ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CAT COUPLE | แผน(ไม่)ลับฉบับเหมียวหง่าว

    ลำดับตอนที่ #4 : CAT COUPLE | Chapter 2 : แผนการลับสุดยอด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22
      0
      4 พ.ค. 58



    CHAPTER  2

                “จะเข้าไปได้ยัง =^=

                ฉันยืนตัวแข็งอยู่ข้างหน้าร้านคาเฟ่แมวโดยมีสายตาเพชรฆาตของยัยนีนจ้องอยู่ด้านหลัง  รู้มั้ยหลังจากที่ยัยนี่รู้ความจริงมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง T^T วันนั้นฉันแทบจะนั่งเรียนไม่ได้เลยด้วยซ้ำแถมยังต้องมานั่งฟังยัยนี่บ่นกรอกหูทั้งวันอีก  ฮือออ~

                ฉันมองเข้าไปในร้านบริเวณเคาท์เตอร์ก็พบกับผู้ชายบางคนที่ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนกำลังยืนเล่นกับเจ้าแมวตัวอ้วนอยู่สักพักแล้ว 

                “วันนี้เค้าคงไม่มาอ่ะ  เราฝากไว้กับผู้ชายคนนั้นก่อนก็ได้ T^T

                “ไม่ได้!! ต้องคลาวน์เท่านั้น!!” เสียงตวาดของเพื่อนรักดังลั่นไปทั่วซอยจนคนหันมามองทางเรา  ฉันจึงจำใจเปิดประตูเข้าไปข้างในก่อนจะรีบตรงดิ่งไปที่หน้าเคาท์เตอร์อย่างเร่งด่วน  พร้อมกับเจ้ายอรินในอ้อมแขน

                “ฝากแมวเหรอครับ” น้ำเสียงนุ่มๆ ของผู้ชายตรงหน้าดังขึ้น  ฉันพยักหน้าให้เขาเบาๆ แล้วรับเอาสมุดมาเซ็นต์ด้วยสีหน้าปกติ...ปกติจริงจริ๊ง TT^TT

                “อะ...เอ่อ  คลาวน์อยู่ไหมคะ” หลังจากที่เซ็นต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว  ฉันก็ถามหาเป้าหมายโดยทันทีทันใด

                “อยู่หลังร้านครับ  เดี๋ยวไปเรียกให้...”

                “ไม่ต้องค่ะ!” เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าแทบจะวิ่งไปหลังร้านทันทีที่ฉันถามถึงเค้า  ฉันจึงเสียงดังเกินไปหน่อยจนคนทั้งร้านหันมามอง พนักงานคนนั้นตกใจเล็กน้อยแล้วรับเอาเจ้ายอรินไป “ทำไงดีๆๆๆ”

                ฉันยืนลุกลี้ลุกลนอยู่หน้าเคาท์เตอร์สักพักหนึ่ง  พอมองไปที่หลังร้านก็เห็นพนักงานคนนั้นกำลังคุยกับคลาวน์อยู่  ตอนนี้เค้าอุ้มยอรินเอาไว้เรียบร้อยแล้ว  แต่พอมองออกไปตรงทางเข้าร้านก็เห็นยัยนีนยืนกอดอกมองตาขวางใส่ฉันจนขนลุกซู่  เหงื่อแตกพลั่กโดยไม่ต้องหาสาเหตุเลยทีเดียว

                “ถามถึงฉันทำไม” เสียงเรียบเย็นดังขึ้นที่ด้านข้างขณะที่ฉันยังเอาแต่มองไปทางยัยนีน  พอหันกลับมาอีกทีก็พบกับเข้ากับคลาวน์...กำลังยืนจ้องฉันอยู่

                ตึก...ตัก

                เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิมเมื่อฉันสบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทของเค้า  สายตาของเค้านิ่งมากเลย...นิ่งจนฉันเองก็ไม่รู้เลยว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่

                “นี่!” เหมือนฉันจะเหม่อเกินไปจนคลาวน์ต้องสะกิดเรียกดังๆ ฉันสะดุ้งแล้วกลับมามีท่าทีลนลานเหมือนเดิม “ฉันมีเวลาไม่ค่อยมากนะ  มีอะไรก็พูดมา”

                “อะ...เอ่อ...” ฉันอึกอักเกี่ยวกับเรื่องที่จะพูด  มันจะไม่ตื่นเต้นเลยถ้านี่ไม่ใช่คำสั่งของยัยนีน! “ฉะ...ฉัน...”

                “ติดอ่างรึไง  พูดดีๆ ดิ” เหมือนเขากำลังอารมณ์เสียเลยแหะ  แต่จะให้ทำไงได้อ่ะก็ฉันตื่นเต้นนี่นา T^T

                “ฉะ...ฉันชอบนาย!” พอจบประโยคก็เหมือนทุกคนถูกนัดกันมา  ทั้งร้านอยู่ในความเงียบมีแต่เสียงแมวร้องเหมียวๆ กับเสียงเครื่องปรับอากาศ...อึดอัดจัง

                “...” เค้าไม่พูดอะไรก่อนจะถอนหายใจออกมา  รู้มั้ยว่าสิ่งที่เขาพูดต่อจากนั้นคืออะไร “ขอโทษที ฉันมี แฟน แล้ว”

                ฉันเงยหน้ามองคลาวน์อีกครั้ง  คราวนี้ภายในดวงตาของเค้ากลับมองฉันอย่างจริงจังมากกว่าเดิม  แปลว่าสิ่งที่เค้าพูดออกมามันไม่โกหกเลยจริงๆ

                เพล้ง!

                ไม่ใช่เสียงหน้าแตกนะ...หัวใจแตกต่างหาก

                นานนับนาทีกว่าที่ยืนจ้องกันอยู่อย่างนั้น  คลาวน์ก็เดินกลับไปหลังร้าน  ทิ้งฉันเอาไว้หน้าเคาท์เตอร์คนเดียวอีกแล้ว

                แต่!

                ในที่สุด! ฉันก็ได้สารภาพความในใจของฉันออกไปแล้วถึงจะรู้สึกตื่นเต้นโคตรๆ ก็เหอะ  แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นเพียงแผนที่ฉันกับยัยนีนสองคนเป็นคนสร้างมันขึ้นมา  นี่มันแค่ของว่างแต่เดี๋ยวไม่นานอาหารจานใหญ่กำลังจะตามมาแน่!

                และถึงแม้ว่ามันจะเจ็บกับการสารภาพรักครั้งนี้  แต่มันก็ยังดีกว่าเก็บไว้อย่างที่ยัยนีนบอกก็แล้วกัน  (เพื่อนดูเป็นคนดีมากขึ้น (?))

                “เป็นไง?  ปฏิเสธใช่มั้ย” ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ  แล้วแสร้ง (?) ทำเป็นหน้าเศร้า

                “เจ็บโคตรอ่ะ T^T” ความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ  ยัยนีนเบะปากอย่างหมั่นไส้

                “อย่ามาเนียนย่ะ!  คนอย่างแกเจ็บเพราะผู้ชายไม่เป็นหรอก” พูดเหมือนกับว่าฉันไปทำให้ผู้ชายเจ็บมาแล้วเป็นร้อยคน -*-  ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อนนะเว้ย!

                “เรื่องจริง! ก็บอกแล้วไงว่าฉันเผลอไปชอบเค้าเข้าจริงๆ อ่ะ”

                “เออๆ เชื่อก็ได้  งั้นเราไปวางแผนอันต่อไปกันดีกว่า”  พอพูดเรื่องแผนขึ้นมา  หัวใจฉันก็พองโตรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีทันใด  ยัยนีนลากฉันไปที่มหาลัยเพื่อจะไปลงชื่อเข้าเรียน  ซึ่งในความเป็นจริง...วิชานี้ก็ไม่ได้เรียนกันหรอก = =

               

                @มหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่าน J

    “ยังดีหน่อยที่วันนี้อาจารย์แกไม่มา” เราสองคนมานั่งกินขนมกันต่อที่ข้างสนามฟุตบอล  เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงแล้วที่นั่งกันอยู่ตรงนี้  (เพราะอาจารย์ที่สอนไม่มา) แดดก็จ้าร้อนอบอ้าวจริงๆ เล้ย  “แล้วเมื่อไหร่มันจะมาวะเนี่ย T^T

    ยัยนั่นหมายถึงเชสเซอร์น่ะ

    พวกเรานัดมันมาทำแผนสำคัญที่จะเกิดขึ้นในเย็นวันนี้  คุณคงอยากรู้ใช่มั้ยล่ะว่าหมายถึงแผนอะไร...

    ไม่ต้องรู้หรอกขี้เกียจเล่า (กวนบาทา!)

    “ไปส่งฮันนี่มั้ง =3=” พอพูดจบยัยนีนก็ถอนหายใจพรวดเลยทีเดียว  ยัยนี่เป็นโรคหวงเพื่อนขั้นหนักน่ะ (แต่หวงฉันน้อยกว่าเชสเซอร์มากกก) กว่ายัยนีนจะลงตัวกับฮันนี่ได้  ทำเอาฉันกับเชสเซอร์แทบจะได้นั่งดูหนังฆาตกรรมโหดแน่ะ -[]-

    “โว๊ะ! อะไรก็ฮันนี่ๆ เพื่อนทั้งคนนั่งหัวโด่อยู่นี่  ยังไม่เคยสนใจเลย” เป็นเรื่องปกติที่พออากาศร้อนยัยนี่ก็ออกอาการบ้าเหมือนหมา

    “นี่ ช่างมันเหอะ  เดี๋ยวพอแกมีแฟนก็เป็นเหมือนมันนั่นแหละ”

    “พูดอย่างกับเคยมี”

    จุก...

    ยัยนี่เล่นฉันจุกไปหลายครั้งแล้วนะ  ครั้งไหนบ้างฉันไม่จำหรอกโว้ย  แต่มันแทงใจดำอ่ะก็จริงที่ฉันไม่เคยมีแฟนแต่ก็ใช่ว่าไม่เคยมีความรักมาก่อนนะ! และที่สำคัญถ้าฉันไม่เคยมีมันก็เหมือนกับฉันนี่แหละ!

    อย่าลืม...อากาศร้อนก็ทำคนให้บ้าได้เหมือนกัน

    “นินทาอะไรฉันรึเปล่า”  เสียงของเชสเซอร์ที่เพิ่งมาถึงดังขึ้น  ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นชุดซ้อมบอลเรียบร้อยแล้ว

    “พวกฉันไม่มีวันพูดถึงแกหรอก” โกหกทั้งเพ! ยัยนีนทำหน้าบูดแล้วหยิบขนมที่ถูกแกะไว้เข้าปาก  กินอีกแล้ว...ฉันเบื่อสภาพเพื่อนตอนกินจัง = =

    “เออ! แล้วเรียกฉันมามีอะไร” เชสเซอร์พูดกระแทกเสียงเล็กน้อย  เอาจริงๆ มั้ยตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านไปสวดมนต์แล้วอ่ะ  กลัวสงครามโลกจะบังเกิดขึ้น  T^T  คุณไม่รู้หรอกว่าเมื่อเพื่อนบ้าพลังกำลังทะเลาะกับเพื่อนแสนจู้จี้ขี้บ่นด่าเจ็บสภาพมันเป็นยังไง

    “ไปเป็นแฟนกับยัยเนโกะหน่อยซิ” ตรงๆ อย่างนี้เลยเหรอ? เชสเซอร์หน้าเหวอเล็กน้อยแล้วหันมามองฉัน  ฉันคนนี้ที่ไม่รู้จะทำยังไงก็ส่งยิ้มแหยๆ ไปให้มัน

    “เรื่องบ้าอะไรวะ  ฉันไม่อยากมีแฟนหน้าอกแฟบแบบยัยเนโกะหรอกนะ” ฉันข่มอารมณ์โกรธเอาไว้  หน้าอกแฟบแล้วไงฉันไปขโมยฟองน้ำแม่แกมาใส่รึไงเล่า!

    “ก็แค่แฟนหลอกๆ เองแก” ยัยนีนพยายามกล่อมเชสเซอร์ให้ตอบตกลง  สีหน้าหนักใจของเชสเซอร์ก็ทำให้ฉันสงสารไม่ใช่น้อย  แน่ล่ะ! เหยื่อทดลองของยัยนีนตอบจบก็เละกันทุกคน  “ถ้าแกไม่ตกลงฉันจะไปฟ้องยัยฮันนี่ว่าแกแอบไปม่อสาวหน้าคณะฉัน” ตอนไหนวะ?

    ถึงฉันจะไม่รู้อะไรแต่สีหน้าของเชสเซอร์ก็ชัดเจนเข้าไปอีกว่าเรื่องที่ยัยนีนพูดเป็นเรื่องจริง  มันอึกอักนิดหน่อยแต่ก็ยอมพยักหน้าตกลงแบบส่งๆ ให้พวกฉัน

    “แล้วถ้าฉันยอมทำ  แกจะให้อะไรฉันอ่ะ” การบังคับคนอย่างเชสเซอร์ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ  ถ้าไม่มีของมาแลกมันก็ไม่ทำหรอก

    “ทุกอย่างที่แกต้องการ  แกอยากได้อะไรฉันจัดให้หมด!” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของเชสเซอร์  ฉันว่าเรื่องที่มันจะขอต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่อ่ะ

    “โอเค” เมื่อคำตอบของเชสเซอร์ชัดเจนแล้ว  ยัยนีนก็เริ่มเล่าเรื่องของฉันทั้งหมดให้มันฟังรวมไปถึงแผนการ

    ฉันไม่รู้ว่าเชสเซอร์จะทำได้เนียนรึเปล่า  แต่ถ้าแผนลับของฉันแตกล่ะก็คนแรกที่จะเละต้องเป็นมันแน่นอน

     

    @CITTY CAF’E

                ตอนนี้ฉันยืนทบทวนแผนการอยู่กับเชสเซอร์ที่ปากทางเข้าซอย  พอลองชะโงกหน้าเข้าไปดูก็เห็นว่าเป้าหมายกำลังปิดร้านอยู่  ปกติเวลาเลิกเรียนของฉันกับเวลาปิดร้านคาเฟ่มันพร้อมๆ กันน่ะ  ฉันเลยได้รับเจ้ายอรินกลับบ้านตรงนี้บ่อยๆ

                “แกพร้อมรึยังเนี่ย” ฉันหันไปมองเชสเซอร์ที่ลุกลี้ลุกลนพิกลเหมือนกำลังระแวงอะไรบางอย่าง

                “พร้อมนานแล้วเว้ย  แต่มันตื่นเต้นนี่หว่า...” ฉันก็ตื่นเต้นนะแต่ทำไมไม่เป็นอย่างมันล่ะ  ฉันเลิกสนใจเพื่อนของตัวเองแล้วชะโงกหน้าไปดูใหม่ก็พบว่าเค้ากำลังจะเดินมาถึงตรงนี้แล้ว

                ฉันคว้ามือเชสเซอร์มากุมเอาไว้ บอกตามตรงเลยนะเกิดมายังไม่เคยจับมือผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยอ่ะ ฉันพยายามเล่นบทบาทคู่รักให้ได้มากที่สุดและหวังว่าคลาวน์จะเชื่อด้วยเถอะ

                “คลาวน์” ฉันเรียกชื่อของเค้าแล้วส่งยิ้มให้นิดหน่อย  คลาวน์หันมามองทางนี้ด้วยสีหน้าเย็นชาแบบเดิมก่อนจะเดินเข้ามาหา  ในแขนของเค้ามีเจ้ายอรินนอนหลับอยู่ด้วย “ขอบคุณนะคะ”

                “อืม” ฉันเดินเข้าไปรับเจ้ายอรินที่หลับปุ๋ยอยู่  พอเงยหน้าสบตากับเค้าก็ไม่พบว่าจะแสดงอะไรออกมาแม้แต่นิดเดียว “มีอะไรรึเปล่า”

                เพราะฉันมองเค้านานเกินไปคลาวน์เลยเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา  ฉันส่ายหน้าปฏิเสธแล้วหันหลังเดินไปหาเชสเซอร์ที่ยืนมองอยู่

                แต่จะให้จบแบบนี้น่ะเหรอ...

                “คลาวน์  นี่แฟนฉันชื่อเชสเซอร์” ฉันหันไปบอกเค้าอย่างอารมณ์ราวกับมีความสุขนักหนา  แต่เค้าก็ไม่แสดงทีท่าอะไรเลย

                “แล้วมาบอกฉันทำไม” พูดเสร็จก็เดินจากไป...ทำไมเค้าถึงชอบเดินหันหลังทิ้งฉันอยู่เรื่อยเลยนะ

                “คิกๆ” เสียงหัวเราะของเชสเซอร์ดังขึ้นข้างๆ รู้สึกว่าจะสนุกเหลือเกินนะ

                “ขำอะไร!” เพราะความเจ็บปวดที่ได้รับมาเมื่อกี้มันอัดแน่นอยู่ในอก  ฉันจึงระบายใส่เพื่อนตัวดีที่ยืนอยู่ข้าง

                “ขำแกไง  โดนผู้ชายทิ้ง  ฮ่าๆๆๆ”

                ปึก!

                ไม่รอให้มันขำจบหรอกฉันก็ซัดหมัดเข้าหน้ามันเต็มๆ เห็นฉันตัวเล็กแบบนี้แต่แรงฉันเยอะไม่ใช่ย่อยเลยนะ  เชสเซอร์ร้องโอดครวญเมื่อฉันเริ่มทุบ ตี ถีบ จิก ตบมันอย่างบ้าคลั่ง  โดยที่ไม่สนใจเลยว่าเจ้ายอรินที่นอนหลับอยู่นั้นจะตื่นขึ้นมารึเปล่า

                เจ็บแล้วพาลอ่ะ  เคยได้ยินมั้ย!?!



    ขอบคุณทุกเม้นท์นะคะ ^^
    ชาร์ปหน้าอัพวันพรุ่งนี้ค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะ
    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×