ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ { BY:: FEVERI}

    ลำดับตอนที่ #3 : 1 ชนชั้นสง่างาม :: } ` ชั้นขุนนางผู้น้อย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 86
      0
      8 มี.ค. 57



    UG  Theme Cafe' 

    ชั้นที่ 1 ชั้นขุนนางผู้น้อย

    สวัสดีเหล่า "ขุนนางผู้น้อย"
    หากเจ้าต้องการเป็นชนชั้นสูงผู้สง่างามแล้วไซร้
    ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ความเชื่อ
    ประวัติศาสตร์การก่อร่างสร้างเมือง
    ศิลปะ สถาปัตยากรรม จารีตประเพณี กฏหมาย
    ทั้งหมดทั้งมวลในดาร์คแลนด์
    ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง












    ภารกิจ

    ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
    ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 5 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
    และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้ 

    โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
    และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
    ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้ 


    คลิกเพื่อทำภารกิจ "ชงชากับเลดี้บลูโรส"

    คลิกเพื่อทำภารกิจ "ช่วยเหลือท่านรัฐมนตรี"
    คลิกเพื่อทำภารกิจ "แต่งกายงามไปงานเต้นรำ"


    ข้อควรระวัง
    อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
    ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
    เมื่อท่านโพสคอมเม้น  ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
    ให้แนบบัตรประ
    นักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
    และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์





    การสอบเลื่อนระดับ

    หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
    เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 2 ชั้น "ลอร์ดเลดี้ที่เคารพ"
    หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป


    คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป




    บทเรียนที่ 1 ประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์

    สวัสดีเหล่าว่าที่ขุนนางผู้น้อยทั้งหลาย (เดินอย่างสง่างามเข้ามาในห้องเรียน กวาดสายตมองนักเรียนทุกคนอย่างเยือกเย็น) บทเรียนที่หนึ่งนี้อาจจะน่าเบื่อเสียหน่อย ใครชอบวิชาประวัติศาสตร์ก็เเปลกคนแล้วล่ะ (ยกเว้นฉัน โฮะๆ) เอาล่ะ รู้ไหมว่าเหตุใดพวกเจ้าจำเป็นต้องเรียนวิชานี้ 

    หากพวกเจ้าใฝ่ฝันจะเป็นผู้ดีมีตระกูลสูงส่งน่ายกย่องในดาร์คแลนด์ ฝันจะได้รับหน้าที่ทรงเกียรติในสภาขุนนางชั้นสูง พวกเจ้าก็ต้องมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ให้ได้สักครึ่งหนึ่งของฉัน

    ประวัติศาสตร์คืออะไร? ก็คืออดีตที่ถูกบันทึกและรวบรวมไว้ ยุคแห่งประวัติศาสตร์เริ่มต้นเมื่อมนุษย์รู้จักประดิษฐ์ตัวอักษรนั่นเอง ดังนั้นอดีตที่ไม่ถูกบันทึกไว้ เเต่ถูกบอกเล่าต่อกันมา จึงไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เราเรียกกันว่า "ตำนานปรัมปรา "

    ในชั้นเรียนนี้จะมีหนังสือสองเล่มที่พวกเจ้าต้องศึกษา ก็คือ หนังสือที่รวบรวมทุกสรรพสิ่งในจักรวาลดาร์คแลนด์ (แม้แต้ใครตดก็บันทึกไว้) และ หนังสือประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ รวบรวมโดย นายกรัฐมนตรีไบร์ ลูมินอส ซึ่งเป็นนักสำรวจคนแรกของดาร์คแลนด์ และเป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์

    เอาล่ะ...ลองเปิดหนังสือประวัิติศาสตร์ดาร์คแลนด์สิ สำหรับประวัติดาร์คแลนด์ที่เริ่มบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเริ่มต้นเมื่อ 5000 ปีก่อนคริสกาล ซึ่งบันทึกเรื่องราวของตระกูลอันรา ตระกูลเเรกที่สถาปนาดาร์คแลนด์ขึ้น

    แต่ตำนานปรัมปราดาร์คแลนด์ ซึ่งเล่าต่อกันมาถึง 25000 ปี เกี่ยวกับยมทูตทั้งห้าและมนุษย์คนแรกแห่งดาร์คแลนด์ เป็นเพียงตำนานเท่านัน ไม่จัดวาเป็นประวัติศาสตร์ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกไว้

    สถานที่หลายเเห่งในดาร์คแลนด์มีเรื่องราวโบราณซ่อนเร้นอยู่ โดยเฉพะที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ หากแบกจอบเเบกเสียมไปขุด อาจจะเจอเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ เมืองประวัติศาสตร์สำคัญของดาร์คแลนด์ คือ เเคว้นเนพีอา ซึ่งจัดเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่า สำหรับศึกษาประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตดั้งเดิม สามารถไปเดินเล่นได้นะจ๊ะ...แต่ระวังจะโดนนังงูพิษโจเซฟิน นางค้างคาวชาร์ม และนังผีเสื้อปีศาจมายาโรสไล่กัดเอาล่ะ หึหึหึ

    วิชาประวัติศาสตร์ จบเพียงเท่านี้ (ทรุดตัวนั่งลง) แต่อย่าลืมเชียวล่ะว่าประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้...ตามหลักฐานที่้คค้นพบ...

    และที่สำคัญ ตั้งใจทำภารกิจให้ดี โฮะๆ...หวังวาาจะรอดตายจากภารกิจ กลับมาเจอกันอีกนะ โฮะๆๆ (ยกพัดปิดหน้า )








     
    บทเรียนที่ 2 วัฒนธรรมจารีตประเพณีดาร์คแลนด์

    (รินชากุหลาบแจกขุนนางผู้น้อยทุกคน) บทเรียนที่สองนี้แสนจะง่ายดายเสียยิงกว่าง่าย จารีตประเพณีคืออะไร...สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ถูกสืบทอดต่อกันมายาวนาน เเละเห็นว่าดีงามคู่ควรที่จะสืบทอดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเเต่งกาย, การปฏิบัติต่อกัน, มารยาท, พิธีกรรม, ความเชื่อ

    สิ่งเหล่านี้นี่เอง..ถือเป็นคุณค่าของชาวดาร์ค เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษดาร์คคิดค้นขึ้นมา สมควรรักษาไว้ เพื่อเป็นมรดกแด่คนรุ่นหลัง สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวดาร์คมีควาฒโดดเด่นเหนือชาติอื่นนั่นเอง

    จารีตประเพณีดาร์คมีมากมายมหาศาล...บางสิ่งอาจจะลบเลือนหายไปตามกาลเวลาบ้าง..แต่บางสิ่งยังคงเหลืออยู่

    จารีตเจ็ดประการของชาวดาร์คได้แก่


    1 การงับคอและดูดเลือดคือการทักทายโดยปกติของดาร์คแลนด์
    2 ชาวดาร์คมีความหลากหลาย มีทั้ง ผี วิญญาณ ภูติ ปีศาจ มนุษย์ เเละอื่นๆก็ตามเเต่
    3 ชาวดาร์ครักการท้าประลอง ะหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ตาย ไม่ต้องรับโทษ หากทรัพย์สินใดได้รับความเสียหาย ให้ซ่อมเเซมจนคืนสภาพเดิม
    4 ชาวดาร์คแลนด์นิยมเเนะนำตัวเเละไปพูดคุยจิบน้ำชาในวันว่างที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวดาร์คแลนด์
    5 พิธีสำคัญของชาวดาร์คนิยมจัดที่มหาวิหารดาร์คแลนด์ เช่น ชุมนุมพระจันทร์สีเลือด ชุมนุมราตรีไร้จันทร์ ชุมนุมพระจันทร์เต็มดวง เป็นพิธีกรรมของชาวดาร์คที่สืบทอดกันมานาน
    6 ชาวดาร์คมีกีฬาสานสัมพันธ์ที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษคือ อันได้แก่ ดาร์คแลนด์เกมส์ เเละ ดาร์คแลนด์คัพ เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ของชาวดาร์คแลนด์ ควรแก่การเข้าร่วม
    7 แมวเป็นอาหารหลักของชาวดาร์คแลนด์ เป็นสัตวฺ์ที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้





    ในชั้นเรียนนี้มีหนังสือสนุกๆ ให้อ่านเล่น 

    ตำราหัดแต่งตัวหลอนแบบดาร์คแลนด์
    ตำราจารีตเจ้าแห่งแมว
    ตำราพิธีกรรมอำมหิต







    บทเรียนที่ 3 สภาพสังคมและ วิถีชีวิตชาวดาร์ค

    ชาวดาร์คแลนด์เท่าเทียมกัน ทุกคนถือเป็นพี่น้องโดยเสมอภาค ต่างมีเสรีภาพที่จะทำิ่งทีตนต้องการโดยไม่กระทบผลเสียต่อผู้อื่น

    ชาวดาร์ครักสงบ และ นิยมการอยู่คนเดียวเงียบๆ ในบ้าน หรือเฝ้ามองในมุมมืด ดูผู้คนสนทนากันอย่างเงียบเชียบ ที่จัตุรัส ปลีกวิเวก ห่างจากผู้คนทั่วไป

    ในขณะที่ชาวดาร์คอีกหลายส่วน รักสนุก พวกเขาชอบการละเล่น กลั่นเเกล้งกัน และนิยมทำธุรกิจที่บ้าน หรือท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ

    ชาวดาร์คบางส่วนมักเก็บกักตัวเองกับอารมณ์เบื้องลึกของจิตใจ เช่นความเศร้า ความสลดหดหู่ พวกเขามักจมดิ่งกับอารมณ์เหล่านี้จนแปลกแยกจากคนทั่วไป

    แม้จะมีบัญญัติให้ทุกคนเท่าเทียม แต่ลึกๆในดารคแลนด์ ยังมีสังคมชนชั้น

    นั่นก็คือ ชนชั้นสูง ได้เเก่ เหล่าขุนนางระดับสูง ชนชั้นกลาง ได้แก่ นักธุรกิจ เหล่าขุนนางระดับรองลงมา และข้าราชการทั่วไป เเละ ชนชั้นล่าง คือประชาชนธรรมดา

    ผลจากการมีสังคมชนชัน เป็นผลมาจากค่านิยมในอดีตที่ยังลบล้างไม่หมด ทำให้เรามักเห็นการกดขี่ข่มเหงผู้คนอยู่บ่อยครั้งในดาร์คแลนด์

    ดาร์คแลนด์มีทั้งหมดเจ็ดเเคว้น แต่ละเเคว้นจะมีสภาพวิถีชีวิตที่เเตกต่างกัน อาทิ
    เเคว้นรัตติกาลเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูงผู้ร่ำรวยและมีหน้ามีตาในสังคม
    เเคว้นเนพีอา เป็นที่อยู่ของกลุ่มอำนาจเก่า หรือผู้ดีเ่ก่า
    แคว้นบลเลียมมอร์ธ เป็นที่อยู่ของนับรบและขุนนางผู้ซื่อสัตย์และจงรักภัคดี
    แคว้นไอร์กลาเซียร์เป็นที่อยู่ของเหล่านักปราชญ์ผู้ชาญฉลาด และรักสงบ
    แคว้นโพเทสต้า เป็นที่อยู่ของเหล่าปีศาจผู้รักสนุก และชื่นชอบความบันเทิงทุกรุปแบบ
    เเคว้นไฟร์ไอนิชเป็นที่อยู่ของเหล่าผู้ทรงเวทย์ที่นิยมฝึกพลังกันอย่างดุเดือด
    และเเคว้นเทียร์ดอลล่า เป็นที่อยู่ของเหล่าชาวดาร์คผู้รักสงบ

    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
    คู่มือการใช้ชีีวิตในดาร์คแลนด์ รวมเล่ม ฉบับสมบูรณ์


    และท่านจะเห็นวิธีชีวิตชาวดาร์คดียิ่งขึ้น หากไปเยือนที่
    ย่านการค้า Dark Disen 
    ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าแบบชาวดาร์ค





    บทเรียนที่ 4 ศิลปะดาร์คแลนด์

    การจะเป็นชนชั้นสูงที่ดีได้นั้น จะต้องมีความรู้ด้านศิลปะไม่มากก็น้อย
    ศิลปะ จะช่วยสจรรโลงจิตใจของพวกเจ้าให้สูงส่งขึ้น
    ศิลปะจะช่วยบรรเทาความปวดร้าว และความโศกเศร้าในจิตใจ
    ศิลปะนั้นคือมิตรแท้

    อย่าคิดอะไรมาก... บทเรียนนี้ขอให้พวกเจ้าไป ไปเข้าร่วมศึกษา
    ที่นี่


    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษาที่
    พิิพิธภัณฑ์แห่งดาร์คแลนด์
    หอคอยวรรณกรรมดาร์คแลนด์
    หอคอยแห่งเสียงเพลง






    บทเรียนที่ 5 กฏหมายดาร์คแลนด์

    กฏหมาย เป็นสัญญาร่วมกันของประชาชน เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
    เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้น เมื่อมีเสรีภาพเต็มที่ อาจจะทำร้ายกันได้
    จึงต้องมีกฏหมายมาจำกัดเสรีภาพของมนุษย์
    เพื่อให้อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข

    ในดารคแลนด์ก็มีกฏหมายเช่นกัน 

    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
    ประมวลกฏหมายแห่งดาร์คแลนด์




    บทเรียนที่ 6 การปกครองดาร์คแลนด์

    ดินแดนแห่งนี้มืดมิดซ่อนในม่านหมอกแห่งนี้ทุกคนเท่าเทียม เป็นพี่น้อง ปราศจากชนชั้น ประชาชนที่นี่พูดสิ่งที่คิดได้อย่างเสรี วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้เต็มที่ เมื่อผู้นำของพวกเขาทำพลาด พวกเขาไม่โกรธเกลียด แต่ลงโทษเพื่อให้สำนึกรู้ว่าเจ้าของอำนาจคือประชาชน....พวกเขารักที่จะช่วยกันพัฒนา พวกเขามีความสุขเมื่อเห็นชาติเจริญ รัฐแต่ละรัฐล้วนปกครองตัวเองตามลักษณะถิ่นของพวกเขา ทีนี่มีคณะผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง คณะซึ่งไม่ได้มุ่งหวังอำนาจหรือการยกย่อง พวกเขาทำงานอยู่เบื้องหลังฉาก ความสุขของประชาและความเจริญของชาติคือคจุดหมายสำคัญ....น่าเสียดายที่ดินแดนนี้มืดมิดและซ่อนในม่านหมอก...คนนอกไม่อาจมาเห็น

    นี่คือคำพรรณาของชาวต่างชาติที่หลุดเข้ามาในดาร์คแลนด์ และตัดสินใจฝังร่างตัวเองที่นี่ โดยไม่กลับไปยังประเทศของเขาอีก

    ดาร์คแลนด์ปกครองโดยระบบประชาธิปไตยแบบสภา
    ซึ่งจะมีการเลือกตั้งปีละ 1 ครั้ง ในทุกวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม
    โดยเเ่ต่ละพรรคการเมืองจะส่งผู้ลงสมัครเป็นผู้แทนเเคว้นทั้งหกในดาร์คแลนด์

    อย่างไรก็ตามดาร์คแลนด์เพิ่งเป็นประชาธิปไตยได้เพียงสามปี ภายใต้การปฏิวัติของเลดี้บลูโรส แห่งดาร์คแลนด์ ที่บุกยึดอำนาจเลดี้นัวร์แห่งดาร์คแลนด์ และควบคุมเลดี้นัวร์ฯไว้ในปราสาทมืด เพื่อมอบอำนาจอธิปไตยให้แก่ชาวดาร์คแลนด์ อย่างไรก็ตาม เลดี้นัวร์ก็ยังถือเป็นผู้นำสูงสุดของชาวดาร์คแลนด์ เพียงเเต่ปราศจากอำนาจทางการเมืองใดๆ

    ในอดีต ดาร์คแลนด์ปกครองแบบอำนาจนิยม คือมีเลดี้นัวร์เป็นผู้นำสูงสุด ทำให ถึงเเม้ทุกวันนี้ดาร์๕แลนด์จะเป็นประชาธิปไตยเเล้ว แต่ชาวดาร์คก็ยังให้ความเคารพนับถือเเก่เลดี้นัวร์อยางสูงสุดจนใครก็ไม่อาจลวงละเมิดได้ ถึงกระนั้นเลดี้นัวร์ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองของดาร์คแลนด์ และไม่กระทำตัวเป็นปริปักษ์กับรัฐบาล อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้อย่างเต็มที่ ทำให้ดาร์คแลนด์ไม่มีการแบ่งฝักเเบ่งฝ่ายเป็นฝ่ายเจ้า เเละฝ่ายนายกรัฐมนตรี (เหมือนประเทศเทย)

    สำหรับดาร์คแลนด์ แบ่งเป็นสภาทั้งสามได้เเก่
    1 สภาปกครองสูงสุด ทำหน้าที่บริหาร ซึ่งแบ่งเป็น
    สภาฐานันดร(ฝ่ายขุนนางที่มาจากการเเต่งตั้ง)
    VS
    สภาสามัญชน (ฝ่ายนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้แทนแคว้นที่มาจากการเลือกตั้ง)

    2 สภาความมั่นคงแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ปกป้องอาณาจักร แบ่งเป็น
    ฝ่ายกองทัพ ปกป้องอันตรายจากนอกอาณาจักร
    และฝ่ายผู้พิทักษ์ ปกป้องอาชญากรรมภายในอาณาจักร

    3 สภาตุลาการแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ควบคุมความยุติธรรม เเบ่งเป็น
    ศาลปกครองสำหรับติดสินคดีที่เกี่ยวจ้องกัขขุนนาง ข้าราชการ
    และศาลยุติธรรม สำหรับตัดสินคดีทั่วไป


    สำหรับปัญหาการปกครองของดาร์คแลนด์ จะพบได้ว่าเลดี้บลูโรสแห่งดารคแลนด์มีบทบาทอย่างสูงในดาร์คแลนด์ สื่อมวลชนเคยวิพากษ์ว่า แท้จริง อำนาจส่วนใหญ่ของดาร์คแลนด์ ยังอยู่ในมือของเลดี้บลูโรส ในฐานะประธานการปกครองสูงสุด แม้จะมีนายกรัััฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีก็หาได้มีอำนาจสูงสุดไม่ หลายคนมองว่าเป็นการกีดขวางความเป็นประชาธิปไตยของดาร์คแลนด์ และพยายามเรียกร้องให้เลดี้บลูโรสลงจากตำแหน่ง ในขณะที่อีกหลายคนยังยืนยันว่าจำเป็นต้องมีเลดี้บลูโรส




    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมที่
    ปราสาทกลางแห่งดาร์คแลนด์






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×