ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักพนันหัวใจ คุณชายขี้เก๊ก

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3+++เจอกันอีกแล้ว (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 529
      1
      27 พ.ค. 49

    หลังจากผ่านมื้ออาหารมหาโหด ก็ทุกคนเล่นนั่งเงียบมีแค่นายมินโซคนเดียวที่พูดเป็นต่อยหอยอยู่ได้ แถมยังไม่มีใครกล้าว่าเขาซักคน ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงปล่อยให้เขาพูดอยู่ได้ แต่ที่มันน่าโมโหก็คือ ทำไมต้องถามฉันอยู่คนเดียวด้วย แถมยังพยายามโชว์ภูมิภาษาญี่ปุ่นที่ห่วยบรมให้ฉันฟังอีก แต่ปัญหานั้นมันผ่านไปแล้ว ปัญหาที่กำลังอยู่ตรงหน้าฉันต่างหากที่ดูท่าจะผ่านไม่ง่ายเลย

    "ผลการเรียนแย่แบบนี้ เธอคิดว่าจะเรียนต่อไปทำไมนะ"

    ฉันรู้ว่าตัวเองมีรอยยักในสมองน้อยนิด แต่ไม่เห็นต้องว่ากันแบบนี้เลย

    "มหาลัยที่มินโซเรียนอยู่ค่อนข้างเรียนหนัก กิจกรรมก็ค่อนข้างเยอะ คนอย่างเธอจะเรียนไหวเหรอ"

    นี่ฉันมานั่งฟังยัยป้านี่บ่นเพื่ออะไรเนี่ย ความจริงฉันควรจะได้ออกไปดื่มหรืออะไรซักอย่าง อย่างเช่นฟัดปากใครซักคน อัดใครซักคนให้หายคันไม้คันมือ

    "เอาเป็นว่าฉันจะลองคุยกับทางนั้นให้ ยังไงเธอก็ต้องปรับตัวด้วย เพราะที่นี้กับญี่ปุ่นมันไม่เหมือนกัน ที่นี้เธอทำตามอำเภอใจไม่ได้หรอกนะ จำไว้"

    ฉันจะจำเอาไว้จนไว้ตายเลยล่ะ

    ก๊อก ก๊อก

    "เชิญ" ยัยป้าพูดก่อนที่หน้าตาอันแสนชวนอาเจียนของใครบางคนจะโผล่เข้ามา

    "คุยกันเสร็จรึยังฮะ ผมจะพาวายะไปเปิดหูเปิดตาซักหน่อย"

    ใครเขาอยากไปกับนาย แต่มันก็เป็นทางเดียวที่ฉันจะออกจากขุมนรกนี่ เพราะฉะนั้นฉันต้องขุดวิชาตอแหลมาบังหน้า

    "นายจะพาฉันไปไหนเหรอ?" ฉันถามอย่างตื่นเต้น (เป็นความตื่นเต้นที่เสแสร้งสุดๆ ด้วย)

    "เธออยากไปไหนล่ะ ฉันพาเธอไปได้ทุกที่แหละ ถ้ายังอยู่ในเกาหลีนะ" ตอนนี้เขาเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ฉันแล้ว

    อี้!!! ออกไปไกลๆ นะ

    "จะพากันไปไหน นี่มัน..."

    "เพิ่งจะทุ่มเดียวเอง ผมไม่พาเธอไปไหนไกลหรอกน่า อีกอย่างวายะเองก็ต้องเรียนที่เดียวกับผม ผมก็อยากทำความรู้จักกันให้สนิทกว่านี้ จริงมั้ย" เขาส่งสายตาหวานเลี่ยนมาให้ฉัน

    อี้!!!!  ใครเขาอยากสนิทกับนายกัน

    "ก็ได้ แต่คงรู้นะว่า พรุ่งนี้เธอต้องไปสมัครเรียนแต่เช้า" ยัยป้าหันมาทางฉัน

    "ผมพาไปก็ได้" นายมินโซพูดอย่างกระตือรือร้น

    "นั่นซิคะ จะรบกวนคุณป้าเปล่าๆ ไหนๆ มินโซก็ต้องไปเรียน หนูไปกับมินโซก็ได้" ฉันพูดอย่างออกตัว ก็ให้ไปกับนายมินโซดีกว่าไปกับยัยป้าเจ้าระเบียบนี่

    "ว้าวววว ภาษาเกาหลีของเธอดีจัง" เขาพูดอย่างกับมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์

    แม่ฉันเป็นคนเกาหลีนะ

    "ภาษาญี่ปุ่นของนายคงต้องปรับปรุงอีกเยอะ" ความจริงมันห่วยบรมเลยต่างหาก

    "งั้นเธอก็เป็นติวเตอร์ให้ฉันซิ"

    อ้า มาไม้นี้เลยเหรอ

    "พวกเธอจะไหนกันไม่ใช่เหรอ รีบไปจะได้รีบกลับ" เสียงยัยป้าดังขึ้น ฉันจึงรีบลุกแล้วเดินออกจากห้องทันที

    "ฉันจะรอเธอข้างนอกนะ ชินจะมารับ" เขาพูดก่อนที่เราจะแยกเข้าห้องใครห้องมัน

    ชินเหรอ คงไม่ใช่นายชินจีอะไรนั่นหรอกนะ ฉันไม่อยากเจอหมอนั่นอีกแล้ว

    แต่ก็ต้องเจออยู่ดี!!!

    เมื่อคนที่กำลังยืนพิงประตูรถอยู่ก็คือผู้ชายที่เอาหัวมาขวางทางรองเท้าฉันที่สนามบินเมื่อตอนกลางวัน

    "เธอมาทำไมนะ?" ทันทีที่เขาเห็นฉันเขาก็ถามทันที

    "เธอจะไปกับเราด้วย นายคงไม่มีปัญหาใช่มั้ย" นายมินโซเดินไปตบไหล่นายชินจีก่อนจะเปิดประตูรถ

    "เชิญคร้าบบบบบบบบ"

    "ขอบใจ" ฉันตอบแล้วก็เข้าไปนั่งในรถ ฉันบอกได้เลยว่านายชินจีอะไรนั่นไม่พอใจสุดๆ

    "วันนี้นายองไม่มาแน่นะ" ทันทีที่เข้ามาในรถเขาก็ถามมินโซทันที

    "เห็นจุนซองว่าอย่างนั่น ก็มินอีเล่นทิ้งไว้แค่จดหมาย นายองก็เลยคลั่งไปเลย" มินโซทำท่าเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง

    ท่าทางผู้หญิงที่ชื่อนายองอะไรซักอย่างคงน่ากลัวน่าดู

    "ฉันตายแน่งานนี้" นายชินจีร้องลั่นรถ

    "ทำไมล่ะ?" นายมินโซถามทันที

    "มินอีไปแล้ว วันนี้ ฉันเป็นคนไปส่งยัยนั่น ที่สำคัญฉันรู้ตั้งแต่ยัยนั่นสมัครสอบแล้วด้วย"

    "สอบ ไปไหน?" มินโซทำหน้างง

    ฉันสังเกตมาสองสามครั้งแล้วว่าเวลามินโซทำหน้างง หน้าเขาจะตลกพิลึก ฉันว่าหน้าตาเขาเหมือนหมากำลังสงสัยหรืออะไรที่แปลกๆ เถือกนั้น

    "มินอีไปอังกฤษวันนี้ ยัยนั่นสอบได้นักเรียนทุน ยัยนั่นหนีรุ่นพี่นั่นแหละ" นายชินจีทำหน้ากลุ้มใจสุดๆ

    มันต่างจากหน้าตากวนประสาทอย่างสิ้นเชิง และฉันรู้สึกสมน้ำหน้าหมอนี่จัง

    "นายโดนนายองฆ่าแน่ ถ้ายัยนั่นรู้เรื่อง" มินโซทำท่าขนลุกขนพอง

    ท่าทางยัยนายองที่ว่านี่จะโหดน่าดู ท่าทางน่าคบแฮะ

    "อย่าพูดอะไรให้เป็นลางซิ นายก็รู้ยัยนั่นนะ...ต่อให้เป็นจุนซองก็ต้องหงอ"

    "อ๊า จุนซองผู้ยิ่งใหญ่ กลายเป็นลูกแมวน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวน้อยยูนายอง" พอมินโซพูดจบ เขาสองคนก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน

     หลังจากนายชินจีขับรถมาประมาณ 20 นาที เราก็มาหยุดยืนอยู่หน้าผับแห่งหนึ่ง แต่พอพวกเขาก้าวเข้าไปในผับก็ดูเหมือนว่าสายตาทุกคู่จะจ้องตรงมายังพวกเขา โดยเฉพาะผู้หญิง บางคนรีบล่วงโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปกันยกใหญ่ แต่ดูเหมือนนายสองคนที่กำลังเป็นที่สนใจ จะไม่ให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของคนรอบข้างเอาซะเลย

    "คังชินจี!!!!!!" เสียงร้องแหลมของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นด้านหลัง

    พอฉันหันไปก็พอดีกับที่เธอวิ่งมาชนฉันหงายหลัง และพอฉันเงยหน้ามองเธอ ฉันก็เห็นเธอขว้าคอเสื้อนายชินจีไว้แล้ว

    "เป็นอะไรรึเปล่า?" เสียงเข้มๆ ของผู้ชายคนนึงถามฉัน

    "ห๊า" ฉันหันไปมองเขา และ โอ้ววววว บรรพบุรุษหล่อมาก (โคตรหล่อ แบบว่ามันน่าจะหล่อทั้งตระกูลนะเนี่ย) ทำไมหล่ออย่างนี้ล่ะ แต่เขากลับไม่มองฉัน สายตาเขากำลังจ้องผู้หญิงคนที่เดินชนฉันอยู่แล้วก็ส่ายหัว

    "เธอเป็นอะไรรึเปล่า?" นายมินโซถามขึ้นพร้อมพยายามจะพยุงให้ฉันลุกขึ้น

    "นายทำอย่างนี้ได้ไง!!!" ผู้หญิงที่เดินชนฉันตะโกนลั่น

    เธออายเป็นไหมเนี่ย เธอเห็นรึเปล่าว่าคนทั้งผับกำลังมองมาที่พวกเรา

    "นายองไม่เอาน่า" ผู้ชายที่มาช่วยฉันเดินตรงไปหาเธอ

    "นายอย่ายุ่งจุนซอง นายปล่อยเธอไปได้ไง" เธอไม่ได้หันมาหาคนที่เธอเรียกว่าจุนซอง แต่เธอยังขู่นายชินจีต่อ

    "ยัยนั่นอยากไปเอง ฉันห้าม..." เขาพูดพลางมองด้วยสายตาแบบว่า ขอโทษนะ

    "แล้วทำไมนายไม่ห้าม!!"

    "ฉันห้ามแล้ว" นายชินจีพูดอย่างอ่อนใจ

    ดูมันต่างจากที่เขาพูดกับฉันโดยสิ้นเชิง มันดูอ่อนโยน มันดูเหมือนสายตาของผู้ชายที่รักผู้หญิง และมันทำให้ฉันอิจฉา

    แล้วทำไมฉันต้องอิจฉา

    "นายอง" เสียงผู้ชายที่ชื่อจุนซองดังขึ้นอีก

    "นาย...นายทำกับฉัน...อย่างนี้...ฮือออออออออออ" แล้วเธอก็ร้องไห้

    ผู้ชายที่ชื่อจุนซองเลยดึงเธอเข้าไปกอด ก่อนจะพาเดินไปนั่งที่โต๊ะ

    "อย่าสนใจ ยัยนั่นจุนซองคนเดียวก็พอแล้ว ไปนั่งกันดีกว่า" นายมินโซกระซิบข้างหูฉัน ก่อนจะออกเดินนำไปที่โต๊ะ

    ฉันหันกลับไปมองนายชินจีที่ตอนนี้ทำคอตกเป็นหมาถูกเจ้าของดุ ยิ่งมองก็ยิ่งหมั่นไส้ โธ่เอ๊ย  กะอีแค่ผู้หญิงกระชากคอเสื้อทำไมนายไม่อัดซักเปรี้ยงนะ ทีฉันนายทำมือฉันเขียวไปหมด ชิ

    "นี่โอซากะ วายะ เราไม่ใช่ญาติกัน และพวกนายจีบไม่ได้" นายมินโซแนะนำฉัน

    นายบอกแค่ชื่อฉันก็ได้

    "หวัดดี เธอเป็นคนญี่ปุ่นเหรอ?" เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้น และเขาก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น

    ฉันหันไปมองเขา เขาเป็นผู้ชายที่ใส่แว่นแล้วหล่อที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา เขาหล่อยกแก๊งเลยเหรอเนี่ย ก็ดูแต่ละคนซิ อย่างกะหลุดมาจากโมเดลลิ่งแน่ะ

    "ใช่ ฉันเป็นคนญี่ปุ่น นายพูดภาษาญี่ปุ่นชัดมากเลยนะ" ฉันตอบเขาเป็นภาษาญี่ปุ่น

    "ฉันชื่ออันโซ ยูจิ ฉันเป็นลูกครึ่งเหมือนกัน" เขาตอบ

    "ดีใจจัง" ฉันยิ้มให้เขา และเขาก็ยิ้มตอบ

    "เฮ้ยยย พวกนายพูดอะไรกัน อย่าทำแบบนี้เซ่ ฉันบอกแล้วว่าห้ามจีบ!!!!" นายมินโซโวยลั่น

    "นั่นรวมถึงตัวนายด้วย" ฉันพูดเป็นภาษาเกาหลี แล้วก็นั่งลงไม่สนใจว่าเขาจะทำท่ายังไง ส่วนเพื่อนๆ เขาก็ได้แต่หัวเราะกันดังลั่น

    ฉันมองไปที่ชายหญิงคู่นึงที่กำลังกอดกันอยู่ ฉันจำได้ทันทีว่าคือสองคนเมื่อกี้ รู้สึกจะชื่อนายองกับจุนซองนี่แหละ

    "ถ้าเธอมองจุนซองล่ะก็ นายองฆ่าเธอตายแน่" ผู้ชายอีกคนพูดขึ้น

    "ฉันไม่ได้ชอบเขา ฉันแค่มองเฉยๆ ฉันไม่ชอบผู้ชายหล่อเกินไปแบบนั้นหรอก" ฉันบอก ที่สำคัญคือผู้หญิงคนนั้นก็ออกจะสวย พวกเขาดูคู่กันดีออก เรื่องอะไรฉันต้องแย่งเขามาล่ะ...แย่งเหรอ

    โอ้ยยยย อุตส่าห์ลืมไปแล้วเชียว ดันนึกขึ้นมาอีกจนได้

    "ฉันจีอึนโซ นี่อันซูจิน" เขาพูดพลางชี้ไปที่ผู้ชายอีกคน

    "อืม เรียกฉันว่าวายะก็ได้" ฉันตอบอย่างไม่ใส่ใจ และสายตาฉันก็ไปสะดุดหน้านายชินจีเข้า

    เขากำลังมองตรงไปที่สองคนนั้น เขามองราวกับอยากจะเข้าไปนั่งตรงนั้นซะเอง อะฮ้า นายต้องรักเธอแน่ๆ โอ้วววว ในโลกนี้ก็มีสิ่งที่ผู้ชายหน้าตาดีอย่างเขาผิดหวังด้วย

    "เธอมีแฟนรึยังนะ?" นายมินโซถามขึ้น

    "มี เขาซื่อเซ...ไม่มี!!" โธ่เว้ย ทำไมนายต้องมาถามอะไรฉันด้วย

    "อ้าว ตกลงเอาไง มีหรือไม่มี" นายมินโซถามอีก

    "ไม่มี! แล้วก็ไม่เกี่ยวกับนาย" ฉันโวยก่อนจะหยิบแก้วของใครซักคนขึ้นมาดื่ม

    เหล้านี่หว่า

    ทันทีที่รู้ว่ากินอะไรเข้าไปฉันก็ตกใจทันที ก็เห็นมันใสๆ ก็นึกว่าน้ำเปล่า

    "โซจูนะ มันแรงพอๆ กับสาเกก็จริง แต่ถ้าเธอกินมากๆ มันทำให้เธอหัวทิ่มได้นะ" ยูจิพูดขึ้น

    "นายพูดเป็นภาษาเกาหลีก็ได้ฉันฟังได้พูดได้" ฉันบอกเขา เขาก็ได้แต่ยิ้มให้ฉัน

    "ใช่ พวกนายไม่ควรมีความลับกัน" นายมินโซพูดขึ้น

    นายนี่ท่าทางจะประสาท อะไรของเขา ทำท่าเป็นเจ้าของฉันอยู่ได้ ฉันไม่ได้เป็นหมาของนายนะ

    "คงทำให้เขาเอื้อมระอากับความบ้าของเธอล่ะซิ ถึงต้องเลิกกัน" เสียงเย็นชาของใครบางคนดังขึ้น

    เขาคือนายชินจีนั่นเอง

    "นายจะมารู้อะไร!!"

    "ทำไมต้องโกรธ เพราะฉันพูดแทงใจดำงั้นซิ"

    "หุบปากนะ!!!" ฉันตะโกนลั่น ทำไมนายต้องมาตอกย้ำกันด้วยเล่า

    "พอเหอะน่า พวกเธอสองคนนี่ทะเลาะกันตั้งแต่เจอหน้ากันแล้วไม่ใช่เหรอ" นายมินโซร้องห้าม

    ฉันมองหน้าเขาอย่างรังเกียจสุดๆ นายเองก็ไม่ต่างจากฉันหรอก เหอะ รักคนที่เขามีเจ้าของ ชีวิตรักรันทดจริงจริ้ง ด้วยความโมโห ฉันเลยยกขวดโซจูแล้วกรอกเข้าปากถ่ามกลางสายตาของผู้ชาย 5 คู่

    "ช้านนน จา ปาย ห้อง น้ำ" ฉันพูดขึ้น แต่ดูท่าเสียงฉันมันแปลกๆ แหะ

    "ฉันไปเป็นเพื่อน ดูท่าเธอจะเมา" นายมินโซพูดขึ้น

    "ม่ายยยย ช้านนน ปาย โคน เดียว ดายยย" นายจะไปทำบ้าอะไร ฉันไปห้องน้ำหญิงนะ

    อืมมมม ท่าทางฉันคงใกล้จะได้ไปดาวอังคารแล้วนะเนี่ย

    "แต่..."

    "ถ้านายตามช้านนนนมาล่ะก็ นายหัวแบะแน่!" ร้องพูดเสียงดังลั่นก่อนจะลุกออกไป

    ฉันเดินเซไปเซมาจนถึงห้องน้ำได้สำเร็จ ไอ้ตอนเข้ามันก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่ไอ้ตอนออกนี่ซิ

    ผลั่ก

    "โอ้ยยยย ยัยนี่ โอะ สาวน้อย" เสียงผู้ชายคนนึงผู้ขึ้น

    ใครว่ะ บังอาจเรียกฉันว่าสาวน้อย ฉันเงยหน้ามองเจ้าของเสียง แล้วก็นึกถึงความคิดที่เคยคิดว่าผู้ชายเกาหลีคงจะหล่อทุกคน นายนี่พิสูจน์แล้วว่าฉันคิดผิดอย่างแรง

    "เดินเซแบบนี้จะไปไหนจ๊ะ" มันพูดขึ้นอีก

    ฉันพยายามจะเดินเลี่ยง แต่มันก็ไม่ยอมหลีกทางให้ฉัน

    "มาคนเดียว (อิจิ) เหรอ"

    อิจิ เซอิจิ นายกล้าดียังไงถึงพูดชื่อเขาห๊า

    "โอ้ววว มองหน้าพี่อย่างนี้ แสดงว่าตกหลุมรัก (อัย) พี่ล่ะซิ"

    อัยงั้นเหรอ เซอิจิกับอัยงั้นเหรอ

    "นายพูดอะไร?" ฉันมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง

    "ทำไมจ๊ะ สนใจจะไปกับพี่ชายคนนี้แล้วซิ"

    "นายพูดว่าเซอิจิกับอัยงั้นเหรอ?" ฉันถามเสียงดังขึ้นอีก

    "พูดอะไรนะ ใครคือเซอิจิ ใครคืออัย น้องสาวเมาแล้วมั้ง" มันยิ้มพลางเอามือมาลูบแก้มฉัน

    และ

    หมั่บ

    "โอ้ยยยยยยยยย ทำอะไรนะยัยบ้า!!!" มันร้องเสียงโหยหวนเมื่อฉันจับข้อมือมันบิดอย่างแรง

    "แกพูดอะไรหา ไอ้เซอิจิกับยัยบ้าอัยใช่มั้ย!!!" ฉันด่ามันอีก

    "โอ้ยยย ยัยบ้า เซอิจิกับอัยอะไรของแกว่ะ" มันร้องอีกเพราะฉันบิดมันแรงขึ้น

    "ก็แกเพิ่งพูดนี่" ฉันผลักมันไปติดผนัง

    "โอ้ยยยย ยัยบ้า ปล่อยนะ" มันร้องดังขึ้นอีก

    "ปล่อยเขาเถอะน่า" เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้น และก่อนที่ฉันจะรู้ตัวผู้ชายคนนึงก็รวบตัวฉันขึ้นพาดบ่าซะแล้ว

    "แกเป็นใคร ปล่อยฉันนะ" ฉันร้องเสียงหลง

    "เธอน่ารักจังชื่ออะไรนะ?" เขาถามทั้งที่ยังไม่ปล่อยฉันลง

    "ปล่อยฉันนะ!!!!" ฉันร้องดังขึ้นอีก มันหายใจไม่ออกนะ

    "ซูฮองนายจะเอายัยนี่ไปไหน ยัยนี่แสบจะตาย" ผู้ชายคนที่โดนฉันหักแขนพูดขึ้น

    "นายไม่มีปัญญาจัดการกับเธอก็อย่ามายุ่ง ไปบอกพวกนั้นว่าฉันจะพาสาวน้อยคนนี้ไปเที่ยว" เขาหันไปสั่งผู้ชายที่โดนฉันหักแขน

    "นายจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ" ฉันร้องลั่น

    "ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์" ผู้ชายที่รู้สึกจะชื่อซูฮองพูดขึ้นก่อนจะตีก้นฉัน

    อ๊ากกกก ไอ้บ้าแกกล้าดียังไงเนี่ย แล้วฉันก็ต้องตกใจเข้าไปอีกเมื่อเขาเดินออกจากประตูหลัง แล้วยังงี้จะมีใครมาช่วยฉันมั้ยเนี่ย ฉันพยายามจะดิ้น แต่เขาก็รวบขาฉันที่พยายามจะเตะเขา

    ช่วยด้วยยยยย ใครก็ได้ช่วยที

    "ปล่อยเธอนะ" เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้น และมันทำให้ฉันดีใจเพราะฉันจำได้ว่ามันเป็นเสียงใคร

    "คังชินจีงั้นเหรอ นายมายุ่งอะไรด้วย"

    "ผู้หญิงคนนั้นมากับฉัน"

    "ช่วยฉันด้วย!!!"ฉันร้องเสียงดังลั่น

    "หยุดโวยวายน่า ก่อเรื่องไม่หยุดจริงๆ นะเธอนี่" เขาพูดด้วยเสียงเอื้อมระอา

    ฉันไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องซะหน่อย ฉันกำลังถูกลัพาตัวนะ

    "ฉันจะพาเธอไป" นายซูฮองพูดขึ้น

    "คงเป็นไปไม่ได้"

    "งั้นคงต้องดูว่านายมีปัญญาเอาเธอคืนไปรึเปล่า" เขาพูดเสร็จก็วางฉันลง ฉันรู้สึกเหมือนโลกมันกลับด้าน แล้วฉันก็เซจนไปนั่งพิงอยู่กับกำแพง

    "ฉันไม่อยากมีเรื่อง แต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องดูกันหน่อย" ทันทีที่เขาพูดจบ หมัดที่ฉันว่ามันต้องหนักมากๆ ก็ลอยกระแทกหน้านายซูฮอง

    ผลั่ก ผลัวะ ผลัวะ

    แล้วการแลกหมัด (ซึ่งส่วนใหญ่นายชินจีจะหลบได้ ส่วนนายซูฮองโดนเต็มๆ) ก็เริ่มขึ้น แต่ตอนที่นายซูฮองกำลังจะแย่ จู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง และคนที่ออกมาก็คือผู้ชายที่โดนฉันหักแขน

    "แก!!!" มันร้องลั่นก่อนจะง้างหมัดใส่นายชินจี

    แต่นายชินจีก็หลบได้ ก่อนจะสวนเข้าให้หนึ่งหมัด แต่เพราะมัวแต่สู้กับผู้ชายคนนั้นเขาจึงไม่ทันสังเกตว่านายซูฮองลุกขึ้นได้แล้ว และมันก็หยิบไม้มาจากไหนก็ไม่รู้

    "ระวัง!!!!" ฉันร้องเสียงก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้นแล้วก็วิ่งเอาไหล่กระแทกนายซูฮองจนเสียหลัก และไม้ก็กระเด็นหลุดมือ

    แต่ปัญหามันอยู่ที่ไม้ที่กระเด็นหลุดมือนะมันไปได้ไม่ไกลเกินหัวฉันนี่ซิ

    โป๊ก

    "โอ้ยย!!!" ฉันร้องลั่น ด้วยความมึนอย่างแรง

    "ยัยบ้า!!!" ฉันได้ยินเสียงนายชินจีตะโกน

    และมันก็เป็นเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน

    .........................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×