ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {lumin} 24/7 be with you

    ลำดับตอนที่ #44 : 24/7 ตอนที่ 41 - :D

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 726
      6
      18 พ.ค. 57

     







                    “กริ๊......อื้อ” เสียงกรี๊ดถูกกลืนหายไปเพราะมีมือของใครก็ไม่รู้มาปิดไว้ คนตัวเล็กดีดดิ้นสุดแรงเกิด มือทั้งสองก็ทุบตีไปข้างหลัง โจรหรอ...?

     

    ขาทั้งสองข้างก็พยายามจะยื่นไปเตะประตูให้เพื่อนที่นอนอยู่ออกมาช่วย เธอคงไม่รู้ว่าต่อให้ทำเสียงดังขนาดไหนก็ไม่มีใครออกมาช่วยเธอหรอก

     

     

    เพราะ... เพื่อนๆของเธอเตี๊ยมกับจอมโจรคนนี้ไว้แล้ว...

     

     

    “ถ้าส่งเสียงอีกจะยิงให้ไส้แตกเลยนะ!” จอมโจรสุดโหดส่งเสียงขู่ฟ่อๆมือข้างหนึ่งยังยกขึ้นปิดปากอีกข้างก็รวบเอวเอาไว้.. ลากเข้าห้องสุดท้ายที่เธอเข้าใจว่าเป็นห้องเก็บของมาโดยตลอด

     

     

    ปัง!

     

     

     

    เสียงปิดประตู

     

    กึก กึก กึก

     

    ซุปเปอร์เซฟล็อกสามชั้น ทั้งกลอนที่ลูกบิด กลอนลูกโซ่และกลอนเลื่อนทำหน้าที่ของมันอย่างดี ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆแบบนี้จะหนีไปไหนรอด

     

    “อ่อยยย อ่อยยย (ปล่อย ปล่อย)”

     

    “ห๊ะ! อะไรนะ อ่อย จะอ่อยฉันหรอ”

     

    เสียงนุ่มชัดเจนดังคลอเคลียร์อยู่ใกล้หู ไม่ต้องเดาให้ยากว่าเป็นใคร... ลู่หาน!

     

    “ออก ใอ้ อ่อยยยย อ่อยยยยยย!

     

    คนตัวเล็กยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะแผดเสียงให้เล็ดลอดออกมาจากฝามือใหญ่ที่ปิดอยู่ มือทั้งสองข้างก็เกาะรั้งแขนแกร่งไว้แน่น ขาทั้งคู่ก็กระทืบหาเท้าของคนข้างหลังซ้ำๆ

     

    บรรยากาศเงียบสงบ มืด(เกือบ)สนิท มีเพียงแสงจากบ้านข้างๆและแสงจากดวงไฟสาธารณะนอกบ้านสอดส่องเข้ามา พอให้เห็นลักษณะภายในห้องบ้างเป็นเงาทะมึนๆ มีโต๊ะ มีเตียง มีตู้ถูกย้ายไปอยู่ที่ริมหน้าต่างส่วนที่เธอยืนอยู่เป็นพื้นโล่ง

     

    ลู่หานฉุดกระชากลากคนตัวเล็กให้ย้ายตัวไปนั่งบนเตียงนอนนุ่มก่อนจะยอมปล่อยให้เป็นอิสระ

     

    “แรงเยอะชะมัด” จอมโจรหายใจเหนื่อยหอบ สะบัดมือข้างที่ถูกกัดไปมาหวังให้หายเจ็บปวดใบหน้าหล่อเหลาก็เหยเกกับฤทธิ์ของคนตัวเล็ก

     

    “ไอ้บ้า” ตะโกนใส่หน้าโจรใจร้ายไปทีนึงแล้วดีดตัวขึ้นจากเตียงวิ่งไปทางประตูหวังจะหนี... แต่ก็ไม่ทันหรอก ลู่หานคว้าตัวไว้ได้ก่อนจะกดลงบนเตียงคว้าผ้าห่มมาพันรอบตัวจนคนฤทธิ์มากกลายเป็นเจ้าหนอนน้อยที่มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่โผล่พ้นผ้านวมผืนหน้าขึ้นมา

     

    “ไม่ได้เจอกันไม่กี่ปี เรียกว่าไอ้บ้าเลยหรอครับคนดี”

     

    หมินหมินพยายามดีดดิ้นให้ตัวเองหลุดจากพันธการสุดอึดอัดนี่.. แต่ก็ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์เพราะยิ่งดิ้นผ้าห่มก็ยิ่งรัดตัวทั้งคนที่กระโดดทับอยู่ด้านบนก็ยิ่งรัดตัวเธอไว้แน่นอีก

     

    “ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า”

     

    ลู่หานหัวเราะอย่างอารมณ์ดีกับท่าทีรั้นของคนตัวเล็ก เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าแก้มยุ้ยๆเพียงลางๆก็ดีใจมากแล้วนึกอยากจะฝังจมูกลงไปเสียเหลือเกิน

     

    “อ๊ากกกก!” จอมโจรใจร้ายทั้งยังชอบฉวยโอกาสร้องลั่น ดีดตัวเองออกจากเตียง มือทั้งสองข้างก็จับกุมจมูกโด่งไว้ สีหน้าแสดงความเจ็บปวดฉายขึ้น

     

     

    แค่ส่งจมูกไปหยอกเย้าแก้มยุ้ยนิดหน่อยเองถึงกับต้องกัดกันเลยหรอ TT

     

     

    “อาลู่ทำบ้าอะไรเนี่ย!

     

    ถึงจะเป็นเสียงก่นด่าแต่มันก็ทำให้ดวงใจที่ฟีบเหี่ยวไปเมื่อตอนกลางวันพองโตขึ้นมาได้บ้าง... อาลู่ ... เธอเรียกแบบนั้น แสดงว่าอะไรหลายๆอย่างมันกำลังกลับมาใช่มั้ย

     

    “ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้ แค่อยากจะคุยด้วยเท่านั้นเองครับ” ลู่หานอมยิ้มขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆหนอนน้อย น่าเศร้าที่หนอนน้อยกระดึ๊บตัวหนีไปหนึ่งช่วงแขน

     

    “ก็คุยดีๆสิ ทำไมต้องทำแบบนี้”

     

    ถึงจะเป็นคำพูดตำหนิแต่น้ำเสียงก็ไม่ได้ดุดันจริงจังขนาดนั้น ทำให้คนฟังพอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง

     

    “ก็กลัวตัวเล็กจะเดินหนีอีกไง ก็ต้องใช้วิธีนี้แหล่ะ”

     

    จับขังในห้องสี่เหลี่ยม มืดๆ แถมด้วยการห่อตัวแบบแน่นหนา หนีได้หนีไป...

     

    “บ้า” ปากเล็กพึมพำออกมา รีบผินหน้าไปทางอื่นเมื่อคนตัวสูงล้มตัวลงนอนข้างๆ พลิกตัวนอนตะแคงยกมือข้างหนึ่งเท้าศีรษะไว้แล้วจ้องมองมาที่เธอ

     

    “นะครับ ฟังหน่อยนะครับ” เขาขยับเข้าไปใกล้อีกหน่อย คราวนี้คนตัวเล็กไม่ได้มีทีท่าขยับหนีแต่อย่างใด แถมแววตาก็ดูอ่อนลงกว่าเมื่อครู่ด้วย

     

    “...”

     

    “ฉันจะเล่าทุกอย่างให้ตัวเล็กฟัง ช่วยรับฟังด้วยนะครับ”

     

    วงหน้าหวานพยักหน้าตอบเล็กน้อย ในขณะที่ทั้งแขนและขายังเหยียดตรงแน่นิ่งอยู่ภายใต้ผ้านวมที่ห่อรัดลำตัวอยู่

     

    ลู่หานขยับตัวเข้าใกล้อีกหนึ่งสเตปมือข้างที่ว่างจากการยันศีรษะก็ลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มอย่างถนุถนอมแล้วเริ่มเปิดปากเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน

     

     

    เขาเสียใจ รู้สึกผิด และเกลียดตัวเอง

     

     

    หลังจากวันนั้นเขาก็ออกตามหาดวงใจของเขาในทุกๆที่ทั้งที่ร้านกาแฟ ที่บ้านและทุกๆที่ที่คิดว่าเธอจะไปและก็ได้คำตอบที่แสนจะบีบหัวใจว่าเธอไปแล้ว...

     

    ทั้งยังโดนดีโอ บีแบร์ โอเซ โอเทารุมด่ารุ่มว่า ถ้ากระถืบได้คงทำไปแล้ว คนพวกนี้ไม่ยอมบอกซักทีว่าเธอไปไหน เธออยู่ที่ไหน...

     

    “แล้วรู้ได้ยังไงอ่ะ”

     

    ลู่หานดึงปลายจมูกรั้นด้วยความรู้สึกรักก่อนจะเริ่มเล่าต่อ

     

    ทั้งสี่หน่อบอกว่าถ้าอยากจะรู้และอยากจะง้อต้องผ่านด่านวัดใจไปให้ได้ก่อน เขาไม่ลังเลที่จะทำ...

     

    “พวกนั้นให้ทำอะไรหรอคะ”

     

    คะ...ขา มาแล้วโว้ย~ ลู่หานกระโดดโลดเต้นในใจ

     

    “ให้ไปทำงานที่ร้านกาแฟ”

     

    “...?”

     

    “ฉันไปช่วยทำงานที่ร้านกาแฟของเธอ ทั้งล้างถ้วย กวาดพื้น ถูพื้น เช็ดโต๊ะ ล้างห้องน้ำ เปลี่ยนน้ำแจกันดอกไม้ พูดวันนี้ก็ไม่หมด”

     

    คนตัวเล็กกระพริบตาปริบๆ อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง พวกนั้นไม่เคยบอกเลย

     

    “ไปทำมากี่เดือนล่ะคะ” หันหน้ามองไปทางอื่น งานหนักขนาดนั้นคนแบบลู่หานทำได้ไม่นานหรอก

     

    “ห้าปีครับ”

     

    “...!!

     

    “ตั้งแต่วันนั้นที่ตัวเล็กหายไปจนถึงอาทิตย์ที่แล้วก่อนเดินทางมาที่นี่”

     

    หันขวับมามองหน้าคนข้างๆ นี่ก็ยังยิ้มอยู่ได้... เป็นแป๊ะยิ้มรึไง

     

    “รู้มั้ยว่าพวกนั้นให้ฉันทำงานสิบชั่วโมงแลกกับข่าวของตัวเล็กหนึ่งข่าว” พูดเสร็จก็ล้มตัวลงนอนเอนหัวไปพิงกับหัวเล็กที่นอนแน่นิ่งอยู่ตำแหน่งเดิม ก็แหง่ละเป็นหนอนดักแด้แบบนี้จะให้หนีไปไหน

     

    “...”

     

    บอกตามตรงว่าหมินหมินพูดไม่ออก

     

    “บางทีพวกนั้นก็แกล้งฉัน ฉันทำงานหนักเกือบตายรู้มั้ยว่าข่าวที่พวกนั้นยอมบอกคืออะไร?”

     

    “อะไรคะ”

     

    “บอกว่า.... หมินหมินสูงขึ้นกว่าเดิมหนึ่งเซน” คนฟังหลุดหัวเราะพรืดทั้งขำทั้งสงสาร พวกสี่หน่อก็ช่างแกล้งคนอื่นซะเหลือเกิน ถ้าเป็นเธอคงหยิบถ้วยกาแฟปาใส่ไปแล้ว “แต่ฉันก็ดีใจนะที่ได้รู้ว่าตัวเล็กสูงขึ้นตั้งหนึ่งเซนแต่พอได้มาเห็นกับตาก็รู้ว่า...”

     

    “...”

     

    “ก็ยังเตี้ยเหมือนเดิม”

     

    สิ่งมีชีวิตใต้ผ้านวมดิ้นขลุกขลักพยายามจะตอบโต้แต่ก็ไม่สามารถทำได้ มีอย่างที่ไหนมาว่าคนอื่นว่าเตี้ย!

     

    “ไร้สาระจริงๆ”

     

    “โหย อะไรอ่ะ อุตส่าห์ทำให้ขนาดนี้ยังไม่เห็นใจกันเลย” คนตัวสูงตีที่นอนตุ๊บตั๊บเหมือนเด็กๆ

     

    “ทำไมต้องทำด้วยล่ะ”

     

    “เพราะรัก”

     

    ริมฝีปากอุ่นจรดลงบนหน้าผากมนอย่างแผ่วแผ่วเบาชนิดที่คนข้างล่างอยากจะขาดใจตายซะตรงนั้น ถ้าจะทำแบบนี้นะ...อยากได้อะไรก็เอาไป ยอมแล้ว ยอมหมดทุกอย่าง

     

    โชคดีที่ห้องมันมืดเขาคงไม่ได้สังเกตเห็นแก้มยุ้ยที่แดงปลั่งคนตัวเล็กรีบหดตัวเก็บใบหน้าที่ร้อนฉ่าลงไปมุดอยู่ใต้ผ้านวม

     

    “จะหนีไปไหน”

     

    ลู่หานหัวเราะอย่างชอบใจกับท่าทีขวยเขินของคนตัวเล็ก รีบม้วนดึงผ้าห่มออกแล้วจัดการห่มทดแทนโดยใช้ผ้าห่มชนิดพิเศษนั่นก็คือ...ตัวของเขาเอง

     

    มือเล็กที่ตอนแรกวางไว้แนบลำตัวก็ถูกยกขึ้นมาสัมผัสแผ่นหลังอย่างแผ่วเบาก่อนจะเปลี่ยนเป็นการโอบกอด... ก็แค่กอดตอบ

     

    “ดีกันนะ” เสียงอู้อี้กระซิบอยู่ใกล้ๆกกหูขาว

     

    “ดีอะไร เราเป็นอะไรกันทำไมต้องดีกันด้วย”

     

    “เป็นแฟนกันไง”

     

    “ขี้ตู่ เราเลิกกันไปตั้งนานแล้วต่างหาก” ลู่หานยิ่งกระชับอ้อมกอดไว้แน่นกว่าเก่าคล้ายเป็นการบอกว่าห้ามหนีไปไหนอีก

     

    “ตัวเล็กนั่นแหล่ะขี้ตู่ เราเลิกกันตอนไหน ใครเป็นคนบอกเลิกใคร..?”

     

    นั่นน่ะสิ บอกเลิกกันตอนไหน ใครบอกเลิกใคร ทั้งคู่ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวทั้งที่ยังกอดกันอยู่อย่างนั้น... ไม่เคยมีใครบอกเลิกใครนี่น่า

     

    “เราไม่บอกเคยเลิกกัน ก็แสดงว่าเรายังเป็นแฟนกันอยู่ไง” ลู่หานยอมผละออกมาเมื่อคนใต้ล่างเริ่มแสดงท่าทีว่าหายใจติดขัด “ตกลงหายงอนแล้วนะ”

     

    “...”

     

    ไม่มีสัญญานตอบรับ

     

    “โอ๊ะ!” หมินหมินรีบผลักหน้าคนฉวยโอกาสออกไปเมื่อจู่ๆเขาก็ขโมยหอมแก้มเธออีกแล้ว..!

     

    “ถ้าไม่ตอบจะทำมากกว่านี้อีก มืดก็มืด คนอื่นก็หลับหมดแล้ว บรรยากาศเป็นใจซะขนาดนี้ ฮืมมม” ลู่หานแกล้งยกมือขึ้นมาเหมือนหมาป่ากำลังจะขย้ำแมวน้อย แยกเขี้ยวนิดหน่อยให้พอน่ากลัว คนตัวเล็กรีบพลิกตัวหนีไปอีกทางแล้วกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว

     

    แต่ก็เร็วไม่เท่าหมาป่าที่วิ่งไปโอบรัดตัวได้จากทางด้านหลัง คนตัวเล็กแอบอมยิ้มอยู่อย่างนั้น ยอมให้จอมโจรคนนี้กอดแต่โดยดี

     

    ลู่หานกระชับอ้อมกอดไว้แน่น ลมหายใจอุ่นรดรินลงบนต้นคอตามมาด้วยสัมผัสจูบตีตราจองกดลงบนต้นคอขาว

     

    “หายงอนแล้วนะครับคนดี?”

     

    “อื้อ หายตั้งแต่ไปทำงานที่ร้านกาแฟแล้ว”

     

    “โถ่ แล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้เล่นบทดราม่าอยู่ตั้งนาน”

     

    ลู่หานหมุนตัวอีกคนให้หันกลับมามองหน้าตนเอง ประคองต้นแขนเล็กไว้มั่น หมายจะใช้สายตาสื่อความใน คนตัวเล็กได้แต่กระพริบตาปริบๆจ้องมองอยู่อย่างนั้น

     

    ใบหน้านี้ที่คิดถึง คิดถึงมาตลอดห้าปี ตอนนี้อยู่ตรงหน้าแล้ว... เธอไม่นึกเสียดายห้าปีที่อยู่อย่างเหงาๆเลย กลับดีใจด้วยซ้ำที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ระยะเวลายาวนานที่ผ่านมามันทำให้รู้ว่าการรักใครจริงๆซักคนมันเป็นยังไง

     

     

    เขาคนนี้คือรักแรก รักเดียวและจะเป็นรักสุดท้ายของเธอ

     

     

    มือใหญ่เลื่อนมาปัดปอยผมที่ปรกหน้าผากของคนตัวเล็กก่อนจะมอบสัมผัสอ่อนโยนให้

     

     

     

     

    แอด~

     


     

     

    จู่ๆบานประตูก็เปิดออก

     

    “เมื่อกี้ล็อกห้องแล้วไม่ใช่หรอ?”

    “ตัวเล็กดิ้นขนาดนั้น จะให้เอามือที่ไหนไปล็อกล่ะ”

     

    “โกหกนี่หว่า” คนตัวเล็กเดินคลำทางไปหาประตู คิดว่าควรจะไปเปิดไฟซักที

     

    ฟรึ่บ~

     

    พื้นโล่งข้างเตียงที่ตอนแรกเป็นพื้นมืดๆ ตอนนี้กลับมีขดลวดเรืองแสงขนาดเล็กวางกระจัดกระจายเต็มไปหมด เมื่อดูดีๆเหมือนจะเรียงกันเป็นตัวอักษรนะ คนตัวเล็กเดินวนไปอีกทางเพื่อมองว่ามันอ่านว่าอย่างไร

     

    “มันต้องมองจากมุงสูงนะรู้รึเปล่า” ลู่หานยอบตัวลังให้ดวงใจของเขาขึ้นมาขี่ หมินหมินลังเลอยู่ชั่วครู่แต่ก็ยอมเกาะแผ่นหลังกว้างอยู่ดี

     

     



     

    Sorry

     

     



     

    เมื่อมองจากมุมสูงมันอ่านว่าแบบนั้น

     

    Sorry นะ” คนตัวโตหันเสี้ยวหน้ามากระซิบบอกตัวเล็กที่อยู่บนหลังของเขา กระชับแขนแน่นอีกหน่อยกลัวว่าจะตกลงมา

     

    “อื้อ”

     

    ลู่หานยิ้มรับน้อยๆก่อนจะพาคนที่ขี่หลังอยู่เดินออกมานอกห้อง เสียงกีตาร์นุ่นนวลมาจากมุมใดมุมหนึ่งของบ้านเธอไม่แน่ใจในประสาทสัมผัสของตัวเองนักเพราะตอนนี้มันตื่นเต้น งงงวย ตีกันวุ่นวายไปหมด

     

    พรึ่บ!

     

    ป้ายไวนิลขนาดใหญ่หล่นมาจากผนังบ้านก่อนที่ไฟส้มนวลตาจ่าส่องไปกระทบ เชิญชวนให้คนที่มองเห็นอ่านมัน

     

    will” ปากเล็กเอื้อนเอ่ยในสิ่งที่เห็น

     


     

    ป้ายถัดไปไม่รอช้าถูกชักลงมาตามๆกัน

     


     

    you

     



     

    เสียงกีตาร์เนิบนาบยังคงทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมทำเอาขอบตาของคนที่กำลังถูกเซอร์ไพรซ์ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ยิ่งได้เห็นไวนิลขนาดใหญ่แผ่นถัดมา น้ำตามันก็ไหลออกมาซะดื้อๆ

     




     

    m..marry

     






     

    me

     




     

    ลู่หานค่อยๆยอมตัวลงปล่อยคนตัวเล็กให้ลงจากหลัง คนตัวเล็กยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเขาล้วงกล่องแหวนสีแดงสดออกมาจากกระเป๋ากางเกง ไม่รอช้าจะเปิดโชว์สิ่งที่อยู่ข้างใน..

     

     


     

    ... แหวนทองคำขาวเกลี้ยงขนาดพอดีนิ้วถูกบรรจุอยู่ในนั้น

     

     


     

    ฟรึ่บ~

     


     

    จู่ๆไฟก็สว่างโล่ทั้งบ้านเผยให้เห็นเดอะแก็งค์ที่ยืนอยู่ตามมุมต่างๆของบ้าน โอเซฮุนนั่งเล่นกีตาร์อยู่บนโซฟาส่งยิ้มให้เธอ โอเทาและดีโอโผล่หน้าออกมาหลังไวนิล บีแบร์หันมาตบมือแปะๆจากพื้นในมือก็ถือกระบอกไฟขนาดใหญ่ ส่วนมุมซ้ายของบ้านเฟรดเดอริกยืนเก๊กหล่อกดเปิดสวิซไฟอยู่ตรงนั้น

     

     


     

    ... อะไรจะสามัคคีกันขนาดนี้

     



     

     

    นี่รู้เรื่องกันหมดเลยหรอ...!!

     

     

     






     

     

     

    “แต่งงานกันนะ”

     

     

     





     

     

    แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย ….

     

     



     

    …. แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย ….

     

     

     


     

    เสียงเพื่อนร้องเชียร์ดังลั่นบ้าน คนขี้แยทำได้แค่ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแห่งความปิติยินดีที่มันไหลออกมาไม่หยุดก่อนจะหยักหน้าขึ้นลงช้าๆ

     

     

    ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ ในเมื่อคนที่ใช่ยืนอยู่ตรงหน้า...

     


     

    “ถ้าดีกันแล้วไหนเรียกอปป้าเหมือนเดิมซิ” ลู่หานกระซิบที่ข้างหูเป็นเชิงออกคำสั่ง

     

    “ไม่”

     

    “ง่า ให้โอกาสอีกทีเรียกซิ อปป้าขา~” อปป้าคนดียังไม่เลิกล้มความพยายาม

     

    “ไม่” หมินหมินแกล้งทำหน้าบูดบึ้งแล้วหันไปอีกทางหนึ่ง

     

    “ไม่เรียกหรอ.. ไม่เรียกใช่มั้ย”

     


     

    รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าหวานของลู่หาน

     


     

    “ย๊า ปล่อยนะ ปล่อยเลย” คนถูกขโมยจูบรีบถอยตัวเองออกมาจากวงแขนกว้าง “เรียกแล้ว อปป้า อปป้า~ พอใจรึยัง”





    #overdose6thwin



     

    สถานการณ์ตอนนี้เรารู้ทุกคนตึง.. เราเองก็ตึง

    มีคนเคยบอกว่ายิ่งเราโฟกัสกับปัญหา ปัญหามันก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

    ค่อยๆคิด มีสติเยอะๆเน้อตัวเอง เราเป็นห่วงมากๆ

    ไปด้วยกันไปได้ไกล เป็นกำลังใจให้นะฮ้า


     

    เราเปิดฟิคไว้ตั้งสามเรื่องแนะ... ยังไงก็แต่งต่อ.. เราก็ยังรักพวกเขาเหมือนเดิม

    นี่เป็นเหมือนอีกโลกนึงเป็นโลกแห่งความฝันที่เราสร้างขึ้นมา

    ที่นี่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคิด อยากให้อะไรเกิดก็ทำได้

    บางทีอยู่ในโลกแห่งความจริงนานๆมันก็เหนื่อย มันก็ล้า บางทีก็รู้สึกแย่เกินไป

    เลยขอหลบมาอยู่ในโลกนี้ชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าไหวแล้วจะออกไปใหม่


     

    ถ้าตัวเองเหนื่อยมากเกินไปแล้ว ก็แวะมาเยี่ยมโลกนี้บ้างก็ได้ ยินดีต้อนรับเสมอ ให้สบายใจแล้วกลับไปสู้กันต่อนะ...  

    ------------------------------------------------------------
    ปล. ตอนหน้าตอนจบแล้ว งี่ๆ
    ใครสงสัยอะไรในเรื่อง ไม่เคลียร์ อยากถาม อยากบอกอะไรก็จัดมาเลยน้าถ้ามีจะมาตอบตอนหน้า
    คนที่แอบอยู่ในมุมมืดก็ออกมาเม้นให้เรารู้จักได้แล้วนะฮึ่ย เราจะได้รู้ว่ามีคนอ่านไง :)



    ถ้าอยู่คนเดียวละเหงาและเศร้าเกินไป แวะไปเม้าท์ไประบายกันดรั้ยยย เรามันเอ็กโซแฟนเหมือนกัน ^^ 
    @paopaomaa แต่เราพูดไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกนะบอกไว้ก่อน ฮิ




    :D

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×