คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Race13 ll ความเจ็บของติ่งครั้งที่13 {อัพ100%} อยากให้ติ่งยิ้ม
“นี่คือคุณวินทร์ วิรัญกิจกุล
ส่วนคนนี้คือคุณแหวนอิมธรา วิรัญกิจกุล” ทายาทคนรองและคนเล็กของประธานบริษัทที่ผมพูดถึงนะครับ”
เสียงของคนดูงานเอ่ยแนะนำก่อนจะตามมาด้วยเสียงของล่ามภาษาเกาหลี
จนทั่วทั้งห้องดังลั่นไปด้วยเสียงทักทายและเสียงปรบมือ
เทวินทร์ก้มหัวลงเล็กน้อย
ท่าทางดูจริงจังสมกับเป็นเจ้าของทุนและลูกเจ้าของโปรเจค
ดูเหมือนว่าเขายังไม่ทันสังเกตเห็นฉันที่นั่งปะปนอยู่กับทีมงานและสมาชิกวง SWAG เพราะเขายังคงถือมาดนิ่งๆ
เหมือนผู้ใหญ่ ต่างจากภาพลักษณ์ปกติที่ฉันเคยเห็น พอได้เห็นเทวินทร์ในสภาพนี้แล้ว
มันก็อดนึกถึงสิ่งที่เขาบอกเมื่อวานไม่ได้
‘ช่วง2-3วันนี้ฉันมีธุระ…อาจจะไม่ได้มาหาเธอบ่อย’ นี่หรือเปล่านะ ธุระที่เขาพูดถึงน่ะ…
“ผมขอตัวสักครู่นะครับ!” เสียงของวอร์อปป้าซึ่งจู่ๆ ก็โพล่งขึ้น ทำฉันสะดุ้งเล็กน้อย
หันมองเจ้าของเสียงด้วยความสงสัย
ก่อนจะพบว่าวอร์อปป้ากำลังลุกขึ้นด้วยทีท่ารีบร้อน
สถานการณ์ดังกล่าวทำฉันเหลือบมองไปยังผู้หญิงคนเดิม
ก่อนพบว่าหญิงสาวแปลกหน้ารายนั้นกำลังมองตามหลังเขาออกไป เธอหันไปกระซิบข้างหูเทวินทร์เล็กน้อยก่อนจะเดินอ้อมหลังเดินตรงไปยังประตูทางออก
ตามหลังวอร์อปป้าไปติดๆ
‘เพราะพี่เป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ?
พี่แบมแบมถึงได้ไม่เอา’ คำพูดของเดย์ที่คล้ายกับจะมีปากมีเสียงกับวอร์อปป้าในตอนนั้นดังแว่วเข้ามาในหัว
พานให้ความคิดของฉันตีความได้เป็นอย่างเดียวก็คือ
ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นคนที่ชื่อแบมแบมอะไรนั่น…
ทำยังไงดีล่ะ อยากตามไปดูจัง...
ปี๊บ! ปี๊บ!
เสียงเตือนข้อความปลุกฉันจากภวังค์ซับซ้อน
และเพื่อไม่ให้เสียงโทรศัพท์รบกวนการประชุม ฉันจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าทันทีเพื่อกดปิดเสียงและเช็กดูข้อความ
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น?
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: เงยหน้าขึ้นสิ
ร่างกายฉันตอบสนองใจความบนหน้าจอสี่เหลี่ยมโดยอัตโนมัติ
ก่อนจะพบว่าผู้ชายในชุดสูทสีทึบตรงหน้ากำลังอมยิ้มแถมยังยกมือขึ้นเล็กน้อยคล้ายกับจะทักทาย
ครู่สั้นๆ เทวินทร์ซึ่งยืนอยู่หน้าการประชุมก็ก้มมองโทรศัพท์ตัวเองอีกครั้ง
มือขยุกขยิกก่อนจะตามมาด้วยการสั่นของมือถือซึ่งอยู่ในมือฉันเอง
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: อย่าทำหน้าเอ๋อใส่ฉันสิ
มันดูน่ารัก
กาละแม :: บ้า!!
กาละแม :: วันนี้นายแต่งตัวแปลกไป
ดูดีขึ้นนะเนี่ย
ฉันแอบลอบมองสีหน้าของเทวินทร์หลังจากที่ฉันจงใจชมเขาผ่านข้อความแชท
รู้อะไรไหม สิ่งที่ฉันเห็นก็คือ หมอนั่นกำลังยิ้มกว้าง ยืนบิดไปบิดมา
ขณะที่มือขยุกขยิกกดโทรศัพท์ไม่หยุด
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: วันนี้ ฉันหล่อใช่ป่ะล่ะ?
กาละแม :: มั้ง
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: หล่อแค่ไหนอ่ะ?
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: หล่อพอจะให้เธอรักได้หรือยัง?
ข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
ทำปลายนิ้วฉันหยุดชะงักลงทันที
ใจความที่คล้ายกับหยอดตลอดเวลาของเขาทำฉันไปต่อไม่เป็น สายตาเหลือบมองคนตัวใหญ่เจ้าของข้อความด้านหน้าการประชุมโดยฉันเองก็บอกไม่ได้ว่าตัวเองกำลังแสดงสีหน้าออกไปแบบไหน
ที่รู้ก็คือที่ตรงหน้าฉันกำลังถูกจับตามองจากนัยน์ตาคู่คมแสนคุ้นเคยอยู่
เทวินทร์มองฉัน
และยังคงมองอยู่แบบนั้น เขาเม้มปากลงเล็กน้อย ทำตาโตคล้ายกับสงสัย
แต่เพราะฉันยังนิ่งอยู่
เขาจริงเริ่มทำท่าทำทางด้วยการชี้นิ้วไปที่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง
คล้ายกับเป็นการเร่งให้ฉันตอบข้อความเขากลับไปโดยไว
ปี๊บ!
การสั่นเตือนของโทรศัพท์เกิดขึ้นอีกครั้ง
จนฉันต้องก้มมอง คราวนี้รายชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอมันดันไม่ใช่เบอร์ของเทวินทร์เหมือนทุกที
แต่ดันเป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง
กระถิน :: อยู่ไหน
กาละแม :: ออกมาทำธุระน่ะ ไม่ได้อยู่ในม.หรอก
กระถิน :: ทำธุระกับใครเหรอ?
กระถิน :: พวกดารา?
กาละแม :: อือ
กระถิน :: นัดฉันแล้วหนีไปเอง ขี้โกงจังนะกาละแม
กระถิน :: ขอให้อปป้าของเธอท้องเสีย!
ฉันหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
บอกเลยว่าตอนนี้ฉันไม่ได้สนใจเสียงของผู้ดูแลงานหน้าการประชุมเลยสักนิด
เพราะสิ่งที่ฉันสนใจก็คือข้อความตัดพ้อน้อยอกน้อยใจของเพื่อนสนิทต่างหาก
และในขณะที่ฉันกำลังจะตอบข้อความกระถินกลับไปนั้นเอง มันก็ดันมี ข้อความใหม่เด้งแทรกขึ้นมา
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: นั่งยิ้มอะไร
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: ไม่ยอมตอบข้อความฉันเหรอ?
ไอ้ผ้าขี้ริ้ว :: เดี๋ยวโดนดีแน่!!!!!
ฉันสะดุ้งเฮือกรีบเงยหน้าขวับมองตรงไปที่เจ้าของข้อความดังกล่าว
ก่อนจะพบว่าเทวินทร์กำลังจ้องเขม่งมาทางฉันท่าทางดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นักด้วยเหตุผลจากการถูกเมินแชทก่อนหน้านี้
“เราจะใช้เวลาถ่ายทำงานทั้งหมดจนถึงวันศุกร์นี้นะครับ
ส่วนที่ทีมงานกำลังแจกคือบอร์ดบทบาทของแต่ละคนนะครับ” เสียงของผู้ดูแลงานคนไทย
ทำฉันสะดุ้งเฮือก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหนึ่งในสมาชิกวง SWAG อย่างปาร์คฮันยูกำลังส่งยิ้มยื่นเอกสารที่คนดุงานพูดถึงมาให้
ฉันก้มหัวน้อยๆ
แทนคำขอบคุณ รับตารางงานดังกล่าวมาไว้กับตัวด้วยความเขิน
และรีบก้มอ่านรายละเอียดบทบาทในกระดาษทันที
รายชื่อนักแสดง |
บทบาท |
สถานที่ |
วัน-เวลา |
1)กาละแม (นางเอก) 2)ปาร์คฮันยู
(พระเอก) |
ฉากห้องนอน นอนมองหน้าบนเตียง อารมณ์คู่รักที่เพิ่งคบกัน |
สตูดิโอG |
วันพุธ 11.50 น. |
ขะ เข้าฉากกับปาร์คฮันยูแบบคนรัก!!! คุณพระ!! O////O
1)กาละแม (นางเอก) 2)Joker (พระเอก) |
ฉากคู่รักในห้องครัว
ช่วยกันทำกับข้าว อารมณ์คู่รักที่เพิ่งคบกัน |
สตูดิโอB |
วันพุธ 15.00 น. |
ทะ ทำกับข้าวกับผู้ชายยยยยยยยย!
1)กาละแม (นางเอก) 2)อุนมยอง (พระเอก) |
ฉากในสวนสาธารณะ เดินเล่นออกเดท อารมณ์คู่รักเริ่มเกิดข้อสงสัยกันและกัน |
สวนสาธธารณะA |
วันพฤหัสฯ 06.30 |
บทนี้ฉันทำไม่ได้หรอกคะ!!! ฉันนอกใจพวกอปป้าไม่เป็น
ฮือออ T/////T
1)กาละแม (นางเอก) 2)เควิน (พระเอก) |
ฉากในร้านกาแฟ
เริ่มมีปากเสียงกันอารมณ์คู่รักที่เริ่มถึงจุดแตกหัก |
ร้านกาแฟD |
วันพฤหัสฯ 10.15 น. |
หึๆ! สุดท้ายอปป้าก็ต้องร้องไห้งอแงเพราะถูกฉันทิ้งสินะ!
1)กาละแม (นางเอก) 2)วอร์ (พระเอก) |
ฉากยื้อ ดึงรั้งตัวคนรักให้กลับมา อารมณ์คู่รักที่ไม่อยากเสียคนรักไป |
สตูดิโอF |
วันอังคาร |
ฉากยื้อคนรัก… กับวอร์อปป้างั้นเหรอ?
“หลังจากศึกษาบทบาทของตัวเองแล้ว เจอกันที่สตูดิโอFหลังจากนี้อีกสองชั่วโมงนะครับ
ทีมงานเสื้อผ้าเตรียมตัวเลยได้เลย” เสียงปรบมือพร้อมเพรียงราวกับเป็นการตอบรับคำสั่งดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
หลังจากที่ล่ามภาษาเกาหลีแปลคำพูดของผู้ดูแลงานจนจบ
ความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในห้องกระจกทั้งที
เมื่อทุกคนต่างลุกขึ้นแยกย้ายไปประจำหน้าที่ของตัวเอง สมาชิกวง SWAG ถูกผู้จัดการวงและทีมงานคนอื่นๆ พาแยกย้ายเดินออกจากห้องกระจกไป
เพื่อเตรียมตัวเริ่มงานที่กำลังมาถึง
คงจะมีเพียงแค่ฉันเท่านั้นซึ่งยังคงนั่งนิ่งอ่านรายการและตารางการแสดงในมือ
กึก!
“ทำไรอ่ะ” เสียงเข้มส่อแววทะเล้นเอ่ยทักขึ้น
ขณะที่ผู้เป็นเจ้าของคำถามทิ้งตัวลงนั่งเบียดชิดข้างกายฉัน จนต้องรีบเงยมองด้วยความตกใจ
เทวินทร์ใช้มือเท้าคางลอยๆ
พลางทำตาปริบๆ จ้องหน้าในระยะประชิด
ด้วยท่าทางแบบนั้นก็ฉันเลยรีบขยับตัวออกห่างจากเขาเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างเราเอาไว้
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันทำจะไม่สบอารมณ์เขาสักเท่าไหร่
“เขยิบหนีทำไม?” น้ำเสียงทะเล้นๆ ในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนคล้ายกับจะหาเรื่อง
ซึ่งฉันเลือกที่จะไม่สนใจคำถามดังกล่าว
แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านบทของตัวเองเพื่อเลี่ยงที่จะตอบโต้หรือมองเขากลับไปตรงๆ
“นี่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงอ่ะ?” ทว่า เสียงแหลมเล็กอีกเสียงที่เอ่ยทักขึ้น
ทำฉันจำต้องละสายตาออกจากกระดาษแจกบทอีกครั้งเพื่อมองเธอ หญิงสาวหน้าตาสวยในชุดสูทดูดี
ดูแพงกำลังเท้าเอวมองฉันด้วยความสงสัย ท่าทางยังดูเอาเรื่องเหมือนครั้งแรกที่เจอ
เว้นแต่คำพูดที่เปลี่ยนไปหลังจากที่เราเคลียร์กันจบในคนนั้น
“นั่นมันกระดาษบอกบทนี่” แหวนน้องสาวเทวินทร์พูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงตกอกตกใจ เธอทำเหมือนไม่เห็นหัวพี่ชายของตัวเอง
รีบเอื้อมมือข้ามหัวเทวินทร์มาทางฉันแล้วพูดออกมาอีกครั้ง “ขอดูหน่อยสิ… ทำไมบทของนักแสดงไปอยู่กับเธอได้ล่ะเนี่ย?”
เพราะว่าไม่ชอบมีปัญหากับใคร
อีกทั้งแหวนเองก็ไม่ได้มาร้าย ฉันจึงรีบส่งกระดาษในมือส่งให้เธอดู จริงๆ
แล้วฉันเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรตอบเธอด้วยเช่นกัน
“หูยแหวน! นี่พี่นะ เห็นหัวบ้าง!” เทวินทร์ที่ดูเหมือนเป็นหัวหลักหัวตอเริ่มบ่นเสียงดังต่อว่าน้องสาวตัวเอง
ทว่า สิ่งที่เขาได้กลับมาคือลูกเตะเบาๆ อัดกลางหลัง
ขณะที่ผู้เป็นเจ้าของลูกเตะกำลังเพ่งพิจารณาบทในกระดาษ และเอ่ยถามออกมาราวกับไม่ได้ยินเสียงของพี่ชาย
“ทำไมบทนางเอกถึงเป็นชื่อเธอได้ล่ะ?”
“คะ คือว่าฉัน…” เอายังไงดีล่ะ ฉันจะเริ่มอธิบายให้แหวนฟังยังไงดี แถมตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่แหวนคนเดียวที่อยากรู้ด้วย
เพราะพี่ชายของเธอก็ดูท่าจะรอฟังคำตอบจากปากฉันเช่นกัน “ระ เรื่องนี้วอร์อปป้าเขาเป็นคนจัดการน่ะค่ะ ฉันไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน…”
“พี่วอร์น่ะเหรอ?” เธอย้อนเสียงหลง
ส่วนฉันก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ
แทนคำตอบ
“บ้าจริง! ไอ้หมอนั่น ทิ้งงานของครอบครัวไป แล้วยังกล้าเปลี่ยนแพลนงานอีกเหรอ!” แหวนเริ่มคำรามกรอดคล้ายกับเจ็บใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้แสดงทีท่าร้ายกาจใส่ฉันมากไปกว่าการทำร้ายพี่ชายตัวเองแทนการบันดาลโทสะ
“มีอะไรอย่างงั้นเหรอคะ?” ด้วยคำพูดแปลกๆ ของแหวน มันเลยทำให้ต่อมอยากรู้เริ่มทำงาน
เอ่ยปากถามเธอกลับไปอย่างมีมารยาท
“ตอนแรกแพลนนักแสดงมันไม่ใช่แบบนี้ เพราะฉันนี่แหละเป็นคนรีเควสและจัดตารางเอง” เธอพูดน้ำเสียงลักษณะบ่น ลมหายฟึดฟัดของเธอที่แสดงออกมาให้เห็นบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอฉุนพี่ชายตัวเองมากแค่ไหน แถมยังกล่าวเสริมในเรื่องที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนอีกว่า “ความจริงแล้วบทบาทของนักแสดงต้องเป็นพี่แบมแบมต่างหาก โอ๊ย! ให้ตายสิ แล้วนี่ฉันจะพูดกับพี่แบมยังไง อุตส่าห์บินมาจากเกาหลีเลยนะ!”
“พี่แบมแบมคนนั้นคือ…”
“ผู้หญิงที่เดินเข้ามาตอนประชุมพร้อมฉันกับแหวนไง” คราวนี้เทวินทร์เป็นคนตอบแทน ซึ่งนั้นตอกย้ำความสงสัยในตอนแรกฉันได้เป็นอย่างดี
ว่าเธอคนนั้นคือแบมแบม ที่เดย์พูดถึงในตอนนั้นจริงๆ
“พี่วอร์คิดบ้าอะไรของเขาอยู่นะ!” แหวนยังคงบ่นไม่หยุด แถมยังเพิ่มระดับความหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ “อุตส่าห์พาคู่หมั้นมาให้ทำความเข้าใจกันแล้วแท้ๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้”
คู่หมั้น… งั้นเหรอ?
ก็ไหนตอนนั้นพี่ปลาดาวบอกว่าคนชื่อแบมแบมไม่เอาวอร์อปป้ายังไงล่ะ
แล้วไอ้คำว่า
ว่าคู่หมั้นที่แหวนว่ามันคืออะไรกัน...
“ถ้ายังไงฉันก็ฝากเธอด้วย
เล่นให้สมบทบาทล่ะ โปรเจคนี้ฉันคิดคนเดียวหัวแทบแตกเลยรู้ไหม?” เสียงของแหวนซึ่งดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท ดึงฉันกลับเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบัน
สายตาเลื่อนมองเธอโดยอัตโนมัติ
ก่อนจะพบว่าในท่าทางฉุนขาดของเธอนั้นยังแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มที่ดูคล้ายกับจะฝากความหวังทั้งหมดไว้กับการแสดงของฉัน
“ค่ะ…” ต่อให้รับปากออกไปแบบนั้นก็เถอะ
แต่สติสตางค์ตอนนี้มันไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ในหัวมีแต่คำพูดและเสียงสัมภาษณ์ดังวนเวียนอยู่เต็มไปหมด
‘เพราะพี่เป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ?
พี่แบมแบมถึงได้ไม่เอา’
ทั้งเสียงของพี่ปลาดาว
‘อุตส่าห์พาคู่หมั้นมาให้ทำความเข้าใจกันแล้วแท้ๆ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้’
เสียงของแหวนเมื่อครู่
‘ทำไมถึงชอบการแข่งรถล่ะครับ’
‘ผมชอบอะไรที่มันท้าทายน่ะครับ
ชอบความเร็วอะไรทำนองนี้’
หรือแม้แต่เสียงสัมภาษณ์ในจอโทรทัศน์เมื่อวันนั้น…
‘จริงๆ
พี่เขามีเหตุผลอื่นด้วยนะครับ’
‘เหตุผลอื่นคืออะไรอะไรเหรอครับ?’
‘พี่เขาเคยชอบผู้หญิงคนหนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นชอบนักแข่งรถน่ะครับ ฮ่าๆ’ ผู้หญิงในความลับของวอร์อปป้าในสัมภาษณ์ครั้งนั้น
คือแบมแบมที่ฉันเพิ่งเคยมีโอกาสได้เจอสินะ…
เวลาต่อมา…
เสียงจอกแจกจอแจของทีมงานที่ตอนนี้
บ้างก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมพร็อพประกอบฉาก
บ้างก็วุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวให้ศิลปิน รวมไปถึงว่าที่นางเอกมิวสิควิดีโอตัวใหม่ของวงSWAGอย่างฉันด้วย
“เดี๋ยวหนูใส่ชุดนี้นะคะน้องแม” หนึ่งในทีมงานยื่นชุดเดรสส่ายเดี่ยวสีขาวตัวบางส่งมาให้
พลางผายมือไปยังห้องลองเสื้อผ้าอย่างที่เคยเห็นตามห้างบ่อยๆ
“ค่า!” ฉันซึ่งเป็นมือใหม่จึงทำได้เพียงหอบชุดเดรสตัวดังกล่าวเดินตรงไปที่ห้องลองเสื้อทันที
เพราะไม่อยากให้เสียเวลาหรือทำให้คนรอบข้างรู้สึกเป็นตัวถ่วง
เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องลองชุด
ฉันก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ เพื่อลดอาการตื่นเต้นและหวาดเกร็งลง
มือพลางเลื่อนปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกอย่างลวกๆ ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ก๊อกๆ!
เสียงเคาะข้างผนังห้องลองชุดทำฉันสะดุ้ง
หยุดชะงักมือซึ่งกำลังปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาเม็ดสุดท้ายออกทันที
“เปลี่ยนเสื้อเหรอ” เสียงเข้มส่อแววทะเล้นของเทวินทร์ ดังขึ้นจากด้านข้างห้องลองเสื้อผ้า
และนั่นทำฉันเบ้ปากเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเริ่มจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อ
“ถอดเสื้อยังอ่ะ?” คำถามต่อมาของเขาเริ่มทำฉันทนไม่ไหว จนต้องเอ่ยปากตอบกลับไป
“อย่ายุ่งได้ไหม?”
“โป๊อยู่อ่าดิ”
=_= อะ
ไอ้ผู้ชายคนนี้มัน…
“อยากเห็นอ่ะ
ขอเข้าไปดูได้ป่ะ?”
“พูดอะไรบ้าๆ
ไอ้โรคจิต!” ฉันตะคอกเสียงดุใส่เขาออกไป
แต่สิ่งที่ได้กลับดันเป็นเสียงหัวเราะขบขัน
ตามมาด้วยเสียงเคาะพนักห้องลองเสื้อสามครั้ง
“เสียงดีแล้วนี่…”
คำพูดน้ำเสียงทะเล้นของเทวินทร์เปลี่ยนไป ฟังดูจริงจังขึ้นกว่าเก่า
“ฉันชอบเวลาเธอโวยวายแบบนี้มากกว่า ทำท่าซึมๆ เหมือนตอนอยู่ในห้องประชุมนะ”
To Be Continued...
ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%
ความคิดเห็น