ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Meteor Garden

    ลำดับตอนที่ #2 : รักแรกของเล่ย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 93
      0
      20 ก.ค. 46

    Chapter 2: รักแรกของเล่ย

    เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน สมัยที่เล่ยยังเรียนอยู่ชั้นประถม เล่ยได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงที่มีความน่ารัก อ่อนหวาน เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวอยู่ในตัว เธอมีอายุแก่กว่าเล่ย 4 ปี เธอคนนี้มีนาม “เฉินกุ้ยเฟิน”  เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในตอนเที่ยงของวันหนึ่ง

        เฉินกุ้ยเฟิน: ทำไม น้องถึงมานั่งกินข้าวที่นี่ เงียบๆคนเดียวล่ะ



    ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากปากของเล่ย

        เฉินกุ้ยเฟิน: น้องคงจะอยู่ ป.1 สินะ [เธอสังเกตจากด้ายสีแดงที่ปักอยู่บนกลีบดอกไม้ 1 กลีบ บนปกเสื้อของเขา]  ในตอนแรกน้องอาจจะยังไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนนี้ แต่พี่เชื่อว่าอยู่ๆไป น้องจะรู้สึกสนุกกับการที่ได้มาโรงเรียน ได้มาพบปะกับเพื่อนๆ น้องจะได้เรียนรู้อะไรหลายสิ่ง หลายอย่างจากที่นี่  เมื่อจบออกไปพี่เชื่อว่าน้องจะไม่มีทางลืมโรงเรียนแห่งนี้ได้เลย



    เฉินกุ้ยเฟินเหลือบมองดูนาฬิกา เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเข้าห้องเรียนแล้ว เธอจึงพูดกับเล่ยว่า

        เฉินกุ้ยเฟิน: ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว น้องอยู่ห้องไหนล่ะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง

    เล่ยชูนิ้วชี้ขึ้นมา 1 นิ้ว แทนการให้คำตอบ  หลังจากที่เฟินได้ไปส่งเล่ยที่หน้าห้อง ป.1/1 แล้ว เธอก็พูดขึ้นว่า

        เฉินกุ้ยเฟิน: พี่ชื่อเฉินกุ้ยเฟินนะ เรียกพี่ว่า “เฟิน” ก็ได้ พี่เรียนอยู่ที่ห้อง ป.5/7 ถ้ามีปัญหาอะไรก็ขึ้นไปคุยกับพี่ได้นะ  ห้องของพี่อยู่ชั้น 3 ของอาคารนี้ล่ะ วันนี้พี่ขอตัวก่อนนะ บ๊าย บายจ้ะ



    หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ตอนพักกลางวันเฟินก็จะลงมานั่งกินข้าวและพูดคุยกับเล่ยที่ม้านั่งหินอ่อนข้างแปลงดอกไม้เป็นประจำ  เธอไม่เคยถามชื่อของเล่ยเลย เธอคิดว่าถ้าเล่ยอยากจะบอก เขาคงจะบอกกับเธอเอง เธอไม่อยากไปคาดคั้นเขา และก็เป็นไปดังที่เธอคาดไว้  เล่ยได้พูดกับเธอในวันหนึ่ง

        ฮัวเจ๋อเล่ย: สวัสดีครับพี่เฟิน ผมมานั่งรอพี่ตั้งนาน นึกว่าวันนี้พี่จะไม่มาแล้วซะอีก

    นั่นเป็นประโยคแรกที่ฮัวเจ๋อเล่ยพูดกับเฟิน เธอรู้สึกดีใจและเขินนิดๆที่ได้ยินเขาเรียกชื่อเธอ

        ฮัวเจ๋อเล่ย: ผมขอโทษนะครับที่ยังไม่เคยบอกชื่อเลย  ทั้งๆที่พี่มาคุยกับผมตั้งหลายวันแล้ว ผมชื่อฮัวเจ๋อเล่ย เรียกผมว่า “เล่ย” ก็ได้นะครับ  วันนี้แม่ของผมทำข้าวกล่องมาเผื่อพี่ด้วยล่ะ  ลองกินสิครับ



    เธอรับข้าวกล่องจากเล่ยไปรับประทาน เธอรู้สึกว่าข้าวกล่องนี้มีรสชาติที่พิเศษกว่าข้าวกล่องอื่นๆที่เคยทานมา นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าข้าวกล่องนี้ได้ผสมกับน้ำใจและรอยยิ้มที่สดใสของเด็กชายตัวน้อยๆคนนี้เข้าไว้ด้วยกระมัง เพราะขณะที่เธอรับประทานเธอสังเกตเห็นว่ามีรอยยิ้มเกิดขึ้นที่มุมปากของเล่ย  มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก  เมื่อเธอทานเสร็จ เธอจึงขอบใจเขา พร้อมกับพูดว่า

        เฉินกุ้ยเฟิน: พี่ดีใจมากเลยนะที่เล่ยพูดกับพี่ และพี่ก็ยิ่งดีใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นเล่ยยิ้ม เล่ยรู้ไหมว่ารอยยิ้มของเล่ยน่ะ มีเสน่ห์มากเลยนะ

        ฮัวเจ๋อเล่ย: เหรอครับ! งั้นผมจะยิ้มให้พี่ทุกวันเลยนะ  แบบนี้ไง  [แล้วเล่ยก็ยิ้มให้เฟินอีกครั้ง]

        เฉินกุ้ยเฟิน: ขอบใจมากนะเล่ย  วันนี้เป็นวันที่พี่มีความสุขมากที่สุดเลยล่ะ

    นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เฟินได้พูดกับเล่ย ก่อนที่จะแยกย้ายเข้าห้องเรียน



    หลายวันต่อมาที่สนามหญ้าของโรงเรียน

        เกาฟง: เฮ้ย! น้องคนนั้นน่ะ มาหาพี่หน่อยสิ  นาฬิกาข้อมือสวยดีนี่ พี่ขอยืมไปใส่เล่นสัก 2-3 วันได้ไหม



    เล่ยรีบเอาแขนที่ใส่นาฬิกาเรือนนั้นไขว้หลังทันที แล้วก็พยายามเดินเลี่ยงๆออกไป แต่สุดท้ายก็ถูกกลุ่มพวกของเกาฟงวิ่งไปดักข้างหน้า

        เกาฟง: ในเมื่อขอดีๆแล้วไม่ให้ ก็คงต้องใช้กำลังซะแล้ว

    เกาฟงพูดพร้อมกับกระชากคอเสื้อของเล่ยขึ้นมา  แต่โชคดีที่เต้าหมิงซื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงรีบวิ่งไปเรียกเหม่ยจั้วและซีเหมินให้มาช่วยเล่ย

        เต้าหมิงซื่อ: เป็นถึงรุ่นพี่ น่าจะทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องๆนะครับ  ไม่ใช่มาทำตัวไร้สาระไปวันๆแบบนี้

        เกาฟง: อ้าว! น้องคนนี้วอนโดนซะแล้ว  พูดอย่างนี้ก็สวยสิ

        เหม่ยจั้ว: ผมไม่สวยหรอกครับ ผมหล่อต่างหาก [เขาพูดพร้อมกับเอามือเสยผมและยักคิ้วข้างเดียว]



    การกระทำดังกล่าวทำให้เกาฟงยิ่งโมโหหนักขึ้นไปอีก  ถึงขั้นกำหมัดแน่นเตรียมจะชก  แต่แล้วก็ต้องชะงักและลดมือลงเมื่อเห็นใครคนหนึ่งเดินมา

        เกาฟง: สวัสดีครับ น้องเฟิน มาหาพี่เหรอจ้ะ

        เฉินกุ้ยเฟิน: จะบ้าเหรอ! ใครเขาอยากจะมาหานาย  ฉันน่ะจะมาตามน้องชายของฉันให้ไปเข้าเรียน  ฮัวเจ๋อเล่ย มาหาพี่สิ



    ฮัวเจ๋อเล่ยรีบวิ่งเข้าไปกอดเฟินพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้า

        เฉินกุ้ยเฟิน: ใครแกล้งเล่ย บอกพี่มาสิ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้  [เธอพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าพวกเกาฟง]

        เกาฟง: พวกพี่ เปล่าแกล้งนะ แค่แหย่เล่นเฉยๆ

    เต้าหมิงซื่อเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาจึงเล่าให้เฟินฟังโดยละเอียด

        เฉินกุ้ยเฟิน: ถ้าฉันรู้ว่าพวกนายแกล้งน้องชายฉันอีกล่ะก็  เตรียมตัวตายได้เลย

    เกาฟงรีบบอกเพื่อนๆให้รีบขึ้นห้องเรียนเพราะเขาไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงที่เขารัก  หลังจากที่พวกเกาฟงไปแล้ว  เฉินกุ้ยเฟินก็หันมาขอบใจพวกเต้าหมิงซื่อที่กล้าเข้ามาช่วยเหลือเล่ยพร้อมกับขอให้แต่ละคนแนะนำตัวเพื่อที่ว่าต่อไปเล่ยจะได้มีกลุ่มเพื่อนเสียที

        เต้าหมิงซื่อ: ผมชื่อเต้าหมิงซื่อ อยู่ป.1/3 ครับ

        เหม่ยจั้ว: กระผมมีนามว่า เหม่ยจั้ว สุดหล่อ อยู่ป.1/3 ห้องเดียวกับเต้าหมิงซื่อ ครับพ้ม

        ซีเหมิน: ผมชื่อซีเหมิน อยู่ ป.1/5 ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

        ฮัวเจ๋อเล่ย: ส่วนเราชื่อฮัวเจ๋อเล่ย เรียกเราว่า “เล่ย” ก็ได้ เราอยู่ ป.1/1 นะ

        เหม่ยจั้ว: เราว่าพวกเราน่าจะมีชื่อกลุ่มนะ  พี่เฟินช่วยตั้งชื่อกลุ่มให้พวกเราหน่อยสิครับ



    เฉินกุ้ยเฟินเหลือบไปเห็นดอกทานตะวัน 4 ดอก ที่ขึ้นอยู่ในกระถางข้างสนามหญ้า เธอก็บังเกิดความคิดขึ้นมา จึงบอกพวกเขาทั้ง 4 ว่า

        เฉินกุ้ยเฟิน: พี่ว่าพวกเธอน่าจะใช้ชื่อกลุ่มว่า “F4” ตัว F ย่อมาจากคำว่า Flower ที่แปลว่า ดอกไม้   ดังนั้นเมื่อมารวมกันจึงแปลว่า “ดอกไม้ทั้ง4” เพราะพี่เห็นว่าวัยของพวกเธอเป็นวัยที่ร่าเริง สดใส เหมือนดอกไม้ที่กำลังแรกแย้ม  พวกเธอคิดว่าชื่อนี้ดีไหม

        F4: ดีครับ



    หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาพอถึงเวลาพักเที่ยง เล่ยและพวกF3ก็จะมารวมตัวกันที่สนามหญ้าเพื่อเล่นกัน  ถ้าหากวันไหนที่เฟินมีการบ้านไม่เยอะ เธอก็จะเข้ามาร่วมแจมด้วย  เหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างนี้ทุกๆวันจนกระทั่งเฉินกุ้ยเฟินเรียนจบป.6 เธอก็ได้ไปสอบเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียน Yuen Chen (โรงเรียนเดียวกับพวกซานไช่) ซึ่งโรงเรียนนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนประถมที่เล่ยเรียนอยู่ ดังนั้น ทุกๆเย็นเฟินจึงสามารถเข้ามาหาเล่ยและอยู่พูดคุยกับเขาจนกว่าพ่อของเขาจะมารับกลับบ้านได้  แต่พอเล่ยจบป.6 เขาและF3 ก็ได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียน Chang Zheng  ด้วยความที่แต่ละคนต่างก็มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบมากขึ้น จึงทำให้เล่ยและเฟินไม่มีเวลาที่จะนัดพบเจอกัน มีเพียงแค่โทรศัพท์คุยกันเท่านั้น  และเมื่อเฟินเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาก็ยิ่งทำให้เฟินไม่ค่อยมีเวลา  ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขา ก็ดูจะห่างเหินไปอีก



    สำหรับเหตุการณ์ที่ทำให้เล่ยเศร้าโศกเสียใจนั้น มันเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ผ่านมา  เมื่อเฟินได้โทร.มานัดเล่ยให้ออกไปทานข้าวด้วยกันแล้วเมื่อเล่ยไปถึง เธอก็บอกกับเล่ยว่า

        เฉินกุ้ยเฟิน: เล่ย… ในวันเสาร์หน้า พี่จะหมั้นแล้วนะ

        ฮัวเจ๋อเล่ย: อะไรนะครับ! นี่ ผมคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม

        เฉินกุ้ยเฟิน: เล่ย… พี่อยากบอกเล่ยว่า ตั้งแต่วันแรกที่เราได้รู้จักกัน จนกระทั่งถึงวันนี้ ความรู้สึกที่พี่มีต่อเล่ยก็ยังคงเหมือนเดิม เล่ยยังคงเป็นน้องชายที่น่ารักของพี่เสมอ  พี่รู้นะว่าตอนนี้เล่ยคิดกับพี่อย่างไร  แต่พี่อยากให้เล่ยเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ก่อนเพราะในอนาคตข้างหน้า เล่ย อาจจะได้พบเจอผู้หญิงที่ดีกว่าพี่ก็เป็นได้ และเมื่อถึงเวลานั้นเล่ยก็ค่อยมอบความรู้สึกนั้นให้แก่เธอ  พี่ว่าอย่างนี้จะดีกว่าไหม



    ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากเล่ย  เขายังคงนั่งนิ่งเหมือนวันแรกที่เธอและเขาได้รู้จักกัน

        เฉินกุ้ยเฟิน: พี่อยากให้เล่ยเข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้ง 2 คนนั้น คงเป็นได้แค่ “พี่ – น้อง” กัน  ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้เป็นวันหมั้นของพี่  ส่วนงานแต่งนั้นจะมีขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้าหลังจากที่พี่เรียนจบ  เมื่อแต่งงานแล้วพี่กับครอบครัวก็จะย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา  เรา 2 คนอาจจะไม่ได้เจอกันอีก  ที่พี่นัดเล่ยออกมาในวันนี้ก็เพื่อจะมาบอกลา ( แต่ในความรู้สึกของเล่ยนั้น เขารู้สึกเหมือนถูกบอกเลิกมากกว่า)  เล่ย! พี่คงต้องไปแล้วล่ะ เพราะพี่นัดเพื่อนไว้อีก

        ฮัวเจ๋อเล่ย: เดี๋ยวครับพี่! คือ… เอ่อ… ว่างๆก็แวะมาหาผมบ้างนะครับ  ผมจะรอ

        เฉินกุ้ยเฟิน: อย่ารอพี่เลย เล่ยเองก็ยังมีโอกาสที่จะได้เจอกับผู้หญิงทีดีๆอีกตั้งมากมาย  อย่าปิดกั้นหัวใจตัวเองสิเล่ย  พี่ขอตัวก่อนนะ  บ๊าย บายจ้ะ

        ฮัวเจ๋อเล่ย(คิด): พี่เฟินเห็นเราเป็นแค่น้องชายจริงๆรึ  แล้วที่ผ่านมาเรียกว่าอะไร…  แต่ช่างเถอะ! ยังไงๆเราก็ต้องอยู่ให้ได้  ถึงแม้จะไม่มีพี่เฟิน  แต่เราก็ยังมีพวกเพื่อนๆ F3 นี่นา ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนยังไงก็คงไม่มีวันที่จะตัดขาดจากกันหรอก

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

        





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×