ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HALF LIFE ¼ สายกามตามรัก l ลูกเทพ Set

    ลำดับตอนที่ #2 : HALF01 ; เจ้าลูกกระต่าย (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.19K
      127
      24 ธ.ค. 62


    * หากรำคาญเสียงเพลงก็ปิดได้เน้อ *


    EP01

    -KHARTIN TALK-

            3 เดือนต่อมา...

    รอบตัวฉันมันเอื่อย สงบ ไหลเฉื่อยเหมือนกับสายน้ำแต่แล้วสายน้ำเฉื่อยๆ ก็ถูกทำลาย นับตั้งแต่วันที่แม่โทรมาหาแล้วเอ่ยปากว่าเจ้านายต้องการช่วยอุปการะเลี้ยงดู ให้รีบเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ โดยด่วน การที่เป็นเช่นนั้นพลอยให้ทุกอย่างในชีวิตมันพลิกผันไปหมด 

    ไม่ว่าจะการอยู่ การกิน หรือการศึกษาดีๆ ที่เด็กบ้านนอกจนๆ คนหนึ่งควรได้รับ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี มันดีมากเลยล่ะ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันชีวิตฉันหมดความสงบสุขมันคือเรื่องอื่นมากกว่า

    ถิน...

    ...” ที่พูดถึงคือคุณพี่ ‘กั้ง’ ค่ะ เขาคือคุณหนู ลูกชายเจ้าของบ้าน

    คุณพี่กั้งเป็นผู้ชายแปลกๆ เวลาอยู่ใกล้แล้ว ฉันมักจะรู้สึกงงทุกครั้ง 

    จะพูดยังไงดีล่ะ เรียกว่าฉันตามเขาไม่ค่อยทันเท่าไหร่ เพราะคุณพี่กั้งน่ะไวเหมือนกระต่าย ส่วนฉันก็คงเชื่องช้าเหมือนเต่าล่ะมั้ง เลยตามเขาไม่ค่อยทันได้เท่าที่ควร

    บ้านที่ฉันพักอาศัยอยู่หรือบ้านของคุณพี่กั้ง ถูกขนาดนามว่าเป็นพระราชวังโพรงกระต่าย ถูกสร้างใหญ่โตอย่างกับพระราชวังสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนเหตุผลที่คนต่างขนานนามไว้แบบนั้นก็คงเพราะฉายา ‘ลูกกระต่าย’ ของลูกชายเจ้าของบ้านนั่นไงคะ

    คุณพี่กั้งแกเป็นคนที่มีหน้าตาน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงแต่ในทางกลับกันก็หล่ออย่างสมบูรณ์แบบ แถมสุภาพ อ่อนโยน ขี้อาย อ่อนหวานและนุ่มนวล กลายเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัย

    ผู้หญิงพวกนั้นต้องการเขาค่ะ...

    จากที่ฟังมาพวกเธอต้องการแย่งชิงกันเป็นเจ้าของความบริสุทธิ์ของคุณพี่กั้งเขากันค่ะ แต่ดูเหมือนความขี้อายที่คุณพี่กั้งเป็น เลยยังทำให้ยังไม่มีใครสามารถคว้าไปครองได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งกลุ่มผู้หญิงที่คลั่งไคล้คุณพี่กั้งก็เป็นอีกหนึ่งเหตุที่ทำให้ชีวิตฉันไม่สงบสุขด้วยเช่น

    นับตั้งแต่วันแรกที่มีโอกาสนั่งรถคันหรูมาเรียนพร้อมกับคุณพี่กั้ง จนสาวๆ ค่อนมหาวิทยาลัยร่วงรู้ว่าฉันพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกับเขา จดหมายบอกรัก ของขวัญ ของฝาก ขนม นม เนย ก็ถูกยัดเยียดฝากไปให้เหมือนกับเห็นฉันเป็นตู้ไปรษณีย์ 

    แต่ไม่เป็นไรค่ะ อย่างไรซะหน้าที่ของฉันก็คือการดูแลคุณพี่กั้งและการเป็นอยู่ทางบ้านเขาอยู่แล้ว และใช่ ฉันเป็นลูกคนใช้ค่ะ หน้าที่ส่วนใหญ่เวลาอยู่ที่พระราชวังโพรงกระต่ายก็เลยมีแค่พวกการทำความสะอาด เช็ด กวาด ถู รวมถึงการซักผ้ารีดผ้า ดังนั้นแค่การรับฝากของจากแฟนคลับของคุณพี่กั้งในแต่ละวันมันก็เลยดูไม่ยากลำบากเท่าไหร่

    กระถิน !!”

    เสียงเล็กแหลมของหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันหวีดดังขึ้นขัดความคิดในหัว จำต้องหยุดการอธิบายลงก่อนเท่านี้ เพื่อหันไปมองเธอด้วยความสงสัย และพบว่าเธอไม่ใช่ใคร แต่เป็น ‘กาละแมร์’ เพื่อนเพียงคนเดียวที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฉันได้ต่างจากคนอื่นๆ ในรั้วมหาวิทยาลัย

    เราเข้าเรียนที่นี่พร้อมกันค่ะ แต่มีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกันนักหรอก กาละแมร์เป็นพวกลัทธิคลั่งอปป้าเกาหลี มีการเคลื่อนไหวว่องไวระดับ 10 ฉันจึงจัดเพื่อนสาวคนนี้ให้อยู่ในระดับของแมวป่าค่ะ และเธอยิ่งกลายเป็นนางพญาแมวป่า ผู้มีความว่องไหวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 80 ทันที หากตรงหน้ามีภาพของอปป้าที่เธอคลั่งไคล้วางกองรวมกันอยู่

    ส่วนฉันมีระดับความว่องไวติดลบ 10 เลยจัดตัวเองให้อยู่ในระดับสัตว์จำพวกเต่า

    อะไรเหรอ ?” เพราะมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย กว่าจะได้ถามกาละแมร์กลับ ก็เล่นกินเวลาไปเกือบนาที

    แต่พอถามย้อนกลับไป คนถูกถามดันไม่ยอมตอบ แต่เลือกที่จะพยักพเยิดหน้าไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเราทั้งคู่ พานให้ต้องเอียงหน้ามองตามด้วยความสงสัย  ซึ่งสิ่งที่รอคอยอยู่ตรงหน้าคือใบหน้าคมคายเคล้าความน่ารักน่าหลงใหลแบบที่ผู้หญิงทั่วทั้งมหาวิทยาลัยหลงใหล คลั่งไคล้ กำลังยิ้มตาปิดแทนคำทักทาย

    และใช่ค่ะ เขาคือคุณพี่กั้งที่ฉันเพิ่งอธิบายไปเมื่อกี้ยังไงละคะ 

    เอ๊ะ...คุณพี่กั้งเหรอ?

    อ๊ะ ! คุณพี่กั้ง !” ลืมไปเสียสนิทเลยค่ะว่าต้องตกใจ...

    อะไรกัน พี่มานั่งตั้งนานแล้วนะ ทำไมไม่รู้จักสนใจกันบ้าง” คุณพี่กั้งขมวดคิ้ว ยู่ปาก พองแก้มต่อว่า ส่วนฉันที่ชั้นวรรณะต่างกว่าก็ได้แค่ก้มหัวพูดคำขอโทษ

    ขอโทษค่ะ...” อันที่จริงแล้วฉันควรจะเรียกเขาว่าคุณหนูเหมือนอย่างที่คนทำงานในพระราชวังเรียกกัน แต่ดูเหมือนคุณพี่กั้งจะให้สิทธิ์พิเศษแก่ฉันโดยอนุญาตให้เรียกเขาด้วยชื่อเล่น 

    เพราะระดับชนชั้นและสถานะของเราต่างกัน ฉันจึงไม่กล้าที่จะเรียกชื่อเขาว่า พี่กั้ง ตรงเหมือนอย่างคนอื่นๆ จำต้องเติมต่อสรรพนามเพิ่มเติมว่า คุณ ไว้ข้างหน้าเพื่อไม่ให้ดูเสียมารยาทหรือลามปามเจ้านายมากจนเกินไป

    ขอโทษทำไมละคะ พี่ไม่ได้โกรธถินสักหน่อย” รอยยิ้มใสซื่อแบบเด็กถูกยิงส่งมาให้ คุณพี่กั้งเป็นแบบนี้เสมอเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น เขาปฏิบัติกับฉันดีเหมือนเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ ทั้งที่จริงแล้ว...

    เดี๋ยวฉันมานะกระถิน ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บ” ฉันละสายตาจากใบหน้าคมคายน่ารักสดใสของคุณพี่กั้งไปยังเจ้าของคำขออนุญาต ก่อนพยักหน้ารับคำกาละแมร์นิดๆ และมองจนกระทั่งเพื่อนสาวเพียงคนเดียวเดินออกไป

    จังหวะเดียวกันนั้นเองความลับที่ไม่มีใครเคยล่วงรู้ก็ถูกเปิดเผยออกมาด้วยเช่นกันหลังจากกาละแมร์เดินหายไปจากตรงนั้น

    “ถินจ๋า~” 

    คำพูดนอบน้อมแสนสุภาพของผู้ชายหน้าตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนไป ฟังดูเจ้าเล่ห์ขึ้น นอกจากน้ำเสียงแล้ว...สายตา รอยยิ้ม ทุกๆอย่างที่คุณพี่กั้งแสดงออกผ่านทางสีหน้าก็ดูจะเปลี่ยนไปหมด

    “วันนี้ถินใส่กางเกงในสีอะไรคะ ?” อีกมุมหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นและฉันไม่เคยตามคุณพี่กั้งในมุมนี้ได้ทันเลยสักครั้ง คือความวิตถารและโรคจิตที่เขามีค่ะ 

    คุณพี่กั้งไม่ค่อยเปิดเผยธาตุแท้ของตัวเองให้คนทั้งโลกรู้สักเท่าไหร่ ปกติแล้วฉันมักจะเห็นเขาแสดงทีท่าเช่นนั้นเวลาอยู่ที่บ้านหรืออยู่กับฉันแค่สองต่อสองเท่านั้น

    ถ้านับจากระยะเวลาก็ผ่านมาเกือบ 3 เดือนได้แล้วมั้งที่เป็นแบบนี้...

    เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วันแรกที่ฉันเข้าไปพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังโต แล้วบังเอิญได้เห็นคุณพี่กั้งกับแสดงบทสวาทร่วมรักกันนักแสดงสาวสวยในหนังผู้ใหญ่ผ่านจอแก้ว ซึ่งนี่แหละค่ะ คือเหตุผลที่ทำให้ลูกชายเจ้าของพระราชวังโพรงกระต่ายมักโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นบ่อยๆ

    บางทีคุณพี่กั้งอาจจะกลัวฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นจนเสื่อมเสียชื่อเสียง เลยคอยตามเฝ้าจับตาดูตลอดเวลา แต่เชื่อเถอะค่ะ ฉันเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์มากพอจะไม่ขายเรื่องที่เห็นหรือรู้เพื่อทำลายชื่อเสียงของผู้มีพระคุณอยู่แล้ว

    อย่างไรเสีย...สิ่งที่คุณพี่กั้งแอบลักลอบทำอยู่มันก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับฉันอยู่แล้ว

    ถิน...ได้ยินที่พี่ถามไหม ?” ความคิดเพลินๆ ในหัวถูกหยุดลงด้วยเสียงเร่งเร้าถามดั่งคนรีบร้อน จำต้องพักความทรงจำแรกในหัวลง หันกลับไปมองหน้าคนถูกถามด้วยความสงสัย

    เพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ ก็เลยไม่ทันฟังคำถามของคุณพี่กั้ง อาจดูเสียมารยาทไปนิด แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังตอบ

    ถินไม่รู้นี่คะ ว่าคุณพี่กั้งมาตั้งแต่เมื่อไหร่...

    ไม่ใช่คำถามนั้น อีกคำถามสิ” เขาขัดแล้วเอ่ยคำถามที่ฉันไม่ทันฟังออกมาอีกหน “พี่ถามว่า วันนี้ถินใส่กางเกงในสีอะไรต่างหากล่ะ...

    ฉันนิ่งไปเล็กน้อย จ้องสบประสานตากับเจ้าของคำถาม โดยปล่อยให้สมองประมวลคำถามจากปากลูกชายของผู้มีพระคุณนิ่งๆ จากนั้นก็ยอมตอบในที่สุดเมื่อสิ้นสุดกระบวนการทางความคิด

    สีขาวค่ะ” เจ้าของคำถามกระตุกยิ้มชอบใจ ด้วยเพราะบริเวณที่เรานั่งกันอยู่นั้นไม่ค่อยมีคนผ่านไปมา เลยทำให้คุณพี่กั้งแสดงตัวตนของตัวเองออกมาชัดเจนขึ้น

    ใส่สีขาวอีกแล้วอ่ะ แต่ไม่เป็นไรพี่ชอบ...” คนตัวสูงเท้าศอกลงกับโต๊ะม้าหินยิ้มๆ มองฉันด้วยแววตาที่ต่างไปจากที่เคยและเต็มไปด้วยความใคร่อยากรู้ก่อนตามมาด้วยคำถามใหม่ “แล้วที่บอกว่าใส่สีขาวเนี่ย...

    “...”

    มีลายลูกไม้เซ็กซี่ขยี้ใจเหมือนครั้งแรกที่พี่เห็นป่ะ ?” 

    ไม่มีค่ะ” ฉันส่ายหน้า

    และนี่ก็คือเหตุผลข้อสอง ที่ทำให้เขาตามติดและคอยถามสารทุกข์สุขดิบของสีแพนตี้ฉันแบบนี้แทบทุกวัน นั่นก็เพราะ วันแรกที่เรารู้จักกัน ลายลูกไม้ของแพนตี้ที่ฉันใส่มันดันตราตรึงใจเขาที่บังเอิญเห็น

    อ๋อ งั้นเหรอ ? ไม่เป็นไร...” คุณพี่กั้งพึมพำท่าทางผิดหวัง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบเดิมเหมือนดังความปรารถนาที่เขามีต่อฉันอยูดี “พี่ว่าถินใส่กางเกงในตัวไหน สะโพกก็ดูน่าซดอยู่ดี

    ส่วนเหตุผลที่สามซึ่งเป็นข้อสุดท้ายก็คือ คุณพี่กั้งอยากซดสะโพกฉันค่ะ...

    สรุปแล้ว ถ้าพี่จะขอลองซดสะโพกสักที ถินจะยอมพี่หรือเปล่า ?” จังหวะที่คุณพี่กั้งเริ่มจะลามเข้าเรื่องสะโพก นาทีนั้นกลับมีเสียงเล็กแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะทันได้ตอบอะไร

    เอ๊ะนั่น น้องกั้งหรือเปล่า !?” เสียงดังกล่าวทำเอาหมาป่าซึ่งขโมยชุดกระต่ายตัวน้อยมาสวม รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าหันหลังมองไปยังต้นเสียงทันทีโดยไม่ลืมส่งเสียงตอบรับกลับไปอย่างสดใสและน่ารัก

    ฮะ ! ผมเอง !”                                     

    ตายแล้ว มาอยู่ตรงนี้เอง หาตัวตั้งนาน~” เพราะรู้สึกว่าพวกเขาน่าจะพูดคุยกันเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน ความสนใจจึงถูกลดละไปทางอื่น อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือที่มีติดตัว

    ฉันไม่ค่อยทันเทคโนโลยีสมัยนี้เท่าไหร่ พูดตามตรงเลยว่า สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เอี่ยมที่อยู่ในมือได้เป็นของสมนาคุณจากครอบครัวคุณพี่กั้งทั้งนั้น ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ฉันจึงมีโอกาสได้จับต้องสมาร์ทโฟนแพงๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ฉันชอบแบบปุ่มกดมากกว่าค่ะ เวลาเมื่อยก็เปิดระบบสั่นเอามาอังตรงจุดที่ปวด

    โทรศัพท์รุ่นเก่าๆ สั่นแรงมากค่ะ คลายอาการปวดได้ดีเลยล่ะ !

    หลังจากจัดการปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ได้สำเร็จ สิ่งที่รอคอยอยู่บนหน้าจอดูเหมือนจะเป็นข้อความของคนรู้จัก

    ทาม ::  ถินเลิกเรียนยัง วันนี้จะมาไหม ?

    กระถิน :: ไปสิ กำลังรอเพื่อน

    คนที่ว่าเขาชื่อ ‘ทาม’ ค่ะ เราเคยเรียนอยู่ด้วยกันตอนมัธยมจนจบมัธยมปลาย เขาเข้ามาเรียนในเมืองหลวงเหมือนฉัน แต่ว่าคนละกรณีกันค่ะ ทามมีเป้าหมายเป็นมหาวิทยาลัยในดวงใจ ส่วนฉันไม่มีเป้าหมายแต่ถูกเชิญตัวมา โชคดีที่การมาครั้งนี้ยังพอมีเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนให้ติดต่อกันบ้าง ฉันจึงโล่งใจ...

    แล้วว่าไงล่ะ ที่พี่ชวนกั้งไปเที่ยวด้วยกันคืนนี้อ่ะ ไปด้วยกันไหม ?” ทั้งที่หาอะไรทำฆ่าเวลา หลีกเลี่ยงการเสียมารยาทแอบฟังคนอื่นคุยกัน แต่ด้วยระยะที่ใกล้ มันก็เลยห้ามกันไม่ได้จริงๆ

    เที่ยวกลางคืนเหรอครับ คงไม่ได้หรอก...

    อ้าว ทำไมล่ะ ?”

    ผมเด็กอนามัยน่ะฮะ... 4 ทุ่มก็เข้านอนแล้ว” 

    ตั้งแต่รู้จักคุณพี่กั้งมา เขามักใช้ความสดใสน่ารักและดูบริสุทธิ์ของตัวเองเพื่อปฏิเสธคนอื่นแบบนี้เสมอ ซึ่งคำพูด สีหน้า ท่าทางของเขาก็ดูน่าเชื่อถือเหมือนอย่างภาพลักษณ์ที่ใครต่อใครเห็น

    แม้ว่าทั้งหมดที่คุณพี่กั้งเป็นนั้น คือเรื่องหลอกลวงก็ตาม...

    หูยย เสียดายจัง พี่กะว่าจะเมาแล้วปล้ำกระต่ายสักหน่อยเชียว ฮิๆ” ไม่ใช่แค่ถ้อยคำบ่งบอกถึงความเป็นคุณหนูอย่างเดียวที่น่าเชื่อถือ แต่ยังรวมถึง...

    บะ บ้า ! พี่พูดอะไรอ่ะครับ ผมเขินนะ

    เขินอะไรกัน เป็นหนุ่มแล้วนะ เลิกเขินได้แล้ว แค่เรื่องใต้สะดือเอง~”

    กะ ก็ผมไม่เคยเรื่องพวกนี้นี่ ! ไม่เอาแล้ว ผมไม่คุยแล้ว น่าอายจะตายไป

    คิกๆ เขินเหรอจ๊ะพ่อกระต่ายน้อย~”

    ค่ะ...รวมถึงท่าทางไม่ประสีประสา ขี้อาย และหน้าแดงทุกครั้งที่มีใครเริ่มพูดเข้าเรื่องทะลึ่ง

    เขาเก่งนะคะ ฉันประทับใจความสามารถเขาจัง...

    ถิน ไปกัน !” โชคดีที่ฟ้าไม่อยากให้ฉันทำตัวเสียมารยาทมากไปกว่านี้ เลยบันดาลให้เพื่อนสาวที่หายไปเข้าห้องน้ำกลับมาได้เวลาพอดี

    ฉันเองที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วเพราะเพิ่งได้รับข้อความเร่งจากทาม ก็ไม่รอช้ารีบลุกจากโต๊ะม้าหินทันที ทว่า ตอนที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปหากาละแมร์ เสียงเข้มนอบน้อมแต่มีมารยาทก็เอ่ยเรียกรั้งตัวฉันไว้

    ถินเดี๋ยว !” กว่าจะหันกลับไปเพื่อถามไถ่ความต้องการ เจ้าของเสียงเรียกก็พุ่งมือคว้าแขนฉันเอาไว้และเป็นฝ่ายเอ่ยถามออกมาเองเหมือนรู้ว่าฉันมีคำถามในหัว “คืนนี้ถินจะกลับบ้านดึกหรือเปล่าอ่ะ ?”

    พอฉันหันไปมองหน้าเขาตรงๆ คุณพี่กั้งก็ยอมปล่อยมือที่จับไว้ออก เอียงคอนิดๆ ตามคาแรกเตอร์ของกระต่ายที่ใครต่อใครเข้าใจ

    คุณพี่กั้งถามทำไมคะ ?”

    พอดีพี่มีงานให้ถินช่วยนิดหน่อย มันเป็นงานที่ต้องช่วยกันทำสองคนค่ะ...” เขาตอบกลับมาอย่างทันควัน แถมยังไม่เปิดโอกาสใดให้ฉันได้ถามต่อ ใช้สิทธิ์ของลูกชายเจ้าของบ้านในการออกคำสั่งอย่างเต็มที่ “คืนนี้ ถินมาหาพี่ที่ห้องก่อน 4 ทุ่มด้วยนะคะ

    ...”  คุณพี่กั้งเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็วและฉับไว เขาอาศัยจังหวะในช่วงที่ฉันกำลังบันทึกคำสั่งลงสมอง เอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงร้อนรน เบะปากเหมือนลูกกระต่ายจนตรอก แลดูเป็นทุกข์เป็นร้อนใจอย่างมาก 

    ขัดกับคำพูดกำกวมประโยคสุดท้าย

    ถ้าถินไม่มาช่วย...คืนนี้พี่คงไม่เสร็จแน่ๆ เลย

    งานอะไรน่ะ ให้พี่ไปช่วยแทนไหมกั้ง คิกๆ” เสียงของนักศึกษาหญิงรุ่นพี่เอ่ยขึ้นก่อนที่ฉันจะทันได้รับปากอะไร เสียงของเธอเรียกความสนใจและรอยยิ้มน่ารักๆ ของคุณพี่กั้งให้กลับไปมองได้อีกครั้ง

    พี่อ่ะ อย่าพาผมวกเข้าเรื่องทะลึ่งสิ ผมทำตัวไม่ถูกแล้วเนี่ย” พอเห็นว่าพวกเขาเริ่มกลับไปต่อบทสนทนากันอีกครั้ง ฉันซึ่งไม่เกี่ยวข้องถึงถอยห่างออกมาพร้อมกับกาละแมร์ที่รออยู่ก่อนแล้ว

    กาละแมร์เดินออกจากตึกคณะเรียนมายังหน้ามหาวิทยาลัยเป็นเพื่อนฉัน ก่อนจะแยกย้ายกลับไปด้วยรถแท็กซี่โดยสาร ฉันไม่ได้ถามกาละแมร์หรอกค่ะว่าเธอรีบไปไหน เพราะพอนึกได้ว่าจะถาม กาละแมร์ก็นั่งรถแท็กซี่ออกไปไกลถึงไหนต่อไหนเสียแล้ว

    นิสัยเชื่องช้าเป็นเต่าคลานของฉันแบบนี้เป็นมาตั้งแต่เด็ก แก้เท่าไหร่ก็แก้ไม่หาย มันไม่เกี่ยวกับว่าฉันเป็นพวกหัวช้า ถึงได้ทำอะไรไม่ค่อยทันใจชาวบ้าน ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าบางอย่างที่คิดหรือกำลังสนใจอยู่ ณ ขณะนั้นมันน่าสนใจมากกว่าสิ่งต่างๆ รอบตัว 

    กาละแมร์บอกว่าฉันเป็นพวกโลกส่วนตัวสูง แต่ฉันไม่แคร์หรอกค่ะ เพราะฉันไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรกับการพกพานิสัยแบบนี้ติดตัวไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลา และเพราะไม่ค่อยได้สนใจ นิสัยเฉื่อยช้า เลยทำให้ฉันไม่สามารถเข้าพรรคเข้าพวกกับมนุษย์ที่มีความว่องไวระดับ 1 ขึ้นไปได้เลยสักราย 

    ฉันก้าว แต่พวกเขาวิ่ง คงมีเพียงแค่กาละแมร์เท่านั้นที่ทนฉันได้ไม่เหมือนคนอื่น เธอเป็นคนใจเย็นค่ะเลยอยู่ร่วมกันได้ พูดก็พูดเถอะกาละแมร์น่ะนิสัยเหมือนทาม เพื่อนสมัยมัธยมที่ฉันกำลังจะไปเจอนี่แหละ...

    สมัยที่เรียนอยู่ด้วยกันฉันกับทามเราอยู่ฝ่ายกิจกรรมด้วยกันทั้งคู่ ทามจะประจำอยู่ฝ่ายกับพวกชอบใช้แรงและคอยให้บริการ ส่วนฉันอยู่แผนกบัญชี ตรวจทาน บางเวลาก็พลิกผันไปเป็นฝ่ายคอยให้บริการคนอื่นบ้าง ด้วยความที่เราชอบให้บริการช่วยเหลือผู้อื่นเหมือนกัน

    สิ่งที่เราทำร่วมกันนอกจากอยู่ฝ่ายกิจกรรมของโรงเรียนแล้ว นอกโรงเรียน เราสองคนยังเข้าร่วมเป็นอาสาของมูลนิธิกู้ภัยเหมือนกันอีกด้วย และแน่นอนว่าการมาอยู่เมืองหลวงแบบนี้ ใช่ว่าฉันจะทิ้งความชอบของตัวเองลงที่ไหน ฉันยังคงทำในสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่เหมือนเก่า โดยได้ทามนี่แหละเป็นคนขออนุญาตทางมูลนิธิกู้ภัยให้ฉันเข้าร่วมเป็นหนึ่งในอาสาสมัคร 

    ถึงฉันจะเชื่องช้า ทำอะไรอืดอาดยืดยาดไปหมด แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งฉันก็สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยความว่องไว เมื่ออยู่กับสิ่งที่ชอบหรือสิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้ใจเต้นได้ผิดไปจากที่เคย

    เหมือนกับสัตว์จำพวกเต่านั่นแหละค่ะ เวลาปกติพวกมันก็ชักช้า เดินต้วมเตี้ยม แต่เมื่อไหร่ที่ได้ลงน้ำพวกมันจะว่ายน้ำด้วยความไว ฉันเองก็เหมือนกัน แต่สิ่งที่ฉันชอบต่างจากพวกเต่านิดหน่อยค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะว่านี่เป็นความชอบส่วนบุคคล และฉันรักความชอบนี้มากจริงๆ

    ฉันชอบเลือดค่ะ

    ชอบเสียงกรีดร้อง โอดครวญด้วยความเจ็บปวดปานจะขาดใจ

    ชอบภาพกีฬามันๆหลังเกิดประสบอุบัติเหตุของผู้ประสบภัย

    ชอบที่สุดคงเป็นเสียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายของผู้ได้รับบาดเจ็บตอนถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลไม่ทัน

    ฉันรักมันค่ะ...

    To Be Continued...

    ________________________________

    เจ้าลูกกระต่าย !

    ไม่เม้นไม่ว่าแต่กดให้กำลังใจเค้าด้วยน้าา ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะงับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและการชี้แนะดีๆในหน้านิยายน้าา

    ติดแท็กในทวิต #กระต่ายกินเต่า

      

     

    FEAT.

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×