ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักพนันหัวใจ คุณชายขี้เก๊ก

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5+++ยัยนกหวีดตัวต้นเหตุ (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 478
      0
      27 พ.ค. 49

    หลังจากกรอกใบสมัครเสร็จนายชินจีก็บอกว่าจะเอาไปให้รุ่นพี่แล้วก็ปล่อยฉันนั่งในห้องศิลปะอยู่คนเดียว ฉันเดินสำรวจรอบๆ ห้องแล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นที่ที่น่าอยู่ดีจริงๆ มันทั้งเงียบทั้งสงบ แถมยังไม่มีเสียงกรี๊ดๆ น่ารำคาญอีก ฉันเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปสะดุดอะไรบางอย่างเข้า ทำให้ฉันล้มโครมไม่เป็นท่า

    "โอ้ยยย อะไรเนี่ย" ฉันร้องลั่น เพราะตอนที่ฉันล้มลงของบางอย่างตกใส่หันฉันด้วย

    ทำไมของทุกอย่างต้องตกใส่หัวฉันนะ

    อ่ะ นี่มัน ไม้เค้นโด้นี่

    ฉันจับไม้เค้นโด้ขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ว้าวววว เหมาะมือดีจัง ทำไมไม้เค้นโด้ถึงมาอยู่ในห้องศิลปะได้ล่ะ แถมยังถูกวางไว้จนฝุ่นเกาะแบบนี้อีก ให้ตายซิ พวกนี้ช่างไม่รู้จักของดีเอาซะเลย

    ฉันกระชับไม้ในมือก่อนจะออกท่าทางการเล่นเค้นโด้อย่างสนุก สนุกซะจนไม่ได้สังเกตว่ามีคนยืนมองอยู่

    "เธอเล่นเค้นโด้ด้วยเหรอ?"

    ฉันหันไปมองตามเสียงทันที แต่ฉันก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าใคร ก็เขาพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นนี่

    "อืม ฉันเป็นแชมป์ระดับภูมิภาคด้วยนะ ถ้าไม่ติดว่าความซ่าส์ของฉันที่ชอบมีเรื่องทุกวี่ทุกวันล่ะก็ ฉันคงเป็นแชมป์ระดับประเทศแน่ๆ" ฉันพูดอย่างภูมิใจ

    "เก่งขนาดนั้นเชียว ฉันเองก็เคยเล่นนะ พ่อเคยสอนฉันตอนเด็กๆ แต่พอเล่นไปนานๆ มือมันด้านก็เลยเลิกเล่น" ยูจิพูดพลางเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ ฉัน

    "แต่ฉันว่ามันสนุกดีนะ" ฉันพูดก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เขา

    "เป็นผู้หญิง มือด้านมันไม่ดีหรอกนะ" เขาพูดอีก

    "โอ้ยยย อย่างฉันใครจะสนใจ"

    "อย่างน้อยก็มินโซล่ะคนนึง" เขาพูดพลางยิ้ม

    "โอ้ยยย อย่านะ อย่าพูดถึงนายนั่น ฉันไม่เอาด้วยหรอก ว่าแต่พวกนายนี่จับกลุ่มกันได้ดีจริงๆ หล่อยกแก๊ง"

    "ฉันไม่ได้คบพวกนั้นเพราะพวกนั้นหน้าตาดี ฉันคบเพราะทุกคนเป็นคนดีจริงๆ พวกนั้นนะเป็นเพื่อนที่ดีสุดๆ" ยูจิพูดปกป้องเพื่อนเต็มที่

    "เอาเหอะ ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี้นะ?"

    "ฉันอยู่ชมรมนี้ เธอไม่รู้เหรอ?"

    "ไม่ นายนั่นไม่เห็นบอกอะไรฉัน" ฉันโบ้ยความผิดไปให้คนที่ไม่อยู่

    "ทำไมเธอชอบโบ้ยความผิดให้ฉันอยู่เรื่อย" เสียงของคนถูกป้ายความผิดดังขึ้น แต่ที่น่าแปลกก็คือ เขาพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น

    "ไม่ต้องตกใจ ชินนะ พูดได้ตั้ง 3 ภาษา เขานะอัจฉริยะตัวจริง" ยูจิอธิบายทันทีที่เห็นฉันทำหน้างง

    อะไรกัน นายนะจะ perfect ไปแล้วนะ มีที่ไหนกันเนี่ย รูปหล่อน่าหม่ำ แถมยังเก่งโคตรๆ แบบนี้ นายต้องเล่นเส้นกับพระเจ้าแน่ๆ ตอนที่ท่านจะส่งนายมาเกิด

    "นายว่างแล้วเหรอถึงมาได้?" นายชินจีไม่สนใจฉันหันไปคุยกับยูจิแทน

    "อืม ที่ชมรมดนตรีวุ่นวายซะอยู่ไม่ไหว คงมีแต่มินโซคนเดียวที่ชอบ"

    "คงงั้น ว่าแต่เธอไปเอาไอ้นั่นมาจากไหน?" จู่ๆ เขาก็หันมาถามฉัน

    "เอามาจากไหนเกี่ยวอะไรกับนาย มันคงไม่ใช่ของนายอีกใช่มั้ย ถ้างั้นฉันจะถือว่ามันเป็นของฉันนายคงไม่ว่า" ฉันพูดตัดตอนแบบไม่รอคำตอบ

    นายชินจีมองฉันอย่างอึ้งๆ กับอาการขี้ตู่ของฉัน ส่วนยูจิก็นั่งหัวเราะตามระเบียบ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ไม่ว่าอะไรนายยูจิคนนี้ก็มักเห็นเป็นเรื่องตลกไปได้

    "เธอไปไหนมานะ?" ทันทีที่ฉันเจอชินอาอีกครั้ง เธอก็ถามฉันทันที

    "ไปสมัครกิจกรรมนะซิ" ฉันตอบ

    "เธอไปสมัครที่ไหน เธอรู้มั้ยว่าชมรมดนตรีนะเต็มหมดแล้ว นี่ถ้าไม่ได้คองมินโซล่ะก็ ฉันไม่ได้เข้าไปแน่ๆ แต่เขาล็อกที่ไว้ในเธอด้วยนะ"

    "ใครเขาอยากเข้า ฉันเข้าชมรมศิลปะแล้ว" ฉันตอบอย่างไม่สนใจสีหน้าตกใจของชินอา

    "เยี่ยม!!!" แทนที่ชินอาจะตกใจจนอยากตาย เธอกลับทำหน้าดีใจจนตัวสั่น

    "อะไรของเธอ?"

    "แม้ อยากอยู่ใกล้ๆ เจ้าชายซินะ เอาเป็นว่าฉันเข้าใจล่ะกัน ว่าแต่เธอไปเอาไอ้นั่นมาจากไหนนะ ทำไมไม่ทิ้งไปล่ะ" ชินอาชี้ไปที่ไม้เค้นโด้

    "ไม้เค้นโด้นะ ฉันเจอที่ชมรมศิลปะ ก็เลยอิบมาเป็นของตัวเองซะเลย"

    ชินอามองฉันด้วยดวงตากลมโตอีกครั้ง ฉันว่าก่อนจะจบมหาลัย ฉันคงทำยัยนี่ตกใจตายก่อนแน่ๆ

    "เธอคงไม่ได้เล่นกีฬาสุดโหดนั่นหรอกน่ะ"

    "กีฬาสุดโหด เค้นโด้เนี่ยนะ!"

    "อืม ก็ทุกคนเอาแต่ตีกัน ท่าทางเจ็บจะตาย"

    "เราไม่ได้ตีกันแบบนั้นซะหน่อย ก็แค่แสกหน้าได้แต้ม ลำตัวได้แต้ม อะไรประมาณนั่น การตีแสกหน้าฉันก็ไม่ได้ตีหัวคู่ต่อสู่แบะซะหน่อย แถมการตีลำตัว ฉันก็ไม่ได้ตีซี่โครงใครหักนี่" ฉันอธิบาย แต่รู้สึกคำอธิบายของฉันมันดันไปเพิ่มจิตนาการสยดสยองในหัวของชินอาขึ้นอีก

    "เธอคิดว่าการทำให้คนอื่นบาดเจ็บเนี่ย มันสนุกเหรอ" ชินอาถามพร้อมพยายามกลืนน้ำลาย

    "มันก็ไม่สนุกหรอก แต่กีฬาก็คือกีฬา แต่บางทีกีฬาก็มีประโยชน์ ตอนฉันอยู่ที่ญี่ปุ่นฉันก็ใช้ประโยชน์จากเค้นโด้ประจำ" ฉันพูดแล้วก็ต้องนึกถึงชีวิตสมัยม.ปลายของฉัน

    มันช่างเป็นชีวิตที่สนุกสุดๆ ไปเลย แถมยังไม่น่าเบื่อเท่าตอนนี้ด้วย

    "เธอคือโอซากะ วายะ ใช่มั้ย?" เสียงผู้หญิงคนนึงถามขึ้นด้านหลัง

    ฉันหันไปมองเธอแล้วก็ต้องอึ้งทันที

    ฉันรู้ว่าเด็กที่ญี่ปุ่นแต่งตัวกันแปลกๆ ออกจะพิศดารด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่เคยเห็นใครแต่งตัวได้โป๊ขนาดนี้เลย เธอเล่นใส่สายเดี่ยวที่แสนจะน่าหวาดเสี่ยว ก็มันผ่าลงมากลางอกลึกซะจนไม่ต้องใส่ก็มีค่าเท่ากัน ส่วนกระโปรงหนังสีดำที่ดูยังไงก็เหมือนคนซื้อจะขาดทุนในการซื้อผ้า ก็มันตัวกระจิ๊ดเดียวเองนี้ ถ้ายัยนี่ก้มล่ะก็ รถพยาบาล รถตำรวจ รถดับเพลิงได้วิ่งกันวุ่นไปหมดแน่ๆ

    "ฉันถามว่าเธอคือโอซากะ วายะ ใช่มั้ย" เธอถามขึ้นอีก

    "ถ้าใช่แล้วไง"

    "อย่ายุ่งกับคังชินจี เขาเป็นของฉัน เพราะฉะนั้นฉันขอเตือน ไม่ว่าเธอจะอ่อยเขายังไง เขาก็ไม่เห็นหัวเธอหรอก" เธอพูดพร้อมมองฉันอย่างเหยียดๆ

    "อ้อ งั้นเหรอ เขาเป็นของเธอ เธอแน่ใจรึเปล่าที่พูด เขาเคยโทรหาเธอเองเหรอ เขาไม่เคยทำท่าเบื่อเธอเลยใช่มั้ย ถ้าเขาเห็นยูนายองเขาจะไม่ทิ้งเธอใช่มั้ย" ฉันพูดอย่างโมโห ถึงฉันเพิ่งย้ายมาที่นี้ แต่เพราะเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รางวัลนักข่าวยอดเยี่ยม เพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องอะไรในมหาลัยที่ฉันไม่รู้

    "แก กล้าดียังไงถึงพูดกับฉันแบบนี้" แล้วเธอร้องกรี๊ดซะดังลั่นจนฉันต้องรีบยกมือขึ้นอุดหู ก่อนที่ตัวเองจะหูหนวก

    "เธอกินนกหวีดเข้าไปรึไง ถึงได้ร้องเป็นหวี๊ดๆ อยู่ได้ น่ารำคาญ ชินอาไปกันเถอะ อยู่ที่นี้นานๆ ได้กลายเป็นนักวิ่งทีมชาติแน่" ฉันพูดพลางลุกขึ้นยืน

    "ทำไมต้องนักวิ่งทีมชาติล่ะ?" ชินอาถามฉันทันที

    "ก็เพราะมีนกหวีดดังอยู่ข้างหูนะซิ เดี๋ยวก็ เตรียมวิ่ง ระวัง กรี๊ด" ฉันร้องกรี๊ดเรียนแบบยัยผู้หญิงงี่เง่าที่เอาแต่ร้องกรี๊ดๆ อยู่ได้

    แต่แทนที่ยัยนั่นถูกด่าแล้วจะหยุดกรี๊ด เธอกลับยิ่งกรี๊ดหนักเข้าไปใหญ่

    เอาเข้าไปยัยนี่ ท่าจะบ้า ถ้ากรี๊ดแบบนี้ทำไมไม่ไปทำอาชีพรับจ้างกรี๊ดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เดี๋ยวนี้เขายิ่งต้องการหน้าม้ามากรี๊ดดาราอยู่ถมไป

    ฉันมองยัยนกหวีดอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะฉุดมือชินอาให้ออกเดิน

    "เธอไปว่าเฮมีแบบนั้น เดี๋ยวก็เป็นเรื่องใหญ่หรอก" ชินอาพูดขึ้นทันทีที่เราเดินห่างออกมาจากยัยกรี๊ดๆ

    "เฮมี ใคร? ยัยนั่นอ่ะเหรอ เรื่องใหญ่ แค่ไหนล่ะพอทำให้ฟ้าถล่มโลกทลายรึเปล่า หรือแค่ยัยนั่นกรี๊ดจนหมดสติเพราะฉัน" ฉันตอบอย่างไม่ใส่ใจ

    "ไม่ใช่ เฮมีเป็นสุดยอดของสาวฮอตถ้าไม่นับยูนายองนะ พวกผู้ชายที่ชอบเฮมียินดีทำทุกอย่างที่เธอต้องการ ฉันอยู่โรงเรียนเดียวกับเฮมีตอนม.ปลายนะ ฉันไม่อยากนึกเลยว่ามันน่ากลัวแค่ไหน" ชินอาทำหน้าราวกับฟ้ากำลังจะถล่มลงมาจริงๆ

    "แล้วไง เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะปล่อยให้ตัวเองถูกรุมงั้นเหรอ ฝันไปเหอะ"

    "แต่ยังไงพวกนั้นก็ผู้ชายนะ" ชินอาพูดด้วยเสียงดังลั่น

    "เธอจะตะโกนบอกคนทั้งโลกเลยรึไง"

    "แหม เพราะฉันเป็นห่วงเธอนะ" ชินอาทำหน้าบู่เป็นหมาหูตูบ

    "ขอบใจ แต่มันจะดีกว่านี้ ถ้าเธอไม่กรอกหูฉันด้วยเรื่องไร้สาระแบบนั้น" ฉันพูดตัดบทเพราะรำคาญ

    แต่มันไม่ไร้สาระเนี่ยซิ

    "เธอกำลังทำให้เฮมีของเราร้องไห้" ผู้ชายคนนึงพูดขึ้นหลังจากที่ฉันถูกผู้ชาย 3 คนลากมาอยู่หลังตึกที่ดูเหมือนจะไม่เคยมีคนผ่านมา

    "ฉันไปทำอะไรยัยนั่นเมื่อไหร่ ยัยนั่นร้องกรี๊ดๆ เป็นนกหวีดแบบนั้นฉันไม่เข้าใกล้หรอก กลัวหูจะหนวก" ฉันบอกอย่างรำคาญ

    "เธอกล้าเรียกเฮมีว่ายัยนั่นงั้นเหรอ แล้วดูตัวเองซิ โธ่เอ้ย สูงเป็นทอมแบบนี้ ใครที่ไหนเขาอยากจะได้เป็นแฟน" ผู้ชายคนนึงพูดขึ้นหลังจากที่มันมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

    หน็อยย ไอ้บ้านี่หาเรื่องกันนี่หว่า ฉันมองมันสามคนแล้วก็ต้องหมดอารมณ์ มีแค่คนเดียวที่สูงกว่าฉัน และก็สูงกว่าฉันไม่น่าเกิน 2 เซนฯด้วย

    "แกซิไอ้เตี้ย ดันเตี้ยผิดมนุษย์" ฉันด่าเข้าให้

    ฉันล่ะนึกอยากให้นายชินจีมาฟังหมอนี่พูดจัง ก็นายนั่นดันมาว่าฉันเตี้ย ส่วนไอ้บ้า 3 คนนี้ดันว่าฉันสูงเป็นเสา

    "แก ผู้หญิงอะไรไม่ได้น่ารักเอาซะเลย เพราะอย่างนี้เฮมีถึงต้องร้องไห้" ผู้ชายอีกคนพูดขึ้น

    เอาเข้าไป พวกแกมันก็น่าด่าให้หายโง่จริงๆ โดนยัยนั่นหลอกใช้แล้วไม่รู้จักเจียม

    "เออ ยัยนั่นจะร้องไห้จนน้ำตากลายเป็นสายเลือดก็ไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะฉะนั้นหลีก" ฉันพูดอย่างเริ่มหงุดหงิด

    "ยังไปไหนไม่ได้ จนกว่าเธอจะสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับคังชินจี"

    "แล้วไง ถ้านายนั่นมาพูดกับฉันแล้วจะให้ฉันทำยังไง ด่ากลับไปงั้นซิ" แต่ความจริงมันก็เป็นความคิดที่ดี แต่มันติดที่ว่าเขาปากจัดกว่าฉันนี่ซิ มันเลยไม่น่าลอง

    "ห้ามเธอยุ่งเกี่ยวกับคังชินจีไม่ว่าทางไหน"

    "ไอ้ปัญญาอ่อน แกนี่ท่าทางจะประสาทเหมือนยัยนกหวีดแฮะ"

    เพียะ

    ทันทีที่ฉันตอบหน้าฉันก็หันเพราะแรงตบทันที

    "ถ้าเธอยังเรียกเฮมีว่ายัยนกหวีดอีกเธอจะโดนหนักกว่า"

    "ถ้านายยังไม่หายตัวไปภายใน 10 วิ นายจะตาย" ฉันพูดอย่างหงุดหงิด เรื่องอะไรฉันต้องมาโดนตบเพราะยัยนกหวีดว่ะเนี่ย

    "เหอะคิดว่า..."

    "อิจิ นิ ซัง โยง…" ( 1 2 3 4...)

    "ยัยบ้านี่พูดอะไรว่ะ" มันหันไปถามพวกมันอย่างงงๆ

    แต่เพื่อนอีกสองคนก็ได้แต่ส่ายหัว

    "ยิว (10) พวกนายไม่ไปใช่มั้ย?" ฉันถามอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกระชับไม้เค้นโด้ในมือ

    "เฮ้ยย ยัยนี่จะทำอะไรนะ" หนึ่งในพวกมันร้องขึ้น

    "ก็ไม่ทำอะไร ก็แค่...หาคู่มือซ้อมเค้นโด้" สิ้นเสียงฉันก็ตีหัวผู้ชายคนแรกที่อยู่ใกล้ฉันที่สุดก่อนที่ตวัดไม้อีกครั้งและตีเข้าที่ลำตัว และสุดท้ายฉันก็หมุนตัวก่อนจะตีที่ข้อผับของผู้ชายคนสุดท้าย พวกมันสามคนล้มลงไปกองกับพื้น แล้วร้องโอดโอยกันยกใหญ่

    "2 แต้ม ฟาว์ว 1 แต่ยังฉันก็ชนะ" ฉันพูดก่อนจะเอาไม้เค้นโด้พาดบ่าแล้วเดินออกจากหลังตึกเรียน

    "เธอเข้าไปทำอะไรในนั้นนะ?" เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้นทันทีที่ฉันก้าวออกมาจากซอกตึก

    "นาย" ฉันหันไปมองหน้าเขา แล้วก็ต้องรู้สึกอารมณ์เสียทันที

    "เธอเข้าไปทำบ้าอะไรหลังตึกนั่น?" เขามองหน้าฉันก่อนจะต้องตกใจจนตาแทบถลนเพราะนายสามหน่ออ่อนลุกลี้ลุกล้นวิ่งพรวดออกมาด้วยอาการบาดเจ็บกันถ้วนหน้า

    "ก็ไม่มีอะไร แค่หาเพื่อนซ้อมเค้นโด้นิดหน่อย แต่พอดีพวกนั่นมันไก่อ่อน ก็เลยเจ็บตัวไปบ้าง" ฉันพูดพลางพยายามกลั้นหัวเราะท่าเดินของผู้ชายคนที่ฉันตีเข้าที่ข้อพับ

    ก็หมอนั่นเดินเป็นเป็ดขาเป๋เลย (แค่เดินเป็ดก็ทุเรศแล้ว แล้วเป็ดขาเป๋จะทุเรศขนาดไหน)

    "เธอทำบ้าอะไรของเธอ นั่นมันคนนะ แล้วเธอจะต้องหาเรื่องตลอดเวลาเลยรึไง" นายชินจีหันมาตวาดใส่ฉัน แถมยังกระชากแขนฉันจนฉันตัวปลิวไปแปะอกเขา

    "อะไรล่ะ ฉันไม่ผิดนะ พวกนั้นมาหาเรื่องฉันก่อนนี่" ฉันรีบร้องบอกทันที

    ก็ไม่รู้เพราะอะไรอ่ะนะ แต่มันกลัวอ่ะ

    "ถึงอย่างนั้นก็เหอะ เป็นผู้หญิงก็หัดทำตัวให้เหมือนผู้หญิงบ้างซิ!!"

    "แล้วนายมายุ่งอะไรเล่า ฉันจะเป็นไงเกี่ยวอะไรกับนายตรงไหน แล้วฉันผิดตรงไหนที่ป้องกันตัว ไอ้บ้านั่นมันตบฉันก่อนนะ" ฉันร้องลั่นก่อนจะกระทืบส้นเท้าใส่เท้านายชินจีก่อนจะสะบัดก้นหนี

    แต่มันก็ไม่ทัน

    "เดี๋ยว" เขากระชากแขนฉันอีก แต่คราวนี้ฉันไม่ได้ไปแปะกับอกเขา แต่ฉันดันเสียหลักสะดุดขี้ฝุ่นหัวทิ่ม แต่ฉันไม่ยอมล้มคนเดียวหรอก

    ตุ๊บ

    ไม่เจ็บแหะ

    "เธอลุกเลยน่ะ ผู้หญิงอะไรตัวหนักเป็นบ้าเลย" เสียงของเขาดังอยู่ข้างหู

    ข้างหู!!!!!

    ฉันรีบเงยหน้าขึ้นทันที ก็ฉันดันนอนทับอยู่บนตัวเขานี่

    ฉันรีบลุกพรวดทันทีที่ตั้งสติได้

    "ผู้หญิงอะไรตัวหนักเป็นบ้า" เขาบ่นหลังลุกขึ้น

    ส่วนสูงฉัน 176 น้ำหนัก 52 แบบนี้เนี่ยนะที่นายเรียกว่าหนัก ฉันนะออกจะสมส่วน

    "แก้มเธอเป็นอะไรรึเปล่า?"

    "อะไร เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ แก้มฉันมันก็เป็นของฉัน มันไม่ได้เป็นแก้มนายซักหน่อย" ไอ้หมอนี่ถ้าจะบ้า

    "เธอหยุดกวนประสาทซักนาทีได้มั้ย แก้มเธอแดงเป็นเถือกแบบนั้น ไม่เป็นไรใช่มั้ย" เขาถามหลังจากส่ายหัว

    "ก็บอกตั้งแต่แรกซิ" ฉันพึมพำ

    "ตกลงเจ็บรึเปล่า?"

    "เจ็บซิ ใครที่ไหนไม่เจ็บ โดนตบนะ แถมไอ้บ้านั่นยังเป็นผู้ชายอีก ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมยัยนกหวีดนั่นต้องมายุ่งกับฉันด้วย!!!" ฉันบอกอย่างหงุดหงิด

    "ยัยนกหวีด?" นายชินจีทำหน้างง

    "ก็ยัยนกหวีดนะซิ ยัยคนที่ชอบร้องกรี๊ดๆ เป็นนกหวีดสนามนะ ยัยนั่นมาหาเรื่องฉันก่อน แถมยังส่งคนมาทำร้ายฉันอีก นี่ถ้ายัยนั่นยังไม่เลิกยุ่งกับฉัน ฉันจะเหยียบยัยนั่นให้เป็นแบนติดดินเลย"

    "เธอเป็นผู้หญิงจริงๆ เหรอ"

    "ทำไม นายเห็นส่วนไหนของฉันไม่เป็นผู้หญิง หน้าอกฉันก็มี ข้างล่างฉันก็ไม่เหมือนนาย นายจะบอกว่าฉันเป็นผู้ชายรึไง" ฉันบอก นายนี่ถ้าจะบ้า

    "โอ้ยยย พอเลยยัยบ้า เธอนี่มันจริงๆ เลย ทำไมทำตัวไม่น่ารักแบบนี้นะ แล้วอย่างนี้ใครเขาจะมาชอบเธอ" เขาพูดก่อนจะเดินเลี่ยงไป

    เออซิ ใครเขาจะมารักฉัน เขาก็ต้องรักยัยนกหวีดอยู่แล้ว ผู้ชายนะทำไมชอบนกหวีดกันนักนะ

    "แล้วไง ถ้าเป็นไงแล้วไง ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้!!!!" ฉันตะโกนอย่างสุดกลั้น

    ทำไมนายต้องมาตอกย้ำกันอยู่เรื่อยนะ

    "อะไรของเธออีกล่ะ?" เขาพูดอย่างรำคาญ

    "ไม่ชอบก็บอกซิ ฉันมันไม่ดี ฉันมันน่ารังเกียจ ฉันมันไม่น่าคบ ฮืออออออออออ" ฉันแหกปากลั่นก่อนจะร้องไห้โฮออกมา

    นายชินจีทำหน้างงเพราะปรับอารมณ์ตามฉันไม่ทัน ได้แต่ยืนเอ๋อ มองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินมาจับแขนฉัน

    "ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น"

    "ใช่ซิ ฉันนะ ฮือออออ ฉันนะ ฮือออออออออออ"

    ฮืออออออ แล้วฉันก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย

    "นี่" ฉันได้ยินเสียงเขาเรียกหลังจากร้องไห้ซักพัก

    พอเขาเรียกฉันก็เริ่มได้สติ แต่ก็ต้องแทบสิ้นสติเพราะฉันดันทำอะไรที่ขาดสติไปแบบให้อภัยไม่ได้ ก็ฉันดันกอดเขาซะแน่นนะซิ

    พอรู้ตัวฉันก็รีบผละเขาออกทันที

    "แหมใช้งานเสร็จก็ทิ้งเลยรึไง" เขาพูดเสียงเรียบ

    "ขอโทษ แต่เพราะนายนั่นแหละ"

    "เธอนี่มีความสามารถในการป้ายความผิดให้คนอื่นจริงๆ เลยนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกจะพยายามกลั้นหัวเราะ

    เออ มันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของฉันเลยล่ะ

    "วันนี้ฉันว่างเราไปดื่มกันมั้ย?" จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นหลังจากที่เราเงียบกันอยู่นาน

    ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างงงๆ

    "ดื่มน่ะ ไปมั้ย เดี๋ยวขากลับฉันจะไปส่ง" เขาถามอีก

    "..."

    "ฉันโทรบอกมินโซให้ไปด้วยก็ได้"

    "ไม่ต้อง!!!" ได้โปรดขอร้องอย่าเอาหมอนั่นมานะ

    "งั้นตกลงแล้วใช่มั้ย"

    "อืม"

    "เซอิจิ นายทำกับฉันอย่างนี้ได้ยางงายยยยยยยยยยยยยยย" ฉันร้องลั่น

    "ฉันจะไปรู้เหรอ" เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้น

    "เธอกับอัยทำไมทำกับฉันแบบนี้" ฉันร้องอีก

    "ถ้าฉันเจอหมอนั่นฉันจะถามให้แล้วกัน" เสียงผู้ชายคนเดิมตอบอีก

    "เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฮือออออออออออ" ฉันร้องโฮขึ้นอีก

    "เธอหยุดร้องซักทีได้มั้ย"

    "นายจะให้ฉันหยุดร้องทั้งๆ ที่นายทำกับฉันแบบนั้นนะเหรอ นายจะให้ฉันยิ้มให้นายรึไง" ฉันทุบหลังผู้ชายคนนั้น และฉันก็ต้องล่วงตุ๊บ ลงไปกองกับพื้น

    "มันเจ็บนะยัยบ้า แรงคนจริงๆ เหรอเนี่ย" ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นอีก

    "ใช่ซิ ฉันไม่ใช่ยัยนกหวีด ที่ร้องกรี๊ดๆ นายถึงไม่ชอบฉันใช่มั้ย" ฉันพยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วก็ว่าเขา

    เซอิจิ นายทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง ฮืออออออออ อัยเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แต่เธอกับหักหลังฉัน ฮืออออออออออ

    "อะไรของเธอเนี่ย รู้งี้ฉันไม่ชวนเธอไปดื่มหรอก" เขาพูดอีก

    "จะให้ฉันทำยังไง นายถึงจะรักฉัน จะให้ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดไหน จะให้ฉันเป็นผู้หญิงแบบไหน!!" ฉันเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อเขาแล้วเขย่า

    "เฮ้ยยยยย ปล่อยนะ" เขาร้องลั่น

    "นายรังเกียจฉันมากเหรอ โกรธฉันมากเหรอ ไม่อยากเห็นหน้าฉันเลยใช่มั้ย"

    "เธอจะบ้ารึไง ฉันไม่ใช่ไอ้เซอิจิอะไรของเธอนะ"

    "ใช่ซิ นายเป็นของอัย นายไม่ใช่ของฉัน ฮือออออออออ"

    "เธอนี่ท่าจะบ้า ที่หลังอย่าดื่มเข้าไปอีกนะ" เขาพูดพร้อมพยายามแกะมือฉันออก

    "จูบ"

    "อะไรนะ"

    "จูบฉันนะ ครั้งเดียว ครั้งแรกของฉัน ฉันอยากให้นาย" ฉันพูดพลางพยายามๆ ดึงคอเขาลงมา

    แต่ว่า ทำไมวันนี้เซอิจิสูงชะมัดเลย ไม่เจอกันสองสามวันคนเราสูงขึ้นได้ขนาดนี้เชียวเหรอ

    "เฮ้ยยยย ยัยบ้า ฉันไม่ใช่เซอิจิของเธอนะ" เขาร้องลั่น พลางพยายามผลักตัวฉันออก

    "ไม่ใช่งั้นเหรอ" ฉันพูดเสียงอ่อย

    "นี่ เธอเมามากเลยนะเนี่ย กลับบ้านไปนอนไป" เขาพูดอีก

    แปะ

    "เฮ้ยยยย เป็นอะไรอีกล่ะ" เขาร้องทันทีที่เห็นฉันทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น

    เหอะ นายนี่ไม่เข้าใจมุขตอแหลของฉันบ้างเลยนะ พอเขานั่งลงฉันก็ดึงคอเขามาแล้วก็ประกบปากฉันกับปากเขาทันที เขาคงตกใจมากเลยล่ะ ก็เขาไม่ได้ผลักฉันออกนี่

    ………………………………………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×