ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] -สายรหัส- |TAOHUN Feat.Kris CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #4 : Ep2 > รับน้อง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 125
      0
      2 ม.ค. 60

       “พี่ชานยอลครับ”

       “มีไร กูตกใจหมด” ชานยอลสะดุ้ง ก็จะไม่ให้เขาตกใจได้ไงมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแถมตอนนี้เขากำลังเตรียมการแกล้งน้องรหัสตุ๊ดกับน้องรหัสหน้าของไอ้แบคฮยอน

       “ขอโทษครับพี่ คือพี่ซูโฮหายไปไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้ก็ใกล้เริ่มงานแล้ว ผมไม่รู้จะทำไงแล้วเนี่ย” ไอ้ซูโฮมันไม่ใช่คนขาดความรับผิดชอบขนาดนั้น  ไปไหนของมัน แต่พอคิดอีกทีไม่มีมันก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ทำอะไรสะดวกมากขึ้น

       “เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงไปเตรียมเครื่องเสียงรอเลย”

       “ขอบคุณมากครับพี่” หลังจากที่รุ่นน้องวิ่งออกไป เขาก็หยิบสมาทโฟนเพื่อไลน์ไปบอกแบฮยอนให้เป็นพิธีกรพร้อมซูโฮโดยไม่ลืมอธิบายแผนการให้มันฟัง งานนี้สนุกแน่ๆ หึๆๆๆ

     

     

      “เอาละครับทุกคนได้เวลาเลิกงามยามดี พี่แบคฮยอนสุดหล่อคนนี้ก็ได้รับเกียรติมาเป็นพิธีกรแทนประธานนะครับ”

                   แปะ แปะ แปะ 

        เสียงตบมือดังไปทั่วห้องโดยเฉพาะของพวกผู้ชาย (?) ที่เป็นแฟนคลับของแบคฮยอน แต่นั่นก็ไม่ได้เรียกความสนใจของเซฮุนไปสักเท่าไหร่ ตอนนี้เขาสนใจเรื่องพี่รหัสของตัวเองมากกว่า เขายังคิดไม่ออกเลยว่าใคร จะถามคยองซูเจ้าตัวก็ดันหายไปอีก

       “เอาล่ะครับทุกคน ตอนนี้ให้น้องๆเดินไปหาพี่รหัสของตัวเองนะ ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าพี่รหัสของตัวเองเป็นใครให้เดินมาเวที” ตอนนี้ทุกคนเริ่มลุกขึ้นและเดินไปหาพี่รหัสของตัวเอง พอหันไปหาชานยอลที่นั่งข้างๆอีกคนก็หยักไหล่ให้แล้วเดินไปที่เวที ตอนนี้จึงเหลือเพียงเขานั่งอยู่คนเดียว ทำให้ต้องลุกขึ้นตามอีกคนไปอย่างไม่มีทางเลือก

       “ดูเหมือนจะมีสองคนที่ไม่รู้ว่าพี่รหัสตัวเองคือใครนะ พวกน้องรู้ใช่ไหมครับต้องโดนทำโทษ” แบคฮยอนเริ่มมีเสียงร่าเริงขึ้น เมื่อเห็นทุกอย่างเป็นตามแผนเขาจึงหันไปขยิบตาให้เทา

       “ครับ” เสียงชานยอลตอบ รอไม่นานนักห่วงจื่อเทาก็ขนของทุกอย่างขึ้นมา เซฮุนเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขเพราะโดนสายตาข้างล่างจ้องกันมามากมายคงเป็นเพราะความดังตอนนี้ด้วย

       “เอาละครับบทลงโทษก็คือ…..คือพวกน้องต้องแต่งหญิงแล้วเต้นเมียงูนะครับ ฮ่าๆๆๆ” หลังจากแบคฮยอนพูดบทลงโทษก็มีเสียงเชียร์มากมายดังมาจากด้านล่าง

       

           “เห้ย มึงเซฮุนแต่งหญิงด้วยวะ สวยแน่ๆเลย”

           “โอ้ยงานดี เซฮุนอปป้า”

        เสียงพูดคุยข้างล่างที่ดังขึ้นมายิ่งทำให้เซฮุนอยากหายตัวได้ เขาหันไปหาชานยอลเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ดูอีกคนจะไม่เดือดร้อนอะไรเลยสักนิด


        “นี่ชานยอล นายจะยอมแต่งหรอ” เซฮุนกระซิบอีกคน ตอนนี้อุปกรณ์ต่างๆเริ่มถูกหยิบออกมาจากถุงแล้ว ยิ่งเห็นวิกสีชมพูเขาก็เริ่มอยู่ไม่สุก

       “ไม่ยอม” ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น นั่นทำให้เซฮุนสบายใจไปอีกหนึ่งต่ออย่างน้อยเขาก็จะได้ตามน้ำ

       “รอช้ากันอยู่ทำไมละครับน้อง ทุกคนเขารอพวกเราอยู่นะ ใช่ไหมทุกคน”

       “ใช่!” เสียงตอบกลับมาพร้อมกันเสียงดัง

       “ถ้าน้องไม่แต่งกันเดี๋ยวพวกพี่ช่วยเอง” เป็นรุ่นพี่ที่เสิร์ฟน้ำพูดขึ้น ตอนนี้วิกสีชมพูมาอยู่บนหัวเซฮุนตอนไหนไม่รู้แม้เขาจะขัดขืนแต่ก็โดนอีกคนจับมือเอาไว้เสียก่อน  แค่นั้นไม่พอยังยื่นกระโปรงมาให้เขาอีก เมื่อมองหาตัวช่วยอย่างชานยอลก็ดันโดนความสูงอีกคนบังจนมิด ทำให้เขายอมแพ้และทำตาม

       

        “โอ้ย น่ารักมากอ่ะมึง”

       “เซฮุนหันมาทางนี้ที่รักกก”

    เสียงในห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนเขาเริ่มปวดหัว เมื่อจะมองออกไปก็พบภาพที่เหมือนถูกใครมาทำให้เบลอเต็มไปหมด

     

    'เซฮุนนา...ไฟวติ้ง!'


    'เบาๆหน่อย คนอื่นเขามองกันหมดเเล้ว'


    'ฮ่าๆ ดูนายทำหน้าดิ ยิ้มหน่อยน้า ยิ้มม"


    'ย๊า!'

     

        เสียงบทสนทนาที่ไม่คุ้นเคยวิ่งแล่นเข้ามาในหัวเหมือนกรอเทปไปมาอยู่อย่างนั้น ความสงสัย ความสับสนถูกตีรวมมัวไปหมด เหมือนมีความจำอะไรบางอย่างที่อยากจำได้แต่ถูกปิดกลั้นเอาไว้ ขาก้าวออกไปข้างหน้าโดยที่ร่างบางไม่รู้สึกตัว เซฮุนรู้แค่ว่าอยากจะออกไปจากความรู้สึกนี้ ภาพตรงหน้าค่อยๆเบลอขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    ปึก..

     

    "เซฮุน!"เสียงสุดท้ายที่เขารับรู้ ก่อนที่สติจะดับวูบไป

     

     

       "มึงไปพักไป เดี๋ยวพวกกูเฝ้าน้องเอง นายด้วยชานยอล"แบคฮยอนที่เดินเข้ามากับซูโฮหันไปพูดกับสองคนที่นั่งเฝ้าอยู่บนโซฟาตั้งแต่เกิดเรื่อง เทาตอนนี้ที่ดูซึมผิดปกติกับชานยอลถึงจะไม่แสดงออกอะไรแต่ก็รู้สึกได้ว่ากำลังคิดมากอยู่ไม่แพ้กัน

      "อืม" เทาเดินออกไปอย่างเหม่อลอยโดยที่ไม่มองหน้าเพื่อนสนิททั้งสอง พวกเขารู้ดีว่ามันคงรู้สึกผิดไม่น้อยกับเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น

       "ฝากเทาด้วยนะชานยอล" เสียงแบคฮยอน ทำให้คนที่กำลังเดินตามเทาออกไปหยุดชะงักแล้วพยักหน้าเชิงรับปาก เหตุการณ์วันนี้ทำให้แบคฮยอนมองชานยอลใหม่เพราะคนที่อุ้มเซฮุนลงตึกก็คือชานยอลนั่นเอง แถมเขายังได้บาดเจ็บตอนวิ่งแต่ก็ไม่บ่นสักคำจนแบคฮยอนต้องบังคับให้ไปทำแผล

       "แล้วผู้ปกครองน้องอ่ะมึง" แบคฮยอนพูดกับซูโฮขณะที่สายตามองไปยังคนที่นอนให้สายน้ำเกลืออยู่บนเตียงสีขาว

      "คงกำลังบินมาจากจีน”

     

       สายตาจ้องมองประตูอยู่นาน ด้วยความลังเล ก่อนหน้านี้เขาเห็นเทากับชานยอลออกมา ทำให้ต้องรีบวิ่งไปหลบที่กำแพง มือที่กำลังจะหมุนลูกบิดอย่างลังเลต้องชะงักขึ้นเพราะมีคนเปิดออกมาก่อน เผยให้เห็นคนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดที่นี่

       "คยองซู.." เสียงเรียบเอ่ยเรียกชื่อเขา ฟังจากน้ำเสียงคงเหนื่อยจากการวิ่งวุ่นจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้

       "มันตายยัง" คยองซูเลือกที่จะใช้คำพูดอีกแบบแทนที่จะถามว่าอาการเป็นไงบ้างเพื่อปิดบังความรู้สึกเป็นห่วงคนข้างใน

       "ถามแบบที่นายรู้สึกเถอะ" คำพูดที่เหมือนรู้ทุกอย่างของซูโฮทำคยองซูเริ่มหงุดหงิด

    "เหอะ" ได้แต่แค่นหัวเราะใส่และหันหลังเตรียมเดินออกไปแต่กลับถูกอีกมือดึงรั้งไว้ก่อน

    "อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อนนะ" สายตาอ้อนวอนของอีกคนที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว ทำให้หัวใจของร่างเล็กเต้นแรง เขากำลังใจอ่อนกับคนตรงหน้า

       "ซูโฮมาทำไรตรงนี้วะ อ้าวคยองซู"เสียงบุคคลใหม่ที่เดินออกมา ทำให้ซูโฮต้องรีบปล่อยมือเพื่อไม่

    ให้แบคฮยอนเข้าใจผิด แต่เขาไม่รู้เลยว่ามันทำให้อีกคนหงุดหงิดแค่ไหน

       "ผมขอตัวนะครับ"คยองซูรีบโค้งแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุด เขาไม่อยากรับรู้อะไรมากกว่านี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงร้องไห้หนักแต่ตอนนี่เขากลับไม่มีน้ำตาเลยสักนิด

     

                       เขาชินกับมันแล้วล่ะ

       กับความสัมพันธ์ที่ต้องเก็บเป็นความลับ เขาจึงเลือกที่จะเดินออกมาจากจุดนั้น เลือกที่จะเจ็บแทนที่จะเป็นคนโง่

     

       มือเล็กโบกเรียกแท๊กซี่อยู่นานก็ต้องถอนหายไปออกมาเพราะไม่มีรถคันไหนจอดรับเขาเลย คงเป็นเพราะเวลานี้อาจจะหมดกะแล้วก็ได้

       "คนไข้เพิ่งออกจากโรงพยาบาลใช่ไหมครับ  ขึ้นมาสิเดี๋ยวผมไปส่ง" ชายแปลกหน้าที่เปิดกระจกออกมากวักมือเชิญชวน

       "ไม่.."

       "ผมเป็นแพทย์ฝึกหัดที่นี่ไม่ต้องกลัวไปหรอก" เสียงอีกคนดังแทรกมาก่อนพอรู้ว่าคนตัวเล็กจะปฎิเสธ มือเขายื่นบัตรประจำตัวให้ดู คยองซูยืนลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปนั่งข้างคนขับ ปกติเขาไม่ไว้ใจใครง่ายๆหรอกนะแต่เพราะเขาต้องรีบจริงๆจึงไม่มีทางเลือกสักเท่าไหร่

       "ว่าแต่จะไปไหนหรอครับ" คนขับรถอยู่ถามขณะที่สายตายังมองไปยังถนน

       "ที่XXครับ" คยองซูตอบออกไป แล้วนั่งตัวเกร็งเนื่องจากไม่คุ้นเคยกับรถและเจ้าของรถ

       "นั่งตามสบายเลยครับ รถนี้ผมก็เช่ามา" เสียงติดตลกที่ทำลายความเงียบ พร้อมกับลักยิ้มรูปสวยที่ถูกเผยออกมา

       "เอ่อ.. จริงๆผมไม่ใช่คนไข้หรอกครับ"คยองซูสารภาพออกไป เขาเห็นคนข้างๆทำดีแล้วเขายิ่ง

    รู้สึกผิด

       "ผมรู้น่า" คำตอบที่ผิดคาดทำให้คยองซูขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ร่างเล็กเริ่มขยับออกกห่างไปจนชิดประตูแล้วรีบถอดสายเบลออก

       "จอดรถ"

       "เฮ้ย ใจเย็นๆ พี่มาดี" สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองเปลี่ยนไปพร้อมกับละมือข้างนึงยกขึ้นมาเชิงปฎิเสธ

       "คุณต้องการอะไร" คยองซูเค้นเสียงแข็ง เขาเริ่มไม่ไว้ใจอีกคนมากขึ้น

       "ก็พี่เห็นเราดุ่มดุ่มมองๆอยู่หน้าห้องคนไข้ของพี่ พอออกเวรก็เจอเราโบกรถที่ป้ายนี่แหละ แค่อยากช่วย เท่านี้จริงๆ" แม้คำตอบจะดูไม่สมเหตุสมผลแต่เเววตาที่มองมาทำให้คยองซูมั่นใจว่าไม่คงโกหก ร่างเล็กขยับมานั่งตามปกติ ทำให้คนที่กำลังขับรถยิ้มออกมา

       "แล้วพี่ไม่กลัวว่าผมเป็นคนไม่ดีบ้างรึไง"

       "ไม่หรอก  พี่คิดว่าเราอยากมาเยี่ยมแต่ไม่กล้าเข้าไปมากกว่า" หมอหนุ่มนึกภาพที่เห็นคนตัวเล็กอยู่หน้าห้องคนไข้ของเขาสีหน้าเคร่งเครียดเพราะความเป็นห่วง

       "แล้วอาการเขาเป็นไงบ้างหรอครับ"

       "ก็ผลขีดอันตรายและแหละ แต่คงต้องใส่เฟือกที่แขนไปหลายเดือน เราสองคนเป็นเพื่อนกันรึไง"

       "ก็ไม่เชิงหรอกครับ..จอดตรงหน้าซอยก็ได้ครับเดี๋ยวผมเดินเข้าไปเอง"

       "อ่าๆก็ได้ นี่เบอร์นามบัตรพี่ ถึงแล้วส่งข้อความมานะ"คยองซูหันไปรับอย่างงงๆ ทำไมต้องทำดีกับเขาขนาดนี้ด้วย

     

    นักศึกษาแพทย์

    'จางอี้ชิง'

    09-×××-×××××

     

       คนจีนงั้นหรอ เขามองไล่หลังรถวีออซสีขาวที่ขับออกไป คยองซูเก็บนามบัตรใส่กระเป๋าและเดินลัดเลาะตามซอกตึกเก่าๆ ทางเดินที่ทุรกันดารทำให้เขาเผลอสบถออกมา ก่อนที่ปลายเท้าจะหยุดลงอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่สไตล์ก่าหลีโบราณเหมือนหลุดออกมาจากหนังยุคโชซอน

       "คุณยายระวังสิครับ"  คยองซูรีบเดินไปประครองคนแก่และแอบดุที่เดินมาหาตนด้วยตัวเองเพราะเธอตาบอด มือที่เหี่ยวแถมยังมีรอยแผลจากการจักรสานเอื้อมมาจับหน้าร่างเล็กเพื่อเช็คว่าคนตรงหน้าใช่คยองซูจริงรึเปล่า

       "คยองซูจริงๆด้วย แล้วลู่หานละ ลู่หานกลับมาด้วยไหม" ชื่อบุคคลใหม่ที่ถูกเอ่ยออกมาทำให้ร่างเล็กเเววตาเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด

       "อีกไม่นานหรอกครับ คุณยายกินข้าวก่อนนะผมซื้อมาฝาก" เขารีบเปลี่ยนเรื่องด้วยน้ำเสียงร่าเริง ถึงจะเกลียดการโกหกที่สุด แต่เพราะสถานการณ์บังคับเขาจึงต้องเลือกทำมัน

     

     

          ม่านตาค่อยๆเบิกกว้างก่อนจะหลับตาและลืมใหม่อีกรอบเพื่อปรับแสง เพดานสีขาวที่ไม่คุ้นเคย

    บงบอกได้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านเขาแน่นอน เหตุการณ์รับน้องแล้วเสียงที่พี่รหัสเรียกชื่อเริ่มทำให้พอเข้า

    ใจว่ามาอยู่ที่นี่ได้ไง

      "ฟื้นแล้วหรอคะ" นางพยาบาลชุดสีขาวยิ้มหวานให้พร้อมกับปรับเตียงขึ้น เมื่อเริ่มขยับตัวก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด สาเหตุคงมาจากแขนข้างซ้ายที่ถูกพันเฝือก

       "ค่อยๆขยับสิ เดี๋ยวหักอีกรอบจะได้ใส่ต่อไปอีกหลายเดือนแน่" เสียงบุคคลที่เข้ามาใหม่ดังขึ้น พยาบาลสาวรีบโค้งให้ก่อนจะออกไปทำหน้าที่อื่นต่อ "ผมชื่ออี๋ชิงเป็นแพทย์ของคุณเอง อาการเป็นไงบ้างครับ"

       "แล้วผมนอนที่นี่นานยังครับ ผมจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่" เซฮุนไม่ได้สนใจคำถามของหมอหนุ่มหน้าหวานสักนิด เขากลับยิงคำถามรัว ที่ใครฟังก็รู้ว่าอยากออกไปจากที่นี่เต็มที่

       "ใจเย็นสิครับ คุณควรตอบคำถามผมก่อนนะ" ประโยคหลังที่พูดเหมือนเเกมบังคับ ทำให้ยอมทำตามที่อีกคนบอก

      "ผมแค่เจ็บเเขน" เซฮุนพูดพรางเอามือข้างที่ปกติชี้เฝือก โชคดีนะที่เขาถนนัดขวาไม่งั้นคง

    ได้หยุดเรียนไปอีกนานเลย

      "คุณพอจำได้ไหมว่าตกมาได้ไง จากที่ฟังเพื่อนๆคุณเล่า ผมคิดว่าคุณกลัวเสียงดังหรือสถานการณ์

    อึดอัดแต่ก็ยังฟันธงไม่ได้" เสียงอีกคนดูจริงจังมากกว่าเดิม

       "ผม...ผมแค่เหมือนได้ยินเสียงพูดของผมกับใครไม่รู้เต็มไปหมด แต่ผมจำได้ว่าใคร"เซฮุน

    ตอบออกไปเท่าที่จำได้

       "โอเคครับ ผมจะลองหาเคสที่คล้ายกันเพื่อบอกได้ว่าคุณเป็นอะไร  แต่วันนี้ผมยังปล่อยกลับบ้านไม่ได้นะ" เสียงอี๋ชิงเหมือนดับฝันเซฮุน ใบหน้าเซ็งเบื่อโลกเริ่มกลับมาอีกครั้ง

       "แล้วที่บ้านผมละครับ" เซฮุนอดถามไม่ได้ ถ้าป๋าเขารู้คงเป็นห่วงแน่ๆ

       "หมายถึงเฮียคนนี้ป่าว" เสียงบุคคลที่สามแทรกเข้ามา ใบหน้าเรียวบวกกับจมูกเป็นสัน ริมฝีปากบางยิ้มให้พร้อมกับเซตผมสีขาวเบาๆ ถ้าไม่หล่อบอกเลยว่าใครก็ทำไม่ขึ้น ณ จุดนี้โอเซฮุนเข้าใจและอดอิจฉาไม่ได้

       "เฮ้ย มาได้ไงเฮียอู๋ แล้วป๋าละ"น้ำเสียงที่ตกใจผสมกับดีใจไม่บอกก็รู้ว่าไม่ได้เจอกันนานแค่ไหน

       "ป๋าไปทำธุระด่วนที่จีนเลยส่งเฮียมาแทน อาการเขาเป็นไงบ้างครับ" เฮียอู๋หรืออู๋อี๋ฟานตอบน้องชายก่อนที่จะหันไปถามอาการกับหมอ ถึงเซฮุนจะไม่ใช่น้องแท้ๆแต่ด้วยความผูกผันมานานอี๋ฟานจึงรักเซฮุนยิ่งกว่าน้องแท้ๆซะอีก

       "ไว้ผมจะนัดคุยอีกทีน่าจะดีกว่า ผมขอตัวนะครับ" อี๋ชิงโค้งตัวให้ก่อนจะเดินออกไป

       "เฮียจะกลับมาอยู่เลยไหม" เซฮุนถามขณะที่มือก็ยกเฝือกเล่นไปมา ระหว่างที่คุยกับอี๋ชิงเขาเริ่มรู้สึกชินกับมันมากขึ้น แถมพอคิดถึงหนังเรื่องไออนเเมนที่เคยดูก็อดเอามาเล่นไม่ได้ ซึ่งด้านเด็กๆแบบนี้คงจะมีอี๋ฟานคนเดียวที่ได้เห็น

      "ก็ว่าอยู่ ช่วงนี้พักร้อนอยู่ด้วยจะมาสอยสาวไปสักสองสามคน โอ้ย!" อี๋ฟานร้องขึ้นเมื่อโดนแอปเปิ้ลที่อยู่ข้างเตียงขว้างใส่คงไม่ใช่ใครนอกจากโอเซฮุน

     "สมน้ำหน้า หูดำเอง ฮ่าๆ"

     "คิดว่าทำได้คนเดียวหรอฮึ"  อีกคนเดิมเขามาโยกหัวเซฮุนไปมา ทั้งสองหัวเราะเล่นกันสนุก โดยไม่ทันสังเกตใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง


    PS. สวัสดีค่ะทุกคนที่เขามาอ่านถึงตอนนี้ ตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ไรต์ถามว่าจะมีใครอ่านต่อไหมแล้วไรต์ก็ไม่ได้จับคอมอีกเลยทำให้ไม่รู้ว่ามีคนมาเม้นด้วย ไรต์ขอโทษจริงๆนะที่มาช้า ไม่รู้ยังจะมีคนอ่านเรื่องนี้อยู่ไหม แต่ถ้ามีใครยังอ่านก็ขอบคุณมากจริงๆน้า อีกอย่างหนึ่งถ้ามีตรงไหนผิดพลาดขออภัยณที่นี้เลยเพราะไรต์ล้างคอมทำให้ฟิคที่แต่งไว้หายไรต์เลยดลสดบ้างและมีที่สำรองไว้ในเว็บบ้าง ซึ่งอาจจะมีภาษาหรืออะไรที่ไม่คล้ายเดิมอาจจะเป็นเพราะหนึ่งปีที่ผ่านมาการเขียนของไรต์ก็เปลี่ยนไปแต่จะพยายามทำมันให้ดีนะคะ 

            ที่ไรต์อยากกลับมาจริงๆก็คงคิดถึงเทาฮุนแหละ สองคนนี้เวลาอยู่ด้วยกันทำให้ไรต์รู้สึกชอบมากแต่ถามว่าเมนใครคงบอกว่า คยองซู55555 เอาเป็นว่าต่อให้ไม่มีมม.ของคู่นี้หรืออะไรก็ขอให้คนที่มาอ่านฟิคไรต์และชิปคู่นี้มีความสุขไปด้วยกันกับไรต์และตัวละครที่ไรต์สร้างมาเนอะ ยังไงช่วยคอมเม้นเป็นกลจ.ให้เค้าด้วยน้า ขอบคุณค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×