คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
ศตคุณยืนจัดขวดบรรจุวัตถุดิบสำหรับชงกาแฟอยู่หลังเคาท์เตอร์ในร้านกาแฟ
เขาเพิ่งเป็นเจ้าของร้านกาแฟได้หมาดๆ
ร้านเล็กๆ
ของศตคุณตั้งอยู่ใต้อาคารเรียนรวม
แต่เดิมร้านนี้ขายเฉพาะขนมปังเท่านั้น
พอศตคุณที่เพิ่งจบปริญญาโทกลับมาจากต่างประเทศได้ข่าวว่าญาติที่เป็นเจ้าของร้านต้องการหยุดดำเนินกิจการ
เขาจึงขอซื้อร้านมาทำต่อ
และปรับเปลี่ยนจากร้านขายขนมปังมาเป็นร้านกาแฟที่มีบริการขายขนมปังด้วย
ศตคุณเพิ่งปรับปรุงร้านเสร็จก่อนมหาวิทยาลัยจะเปิดภาคการศึกษาได้ไม่กี่วัน
ดังนั้นวันเปิดเรียนจึงเป็นวันเปิดร้านไปในตัว
เขามีความใฝ่ฝันจะมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองตั้งแต่เรียนปริญญาตรี
และตอนไปเรียนต่างประเทศก็ได้ลองทำงานเป็นพนักงานที่ร้านกาแฟจนมีประสบการณ์ระดับหนึ่ง
บัดนี้ความฝันได้กลายเป็นจริง
และได้พบว่าการบริหารร้านกาแฟด้วยตัวคนเดียวไม่ง่ายเลย
เขาจึงคิดจะประกาศรับสมัครพนักงานแบบพาร์ทไทม์
โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีเวลาว่างมาช่วยงานในร้าน
กิ๊ง...กิ๊ง...
เสียงกระดิ่งตรงประตูร้านดังขึ้น
เป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน
ศตคุณเงยหน้าขึ้นเพื่อจะกล่าวต้อนรับ
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาเยือน
"เทมส์"
เขาเอ่ยชื่ออีกฝ่าย ไม่นึกว่าจะได้พบ 'อดีตเพื่อน' ที่นี่
"ณัท..."
ชายที่ชื่อเทมส์ดูแปลกใจไม่แพ้กัน ไม่นานก็ปรับสีหน้าให้นิ่งขรึม
"เป็นอาจารย์อยู่ที่นี่เหรอ?" ณัทมองการแต่งกายและการถือหนังสือกับเอกสารของเทมส์แล้วคาดเดาเอาเอง
"ใช่
เพิ่งมาสอนเป็นเทอมแรก"
ระหว่างการพูดคุย
ณัทสังเกตท่าทีของเทมส์ว่าจงใจทำตัวห่างเหินเหมือนเดิม
ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น...
"บังเอิญเนอะ
เราก็เพิ่งมาเปิดร้านกาแฟเหมือนกัน"
อาจารย์หนุ่มไม่ได้ตอบอะไร
เพียงแต่ทำสีหน้าสื่อว่า 'เหรอ' อย่างเฉยชา
เจ้าของร้านกาแฟพยายามชวนคุยอีก
"แล้วเทมส์จะสั่งอะไรไหม
...เป็นมอคค่าเหมือนที่ชอบหรือเปล่า"
"เอสเพรสโซ่แก้วหนึ่ง"
ฟังก็รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจให้เขาเดาผิด
เมื่อก่อนเทมส์ชอบมอคค่าที่สุด เขาเป็นเพื่อนสนิท ทำไมจะไม่รู้
"อ่า...ได้ๆ"
ศตคุณชงกาแฟเงียบๆ
ฝ่ายลูกค้าก็รอเงียบๆ เช่นกัน
"อะนี่"
พอชงเสร็จก็นำแก้วกาแฟวางบนเค้าท์เตอร์
"ไม่ต้องจ่ายหรอก
ถือว่าเป็นการฉลองได้ที่เราได้มาเจอกันอีกครั้งไง" ณัทฝืนยิ้ม
เทมส์วางเงินเท่าราคากาแฟที่แปะบนผนังด้านหลังเคาท์เตอร์ไว้ข้างๆ
แก้วกาแฟ "ไม่เป็นไร ไม่สำคัญอะไรขนาดนั้น"
พูดจบก็คว้าแก้วกาแฟแล้วหมุนตัวเดินออกจากร้าน
ณัมทอดมองตามหลังร่างสูง
ในใจรู้สึกเบาหวิว
ยังเจ็บอยู่สินะ
เจ็บจนไม่อาจมองหน้ากันได้อีกสักครั้งเลยเหรอ...
เจมดูดโกโก้ปั่นที่รุ่นพี่หน้าหล่อให้มาจนหมด
ไม่ลืมจะทิ้งถังขยะระหว่างที่เดินกลับหอพัก
จากนั้นเขาก็หยิบสมุดมากางนับลายเซ็นรุ่นพี่
เจมนิ่วหน้าเมื่อเห็นจำนวนลายเซ็นทั้งหมดที่ล่ามาได้ภายในระยะเวลาสามวัน
ซึ่งได้มาเพียงสามสิบกว่าคนเท่านั้น
เขาหวังว่าจะไม่เป็นยี่สิบคนที่ได้ลายเซ็นมาน้อยที่สุดก็แล้วกัน
อย่างน้อยก็มีไอ้เต้คนหนึ่งที่ได้น้อยกว่าเขาแน่ๆ
เจมสลัดความกลัดกลุ้มทิ้งแล้วเดินขึ้นหอพัก
หอพักของเจมเป็นหอพักในกำกับของมหาวิทยาลัย
หรือเรียกสั้นๆ ว่า 'หอใน' ตั้งอยู่ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยเพื่อความสะดวกในการเดินทางของนักศึกษา
เป็นหอที่แบ่งโควต้าการเข้าพักส่วนใหญ่ให้กับนักศึกษาปีหนึ่ง
แต่ยังเว้นที่ให้แก่นักศึกษาปีอื่นด้วย โดยนักศึกษาตั้งแต่ปีสองขึ้นไปต้องร่วมกิจกรรมหอพักเพื่อสะสมคะแนนให้ได้ตามเกณฑ์
จึงจะสามารถเข้าพักในปีต่อไปได้
หอในจะคิดค่าธรรมเนียมหอถูกกว่าการอยู่หอนอก
กระนั้นก็ต้องแลกมาด้วยสิ่งอำนวยความไม่สะดวกหลายอย่าง ดังเช่นการใช้ห้องน้ำรวม
เป็นต้น
เจมไขกุญแจเปิดประตูห้องของตัวเอง
และได้พบกับความโดดเดี่ยวเป็นหมาเหงาอีกตามเคย
สาเหตุเกิดจากไอ้เต้
เพื่อนร่วมห้องที่จับจองเตียงชั้นสองไว้แต่ตัวมันดันไปขลุกอยู่กับแฟนตั้งแต่เปิดเทอม
ปล่อยให้เขานอนเตียงชั้นล่างตามลำพังมาสองคืนแล้ว
ส่วนเตียงเดี่ยวที่อยู่ตรงข้ามกับเตียงสองชั้นพวกเขานั้นยังไม่มีเจ้าของแสดงตัวให้เห็น
ปกติห้องหนึ่งจะมีผู้เข้าพักได้สามคน
และดูเหมือนว่าละแวกห้องรอบข้างจะมีคนอยู่กันครบ
ยกเว้นแต่ห้องของเจมที่ไม่ปกติอยู่ห้องเดียว
ในกรณีของเต้ยังพอเข้าใจว่าอยู่ในช่วงติดแฟนจึงไม่มานอนหอ
แต่เตียงอีกเตียงที่ว่างเปล่าอยู่นั้น...เจมเองก็ไม่เข้าใจว่าคนที่พักด้วยอีกหนึ่งคนเป็นใคร
และทำไมยังไม่ขนข้าวของมาพักเสียที
การจองหอพักในมหาวิทยาลัยนี้เป็นระบบจองหนึ่งคนต่อหนึ่งเตียง
ไม่ได้จองทั้งห้องเหมือนหอนอกทั่วไป
ฉะนั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะได้พักกับคนแปลกหน้าในกรณีที่ฟอร์มทีมไม่ครบสามคน
เจมกับเต้ที่ต้องมารอลุ้นเอาดาบหน้าว่าจะได้เพื่อนร่วมห้องอีกคนเป็นใครเช่นกัน
...อีกคนจะเป็นใครช่างแม่งละ
ไปกินข้าวดีกว่า
เจมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง
ถอดป้ายชื่อทิ้ง แล้วหยิบเฉพาะกุญแจห้อง มือถือ
และกระเป๋าตังค์เพื่อลงไปทานอาหารมื้อเย็นที่โรงอาหารใต้หอ
เมื่อทานเสร็จก็กลับขึ้นห้อง
เขาไขกุญแจเปิดประตู เตรียมใจพบกับความว้าเหว่เอกาที่จะได้นอนคนเดียวอีกหนึ่งคืน
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อห้องพักไม่ได้ว่างเปล่าอย่างเคย
ใครคนหนึ่งกำลังจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ที่เคยว่างเปล่า
บนเตียงเดี่ยวปูที่นอนปลอกหมอนอะไรเสร็จเรียบร้อย
"รุ่นพี่..."
เจมอ้าปากค้าง
"อ้าว
น้องเจม พักที่ห้องนี้เหรอ" พี่นนท์
รุ่นพี่ปีสี่คณะเดียวกันซึ่งเจอกันเมื่อช่วงบ่ายหันมาทัก
"ค...ครับ"
เจมผงกศีรษะ
พอเหลือบเห็นป้ายชื่อบนโต๊ะของตนก็หน้าถอดสี
...เชี่ยยยย
ไม่ได้ห้อยป้าย!!!
กฏของป้ายชื่อมีอยู่ว่าต้องใส่ตลอดเวลา
ห้ามถอด ยกเว้นเวลาอาบน้ำและตอนนอน ถ้ามีรุ่นพี่ปีแก่คนไหนเห็นว่าไม่ได้ห้อยป้าย
เฟรชชี่คนนั้นจะโดนเรียกตัวเมื่อถึงวันที่มีว้าก
ปกติปีหนึ่งแทบทุกคนก็แอบลักไก่ถอดเมื่ออยู่ในห้องกับเพื่อนอยู่แล้ว
เจมก็เองทำแบบนั้นบ่อยครั้ง แต่ไม่นึกว่าวันนี้จะเจอแจ๊คพอตเข้าให้
เจมทำทีเบี่ยงตัวหันหน้าเข้าโต๊ะ
แกล้งหยิบจับสมุดหนังสือเพื่อหันหลังให้พี่นนท์ แล้วนึกโทษฟ้าโทษดินในใจ
...อะไรมันจะซวยงี้วะ
เสือกได้รูมเมทเป็นรุ่นพี่ที่กำลังเพ่งเล็งกูอี๊กกกก
หมดกัน
อนาคตอันสดใสวัยเฟรชชี่ของกู...
"ทำตัวตามสบายเลยนะ
ไหนๆ ก็ได้อยู่ร่วมห้องกันแล้ว"
...กูสบายไม่ลงแล้วครับ
แม่ง ไม่ต้องพูดตอกย้ำก็ได้ครับพี่
"แล้วคนที่นอนชั้นบนเป็นเพื่อนเจมหรือเปล่า"
รุ่นพี่ถามขณะหันไปจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ต่อ
เจมฉวยโอกาสรีบเอาป้ายมาห้อยคอด้วยความเร็ว
4G
...ฝู้ววว์
เกือบไปแล้วไหมล่ะมึ้งงง
"ครับ
มันชื่อเต้ แต่คืนนี้มันคงไม่นอนหอ"
"เหรอ
ทำไมล่ะ"
"มัน..."
เจมลังเลว่าจะบอกยังไงดี
สุดท้ายก็เลือกไม่บอกความจริงเพราะไม่รู้ว่ารุ่นพี่จะหาเรื่องเอาไปว้ากหรือเปล่า
"มันไปหาพี่มันครับ"
"งั้นก็เหลือแค่เราสองคนแล้วดิ"
นนท์ปิดตู้ หันมายิ้มให้เจม
...พูดงี้หมายความว่าไง? จะมาไม้ไหนวะเนี่ย
ตั้งตัวไม่ถูกเล้ยวุ้ย
เจมได้แต่ยิ้มแหยกลับไป
"พี่จะลงไปทานข้าว
ไปด้วยกันไหม"
คนถูกถามส่ายหน้าหวือ
"ผมกินมาแล้วครับ ตามสบายนะครับพี่"
"อืม
โอเค"
พอนนท์ออกจากห้องไปแล้วเจมก็รีบต่อสายถึงไอ้เพื่อนเต้เป็นการด่วน
"มีไรมึง
กูแดกข้าวกะแฟนอยู่ เดี๋ยวค่อยคุยได้ป่ะ"
"ไม่ได้
ต้องคุยเดี๋ยวนี้เว้ย"
นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะเล่าให้เพื่อนฟังก่อนที่รุ่นพี่จะกลับขึ้นห้อง
"เออๆ
รีบพูดมา"
"มึงงงง
จำพี่นนท์ได้ปะ"
"พี่นนท์ไหนวะ?"
"ก็รุ่นพี่ปีสี่ที่กูสงสัยว่ากำลังหมายหัวกูไง"
"อ๋อออ"
"เออนั่นแหละ
คืองี้เว้ย หลังจากแยกกะมึง กูก็ไปขอลายเซ็นรุ่นพี่ที่คณะ แม่งเสือกเจอพี่นนท์"
"เชี่ยยย
โครตซวย"
"เออดิ
แต่แปลก สั่งให้กูไปซื้อกาแฟแลกกับลายเซ็น
แถมยังซื้อโกโก้ปั่นให้กูอีกนะเว้ย"
"หา? มีงี้ด้วยเหรอวะ
แปลกๆ ว่ะ"
"แต่นั่นยังไม่ใช่ไคลแมกซ์เว้ย
ที่กูโทรหามึงก็เพื่อจะบอกว่า...พี่นนท์เป็นรูมเมทพวกเราว่ะ!"
"เชี่ยยยย
อ๊ะ...ขอโทษครับที่รัก หล่อเสียงดังไปหน่อย"
เจมเบะปากหลังได้ยินเสียงแอ๊บแบ๊วของเพื่อนรัก
แล้วพูดต่อ "มึง หรือว่าพี่นนท์จะเป็นสปายให้พวกพี่ว้ากวะ"
มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างระหว่างปีหนึ่งด้วยกัน
ว่าจะมีรุ่นพี่แฝงตัวเข้ามาตีสนิทเพื่อนำข้อมูลไปให้พี่ว้าก
หากใครเผลอนินทาหรือทำผิดระเบียบอะไรก็จะถูกพี่ว้ากเรียกออกไปหน้าแถว
"ไม่แน่นะมึง
อาจจะใช่ว่ะ"
"กูจะเอาตัวรอดยังไงดี
เมื่อกี้กูถอดป้ายลงไปกินข้าวเว้ย พอกลับขึ้นห้องก็จ๊ะเอ๋กะพี่นนท์
ดีนะที่กูแอบใส่ป้ายทัน"
"เกือบซวยละมึง
แต่มึงก็ใช้ชีวิตปกติไปดิ กลัวไรวะ"
"มึงก็รู้ว่าเวลาว้าก
ไอ้พวกรุ่นพี่มันหาเรื่องว้ากได้ทุกเรื่อง แค่กูหายใจก็โดนว้ากแล้ว"
"ก็ปล่อยให้ว้ากไปดิ
พวกนั้นแม่งจะทำไรเราได้ ...มึง กูกินข้าวต่อแล้วนะ"
"อ่าวไอ้เหี้ย
ทิ้งกูเฉย ให้คำปรึกษากูก่อนดิ"
"ก็ให้ไปแล้วไง
แค่นี้นะ"
ตู้ด...ตู้ด...ตู้ด...
"ไอ้เชี่ยเต้
ไอ้เพื่อนทรพี!" เจมด่าโทรศัพท์หลังโดนชิ่งวางสาย
พอนึกอะไรได้ก็กดมือถือเข้าไปดูเวบสำหรับจองหอพักเพื่อดูรายชื่อผู้พักในห้องของเขา
นอกจากชื่อ-นามสกุลของเขากับเต้แล้วยังมีอีกหนึ่งชื่อ
จิรานนท์
กิจธนโภคิน
เจมคัดลอกชื่อ-นามสกุลนั้นไปค้นหาในเว็บสำนักทะเบียนของมหาวิทยาลัย
ข้อมูลที่ปรากฏทั้งคณะและชั้นปีระบุว่าเป็นรุ่นพี่คนเดียวกันไม่ผิดตัวแน่
...ห่านจิก!
ทำไมกูไม่เอะใจค้นดูชื่อตั้งแต่แรกวะ!
เจมเอามือทึ้งผมตัวเอง
นึกสงสัยอีกว่าเหตุใดพี่นนท์ถึงมาพักหอ
หรือว่าเป็นคนต่างจังหวัดเหมือนเขากับไอ้เต้?
วิญญาณสต๊อล์คเกอร์เริ่มเข้าสิง
เจมเสิร์ชดูเฟสบุ๊คของพี่นนท์ทันที
ด้วยความที่พี่นนท์มีหน้าตาดีถึงดีมาก
จึงสามารถค้นหาเฟสบุ๊คจากเพจ cute boy ของมหา'ลัยได้ไม่ยาก
พอเข้าหน้าเฟสบุ๊คได้แล้วก็กดเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวหมวดภูมิลำเนา
แล้วเจมก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น
...อ่าว
อยู่กรุงเทพนี่หว่า แล้วมาพักหอทำไม?
ช่างแม่งละ
ถ้ารุ่นพี่แกล้งกูให้ได้รับความอับอายตอนรับน้อง
กูจะโพสลงเฟสฯประจานให้ออกสรยุทธ์เลยแม่ง!
เจมวางมือถือไว้บนโต๊ะแล้วเตรียมข้าวของไปอาบน้ำ
หลังอาบเสร็จเจมก็ไปขลุกตัวนั่งเล่นเนตในห้องคอมฯหอ
ซึ่งอยู่ตรงโถงบันไดชั้นเดียวกับห้องพักเขา เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องตามลำพังกับรุ่นพี่
หากห้องคอมฯเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเขาก็จะหอบหมอนไปนอนในห้องคอมฯให้รู้แล้วรู้รอด
แต่เสียดายที่เปิดถึงเที่ยงคืนเท่านั้น
เจมภาวนาให้พี่นนท์หลับก่อนเขากลับเข้าห้อง
แต่ไม่เป็นเช่นนั้น
พอเขาเปิดประตูเข้าไปก็ต้องชะงักกับซิกแพคเป็นลอนสวยของรุ่นพี่อดีตเดือนคณะ
เวลานี้จิรานนท์ใส่เพียงกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวยืนใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมอยู่หน้าตูเสื้อผ้า
...เหยดดด
กูกำลังโดนพี่นนท์เกทับด้วยการโชว์ซิกแพคหรือเปล่าวะ
เจมนึกเปรียบกับตัวเองที่ใส่เสื้อยืดคอย้วยกับกางกางขาสั้นปกปิดสัดส่วน
ซึ่งแม้จะไม่มีไขมันพอกพูนแต่ก็ไม่มีกล้ามเนื้อพอจะถอดเสื้อโชว์ใครได้
"ไปอยู่ห้องคอมมาเหรอเจม"
นนท์เอ่ยทัก
"ครับ..."
...เสือกรู้อีก!
"เผอิญพี่เดินขึ้นบันไดแล้วเห็นเรานั่งอยู่ในนั้นน่ะ"
...พี่นนท์ได้ยินกูพูดในใจหรือเปล่าวะ
แล้วก็แม่ง
ห้องคอมดันเป็นห้องกระจกใสไม่ติดผ้าม่านอีก
"อ๋อครับ..."
"ถ้าวันหลังจะพิมพ์งาน
ยืมโน็ตบุ๊คของพี่ไปใช้ก็ได้นะ"
"ไม่เป็นไรครับ
เดี๋ยวสิ้นเดือนพ่อจะโอนตังค์มาให้ซื้อโน็ตบุ๊คไว้ทำงานเหมือนกันครับ"
...หึ
คิดจะข่มเรื่องมีโน็ตบุ๊คเหรอ ไม่ได้ผลหรอกเว้ย ข่มได้แค่ซิกแพคเท่านั้นแหละ!
เจมกระหยิ่มยิ้มย่องขณะเอาโทรศัพท์มือถือไปเสียบชาร์ตแบตฯ
ถอดป้ายชื่อ จากนั้นก็คลานขึ้นไปบนเตียง
"จะนอนแล้วเหรอเจม
จะให้พี่ปิดไฟไหม"
"ถ้าพี่นนท์ยังไม่นอนก็ไม่ต้องปิดก็ได้ครับ
ขอบเตียงชั้นสองมันบังไฟให้ส่วนหนึ่งแล้ว"
"งั้นก็...เจอกันพรุ่งนี้นะ
เจม"
...ไม่ใช่เฉพาะพรุ่งนี้หรอก
เจอกันที่หอแม่งทั้งปีนั่นแหละ!
"ครับพี่..."
เจมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่นนท์ถึงชอบชวนคุยขนาดนั้น
จะพยายามล้วงความลับอะไรหรือเปล่า
หรือหาจังหวะที่เขาเผลอพูดอะไรแล้วจะเอาไปเป็นประเด็นว้าก?
เจมคิดนู่นนี่จนผลอยหลับไปพร้อมกับความสงสัยมากมาย
เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัทพ์ทำให้เจมงัวเงียตื่น
มองนาฬิกาพบว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้า
วันนี้เขามีเรียนเก้าโมงครึ่งจึงไม่ต้องรีบเร่งมากนัก
เจมลุกออกจากเตียงแล้วเตรียมของไปอาบน้ำแปรงฟัน
แต่ด้วยเป็นเวลาไพร์มไทม์ของคนเรียนเวลาเดียวกัน จึงมีคนใช้ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา
หรือโซนอ่างล้างหน้าเต็มเอี๊ยด คนมาทีหลังก็ยืนรอคิวตามระเบียบ
เจมยืนถือขันอาบน้ำซึ่งใส่แปรงสีฟันกับตลับใส่สบู่อยู่หน้าห้องอาบน้ำห้องหนึ่ง
ด้านหลังเพิ่งมีคนมายืนต่อคิว เขากะว่าจะไปแปรงฟันด้านในห้องอาบน้ำเลย
ฉับพลันก็ระลึกได้ว่าลืมเอายาสีฟันใส่ขันมาด้วย
...ออกจากคิวตอนนี้ก็ได้กลับมายืนรอใหม่อีกแน่
เอาไงดีวะ
พอคิดจะขอจากคนอื่น
ก็ปรากฏว่าคนทุกคนบีบยาสีฟันใส่แปรงมาแล้วเรียบร้อย
...ไรวะแม่ง
มีแต่กูที่มักจะพกยาสีฟันมาบีบในห้องน้ำเหรอวะ
พวกเอ็งไม่คิดว่าจะเกิดแอ็คซิเดนทำยาสีฟันหล่นพื้นหรือไงหา!
ไม่นานประตูห้องน้ำด้านหน้าเจมก็เปิดออก
"อ่าวเจม
อรุณสวัสดิ์" จิรานนท์เอ่ยทักในสภาพพันผ้าขนหนูไว้ครึ่งล่าง
ในมือกำแปรงสีฟันและยาสีฟันไว้ข้างหนึ่ง
"พี่นนท์"
เจมตัดสินใจได้ในเสี้ยววินาที "ขอยืมยาสีฟันหน่อยครับ"
"ได้สิ"
นนท์ยื่นหลอดยาสีฟันให้
"ขอบคุณครับ"
...อย่างน้อยก็ไม่ได้มีแค่กูที่พกยาสีฟันมาบีบให้ห้องน้ำล่ะวะ
เมื่อเจมกลับเข้าห้อง
นนท์ก็แต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาเสร็จแล้ว
เจมเอายาสีฟันคือรุ่นพี่
แล้วเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าของตน พอเห็นเสื้อกับกางเกงยังไม่ได้รีดก็สบถในใจ
...โอ๊ยยยย
ลืมรีด!
กะจะรีดเมื่อคืน
พอต้องหลบหน้ารุ่นพี่เลยลืมเลยแม่ง
"เจม
ลงไปกินข้าวเช้าด้วยกันไหม" เสียงนนท์เอ่ยชวนทำให้เจมต้องเก็บความฉุนเฉียวไว้
"ไม่เป็นไรครับ
ผมยังไม่ได้รีดเสื้อ พี่นนท์ไปกินก่อนเลยครับ"
รุ่นพี่หน้าหล่อพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหยิบกระเป๋าออกจากห้อง
เจมถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
...ใครจะอยากกินข้าวกะพี่ปีสี่วะ
เดี๋ยวโดนหาเรื่องไปว้ากอีก
รีบรีดแล้วรีบไปอาคารเรียนเลยดีกว่า
ค่อยซื้อขนมปังจากร้านใต้ตึกกินละกัน
เจมสรุปกันตัวเองแล้วเสียบปลั๊กเตารีดพร้อมกับดึงโต๊ะรีดผ้าจากใต้เตียงออกมา
ไม่นานเขาก็แต่งตัวชุดนักศึกษาเสร็จ
ไม่ลืมที่จะหยิบป้ายชื่อมาห้อย
เจมหวังว่าจะเจอรุ่นพี่อีกทีก็ช่วงเย็นตอนกลับหอพัก
ระหว่างวันอย่าให้ได้เจอเลย
แค่จินตนาการว่าได้เห็นหน้ากันที่ห้องทุกวันก็เต็มกลืนแล้ว
เขาเดินลงบันไดมาถึงชั้นล่าง
มีนักศึกษามากหน้าหลายตาเดินขวักไขว่
ส่วนใหญ่จะเป็นปีหนึ่งเพราะมีป้ายประจำตัวกันแทบทุกคน
ในจังหวะที่เจมเหลือบตามองไปทางเข้าโรงอาหาร
ก็เห็นจิรานนท์เดินออกมาพอดี เจมทำเสียงจึ๊กจั๊กในปาก
...อะไรจะดวงสมพงศ์กับพี่นนท์ขนาดนี้วะ
รีบเดินออกจากหอดีกว่ากู
คิดดังนั้นเจมจึงสาวเท้าแทรกใครหลายคนแถวนั้น
แล้วเดินปะปนกะนักศึกษาปีหนึ่งที่กำลงเดินไปเรียนทางเดียวกัน
เจมหันหลังกลับไปมองเป็นพักๆ
ก็เห็นว่ารุ่นพี่นนท์เดินตามมาห่างๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะเลี้ยวไปทางอื่น
ทำให้เขาเริ่มตื่นตูม
...อย่าบอกนะว่าไอ้พี่นนท์เดินตามกู
ตามทำไมวะ?
เย็นรุ่นพี่ปีสองนัดเก็บสมุดสะสมลายเซนนี่หว่า
คงไม่ใช่ว่าพี่ปีแก่จะเรียกว้ากนะเว้ย!
เหี้ยละ
กูตกเป็นเป้าแน่ๆ แล้วใช่ไหมเนี่ย!!
เมื่อกี้ก็ยืมยาสีฟันรุ่นพี่มาใช้
ถ้าถูกเอาไปว้ากเรื่องนี้กูไม่ต้องมุมดินหนีเลยเหรอวะ
โดนว้ากเรื่องยืมยาสีฟันเนี่ย
เจมจิตใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัว
ก้าวเท้าฉับๆ แซงคนอื่นจนไปถึงใต้อาคารเรียนรวมซึ่งเขามีเรียนที่นี่คาบแรก
พอเห็นร้านกาแฟก็เลี้ยวเข้าไปเพื่อหาซื้อขนมปัง
ผ่านไปไม่กี่นาทีเจมก็ได้ขนมปังกับนมกล่องรสช็อกโกแลตอย่างละหนึ่ง
เขาเดินไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์
ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งตรงประตูร้าน
"นนท์"
คนขายยิ้มให้คนที่เพิ่งเข้ามาในร้านอย่างยินดี ลืมยิงบาร์โค้ดไปชั่วขณะ
เจมหันไป
พบว่าเป็น 'นนท์' คนเดียวกะที่ตนกำลังเดินหนีอยู่
"พี่ณัท?" จิรานนท์เดินเข้ามายืนข้างเจม ทำหน้าเหมือนเห็นคนรู้จักที่ไม่ได้เจอมานาน
เจมเลิกคิ้วเล็กน้อย
...สองคนนี้รู้จักกันเหรอ?
"พี่ณัททำงานที่นี่เหรอครับ"
"พี่เซ้งร้านนี้ต่อจากญาติน่ะ"
ณัทพูดขณะนำขนมปังกับนมกล่องใส่ถุง แล้วหันไปแจ้งราคากับเจม
"สามสิบบาทครับ"
เจมนำแบ้งค์ยี่สิบกับเหรียญสิบยื่นให้
ก่อนจะรับใบเสร็จแล้วปลีกตัวออกมา
จังหวะที่เดินผ่านประตูหน้าร้านก็เหลือบเห็นป้ายประกาศรับพนักงานพาร์ทไทม์ของร้านนี้
เขาหยุดอ่านครู่หนึ่งแล้วรีบเดินขึ้นไปชั้นบนเพราะไม่อยากให้รุ่นพี่รู้ว่าเรียนห้องไหน
จิรานนท์ยังคงยืนคุยกับคนรู้จักต่อ
"งั้นก็ได้เป็นเจ้าของร้านกาแฟสมใจแล้วสิครับ"
"ใช่"
ณัทกล่าวยิ้มๆ "นนท์จะเอาอะไรไหม"
"อ๋อครับ
ผมขอ..." เขาหยุดมองรายการเครื่องดื่มบนผนังด้านหลังเค้าท์เตอร์ครู่หนึ่ง
"โกโก้ปั่นก็แล้วกันครับ"
"หืม? เรากินโกโก้ด้วยเหรอ
จำได้ว่าชอบชาเย็น ไม่ก็กาแฟ"
"อยากลองกินดู
จะได้รู้ว่าทำไมบางคนถึงชอบนักหนา" นนท์ทำสีหน้าคล้ายกำลังนึกถึงใครคนนั้น
ณัทเลิกคิ้ว
แต่ก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไร
พอทำโกโก้ปั่นเสร็จก็นำไปวางบนเค้าท์เตอร์
"แล้วนี่พี่ชายเราสบายดีหรือเปล่า พี่หาทางติดต่อไม่ได้เลยตั้งแต่กลับจากเรียนโท
เฟสบุ๊คก็ปิดแอคเค้าท์ไปแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น..."
ถึงศตคุณจะพูดไม่ชัดเจน
จิรานนท์ก็เดาออกว่าหมายถึงเรื่องไหน เพราะเขาก็รับรู้เหตุการณ์นั้นด้วย
"พี่นันท์เหรอครับ
ก็เห็นยุ่งๆ เพราะเพิ่งเข้าไปช่วยงานพ่อ เดี๋ยวผมให้เบอร์ไว้ละกัน"
"ดีเหมือนกัน"
ศตคุณบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนเก่าเรียบร้อย
พร้อมกับเห็นจิรานนท์ยื่นเงินค่าเครื่องดื่มให้
"ไม่ต้องหรอกนนท์
พี่เลี้ยง"
"ไม่ดีมั้งครับ
เพิ่งเปิดร้าน เดี๋ยวเจ๊งนะ"
"เอ้า
ไหงมาแช่งกันงั้นล่ะ รับๆ ไปเหอะ วันหลังมาอุดหนุนบ่อยๆ ก็แล้วกัน"
"งั้นก็ได้ครับ
เดี๋ยวจะมาอุดหนุนเป็นการชดเชยนะ" นนท์เก็บเงินแล้วคว้าแก้วโกโก้ไปถือ
"ลาละนะครับ ขอบคุณสำหรับโกโก้ครับพี่"
___________________________________________
พี่นนท์กลายเป็นรูมเมทของเจมซะได้ เจมจะทำไงต่อไปล่ะทีนี้ 555+
//เรื่องนี้เป็นแนวละมุนๆ มุ้งมิ้งๆ ค่ะ ><
[อัปเดท]
เห็นทักเรื่องพิมพ์ผิดคำว่า ตามสบาย --> ตายสบาย เยอะก็เลยเข้ามาแก้แล้วนะคะ อายจัง =////=
ความคิดเห็น