ตอนที่ 23 : บทที่ 10 - ลุกขึ้นสู้ ! ( 100% )
รบกวนทุกคนช่วยเข้าไปกดไลค์แฟนเพจเพื่อนแพงด้วยนะคะ ลิ้งค์บล็อกแฟนเพจอยู่ในหน้าแรกของนิยายค่ะ
แต่ถ้าใครขี้เกียจย้อนกลับไปกดไลค์ที่หน้าแรกของนิยาย วันนี้เพื่อนแพงมีลิ้งค์มาฝากค่ะ
เข้าไปกดถูกใจกันเยอะๆ นะคะ FC ทุกท่าน จะได้ติดตามผลงานนิยายกันต่อไปเนอะ
ถ้าเกิดว่ามีคนกดถูกใจถึงเป้าที่ตั้งไว้ในขั้นแรก 50 คน
เพื่อนแพงจะตอบแทนด้วยการอัพนิยายเรื่องใหม่ให้ทันทีเลยค่ะ 1 เรื่อง !!!
รีบๆ ไปกดไลค์กันเต๊อะ ^^ อิอิ
https://www.facebook.com/DekDHayase/
บทที่ 10
ลุกขึ้นสู้ ! ( 100% )
ไฮเฟลพาฉันออกมาจากบ้านของซีโร่ ร่างสูงจัดการเปิดประตูรถราคาแพงให้ฉันเข้าไปนั่ง ก่อนที่ตัวเขาจะเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อเข้ามาประจำที่คนขับ ใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย แต่รอยยิ้มของเขาก็ช่วยทำให้หัวใจของฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
“ โอเคขึ้นมั้ย ? “ เสียงเข้มถาม
“ อยากได้ความจริงหรือการโกหกล่ะ “ ฉันถามกลับ
“ โกหก “ คนพูดอมยิ้ม
“ โอเคขึ้นมากกกก ! “ ฉันแสร้งทำเสียงสูง
“ แล้วถ้าความจริงล่ะ “ ไฮเฟลยิ้มร่า
“ ไม่เลย ฉันไม่โอเคเลยสักนิด “ ว่าจบก็เบ้ปาก
ลองใครมาเจอแบบฉันก็ไม่มีทางโอเคง่ายๆ หรอก
ไฮเฟลขับรถออกจากบ้านหลังโตของซีโร่ ระหว่างทางเราสองคนนั่งกันมาเงียบๆ เงียบมากจนฉันลืมไปเสียสนิทเลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพที่มีแค่ผ้านวมผืนใหญ่พันกาย โดยปราศจากเครื่องแต่งกาย !
แถมร่อยรองสีแดงช้ำบนลำคอระหงไล่มาจนถึงไหปลาร้าสวยนั่นอีก บ้าที่สุด ! ทำไมอีตาซีโร่ต้องทำรอยให้เห็นเด่นชัดขนาดนี้ด้วยนะ เขาต้องการให้ฉันอับอายไปถึงไหน
“ เป็นอะไรครับ ? “ คำถามเสียงแผ่วเบาจากคนข้างกาย
“ เอ่อ… คือว่า ฉัน… “
โอ๊ย ! แล้วจะให้ฉันพูดว่ายังไงกัน มันตื๊อไปหมด
“ เดี๋ยวจะพาไปแต่งตัวนะ ไม่ต้องห่วง “ รอยยิ้มถูกระบายขึ้นที่ริมฝีปากหยักสวยอีกครั้ง
ไฮเฟลส่งสายตาแห่งความห่วงใยมายังร่างบาง
“ อืม… ขะ ขอบคุณนะ “
ฉันก้มหัวให้เขาเล็กน้อย แสดงว่าเขาก็รู้อยู่ว่าฉันไม่สบายใจเรื่องเสื้อผ้า ทำไมเขาถึงได้เป็นคนดีขนาดนี้นะ ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่อยู่ข้างกายฉันตอนนี้จะมีสายเลือดเดียวกันกับซีโร่
ทั้งสองคนต่างกันราวฟ้ากับเหว !
“ ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย ? “ ฉันเอ่ยอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก
“ ว่ามาสิ ถ้า… ตอบได้นะ “ ชายหนุ่มพูดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
อะไรกันผู้ชายคนนี้ วันๆ จะเอาแต่ยิ้มหรือไง แต่ก็ดีนะ ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันชอบรอยยิ้มของเขาจัง
“ คุณกับซีโร่ เป็น เอ่อ… เป็นพี่น้องกันจริงๆ เหรอ ? “
“ ไม่เชื่อเหรอ ? “
คนถูกถามย้อนถามกลับ ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ มันดูไม่น่าเชื่อด้วยประการทั้งปวง นิสัยต่างกันสุดขั้วขนาดนี้ และไหนจะท่าทางราวกับอยากฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งอีก ดูยังไงก็ไม่ใช่คนเป็นพี่น้องกัน
ถึงจะต่างมารดาก็เถอะ… ก็ฉันจำได้ที่ซีโร่บอกว่าเขาเป็น ลูกเมียน้อย
“ ซีโร่เป็นน้องผม แต่สำหรับเขา… ผมคงไม่ใช่พี่ชายของเขา “ เสียงเข้มเอ่ยราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้มีท่าทีซีเรียสอะไร
“ ทำไมล่ะ เกลียดกันมากขนาดนั้นเลยเหรอ ? “ ฉันยังคงถามต่อ
ฉันรู้ว่ามันดูไม่ควรที่ฉันจะละลาบละล้วงเรื่องในครอบครัวของเขา แต่ความอยากรู้มันก็ชนะความยับยั้งชั่งใจทุกอย่าง
“ ผมไม่เคยเกลียดเขา แต่เขาเกลียดผมกับ… “ พูดถึงตรงนี้ เจ้าของใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มก็แอบเศร้าขึ้นมา “ แม่ “
แม่… เหรอ ?
“ ซีโร่เขาเกลียดแม่ของผมมาก เพราะว่า… “
“ พะ พอเถอะค่ะ “ ฉันรีบห้ามก่อนที่เขาจะพูดจบ “ อย่าเล่าให้ฉันฟังเลย แค่ฉันถามมันก็มากเกินไปแล้ว “ ฉันว่าอย่างเกรงใจ เรียกเสียงหัวเราะได้ดีจากคนข้างกาย
“ คุณหัวเราะทำไม ? “ ฉันขมวดคิ้ว
“ ก็คุณทำหน้าตาแบบนั้นไม่ให้ผมขำได้ยังไง ฮ่าๆ “ พูดไปก็หัวเราะไป
“ ฉันทำหน้าแบบไหนกันเล่า “ ฉันทำเสียงขึ้นจมูก
“ ผมไม่ถือหรอกกับสิ่งที่คุณถาม คุณเห็นการกระทำทุกอย่างระหว่างเราสองคน ก็ไม่แปลกที่จะอยากรู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริง แต่ก็อย่างที่คุณบอก มันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณฟัง “ ร่างสูงกล่าว
“ เห ? หมายความว่ายังไงที่ว่ายังไม่ถึงเวลา “
เขาดูพูดมีลับลมคมในอะไรสักอย่าง…
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมมันก็แบบนี้แหละ พูดไปเรื่อยเปื่อย “ ไฮเฟลเลี่ยงคำถามจากร่างบาง “ ว่าแต่คุณเถอะ จะเอายังไงต่อไป “ สายตาเข้มมองหญิงสาว
พอเจอคำถามนี้เข้าไปหัวสมองของฉันก็แน่นไปหมด
“ ฉัน… “ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
“ ผมไม่รู้หรอกนะครับ ว่าเรื่องราวระหว่างคุณกับซีโร่มีความเป็นมายังไง แต่ว่าผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างของการกระทำ มันมักมีเหตุผลเสมอ “
“ ฉันว่าฉันเริ่มไม่เข้าใจในคำพูดของคุณแล้วล่ะ “
“ ฮ่าๆ เอาเป็นว่า ไม่ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ผมอยากขอให้คุณลุกขึ้นสู้ อย่ายอมแพ้ในสิ่งที่พบเจอ ตกลงมั้ยครับ “ ไฮเฟลเหลือบมองคนข้างกายอย่างจริงจัง
“ ฉันคงไม่มีอะไรจะไปสู้… กับคนอย่างเขา “
เชื่อเถอะ คนพาลอย่างซีโร่ไม่มีทางหยุดอยู่เพียงแค่นี้แน่นอน จนกว่าฉันจะตายกันไปข้างหนึ่งแหละ คนอย่างเขาถึงจะพอใจ หรือไม่… เขาก็อาจจะไม่มีวันพอใจแม้ว่าฉันจะตายลงตรงหน้า !
ไม่รู้ว่าเขาจงเกลียดจงชังอะไรฉันนัก ถึงได้จ้องทำร้ายกันได้ถึงเพียงนี้
“ คุณมีทุกอย่างที่จะสู้ อยู่ที่ใจของคุณ “ ไฮเฟลพูด
“ เหอะ คนอย่างฉันน่ะเหรอ ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่มีปมในอดีต มีชนักติดหลังมากมาย จะเอาปัญญาที่ไหนไปต่อกรกับน้องชายของคุณ คุณไม่รู้หรอกว่าซีโร่เขาทำอะไรกับฉันไว้บ้าง “
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาทำตั้งแต่อดีต สองมือบางก็กำหมัดแน่น
“ คุณคิดผิดแล้วล่ะ คุณไอรีน “ ริมฝีปากหยักหนายิ้ม
“ อะไร ฉันคิดผิดอะไร ? “ ฉันถามอย่างสงสัย
“ คนที่ไม่อะไรจะต่อกรกับคุณ คือซีโร่ต่างหาก ไม่ใช่คุณ… “
ซีโร่เนี่ยนะ ไม่มีอะไรจะต่อกรกับฉัน
“ คนที่คุณมองว่าเขามีทุกอย่างอยู่ในมือ บางทีเขาอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้… “
ยิ่งเขาพูดฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจ นี่เขาต้องการจะสื่ออะไรให้ฉันรู้ไม่ทราบ
“ วันนี้คุณอาจจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด แต่เชื่อเถอะ สักวันหนึ่งคุณจะเข้าใจทุกอย่าง “
“ ฉันอยากจะ… “
“ โอเค ! ถึงคอนโดผมสักที รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมขึ้นไปเอาเสื้อผ้ามาให้ “
เราคุยกันมาตลอดทางจนกระทั่งรถราคาแพงของเขาก็พาเราทั้งสองมาถึงจุดหมาย นั่นก็คือ… คอนโดของไฮเฟลนั่นเอง ร่างสูงกำลังจะปลดเข้มขัดนิรภัยเตรียมตัวลงจากรถ แต่มือบางของฉันก็ไวเกินคาดรีบดึงแขนแกร่งเอาไว้
“ คุณช่วยอธิบายในสิ่งที่คุณพูดได้มั้ย มันค้างคา ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ “
เขามากระตุกต่อมแห่งความอยากรู้เข้าเต็มเปาแล้วจะตัดบททิ้งง่ายๆ แบบนี้น่ะเหรอ ? ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยเรื่องนี้ไป ผู้ชายคนนี้ต้องมีอะไรในใจแน่นอน และที่สำคัญ… ต้องมีฉันเข้าไปเอี่ยวอยู่พอสมควร เพราะคำพูดของเขามันกำกวม เหมือนจะบอกแต่พอเอาเข้าจริงๆ เขากลับไม่ปริปากอะไร
มันน่าสงสัยในการกระทำของเขา…
“ ผมจะเอาเสื้อเชิตกับกางเกงวอมของผมมาให้คุณเปลี่ยนที่รถนะ ผมไม่มีพวกเสื้อผ้าผู้หญิงเลย คงช่วยคุณได้เท่านี้จริงๆ “ เสียงเข้มร่ายยาว
แต่ไม่ตรงคำถามของฉันแม้แต่น้อย !
“ เดี๋ยวสิคุณ จะไปไหน คุณ… “ ไฮเฟลไม่สนเสียงเรียกของฉัน ร่างสูงก้าวเท้าไปอย่างรวดเร็ว จนแผ่นหลังหนาใหญ่หายลับเข้าไปในประตู “ อะไรกันเนี่ย ตกลงเขามีอะไรอยู่ในใจกันแน่ “ ฉันได้แต่คิดกับตัวเองอย่างสงสัย
ผ่านไปประมาณสามนาทีได้… ชายหนุ่มก็เปิดประตูรถยื่นถุงเสื้อผ้าส่งให้กับร่างบาง
“ เรียบร้อยแล้วครับ “ ใบหน้าแย้มยิ้ม
“ แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไง ว่าในรถคุณไม่มีกล้องซ่อนไว้ “
แหงล่ะ ต้องเปลือยกายเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถของคนแปลกหน้า มันก็ต้องมีตงิดใจกันบ้างล่ะ
“ ผมไม่ใช่พวกโรคจิตนะครับ “ ไฮเฟลหัวเราะร่วน ก่อนจะพูดเสียงจริงจัง “ ไว้ใจผมได้ คุณจะไม่มีทางเสียหาย “
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร สำหรับฉัน… ฉันเชื่อใจเขานะ ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดี ความรู้สึกมันบอกว่าคนแบบเขานี่แหละ ไว้ใจได้และน่าเชื่อถือมากที่สุดคนหนึ่ง
“ ขอบคุณค่ะ “ ฉันว่าแล้วทำท่าจะดึงประตูปิด แต่ทว่ามือหนากลับยื้อประตูเอาไว้ “ มีอะไรหรือเปล่า ? “
“ เรื่องที่ถามน่ะ… “ ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้ม “ บอกได้คำเดียวว่าให้สู้ สู้เท่านั้น แล้วคุณจะหลุดพ้นทุกอย่าง แค่เพียงคุณกล้าที่จะลุกขึ้นสู้ เชื่อผมสิ… “
“ ลุกขึ้นสู้ ? “ ฉันทำหน้างงๆ
“ ครับ แค่ลุกขึ้นสู้ “
ฉันต้อง… ลุกขึ้นสู้จริงๆ สินะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

114 ความคิดเห็น
-
#102 จิตร (จากตอนที่ 23)วันที่ 4 ธันวาคม 2558 / 14:20สู้แล้วเว้ย#1020