ตอนที่ 6 : Dungeon 4.1: พรหมลิขิตบันดาลชักพา~
Dungeon 4: พรหมลิขิตบันดาลชักพา~
“ฮู่ว~~~~ เสร็จซักทีนะครับ คุณโรส”
“ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่! น่ากินจังเลยยยยน้า! ว่าม้ายยยยยย”
หากคุณได้ลองมองเข้าไปในครัวพิศวงประจำอาคารผู้เล่นเริ่มต้น (เก่า) คุณจะเห็นสิ่งมีชีวิตสองคน (ถึงแม้คนหนึ่งจะไม่เหมือนก็ตาม)นั่งแผ่หลาแบบไม่สนอะไรอยู่กับพื้น
“จะว่าไปแล้ว คุณโรสซี่นี่หน้าตาดีดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลยนะฮะ”
เจ้าของดวงตาสีแดงแกมดำหัวเราะน้อยๆ อย่างอารมณ์ดี ด้วยใบหน้าที่อ่อนเยาว์แบบไม่ได้ตั้งใจทำให้อีกหนึ่งคน (ที่คล้ายอย่างอื่นมากกว่า) จ้องตาไม่กะพริบ
“อะ เอ๋? มองหน้าผมทำไมเหรอครับ? หน้าผมมีอะไรติดเหรอ?”
“ฮุฮุ” คนหน้าผีเผยรอยยิ้มพิลึกพิลั่นออกมา พร้อมกับบรรยากาศมาคุเข้าครอบคลุมทันใด
“หะ เฮ้ย! จะทำอะไรน่ะ! ว้ากกกก!”
นายเนตรนภิสาตะเบ็งเสียงออกมาอย่างลืมมาด พยายามกลิ้งหลบการโจมตี (?) ของผีหนุ่ม แต่ทว่าสกิลที่มีมันช่างน้อยนิด ไม่ถึงสิบวินาทีร่างเล็กก็ถูกคว้าไปกอดแนบอก
“อะ อื้อ อื้อออออ! (ปล่อยนะโว้ยยยย!)”
“อยู่นิ่งๆน้า……ขอเค้าประทับตราแป๊บนืงงงงง” คุณผีโรสซี่ฉีกยิ้ม (แสยะ) ออกมาก่อนอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวสีม่วงดำซี่หนึ่งวาววับ เจ้าตัวหัวเราะอารมณ์ดี(แบบหลอนๆ)และ….
งับ!!!!!!!!
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!”
“หืม?” มือที่เตรียมจะยกชาดื่มชะงักชั่วครู่
“จริงๆเลยน้า โรสซี่เนี่ย…จะทำอะไรก็ให้มันมีลิมิตหน่อยไม่ได้รึไงกัน” บุรุษผู้มีเรือนผมสีม่วงประหลาดหัวเราะเสียงแผ่ว โพรมิสยกชาขึ้นจิบเบาๆ อย่างสบายใจ
….และจะสบายกว่านี้ถ้าเขาได้อยู่ในห้องนี้คนเดียว ไม่ใช่ตอนนี้
“แย่จังเลยนะครับ ชาบลูดาร์จีลิง สายพันธุ์พิเศษที่ขึ้นเฉพาะใน ‘เขตการควบคุม’ ไม่น่าใส่กลิ่นปรุงแต่งเข้าไปเลย ความรู้สึกเปลี่ยนเลยนะครับ น่าจะมีขนมหวานมาทานแก้เลี่ยนจะดีนะครับ คุณโพรมิส”
อีกเสียงทุ้มหนึ่งเสียงพูดด้วยสำเนียงเรื่อยๆเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่คน (เอไอ) อย่างโพรมิสรู้ดี…ว่าเจ้าคนตรงหน้าเขากำลังจิกกัดแบบผู้ดีซะไม่มี!
“อ้อ…” เสียงถ้วยกระเบื้องกระทบจานรองเบาๆ “แล้วไม่ทราบว่า ‘คุณ’ มาเยือนตึกซอมซ่อของเราทำไมกันนะ ‘คุณ’ รู้รึเปล่า มิติของเราใกล้จะเหมือนกับบ้านผีสิงเข้าไปใหญ่แล้ว…ไม่สิ ที่นี่ก็มีผีสิงอยู่จริงๆนี่นา ข้าถึงอยากถาม ‘คุณ’ ยังไงล่ะ…”
นัยน์ตาเรียวมองไม่เห็นเฉดสีในความมืดเรืองวาบขึ้นหนึ่งเพียงเสี้ยววินาที
“หรือ ‘คุณ’ มีธุระกับ ‘ลูกศิษย์’ ของเรากันแน่?”
“โอ๋ๆๆๆๆๆ เค้าขอโทษน้า~~ ทับทิมคุงงงง”
“เอ่อ….ผมยกโทษให้แล้วครับแต่………ช่วยเอาหน้าออกไปด้วยยยย!!!”
สองมือของเด็กหนุ่มร่วมแรงกันดันเอา “หน้าผี” ของ คุณ “ผี” โรสซี่ ออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหตุผลก็เพราะห้องนี้แทบจะนองไปด้วยน้ำตาอยู่รอมร่อแล้ว!
ยินดีด้วย! ผู้เล่นทับทิมปลดล็อคหน้าต่าง “อาชีพย่อย” ค่ะ
ผู้เล่นทับทิม ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้รับการยอมรับจาก AI โรสซี่ ได้รับ อาชีพย่อย “ผู้สรรค์สร้างโภชนา” และ “ผู้ปรุงแต่ง” ท่านสามารถถามข้อมูลได้ที่ AI โรสซี่ค่ะ
ผู้เล่นทับทิมเสร็จสิ้นภาจกิจลับต่อเนื่อง “ทำอาหารเลิศรสร้อยแปดพันอย่าง”
ผู้เล่นทับทิม ได้รับ ปิ่นโตสารพัดนึก (A) 1 เถา ตะเกียบเงินบริสุทธิ์ (A) 1 คู่ ตราผ่านทางพระราชวังมังกร (S) 1 ดวง ผ้ากันเปื้อนสารพัดสี (SS) 1 ผืน
และเสียงร่ายยาวแบบโมโนโทนของระบบที่ประกาศทักษะที่เขาได้รับ แต่เจ้าตัวเวลานี้ไม่ได้มีกะจิตกะใจจะฟังมันแม้แต่น้อย เพราะกำลังโดนเอไอประจำภารกิจบางคนล็อคคอไว้อยู่ (ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้ตั้งใจก็ตามทีเถอะ)
“โรสซี่~~~~ ข้าหิวข้าวววววววววววววว!!!!!”
เสียงยี่สิบแปดหลอดดังลอดเข้ามาถึงในห้องครัว เล่นเอาคนขวัญอ่อนบางคนสะดุ้ง โรสซี่รีบกระวีกระวาดจัดสำหรับอาหารเสร็จภายในเสี้ยววินาที ก่อนวิ่ง (เหาะ?) เร็วจี๋ออกห้องครัวไป ทิ้งทับทิมให้นั่งเอ๋อ ก่อนจะพึมพำอะไรเบาๆ
“เอ….แล้วเจ้านั่นจะหยิบไปทำไมตั้งสามสำรับล่ะเนี่ย จะกินเองด้วยรึไง?”
ดวงตาสีดำเหลือบแสงสีแดงหรี่ลงอย่างน่าแปลกใจ ดวงหน้าใสซื่อน่ารักของเด็กชายวัย 14-15 ดูมีเค้าความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทันตา เนตรนภิสาครุ่นคิดบางอย่างในหัวอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะกลับมาทำตาบ้องแบ๊วเหมือนเดิม เจ้าตัวถอนหายใจเหนื่อยๆก่อนจะเดินตามเจ้าครึ่งผีครึ่งคนไปบ้าง
ใครจะไปคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่แย่กว่าที่คิด…
บรรยากาศในห้องนั่งเล่นกำลังตึงเครียด……
โรสซี่ที่เพิ่งเข้ามาใช้สกิลล่องหนของตัวเอง (ไม่รู้ว่าแค่ทักษะหรือของจริงกันแน่) เข้าไปวางถาดอาหารแบบไทยๆกับอาหารของเจ้าตัวลงบนโต๊ะไม้กลางห้อง พร้อมถอยออกมาอย่างรู้งาน ทิ้งให้เจ้านายและแขกนั่งทำสงครามประสาทกันต่อไป
“ผัดกะเพรานี่ครับ…” แล้วแขกก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ร่างที่นั่งอยู่บนโซฟาหยิบช้อนขึ้นมาตักกะเพราใส่จานข้าวจานหนึ่งที่เจ้าตัวถือวิสาสะหยิบไปเอง ริมฝีปากนั้นหยักยิ้มขึ้นเมื่ออาหารเข้าปาก
“อร่อยจังนะครับ…”
“แน่นอนอยู่แล้วล่ะ ลูกศิษย์ข้าซะอย่าง แต่ทางที่ดี ‘คุณ’ ไม่ควรจะเลือกกินอย่างนี้นะ ดูสิ ของที่เหลือที่พ่อครัวของเราทำก็น่ารับประทานไม่น้อย” โพรมิสยกมุมปากขึ้น หากท่าทีของเจ้าตัวดูจะสนใจกะเพราไม่น้อย เพราะมือทั้งสองยึดจานข้าวอีกจานหนึ่งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“คุณโรสซี่ครับ…เข้ามาดูในครัวหน่อยสิคร้าบบบ!”
เสียงใสๆเรียกความสนใจได้ชะงัก หนุ่มพ่อครัวผมยาวสะดุ้งเฮือก พร้อมหันมามองเจ้านายของตนราวกับขออนุญาต
“รีบๆไปเสียเถอะครับ เดี๋ยวเขาจะรอนานเสียเปล่าๆ”
กลายเป็นแขกเสียเองที่เป็นคนตอบ โรสซี่เบนหน้าไปสบตาเพียงแวบเดียวก่อนหลบวูบ รีบจรลีหนีจากภูเขาน้ำแข็งสองลูกย่อมๆในห้องทันที
“เอาล่ะ…ข้าว่าเรามาเริ่มคุยอย่างจริงจังกันดีกว่านะ” บุรุษผู้เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์เปิดบทสนทนาต่อเสียงเรียบ มือทั้งสองข้างวางจากจานอาหารพร้อมกับยกขึ้นเท้าคาง นัยน์ตาที่ไม่มีประกายในความมืดจ้องตรงไปที่ ‘แขก’
แขก…ที่ไม่ได้รับเชิญ
“ผมก็จะไม่พูดอะไรมาก…” อีกฝ่ายยิ้ม “ ขอเพียงแค่…..ช่วยส่ง ‘สิ่งนั้น’ ที่คุณ ‘ครอบครอง’ เอาไว้มาหน่อย….ได้ไหม?”
น้ำเสียงนั้นน่ารื่นรมย์ทว่าลึกลงไปนั้นกลับดูข่มขู่มิใช่น้อย ความเงียบแสนอึดอัดดำเนินต่อไปอึดใจใหญ่ บุรุษผู้มาใหม่จึงเอ่ยต่อ
“หรือไม่…..ท่านอาจจะไม่ต้องการ ‘สิ่งนี้’”
…ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะอธิบาย
เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนอยากปาเปลือกทุเรียนใส่คริสมาก...ปามาเลยค่ะ เตรียมตัวพร้อมแล้ว //ยกโล่
สั้นมั้ย555 ได้แค่นี้จริงๆเดี๋ยวอีกตอนกำลังจะมาในไม่ช้า ตอนนี้ขอแวบหนีล่ะ
สถานะ: ทำไมเน็ตมหาลัยมันห่วยแตกอย่างนี้ว้าาาาาาา (นี่ใช้เน็ตมือถืออยู่)
Crystalsphere
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

#ฮาเร็มได้จะแหล่มมาก
กระต่ายสองตัวไปไหนนนนน?????? แปลงร่างแล้วใช่ไหมมม ถ้าใช่ อยากให้เจ้าของมาเห็นร่างแปลงจังน้า (จะได้ตกหลุมรักต่ายคนน้อง#ผิด#ตัวเอกของเรื่องต้องเคะเท่านั้น!!!) แต่เดียวนะ ระดับมัน 1?? ไม่มีทางใช่แน่ๆ ตัวละครใหม่เรอะ เป็นพระเอก(?)ในฮาเร็ม? จะเป็นใครก็ช่างงงง เชิญตอนต่อไปเลยจ้าา