ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FIC BTS-JinV ] Magic Off Loved สลักดักรัก

    ลำดับตอนที่ #8 : MOL :: อนุญาติ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 51
      0
      23 ก.ค. 57



    [ FIC BTS-JinV ]

    Magic Off Loved  
    สลักดักรัก


     

    อนุญาติ....




    [ จิน พาร์ท ]

     

    เมื่อสองเท้าเหยียบลงสู่แผ่นดินของอังกฤษ ดินแดนที่สนิทชิดเชื้อยิ่งกว่าบ้าน เหอะ ๆ มาเยือนอังกฤษสิบกว่ารอบ เบื่อมากครับ บ่องตง แต่ล่ะครั้งที่มาก็ไม่ใช่เรื่องดี ไม่ดิ ดีเรื่องเดียว นอกนั้น So bad มาก

     

    ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นทันที ก่อนจะกดเบอร์ที่แสนจะคุ้นเคย ส่วนมืออีกข้างก็ลากกระเป๋า เดินตรงไปยังทางออกทันที

     

    “ฮัลโหล อยู่ไหน”

     

    ผมกรอกเสียงใส่ปลายสายทันทีที่มันรับ

     

    (ยังอยู่ที่โรงพยาบาล มึงมาถึงแล้วอ่อ)

     

    “เออ เพิ่งจะลงเครื่องเมื่อกี้ เดี๋ยวรอกูอยู่ที่โรงพยาบาลนั่นล่ะ จะไปรับ”

     

    (เยี่ยม แค่นี้นะ หมอเรียก)

     

    ผมวางสายจากคนสนิท ที่สนิทนี่อย่าคิดลึกครับมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ หย่อนโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะโบกแทกซี่และมุ่งสู่จุดหมายปลายทางทันที

     

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาลชื่อดังในแมนเชสเตอร์ ลุงคนขับใจดีช่วยขนกระเป๋าลงจากรถแทนการลดค่าแทกซี่ (ขอบคุณครับลุง ชาติหน้ามีจริงผมจะตอบแทนบุญคุณของลุงครั้งนี้นะครับ) ค่าแทกซี่แพงมากครับ โชคดีที่รายได้ค่อนข้างเยอะ กับค่าแทกซี่แค่นี้ บอกเลย กินแกลบหลายวันล่ะครับ...

     

    “น้องจินนนนนนน !

     

    ผมหันไปมองต้นตอของเสียงที่เรียกผมซะดังลั่นก่อนจะถึงประตูเข้าโรงพยาบาลพอดี

     

    “เฮ้ย นี่มึงหรอวะ ?”

     

    “โห่ มึงนี่ก็ทักซะ” เจ้าคิมนั่นล่ะครับ มันวิ่งมาหาผมและสวมกอดด้วยความรักและคิดถึงสุดหัวใจ “คิดถึงมึงชิบหาย ไม่เจอกันตั้ง สิบเดือน สิบสองวัน เจ็ดชั่วโมง...”

     

    “พอเลยไอ้คิม” ผมขัดมันก่อนที่มันจะพูดจบ ไม่รู้ว่ามันมารักษาตัวให้หายหรือให้บ้าขึ้นกันแน่

     

    “แหม่ มึงก็”

     

    “แล้วเรื่องค่ารักษาล่ะ ?”

     

    “หมอบอกว่าอาการไม่น่าเป็นห่วงแล้ว คือไม่ต้องเป็นห่วง สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เออ แต่ว่ามึงลองดูสภาพกูดิ พอที่จะกลับไปหาน้องชายที่รักได้ยังวะ ?”

     

    ตอบตรงคำถามมากครับ สาสสสส...

     

    ติ้ด ติ้ด

     

    เสียงโทรศัพท์ของผมเองลาะครับ ผมเปลี่ยนริงโทนแล้วล่ะ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ว่างจัด

     

    “เดี๋ยวคุยโทรศัพท์แป๊ป”

     

    ผมล้วงเอาโทรศัพท์ที่ซ่อนอยู่ในกระเป่ากางเกงออกมา พอดูชื่อปู๊ปก็พบว่าเป็นหมอปรระจำตัวเจ้าคิม

     

    “ครับหมอ”

     

    (คงได้เจอกันแล้วนะหนูจิน กับเพื่อนเราน่ะ เรื่องค่ารักษาไม่ต้องห่วงเพราะว่าหมอได้รับมาแล้ว เป็นข้าวต้มหนึ่งถ้วย ยาแก้ปวดสามแผง และน้ำเปล่าขวดนึง)

     

    เอ่อ...ไม่ทราบว่าเป็นหมอที่ออกโฆษณาประกันภัยป่ะครับ...

     

    (ฮ่า ๆ หมอล้อเล่นน่ะ เอาเป็นว่าหมอได้รับแล้วล่ะกันนะหนูจิน)

     

    “อ่อ ครับขอบคุณที่ดูแลเพื่อนผมนะครับ”

     

    (มันเป็นหน้าที่นี่นา)

     

    แล้วบทสนทนาก็ยาวมากเลยล่ะครับ ผมจึงตัดบทไปด้วยการที่จะพาเจ้าคนสนิท ไปพักผ่อน

     

    ว่าแต่ใครออกค่ารักษาวะ ? ช่างเหอะเลิกคิด

     

    หลังจากนั้นผมกับเจ้าคิมก็เดินทางไปยังคอนโดที่ซื้อไว้นานมากแล้ว ก่อนหน้านี้ผมแจ้งให้แม่บ้านไปทำความสะอาดแล้วล่ะ สภาพตอนเข้าห้องมามันก็เลยดูดีสุด ๆ

     

    “เห้ย มึงยังไม่ตอบคำถามกูตั้งแต่โรงพยาบาลเลยนะว่าสภาพกูโอเคยัง”

     

    “ก็โอเคแล้วมึง พร้อมกลับป่ะล่ะ แต่กูบอกว่าอาทิตย์หน้าถึงจะกลับ”

     

    ผมว่ามันก็โอเคแหละ แค่โดนเฉี่ยวลิ้นหัวใจนิดเดียว จากนั้นก็ช็อกจนหมดสติ แถมหยุดหายใจไปสิบสองนาทีเอง รักษาประมาณสองเดือนก็สามารถหายใจได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หนึ่งเดือนถัดมาก็ได้สติ และได้รับการบำบัด เพราะรู้สึกว่าต้องทดสอบเยอะแยะ ปาเข้าไปสิบเดือนกว่าถึงได้สมบูรณ์แบบ นิดเดียวจริง ๆ นะ

     

    “แล้วมึงคิดว่าน้องจะโกรธกูป่ะวะ ?” คิมถามต่อ

     

    “น้องมันอาจจะดีใจที่ได้เห็นมึงก็ได้ หลังจากที่ตายไปสิบเดือน”

     

    แต่มันอาจจะโกรธผมจนไม่อยากมองหน้า ไม่อยากนับพี่ ไม่อยากจดจำในสิ่งที่เป็นจิน โทษของการเล่นกับความรู้สึกของคนมันร้ายแรงนะ

     

    “กูก็คิดแบบเดียวกับมึง อาจจะโกรธแต่ง้อเดี๋ยวก็หาย เนอะ”

     

    ผมพยักหน้า ก่อนจะเอนตัวลงไปนอนบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า เวลาของที่นี่กับโซลต่างกันมากนะ ที่โซลอาจจะเข้านอนกันแล้ว แต่ที่นี่สิ พระอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้าเลย ยิ่งเป็นช่วงหน้าร้อนด้วย (แต่ผมว่าอากาศกำลังดีเลยนะ หน้าร้อนของที่นี่น่ะ)

     

    บางทีผมก็อิจฉามันเหมือนกันนะ ทั้งความสามารถ ทั้งเป็นผู้นำที่ดี มีคนชื่นชม และยกย่อง และที่สำคัญเจ้าวี หรือแทฮยองติดมากครับ ตอนเด็ก ๆ ผมกับแทฮยองก็สนิทกันนะ แบบเพื่อนข้างบ้านอ่ะนะ แต่ว่าพอคิมมันเข้ามา (ย้ายมาอาศัยในหมู่บ้านเดียวกันครับ มันอยู่คนเดียวเพราะพ่อแม่ตายไปแล้ว มีคนคอยส่งเงินมาให้มันใช้ตลอดล่ะ)  รู้สึกว่ามันจะเหมาะเจาะพอดี มันเข้ามาแทนที่ผมที่ต้องไปเรียนในตัวเมือง ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน

     

    ผมมีเพื่อนที่สนิทกันจริง ๆ ในเมืองแค่ไม่กี่คน ก็ยุนกิ กับโฮซ็อกนั่นแหละ พวกนั้นมาเที่ยวที่บ้านของผมบ่อยครับ พอขึ้น ม.ปลาย เราก็สนิทกันเพิ่มขึ้น เพราะต่างคนก็ต่างรู้สันดานกันหมดล่ะ แต่มันก็เสียอย่างเดียวที่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนผมกลับไปพักผ่อนที่บ้าน เห็นวีกับคิมมันสนิทกันมากขึ้น ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก คิมมันก็เล่นกับผม แทฮยองก็เล่นกับผมปกติ แต่รู้สึกมันจะเขินอะไรก็ไม่รู้ ไม่ค่อยใกล้ตัวผมเท่าไหร่ บางทีผมก็ชอบคิดไปเองว่าบางทีเราอาจจะไม่ได้เจอกันหลายปี ก็เลยทำตัวไม่ถูก ผมโตขึ้น แทฮยองก็โตขึ้น คิมมันก็โตขึ้นเหมือนกัน

     

    ยุนกิ และโฮซ็อก มาเล่นที่บ้านของผมบ่อยนะครับ โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม ช่วงเปิดเทอมไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่นอกจากมีงานกลุ่มจริง ๆ ทั้งคู่ก็เป็นที่รู้จักกับแทฮยอง แล้วก็คิมครับ

     

    ผมและพวกพ้องอีกห้าคนตัดสินใจไปน้ำตกกัน พ่อกับแม่ของผมและแทฮยองก็ไปครับ รวม ๆ แล้วก็ร่วมสิบคนได้ หรืออาจจะเกิน (?) แต่มันก็เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้เที่ยวเล่นกัน ในวันนั้นพายุเข้า จนเกิดน้ำป่าไหลหลาก พ่อกับแม่ของผมและแทฮยอง เสียชีวิตที่นั่น มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมาก

     

    ผม แทฮยอง และคิมเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จด้วยเงินของพ่อแม่ ที่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย บ้านเก่าทั้งสามขายทิ้งหมดครับ มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือด้านนี้อยู่เยอะ

     

    ช่วงเปิดเทอมคะแนนของผมตกต่ำและย่ำแย่ที่สุดจนเกือบโดนไล่ออก โชคดีที่จงกุก(น้องรหัสของแทฮยอง) ลูกชาย ผอ.ช่วยไว้ หลังจากนั้นพอทำใจได้คะแนนก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผมไม่เท่าไหร่ครับ แต่แทฮยองนี่สิ จากเด็กดี ๆ กลายเป็นอัธพาลมีเรื่องชกต่อยไม่เว้นแต่ล่ะวัน ผมแก้ปัญหาพวกนี้ไม่หายสักที ต้องตามแก้ปัญหาที่มันก่อ ในขณะที่คิมใกล้ชิดกับแทฮยองก็ช่วยอบรมอยู่

     

    เราทั้งสามคนตัดสิบในสาบานว่าจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป ไหน ๆ ก็ไม่เหลือใครกันหมดแล้ว ความสัมพันธ์นี้เปิดเผยครับ ไม่ปิดบัง ใคร ๆ ก็รู้ นามสกุลเดียวกันด้วยไง

     

    กลุ่มของผมประกอบไปด้วย ผม คิม แทฮยอง โฮซ็อก ยุนกิ  จองกุก (ไม่ค่อยมีเพื่อนเลยเอาเข้ากลุ่มซะ) แล้วก็จีมิน เพื่อนสนิทของแทฮยอง แต่ตอนนี้ดันแปลพรรค์ไปเป็นน้องรักของยุนกิซะ แถมเจ้าโฮซ็อกก็เข้ามาสนิทกับแทฮยองแทนจนไม่ต้องเรียกพี่เรียกน้อง

     

    ผ่านไปหลายปี เราตัดสินใจตั้งคลับขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า บังทันคลับ ก่อตั้งมาจะสองปีล่ะครับ คลับก็เป็นไปได้สวย ตอนนี้ก็ไต่เต้าไปเรื่อย ๆ ทำเงินมหาศาลพอสมควร ถึงแม้จะมีเรื่องที่หุ้นส่นของคลับมีเรื่องจนตายคาคลับ แต่ก็ยังดำเนินต่อไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร

     

    “เห้ยย มึงกูหิว”

     

    “มึงก็ลงไปหาซื้ออะไรกินข้างล่างดิวะไอ้คิม”

     

    “เออ ๆ งั้นเดี๋ยวกูมาล่ะกัน”

     

    ผมได้ยินเสียงปิดประตูดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามันออกไปแล้ว ไม่ถึงสามวินาทีมันก็เปิดประตูเข้ามาอีก

     

    “เออ แล้วมึงก็เลิกเรียกกูว่าคิมได้แล้ว ต่อไปเรียกชื่อเดิม”

     

    “แน่ใจนะ”

     

    “เออ กูแน่ใจ...”

     

    “ต่อจากนี้กูอนุญาติให้มึงเรียกกูว่า คิม นัมจุน

     

    [ จิน พาร์ท ]















    (c) Chess theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×