ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะใภ้สายลับ 2

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 นายใหม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.14K
      6
      14 พ.ค. 57

    สะใภ้สายลับ 2

     

    บทที่ 3

     

    นายใหม่

     

     

                                    “บ้านเดชกำจร”

     

     

                                    อาคมเงยหน้าอ่านป้ายเหนือศีรษะด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาเคยช่วยชีวิตเสี่ยกำพลเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ไว้ เพื่อตอบแทนความช่วยเหลือครั้งนั้น เสี่ยใหญ่จึงเอ่ยปากชวนเขามาอยู่ด้วย แต่ตอนนั้นเขาเป็นลูกน้องของเสี่ยวิบูลย์อยู่แล้ว

     

     

                                    เขาจึงตอบปฏิเสธข้อเสนอของเสี่ยกำพลไป แต่รับนามบัตรพร้อมคำสัญญาของเสี่ยใหญ่ไว้ ตอนนั้นเสี่ยกำพลบอกว่าถ้าเขาเดือดร้อนเมื่อไรให้มาหา เสี่ยใหญ่จะช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ ซึ่งตอนนี้เวลานั้นมาถึงแล้ว เขาจึงใช้เงินสองร้อยบาทของแวว ดั้นด้นมาหาเสี่ยกำพลถึงบ้าน เพื่อทวงถามคำสัญญาในครั้งนั้น

     

     

                                    มายืนทำอะไรแถวนี้ยามร่างใหญ่เปิดประตูออกมาถาม อาคมรีบเดินเข้าไปหา แล้วบอกจุดประสงค์ของตน

     

     

                                    ฉันมาขอพบเสี่ยกำพล ช่วยไปบอกให้หน่อยได้ไหม

     

     

                                    ยามคนเดิมมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนโบกมือไล่เหมือนเขาไม่ใช่คน

     

     

                                    เสี่ยไม่ว่างมาพบแกหรอก จะไปไหนก็ไปเลย อย่ามาเกะกะแถวนี้”

     

     

                                    “ฉันขอร้องล่ะพี่ชาย ฉันจำเป็นต้องพบเสี่ยกำพลจริงๆ ช่วยไปบอกเสี่ยให้หน่อยว่าคนชื่ออาคมมาขอพบ ช่วยฉันสักครั้งนะ แล้วฉันจะไม่ลืมพระคุณเลย” เขาลงทุนอ้อนวอน แต่อีกฝ่ายไม่ใส่ใจ แถมยังผลักอกเขาอีก

     

     

                                    “บอกว่าไม่ก็ไม่สิ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ไปให้พ้นเลยนะ”

     

     

                                    “ฉันไม่ไป ฉันต้องพบเสี่ยกำพลให้ได้ ถ้านายไม่ไปบอกเสี่ย ฉันจะนั่งรออยู่ตรงนี้แหล่ะ” อาคมเอ่ยอย่างแน่วแน่ ต่อให้ต้องนั่งรอจนถึงเช้า เขาก็จะรอ เพราะเขาหมดที่ไปแล้วจริงๆ

     

     

                                    “เอ๊ะไอ้นี่ อยากเจ็บตัวใช่ไหม” ยามร่างใหญ่กระชากคอเสื้อเขาพลางเงื้อกำปั้นขึ้นสูง แต่ต้องชะงักมือ เมื่อมีเสียงหนึ่งขัดขึ้น

     

     

                                    ทำอะไรกัน

     

     

                                    “ไม่มีอะไรหรอกครับคุณนที แค่คนจรจัดมายืนเกะกะหน้าบ้าน ผมกำลังจะไล่มันไปครับ” ยามหนุ่มปล่อยมือ แล้วหันไปตอบ ท่าทางสุภาพขึ้นมาทันที

     

     

                                    “คนจรจัดเหรอ” นทีมองเขาตั้งแค่หัวจรดปลายเท้า ก่อนหันไปสั่งลูกน้องของตน “ไล่ไปให้พ้น”

     

     

                                    “ฉันไม่ใช่คนจรจัด ฉันมาขอพบเสี่ยกำพล” อาคมร้องบอก ชายคนนี้น่าจะมีอายุไล่เลี่ยกับเขา รูปร่างสูงผอม แววตาแข็งกร้าว เมื่อดูจากท่าทางนอบน้อมของยามหนุ่ม เขาคงมีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว

     

     

                                    นทีมองเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้เริ่มจากเท้า แล้วมาหยุดที่ใบหน้า

     

     

                                    “นายเป็นใคร รู้จักเสี่ยได้ยังไง”

     

     

                                    “ฉันชื่ออาคม เสี่ยกำพลรู้จักฉันดี เขาเป็นคนให้ฉันมาหาที่นี่ ขอฉันเข้าไปพบเสี่ยได้ไหม” อาคมเอ่ยขอร้อง นทีหรี่ตามองอย่างชั่งใจ แต่สุดท้ายก็ตอบปฏิเสธ

     

     

                                    เสี่ยไม่ว่างพบใครหรอก นายกลับไปเถอะ

     

     

                                    “นายยังไม่ได้บอกเสี่ยเลย แล้วรู้ได้ยังไงว่าเสี่ยไม่อยากพบฉัน”

     

     

                                    “สารรูปยังกับขอทาน ยังจะกล้าถามอีกเหรอ” ยามหนุ่มพูดแทรกขึ้น ก่อนหันไปประจบลูกพี่ของตน “เดี๋ยวผมจัดการมันเอง คุณนทีเข้าบ้านไปเถอะครับ”

     

     

                                    “ไม่ต้อง” นทียกมือห้าม แล้วหันมาพูดกับเขา “นายรออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวฉันจะไปบอกเสี่ยให้เอง”

     

     

                                    “ขอบใจนะ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณนายเลย”

     

     

                                    นทีพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในคฤหาสน์ อาคมมองตามอย่างโล่งใจ ก่อนเดินไปยืนรอริมกำแพง เขาพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ที่เหลือก็ต้องลุ้นให้เสี่ยกำพลไม่เป็นคนขี้หลงขี้ลืมเท่านั้น

     

     

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

     

     

                                    เสียงเคาะประตูดึงให้เสี่ยกำพลเงยหน้าจากแฟ้มเอกสาร เขาเอ่ยอนุญาตแล้วหยิบปากกามาเซ็นชื่อ ก่อนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เมื่อลูกน้องคนสนิทร้องเรียก

     

     

                                    เสี่ยครับ

     

     

                                    “ออกไปก่อน” เสี่ยกำพลโบกมือไล่ แล้วหันไปมองแขกของตน ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดูซอมซ่อยิ่งกว่าขอทาน เขาสวมกางเกงขาดรุ่งริ่งกับเสื้อยืดสกปรก หนวดเครารกรุงรัง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ไม่เหลือเค้ามือขวาของเสี่ยวิบูลย์ที่เขาเคยรู้จักเลยสักนิด

     

     

                                    สวัสดีครับเสี่ยอาคมยกมือไหว้ทักทาย

     

     

                                    สวัสดี ไม่ได้เจอกันนาน ลื้อโทรมไปเยอะเลย คงเจอเรื่องหนักๆ มาเยอะสินะเสี่ยใหญ่ทักทายตอบ เขารู้จักอาคมเมื่อหลายปีก่อน ชายหนุ่มช่วยชีวิตเขาไว้จากมือสังหาร เขาพอใจฝีมือของอีกฝ่ายมากจึงชวนมาอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนั้นอาคมปฏิเสธคำชวนของเขา เพราะมีนายคุ้มหัวอยู่แล้ว ต่อมาเขารู้ว่านายของอาคมติดคุกคดีค้ายาเสพติด โดยลากเอาลูกน้องทั้งหมดเข้าคุกไปด้วย

     

     

                                    ครับเสี่ย หนักมากจริงๆ

     

     

                                    ลื้อมาหาอั๊วทำไมเขาถามเข้าประเด็น

     

     

                                    ผมกำลังลำบาก อยากขอมาอยู่กับเสี่ยสักพัก เสี่ยจะสะดวกไหมครับอาคมจ้องมองนิ่งๆ เสี่ยกำพลมองตอบ ชายหนุ่มแหกคุกออกมาแบบนี้ ถ้าเขารับไว้ก็เหมือนหาเหาใส่หัว แต่คนเดือดร้อนมาขอพึ่ง ถ้าเขาไม่รับไว้ก็ดูจะแล้งน้ำใจเกินไป หนำซ้ำอาคมยังเคยช่วยชีวิตเขาไว้ด้วย

     

     

                                    ได้สิ อั๊วชอบเลี้ยงคนเก่งๆ ลื้อเป็นคนมีฝีมือ ถ้าลื้อไม่มีที่ไปจริงๆ มาทำงานกับอั๊วก็ได้

     

     

                                    ขอบคุณครับเสี่ย ผมรับรองว่าจะไม่ทำให้เสี่ยผิดหวัง

     

     

                                    ลื้อไปพักที่บ้านสวนของอั๊วก่อน อย่าออกมาเผ่นพล่านให้ตำรวจเห็น ถ้ามีงานเมื่อไร อั๊วจะให้คนไปตาม เสี่ยกำพลสั่งความ ก่อนเปิดลิ้นชักหยิบธนบัตรส่งให้อาคมปึกหนึ่ง “อั๊วให้ เอาไปซื้อเสื้อผ้า ของกินของใช้ แล้วไปตัดผมให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีใครสงสัย”

     

     

                                    “ขอบคุณครับเสี่ย” ชายหนุ่มยื่นมือไปรับ เสี่ยมีบุญคุณกับผมมาก มีอะไรที่ผมทำให้ได้ ขอให้บอกนะครับ ผมยินดีจะทำให้ทุกอย่าง

     

     

                                    ลื้อได้ช่วยงานอั๊วแน่ แต่ตอนนี้ไปพักให้หายเหนื่อยก่อน เดี๋ยวอั๊วจะให้คนพาลื้อไปที่บ้านสวนเสี่ยใหญ่หยิบโทรศัพท์แนบหู ก่อนต่อสายถึงมือขวาของตน “เข้ามาหาอั๊วหน่อยนที”

     

     

                                    “ครับเสี่ย” นทีรับคำพลางเปิดประตูเดินเข้ามาหา “เสี่ยมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”

     

     

                                    “ให้คนพาอาคมไปส่งที่บ้านสวนด้วย”

     

     

                                    “ครับเสี่ย” เขารับคำแล้วหันไปพูดกับอาคม “ลงไปรอข้างล่างก่อน เดี๋ยวฉันตามลงไป”

     

     

                                    “ผมลาครับเสี่ยชายหนุ่มยกมือไหว้ แล้วเดินออกไป พอประตูห้องปิดสนิท นทีก็หันไปถามผู้เป็นนาย

     

     

                                    ทำแบบนี้จะดีเหรอครับ อาคมเป็นนักโทษแหกคุก ถ้ารู้ถึงตำรวจเราจะเดือดร้อนไปด้วย

     

     

                                    ก็อย่าให้พวกมันรู้สิ อาคมเป็นคนมีฝีมือ ชุบเลี้ยงไว้ก็ไม่เสียหาย อีกหน่อยคงได้ใช้งาน

     

     

                                    แต่...ชายหนุ่มจะเอ่ยทักท้วงอีก แต่ถูกผู้เป็นนายยกมือห้าม

     

     

                                    “ไม่มีแต่ อั๊วสั่งยังไงลื้อก็ทำยังงั้น อย่าได้บังอาจมาขัดคำสั่งอั๊ว”

     

     

                                    “ขอโทษครับ ผมจะให้คนพาอาคมไปส่งที่บ้านสวนเดี๋ยวนี้”

     

     

                                    นทีหันหลังเดินออกจากห้องทำงาน เขาสังหรณ์ใจว่าอาคมจะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้เสี่ยกำพล แต่ในเมื่อเตือนแล้วผู้เป็นนายไม่ฟัง เขาก็คงต้องปล่อยไปเท่านั้น

     

     

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

     

     

                                    อาคมเงยหน้ามองที่พักของตน มันเป็นบ้านไม้สองชั้นตั้งอยู่กลางสวนรกครึ้ม รอบล้อมด้วยรั้วก่ออิฐถือปูนสูงท่วมศีรษะ สภาพโดยรวมดูน่ากลัวมากกว่าน่าอยู่อาศัย ขนาดเขาไม่ใช่คนกลัวผียังอดขนลุกไม่ได้ ช่างเป็นที่ซ่อนที่เหมาะกับนักโทษแหกคุกอย่างเขาเหลือเกิน

     

     

                                    ปกติใครอยู่ที่นี่เหรอดำ เขาหันไปถามชายหนุ่มรุ่นน้อง ซึ่งเป็นคนพาเขามาส่งที่นี่ และจะคอยดูแลเขาในระหว่างซ่อนตัว

     

     

                                    ไม่มีหรอก เสี่ยใช้เป็นที่พักของ พี่เป็นคนแรกที่ได้มาอยู่ที่นี่ดำตอบ เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด ผิวดำจัดสมกับชื่อ อายุน่าจะน้อยกว่าเขาหลายปี แต่อยู่กับเสี่ยกำพลมานาน จึงได้รับความไว้ใจให้เข้านอกออกในบ้านเดชกำจรได้

     

     

                                    ของอะไรเหรออาคมถามอย่างสงสัย แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ เขาตัดบทแล้วบอกลาดื้อๆ

     

     

                                    เดี๋ยวพี่ก็รู้ ฉันไปก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้จะเอาเสื้อผ้ากับเสบียงมาให้”

     

     

                                    ขอบใจนะ” เขายิ้มให้อย่างเป็นมิตร

     

     

                                    “ไม่เป็นไรพี่” หนุ่มรุ่นน้องพยักหน้ารับ แล้วเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่นอกรั้ว ก่อนขับจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เขาทำความรู้จักกับบ้านใหม่ตามลำพัง

     

     

                                    อาคมเดินเข้าไปในบ้าน แล้วลงมือสำรวจที่ซ่อนของตน แม้ข้างนอกจะเก่าและทึบ แต่ข้างในกลับสะอาด ชั้นล่างเป็นห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนอนเล็กๆ เขาเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ชั้นบนมีสองห้องนอน ตรงมุมห้องมีเครื่องนอนวางไว้หลายชุด

     

     

                                    ชายหนุ่มหยุดมองลูกบิดประตู เมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ดูเหมือนห้องนอนทั้งสองห้อง ไม่ได้มีไว้นอนอย่างเดียว แต่มีไว้ขังคนที่อยู่ข้างในด้วย เพราะห้องปกติจะล็อกจากด้านใน แต่ที่นี่กลับล็อกด้านนอก แถมยังมีสายยูติดอยู่อีกสองอัน ดูท่าธุรกิจของเสี่ยกำพล จะไม่ใช่ธุรกิจธรรมดาเสียแล้ว

     

     

                                    “ไม่ใช่เรื่องของเรา” อาคมบอกตัวเอง แล้วเดินออกจากห้อง เสี่ยกำพลจะทำอะไร ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องสนใจ ขอแค่ได้แก้แค้นนางตัวแสบ ไม่ว่าเสี่ยใหญ่จะให้ทำอะไร เขาพร้อมจะทำด้วยความยินดี แต่ตอนนี้เขาต้องกลับไปตอบแทนบุญคุณแววก่อน จากนั้นค่อยเดินหน้าแก้แค้นอย่างเต็มที่

     

     

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

     

     

                                    มอเตอร์ไซต์วิบากสีดำวิ่งมาจอดหน้าแค้มป์คนงานก่อสร้าง คนขับร่างสูงดับเครื่องยนต์แล้วมองเข้าไปด้านใน เขาเห็นแรงงานต่างด้าวเดินบ้างนั่งบ้างอยู่หน้าเพิงพักของตน แต่ไม่เห็นเด็กสาวที่เขากำลังตามหา แววบอกว่าทำงานอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างท้ายซอย ซึ่งไซต์งานก่อสร้างในซอยนี้ ก็มีอยู่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

     

     

                                    อาคมก้าวลงจากรถเดินเข้าไปในแค้มป์คนงาน โดยมีสายตาหลายสิบคู่มองตามด้วยความสนใจ ด้วยตอนนี้เขาไม่ได้เป็นขอทานซอมซ่ออีกแล้ว แต่เป็นชายหนุ่มแต่งตัวดี ตัดผมรองทรงสั้น ใบหน้าเกลี้ยงเกลา สวมแว่นกันแดดราคาแพง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณอำนาจเงินของเสี่ยกำพลที่ช่วยบันดาลให้เขา

     

     

                                    “สวัสดีพี่ชาย ขอถามอะไรหน่อยสิ” เขาเอ่ยถามชายร่างท้วม ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าคนงาน

     

     

                                    “ถามอะไร” ชายคนนั้นย้อนถามด้วยท่าทางระแวง

     

     

                                    “ฉันมาหาแวว เธออยู่ที่นี่หรือเปล่า”

     

     

                                    “แววไหน ฉันไม่รู้จัก” เขาหันหลังเดินหนี แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่ออาคมยื่นธนบัตรหนึ่งพันบาทไปดักหน้า

     

     

                                    “ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่ใช่ตำรวจ ฉันเป็นเพื่อนของแวว บอกมาเถอะว่าเธออยู่ที่ไหน”

     

     

                                    “คุณจะหาแววคนไหนล่ะ ที่นี่มีคนชื่อแววตั้งหลายคน” เขาคว้าเงินใส่กระเป๋า ท่าทางเป็นมิตรขึ้นมาทันที

     

     

                                    “สูงประมาณนี้ อายุสิบเจ็ดสิบแปด ผิวขาว หน้ากลมๆ ตาโตๆ ยิ้มเก่ง พูดไทยไม่ค่อยชัด” อาคมอธิบายพลางทำมือประกอบ หัวหน้าคนงานขมวดคิ้วครุ่นคิด ก่อนร้องอ๋อเสียงดัง

     

     

                                    “อ๋อ... นังแววหน้าขาว”

     

     

                                    “นึกออกแล้วเหรอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” เขาถามอย่างดีใจ หัวหน้าคนมองหน้าเขา ก่อนจะกลับส่ายหน้า

     

     

                                    “คุณมาช้าไปหน่อย ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว มันเพิ่งกลับบ้านไปเมื่อวานนี้เอง”

     

     

                                    “นายรู้หรือเปล่าว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน”

     

     

                                    “มันเป็นแรงงานต่างด้าว นายหน้าพามันมาส่ง พอหมดงานก็พากลับ ผมไม่รู้หรอกว่าบ้านมันอยู่ที่ไหน ขอโทษด้วยนะ ผมคงช่วยคุณได้แค่นี้แหล่ะ” หัวหน้าคนงานเอ่ยอย่างเห็นใจแล้วเดินหนีไป

     

     

                                    อาคมมองไปรอบๆ อย่างสับสน เขาอุตส่าห์รีบมาหาหล่อน แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี แววเป็นแรงงานต่างด้าว แล้วเขาจะไปตามหาหล่อนที่ไหน แถมเขายังหนีคดีอยู่อีก เห็นทีบุญคุณของหล่อน คงต้องไว้ตอบแทนคราวหลัง ชายหนุ่มถอนใจเบาๆ แล้วเดินกลับไปขึ้นรถมอเตอร์ไซต์ของตน ก่อนขับออกไปจากแค้มป์คนงานด้วยความผิดหวัง

     

     

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

     

     

                                    ยามดึกสงัดที่ท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆฝนหนาทึบ รถมอเตอร์ไซต์วิบากสีดำวิ่งมาจอดข้างกำแพงรั้วบ้านอิทธินันต์ อาคมดับเครื่องยนต์แล้วสุ่มดูอยู่ข้างกำแพงอย่างอดทน บ้านหลังใหญ่รั้วรอบขอบชิด มียามเฝ้าหน้าประตูตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง มีกล้องวงจรปิดติดตั้งที่ประตูรั้วสองตัว และคิดว่าภายในคฤหาสน์คงมีอีกหลายตัว ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดแบบนี้ เขาคงลงมือที่นี่ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นข้างนอก ต้องมีโอกาสให้เขาลงมืออย่างแน่นอน

     

     

                                    ชายหนุ่มมองผ่านช่องบนกำแพงไปยังตัวคฤหาสน์ ไฟในห้องหับต่างๆ ล้วนดับสนิท คนในบ้านคงกำลังนอนหลับอย่างมีความสุข

     

                                    “สุขกันให้พอเถอะนะ เพราะพรุ่งนี้พวกแกจะไม่ได้มีความสุขอีกแล้ว” เขาหัวเราะกับตัวเอง แล้วขับรถมอเตอร์ไซต์ออกไป


    ...................................................................................................


    มัลลิกานะคะ

    หายหน้าไปเที่ยวลาวมา 5 วัน เหนื่อยมากค่ะ แต่สนุกมากค่ะ พอกลับมาก็รีบมาอัพให้อ่านกันเลย ไม่ได้เขียนนิยายเสียหลายวัน กลับมาต้องเร่งอีก วันนี้ไปก่อนนะคะ บาย บาย

    รักนะ...มัลลิกา

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×