่งจ้ำไปตามทางตรงหน้า แค่มันหน้าตาดีนิดหน่อย ปกป้องไม่ลืมหูลืมตา รู้แล้วว่าติ่ง ไม่ต้องออกตัวแรงมากก็ได้!

    เวลานี้บอกเลยว่าคำประชดประชันของเขามันไม่ได้ช่วยให้ฉันหยุดปกป้องสิ่งที่ตัวเองรักลงได้เลย เพราะกฎของติ่งอย่างฉันก็คือ ไม่ว่าอปป้าจะดีหรือเลวฉันก็จะรัก!

    หน้าตาดีไม่เท่าก็อย่าอิจฉาชาวบ้านเขาสิ!” สิ้นเสียงต่อว่า เทวินทร์ซึ่งในตอนแรกเอาแต่ดึงฉันจ้ำเท้ากลับไปที่รถก็หยุดเท้าลง เขายอมปล่อยมือที่จับแขนฉันออกไปพร้อมทั้งเหลียวหลังมองกลับมาจากทางหางตา

    เออ ไม่หล่อ!” เขาตะคอกคำพูดประชดประชันอีกครั้งเสียงดัง พานให้วัยรุ่นรอบตัวเราหันมองมาด้วยความสงสัย จากที่คิดว่าจะพูดแดกดันเขากลับไปเท่านั้นกลับกลายเป็นว่า คำพูดที่เขาตอบโต้กลับมาดันทำให้ฉันไปต่อไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เจ้าของเสียงตะคอกดังกล่าวหันกลับมาเผชิญหน้ากับฉันตรงๆ และใช้แววตาโกรธจัดจ้องมา

    หมับ! ฟึ่บ!

    เทวินทร์ไม่รอให้ฉันเตรียมเนื้อเตรียมใจ พุ่งเข้าคว้าข้อมือฉันกระชากเข้าหาตัวอย่างแรงด้วยสีหน้าและท่าทางเอาเรื่อง รับรู้ถึงความโกรธจัดที่เขามีหลังถูกต่อว่าได้มากกว่าเก่า

    จะ จะทำอะไร ปล่อยนะ!”

    จะทำให้หลาบจำ...เขาเค้นเสียงพูดนิ่งๆ ราวกับพยายามกักกลั้นความโกรธจัดของตัวเองเอาไว้ และเริ่มแสดงการกระทำรุนแรงของตัวเองให้เห็นด้วยการบีบรั้งข้อมือฉันแน่นจนปวด

    หยุดนะ! ฉันเจ็บ!” เกิดมาจนอายุเท่านั้น ฉันก็เพิ่งจะเจอเรื่องน่ากลัวแบบนี้นี่แหละ เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงไม่รู้สึกเสียดายหากต้องหลงรักคนในโปสเตอร์มากกว่าผู้ชายที่มีลมหายใจในชีวิตจริง

              ตั้งแต่วันนี้ไป ช่วยจำใส่สมองไว้ด้วยนะว่าเทวินทร์คนนี้...อีกหนที่เทวินทร์เอ่ยทวนคำพูดประชดประชันของฉันออกมา ก่อนทำเรื่องไม่คาดฝันด้วยการใช้มือเลิกชายเสื้อยืดของตัวเองขึ้นสูง เผยให้เห็นหน้าท้องเรียงลูกสวยในแบบที่ผู้ชายพึ่งจะมี

    ฟึ่บ!

    อ๊ะ!!” ซึ่งการกระทำเช่นนั้นมันก็ตามมาด้วยแรงกระชากมหาศาลที่อีกฝ่ายใช้บีบบังคับมือฉันให้กดนาบลงหน้าหน้าท้องของตัวเอง จากนั้นก็พ่นคำประกาศิตออกมาอีกครั้งแบบไม่สนใจสายตาใคร นอกจากหน้าฉันที่ตอนนี้เหวอไปหมด

    ถึงจะไม่หล่อจนสาวเหลียว แต่ซิกแพกฉันมันทั้งแน่นทั้งเสียวจนสาวร้องนะบอกเลย!

    พะ พูดอะไร อะ...ฉันปรามเขาโดยพยายามบิดข้อมือให้หลุดให้เป็นอิสระจากสิ่งที่คนตัวใหญ่ตรงหน้ากำลังทำ แต่แล้ว เทวินทร์ก็หยุดเสียงของฉันลงด้วยคำถามสั้นๆ

    เสียวไหมล่ะ?ไม่ใช่แค่ถามแต่เขายังออกแรงบีบบังคับลากปลายนิ้วทั้งห้าของฉันลากไล้ไปตามหน้าท้องของตัวเอง ไล่ระดับสูงขึ้นจนเลยไปถึงแผ่นอกกว้าง โดยยังคงจ้องสายตามองมานิ่งๆ ราวกับรอฟังคำตอบ

    การกระทำบ้าๆ ของเขา ไหนจะสายตาของคนรอบข้างที่มองอยู่ ทำฉันรู้สึกร้อนวูบไปทั่วทั้งหน้า ตลอดชีวิตลูกผู้หญิง ที่คือครั้งแรกที่มืออันบริสุทธิ์ของฉันมีโอกาสได้ลูบคลำ ลูบไล้ร่างกายในระยะประชิดขนาดนี้!

    กลับ!” ทั้งที่ตอนแรกเทวินทร์เหมือนต้องการเค้นเอาคำตอบอยู่แท้ๆ แต่แล้วจู่ๆ เขาก็เปลี่ยนใจ ตัดสินใจผละมือฉันออกจากร่างกายได้รูปของตัวเองมาเป็นกระชากดึงกลับไปยังรถที่จอดไว้  อย่าว่าแต่ฉันเลยที่หน้าร้อนเพราะการกระทำวูบวามไร้ยางของเขา เทวินทร์เองก็เหมือนกัน

    เพราะถ้ามองไม่ผิด ดูเหมือนช่วงที่เขาตัดสินใจออกคำสั่งนั้น หน้าเขาก็เริ่มขึ้นสีระเรื่อด้วยเหมือนกัน

    เรื่องที่เขาทำต่อหน้าผู้คนมันพานให้เราทั้งคู่ไม่ยอมพูดกันแม้แต่วลีเดียว หลังจากฉันถูกเขาพาตัวกลับมานั่งในรถของตัวเองได้เป็นผลสำเร็จอีกครั้ง เขาไม่พูดหรือถามอะไร แต่เลือกที่ขับรถเลี้ยวออกจากสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจดังกล่าว และใช้เพียงเสียงเพลงในรถเท่านั้นที่ทำให้บรรยากาศระหว่างเราไม่เงียบจนเกินไป

    แต่ไม่นานนักหรอกบรรยากาศความเงียบภายในรถก็พังลง ทันทีที่รถคันหรูเหยียบเข้าสู่พื้นที่ตัวเมือง เทวินทร์ก็เริ่มเอ่ยปากถามขึ้น

    บ้านเธออยู่ไหน?เขายังยืนกรานจะไปส่งฉัน ทั้งที่ปฏิเสธไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

    ซอยรื่นรมนิยมชมชอบ7เพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ฉันจึงต้องบอกทางเขาไป บอกแบบไม่ได้มองหน้าคนฟังหรอกนะ แล้วก็แค่นั้นระหว่างเราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก สุดท้ายแล้วเมื่อพ้นคืนนี้ไปเราก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้า ไม่ต้องเจอ ไม่จำเป็น ไม่รู้จัก

    เสมือนว่าคืนนี้เป็นเพียงแค่ฝันร้ายที่ปะปนเข้ามากับฝันดีเท่านั้น...

     

    คืนนั้นเทวินทร์ขับรถมาส่งฉันยังบ้านพัก แต่ก็ไม่ใช่บ้านพักของฉันจริงๆ หรอก ฉันหลอกให้เขาจอดเยื่องห่างจากที่อยู่จริงๆ ไปเกือบ 4 หลัง คนเพิ่งรู้จักใครจะไปกล้าให้ส่งหน้าบ้านของเราจริงล่พถูกไหม?

    อย่างที่บอกเรารู้จักกันภายในคืนเดียวเพราะความผิดพลาดทางเทคนิกพิชิตร่างกายไม่สำเร็จ ถึงจะรู้จักชื่อแต่ความรู้สึกระหว่างเราก็ยังเป็นคนแปลกหน้าต่อกันอยู่ดี อีกอย่างผู้ชายเข้าใจอารมณ์ยากอย่างเขาน่ะ ชาตินี้อย่าเจอกันอีกเลยยิ่งดี!

    หาวววว~

    เมื่อคืนนอนไม่พอเหรอ?” เสียงเรียบนิ่งแฝงด้วยความเยือกเย็นของกระถินเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่อ้าปากหาววอดๆ ด้วยอาการง่วงหงาวหาวนอน แน่นอนว่าฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าหงึกหงักตอบกลับไป

    เมื่อคืน ฉันนอนดึกไปหน่อย

    แล้วทำไมไม่นอนต่อ ปลุกฉันมาทำอะไรที่มหาวิทยาลัยแต่เช้าล่ะ?”

    ก็วันนี้มันเป็นวันสำคัญนี่... ฉันบอกกระถินยิ้มๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะดูไม่มีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ พูดง่ายๆก็ เพื่อนฉันคนนี้เป็นคนนิสัยค่อยช้างแปลก และเป็นพวกความรู้สึกไม่อยู่กับร่องกับรอยเดี๋ยวรู้สึกไวเดี๋ยวรู้สึกช้า แต่ส่วนใหญ่เธอมักเชื่องช้าเหมือนพวกสล็อตมากกว่า...

    ...” คนฟังนิ่งไป นั่นอาจแปลได้ว่าเธอกำลังคิดอยู่

    ค่ะ! วันนี้มันคือวันสำคัญ เป็นวันเสาร์ของการพบเจอกลุ่มบุคคลที่ฉันคลั่งไคล้และหลงใหลมากที่สุดในชีวิต อย่างวง SWAG บัตร Staff ที่ทอร์ชให้มาเมื่อวันก่อนระบุวันเวลาสำหรับเข้างานตอน 11.40 น. เพราะแบบนั้นต่อให้จะง่วงมากแค่ไหนฉันก็ต้องแหกตาตื่นอยู่ดี 

    ปกติแล้วฉันมักจะไปนั่งรอต้อนรับศิลปินในดวงในที่หน้างาน แต่ว่าวันนี้ฉันไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว เพราะสิทธิ์ของบัตรStaffแสนวิเศษในมือมันสามารถทำให้ฉันผ่านไปด้านหลังงานเพื่อพบกับอปป้าจากแดนกิมจิได้ในระยะใกล้ๆ

    ที่อยู่ในหัวตอนนี้ก็คงมีความคิดเดียว มันคือความคิดซึ่งเต็มไปด้วยความหวัง หวังว่าวอร์อปป้าจะจำฉันได้แบบที่เขาทักเมื่อคืน...

    อ๋อ... จู่ๆ กระถินก็ร้องลากเสียงออกมาเหมือนนึกอะไรออก ฉันที่ปล่อยให้เธอคิดมาสักพักจึงหันไปทำตาวาวใส่ เพราะคิดว่าเธออาจจะรู้แล้วว่าวันนี้สำคัญกับฉันยังไง

    แต่ก็เปล่า...

    ฉันนึกออกแล้วว่าจะไปเข้าห้องน้ำ... เธอดันพูดในสิ่งที่ต่างออกไป เธอเดินไปรอฉันที่ลานน้ำพุก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลาคอย

    ลานน้ำพุตรงสวนหย่อมหน้ามหา'ลัยน่ะเหรอฉันถาม กระถินจึงพยักหน้า

    โอเค อย่าช้านักล่ะ อีกหนที่เธอพยักหน้ารับคำ ก่อนค่อยๆลุกออกจากโต๊ะไป

    อย่างเชื่องช้า =_=…

    เพราะไม่มีทางเลือกใดนอกจากทำใจรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น การปลีกตัวลุกออกจากโต๊ะม้าหินตามข้อตกลงของกระถินเลยเป็นสิ่งที่ฉันเลือกทำ แม้ลึกๆจะรู้ว่าเพื่อนคนนี้จะเคลื่อนไหวและทำตัวเชื่องช้าเป็นเต่าคลานก็ตาม

    ฉันใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีพาตัวเองมานั่งรอกระถินบริเวณลานน้ำพุทรงกลมขนาดใหญ่ โดยหยิบบัตรสต๊าฟที่ได้จากทอร์ชพร้อมด้วยของแจกแฟนด้อมเดียวกันขึ้นมาเชยชมฆ่าเวลา อีกไม่กี่นาทีงานแฟนไซน์ก็กำลังจะเริ่มแล้ว ถึงตอนนั้นวอร์อปป้ายังจะจำหน้าฉันได้อยู่หรือเปล่านะ

    ฮึ้ยย คิดแล้วก็อยากจะเร่งสปีดความไวใส่กระถินให้รู้แล้วรู้รอด ฮืออ อยากเจอวอร์อปป้าใกล้ๆอีกสักครั้งจังเลย!

    และมันก็เหมือนทุกที เมื่อใดที่เริ่มคิดถึงอปป้าที่อยู่สุดเอื้อมมือ ฉันก็มักจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาคุยกับแฟนคลับกลุ่มเดียวกัน ด้วยการโพสข้อความถามไถ่เหล่าแฟนด้อมเรื่องงานไซน์ที่จะจัดขึ้นในวันนี้

    ขุ่นแม่กาละแมร์ :: วันนี้มีใครมางานไซน์บ้างคะ เรามีของแจกหน้างานนะ

    เพียงโพสถามไม่นาน เหล่าสมาคมติ่งแฟนด้อมเดียวกันต่างก็พากันมาตอบข้อความกันอย่างล้นหลาม

    วอร์ฮยองแฟนลี้จึน :: หนูค่าขุ่นแม่ แล้วเจอกันนะคะ

    ตาหนูอุนมยองของบ่าว :: หนูมีทุเรียนทอดไปแจก เดี๋ยวรามาแลกกันนะคะขุ่นแม่

    หลัวหนูชื่อลี้ลี้ :: แล้วเจอกันค่าา!

    หลายสิบข้อความจากแฟนคลับด้อมเดียวกันทำฉันหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ยามต้องมานั่งไล่อ่าน และเชื่อไหมฉันไม่เคยรู้สึกเบื่อกับการอ่านข้อความของกลุ่มนี้เลยสักครั้ง แต่ไม่นานนักความเงียบสงบบริเวณลานน้ำพุก็ถูกทำลายลง เมื่อวินาทีนั้นมีเสียงของเครื่องยนต์คันแรงขับเลี้ยวเข้ามาจอดบริเวณใกล้ๆ เรียกความสนใจจากสายตาฉันให้หันมองได้โดยอัตโนมัติ

    ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือรถคันหรูถูกแต่งเครื่องให้ดูสวยและแรงตามสไตล์ของคนที่ชอบความเร็ว อาจเพราะฉันได้มีโอกาสเผชิญโลกคนคนจำพวกนั้นมาล่ะมั้ง เพียงแค่มองถึงได้ดูออกได้โดยไม่ยาก

    กึก! ตึง!

    แต่แล้วชื่นชมความสวยและความดูดีของรถราคาแพงตรงหน้าได้ไม่ทันเท่าไหร่ ฉันก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อเจ้าของรถปรากฏกายขึ้นในระยะห่างเพียงหนึ่งเมตร ร่างกายตอบรับกับร่างชายหนุ่มที่ปรากฏตรงหน้าด้วยการกระโดดหมอบลงบริเวณแท่นกั้นของลานน้ำพุเพื่อซ่อนตัวอย่างไม่ต้องสงสัย

    ทำไมน่ะเหรอ?

    ก็เพราะไอ้ผู้ชายคนที่ลงจากรถคันนั้นมันคือคนคนเดียวกับที่เกือบพาฉันไปตายมาตลอดทั้งคืนน่ะสิ!

    ตึก... ตึก... ตึก...

    ไม่รู้ว่าเวรซ้ำกรรมซัดอะไร ทั้งที่ตั้งใจหลบให้พ้นจากสายา แต่ว่าเสิ่งที่ตามมามันดันเป็นเสียงฝีเท้าของใครสักคนที่เดินเข้ามาใกล้ตรงจุดที่ฉันยืนอยู่ แต่ไม่นานหรอกเสียงเดินดังกล่าวก็เงียบไป

    ฮัลโหลครับ...อ๋อพ่อเหรอ? วินทร์ไม่ไปอ่ะ ลำไยแต่เปลี่ยนเป็นเสียงพูดคุยโทรศัพท์ในระยะที่ใกล้แทน

    ฉันค่อยๆ เกาะขอบแท่นกั้นน้ำพุชำเลืองมองเจ้าของเสียงในสภาพเหมือนคนมีความผิด ก่อนพบว่าผู้ชายคนนั้นคือเทวินทร์จริงๆ แถมเขายังยืนอยู่อีกฟากของลานน้ำพุเหมือนกับกำลังรอใครอยู่

    แค่นี้ก่อนนะพ่อ วินทร์มีนัดนั่นไง เขานัดกับใครเอาไว้จริงๆด้วย

    ให้ตายสิ! ไปนัดกันที่อื่นไม่ได้หรือไงนะ!

    อันที่จริงแล้วฉันไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องหลบหน้าเขาหรอก แต่ก็อย่างที่บอกการไม่เจอหน้ากันเลยหลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนมันน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ถึงจะคิดและทำแบบนั้นแต่การต้องมาคอยหลบๆ ซ่อนๆ อย่างคนมีพิรุธมันก็ทำเอาใจฉันเต้นอย่างลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา สายตาพลางกวาดมองหาเพื่อนรักที่ไม่รู้จะโผล่มาตอนไหนได้ด้วย

    กึก...

    รอนานไหมวินทร์อีกครั้งที่ต่อมเผือกของฉันดันเริ่มทำงาน เมื่อจังหวะที่บรรยากาศรอบตัวเงียบดันมีเสียงฝีเท้าอีกคู่ดังแทรกขึ้นมาพร้อมกับคำทักทายของผู้หญิง ไม่ต้องมองก็พอเดาได้ว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เทวินทร์นัดเอาไว้ที่น้ำพุนี่

    แต่ถึงจะเดาออกฉันก็ยังแอบลอบมองคนทั้งคู่อยู่ดี

    เทวินทร์เวลานี้เขาสวมเสื้อยืดสีดำคลุมทับด้วยเสื้อหนังสีเดียวกันสไตล์เดียวกับที่ฉันเจอเมื่อคืน ดูท่าแล้วกางเกงที่สวมอยู่ก็น่าจะตัวเดิมด้วยเช่นกัน

    วินทร์มีอะไรเหรอถึงเรียกเราออกมาแบบนี้?ส่วนหญิงสาวที่เป็นแขกของเทวินทร์นั้น ถ้ามองไม่ผิดรู้สึกว่าเธอจะเป็นรุ่นพี่ฉันปีหนึ่ง เรียนคณะเดียวกัน เธอสวยและเป็นที่รู้จักของคนในคณะ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่อว่า ปลาดาวหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ

    เรื่องเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ให้มันเป็นโมฆะไป

    วินทร์หมายความว่าไง?

    เราไม่ได้อยากได้ผู้หญิงของคนอื่น ให้ผลรางวัลเป็นโมฆะไป

    พวกเขากำลังคุยอะไรกันบางอย่าง บางอย่างที่คนนอกอย่างฉันไม่เข้าใจ แถมน้ำเสียงของคนทั้งคู่ตอนพูดคุยกันก็เริ่มจะดุเดือดขึ้นทุกวินาที

    ทำไมล่ะ ได้เราเป็นของรางวัลสำหรับผู้ชนะมันไม่น่าพอใจเหรอ?

    เปล่า แต่เรามีแฟนแล้วอุต๊ะ! หมอนี่มีแฟนแล้วงั้นเหรอ?

    แล้วยังไง แฟนกับของรางวัลไม่เห็นจะเกี่ยวกันนี่วินทร์

              ด้วยความที่ต่อมเผือกเริ่มทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน จากที่ตั้งใจหลบซ่อนกลับกลายเป็นว่าฉันต้องยับตัวเข้าไปใกล้คนทั้งคู่ให้มากขึ้นเพื่อเผือกเรื่องชาวบ้านให้สุด ทว่า ขณะกำลังจะขยับตัวอ้อมไปตามแนวกั้นน้ำพุอยู่นั้นเอง

    กึก...

    เบื้องหน้ากลับปรากฏเท้าของใครคนหนึ่งมายืนขวางเสียได้ เมื่อเงยมองฉันจึงพบว่าเจ้าของเท้านั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นกระถินเพื่อนที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่อหลายนาทีก่อน

    “มานั่งทำไรตรงนี้อ่ะแมร์...เธอถามเสียงเฉื่อยแต่ดัง

    “ชู่ว์ๆๆๆๆ” นั่นรีบทำให้ฉันทำมือทำไม้ส่งสัญญาณให้เธอเงียบเสียงลงทันที พลางชำเลืองสายตามองไปยังเป้าหมายซึ่งกำลังถูกฉันแอบเผือกเรื่องส่วนตัวไปด้วย ก่อนต้องช็อก เมื่อพบว่านอกจากกระถินที่โผล่พรวดพราดเข้ามาทำเสียงดังแล้ว บุคคลที่ฉันกำลังแอบฟังเขาคุยกันก็กำลังหันมองมาทางฉันด้วยเช่นกัน

    ซวยแล้ว...

    To Be Continued...

    การเผือกเรื่องชาวบ้านนอกจะได้ความบันเทิงแล้ว ยังได้ความซวยด้วย 55555

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต 

    #ชีวิตติ่งยิ่งกว่าเจ็บ #ติ่งแฟนวินทร์

    แก๊งลูกเทพ¼ 
     จิ้มซะจะได้ไม่เป็นธุระของพ่อกับแม่! 

        




    ll Character ll






    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้จิ้มเน้นๆที่หน้าเทวินทร์!

    ^
     รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน 
     ส่งฟีดแบ็กทางทวิต เพจ คอมเม้น
     หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×