ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic.[Jelsa] melt your heart ปลดล๊อคหัวใจ ยัยราชินีหิมะ

    ลำดับตอนที่ #12 : chapter 11 หรืออยากได้บ้างล่ะ เอ๊ะ!!นี้ยังไง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.52K
      43
      5 มี.ค. 57

    11

    ❄ หรืออยากได้บางล่ะ...เอ๊ะนี้ยังไง 

      

     

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวที่ส่องสว่างเต็มท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งแสงของดวงจันทร์คอยฉายแสงสีนวล ยังมีนางฟ้าตัวน้อยๆบินลัดเลาะบรรดาต้นไม้ต่างๆก่อนจะมาหยุดอยู่บนหน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดแง้มเอาไว้

     

    นางฟ้าตัวน้อยบินเขาไปภายในก่อนจะหยุดลงตรงหน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่นอนหลับอยู่

     

    “แจ็ค..ตื่นได้แล้ว” นางฟ้าตัวน้อยเอื้อมมือไปแตะจมูกแจ็คเบาๆ

     

    แจ็คค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเหยียดมือยืดเส้นยืดสายพร้อมกับก้มลงมองร่างตัวเองที่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะกลับมาเป็นปกติแล้ว

     

    แจ็คมองสำรวจไปรอบๆดูเหมือนว่า..ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย แต่สายตาของเขาก็ไปสะดุดกับร่างของหญิงสาวที่นอนพิงเตียงอยู่ข้างๆ

     

    เด็กหนุ่มค่อยๆก้าวเท้าลงมาก่อนจะหยุดลงที่ร่างของเอลซ่า สองแขนที่ดูออกจะผอมสมตัวค่อยๆช้อนตัวเธอขึ้นมาอุ้มอย่างเบามือก่อนจะเดินไปที่เตียงแล้วค่อยๆวางลงเธอลง

     

    แจ็คปัดผมที่ปรกหน้าเธอออกอย่างเบามือ พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับริมฝีปากบางที่เพิ่งสำผัสไปเมื่อตอนเย็น

     

    แต่นั้นก็ยังไม่น่าหงุดหงิดเท่ากับที่เอลซ่าเรียกเขาว่าเด็กในตอนนั้น...

     

    แจ็ควางแขนลงข้างๆร่างของเอลซ่าที่นอนหลับพริ้มอยู่ก่อนจะโน้มตัวลงไปช้าๆ ใบหน้าค่อยชุกลงที่ต้นคอขาวนวลราวกับหิมะของเธอก่อนจะค่อยๆ....

     

    ...กระชิบข้างหูร่างบางที่นอนหลับพริ้มอยู่

     

    “หลับฝันดีหล่ะ”

     

    แจ็คว่าจบก็หยิบไม้เท้าของเดินก่อนจะเดินไปทางหน้าต่าง “นางฟ้าตัวน้อย เจ้าอยู่ที่นี้กับเอลซ่านะแหละเดี่ยวข้ามา”

     

    “เจ้าจะไปไหนน่ะ..”

     

    “ไปเดินเล่นเฉยๆ บางทีพวกเด็กในเมืองอาจจะยังไม่นอน คงต้องหาอะไรสนุกๆให้เล่นสักหน่อย” ทันทีที่พูดจบแจ็คก็กระโดดลงจากหน้าต่างก่อนจะลอยหายไปในอีกด้านนึง โดยไม่รอฟังบางอย่างที่อย่างฟ้าตัวน้อยกำลังจะพูด

     

    “ข้าก็แค่จะมาบอกเจ้าเรื่องเมืองแมกเทอร์ซ่า โธ่..ไม่อยู่รอฟังกันบ้างเลย” นางฟ้าตัวน้อยบ่นก่อนจะบินลงมานั่งที่เตียง เจ้าตัวจิ๋วทำหน้ามุ๋ยก่อนจะหันไปหาเอลซ่าที่นอนหลับพริมอยู่ข้างๆตน

     

    “เฮ้--อ  เอลซ่าเจ้าก็อีกคนรู้ไหม..ตอนนี้เทพผู้พิทักษ์ทุกคนอย่างเจอเจ้ามาก รวมถึงบันนี้ด้วย ทำไมตอนนั้นเจ้าถึงไม่บอกไปล่ะว่าเจ้าเป็นราชินีของอาณาจักรอาเรนเดลล์” นางฟ้าตัวน้อยได้แต่บ่น

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    แกร๊ก..

    บานประตูถูกเปิดออกอย่างช้าๆ เด็กสาวตัวน้อยเดินถือตุ๊กตาเดินเข้ามาก่อนจะหยุดลงที่ข้างๆร่างของเอลซ่าที่นอนหลับอยู่

     

    “พี่เอลซ่า..อลิซขอนอนด้วยคนได้ไหม” เด็กน้อนส่งเสียงเรียก

     

    “หื้อ..”เอลซ่าคอยๆลืมตาขึ้นก่อนจะหันมองไปทางต้นเสียง “อลิซ..ยังไม่นอนอีกหรอ”

     

    แอ๊ะแต่เดียว..เรามานอนตรงนี้ได้ไง ก็จำได้ว่านอนอยู่ข้างล่างนี้ แล้วแจ็คไปไหนซะแล้วล่ะ เอลซ่าคิด


    แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะไม่มีเวลาคิดอะไร เพราะตอนนี้มีแขกตัวจิ๋วเดินถือตุ๊กตามาอ้อนถึงห้อง

     

    “อลิซนอนไม่หลับ ถ้าอลิซหลับไปแล้วตื่นมาอีกครั้งพี่เอลซ่ากับแจ็คก็จะไม่อยู่แล้ว..นี่พี่เอลซ่าอยู่ที่นี่กับอลิซต่อไม่ได้หรอ” เด็กน้อยปีนขึ้นเตียงอย่างทุลักทุเลก่อนจะโผเข้ากอดเอลซ่า

     

    “เอางี้ ถ้าพี่มีโอกาสได้กลับมาอีกครั้งพี่มีบางอย่างจะเซอร์ไพร์อลิซด้วยนะ แต่ก่อนอื่นอลิซต้องเป็นเด็กดีที่เข้านอนแต่หัววันก่อน นี่ก็ดึกมากแล้ว เดียวพี่ไปส่งที่ห้อง..” เอลซ่าลูบหัวเด็กน้อยตรงหน้าอย่างเอ็นดู บ่อยครั้งที่เธอเห็นอลิซเป็นอันนาสมัยเด็กๆ น้องสาวคนเดียวและคนสำคัญที่เธอห่วงยิ่งกว่า..

     

    ..ชีวิตของเธอ

     

    “อลิซพยายามแล้วแต่อลิซนอนไม่หลับ” เด็กน้อยหลบสายตา

     

    “งั้นมาฟังนิทานก่อนนอนหน่อยมั้ยล่ะ??”

     

    เอลซ่าเลิกคิ้วสูงก่อนจะอุ้มอลิซมานอนข้างๆพร้อมกับค่อยๆห่มผ้าห่มผืนบางให้เธอ มือเรียวบางเอื้อมไปกอดร่างเล็กอย่างหลวมๆ

     

    นิทานที่เธอเคยเล่าให้เด็กๆในเมืองฟัง แต่ดูเหมือนว่าตอนจบของนิทานเรื่องนี้มันจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย...

     

    “กาลครั้งหนึ่ง...ท่ามกลางโลกที่แสนจะธรรมดาจนน่าประหลาดใจ กลับมีเด็กสาวคนหนึ่งที่แตกต่างไปจากคนอื่น โดยที่ไม่มีใครเลยที่จะเข้าใจในสิ่งที่เธอเป็นเลยสักคน

     

    เธอถือกำเนิดมาพร้อมกับดวงตาที่สามารถสาปคนอื่นให้กลายเป็นน้ำแข็งได้

     

    ลึกลงเข้าไปในป่าในมีบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ห่างจากสายตาผู้คน แน่นอน..นั้นหมายความว่าจะไม่มีใครเลยที่จะมาเยือนบ้านหลังนี้ เด็กสาวอาศัยอยู่ในนั้นตามลำพังด้วยคำสั่งของพ่อและแม่ของเธอที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับคำสาปในตัวเด็กคนนี้ดี

     

    เด็กน้อยขังตัวเองอยู่ภายในบ้านหลังเล็กๆพร้อมกับคำๆหนึ่งที่เธอท่องจนขึ้นใจว่า..

     

    ..ห้ามสบตาใครเด็ดขาด ด้วยหัวใจที่ไร้ความรู้สึกราวกับน้ำแข็งนี้ ฉันก็จะไม่รู้สึกโดดเดียวอีกต่อไป

     

    เด็กน้อยใช้ชีวิตเรื่อยมาโดยมีเพียงคำพูดเหล่านั้นที่คอยสะท้อนออกมาจากแววตา นอกจากเรื่องในนิทานแล้วเธอก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลยและนิทานเล่มโปรดของเธอที่เธออ่านมันซ่ำๆอยู่ทุกวันก็คือ..

     

    rise of the guardians

     

    ในนั้นมีคนๆนึ่งที่มีบางสิ่งเหมือนเธอ แต่เขากลับใช่ชีวิตอย่างสนุกสนานไม่กังวัลกับสิ่งร้ายๆที่เคยเกิดขึ้นเขาดูสว่างและอบอุ่นต่างจากเธออย่างสิ้นเชิง

     

    เธอเฝ้าฝันว่าคนๆนั้นมีอยู่จริงมาตลอด และสักวันหนึ่ง...เธอจะได้ยืนเคียงข้างเขา

     

    กาลเวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ พร้อมกับความว่างเปล่าที่ไม่รู้ว่าเหตุผลที่เธอเกิดมาทำไม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอสัมผัสได้คือเธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อค้นหาคำตอบของมัน

     

    สายลมในฤดูร้อนพัดกระทบบานหน้าต่างเป็นจังหวะ เด็กสาววางหนังสือเล่มโปรดที่อ่านทิ้งไว้ครึ่งเล่มก่อนจะเดินไปแง้มบานหน้าต่างออกเล็กน้อย เสียงนกร้องดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง

     

    เด็กสาวจึงรวบรวมความกล้าทักเจ้านกตัวนั้นออกไปโดยที่ใบหน้าของเธอยังคงสวมผ้าปิดตาเอาไว้อยู่ “สวัสดีเธอมาจากไหนหรอ..”

     

    “ฮ่ะ..เฮ้...บ้านหลังนี้มีคนอยู่ด้วยหรอ” แต่เสียงที่ตอบมากลับไม่ใช้เสียงของเจ้านกน้อยอย่างที่มันควรเป็นแต่เป็นเสียงของเด็กหนุ่มที่ดังมาจากไกลๆที่ไหนสักแห่ง

     

    คิ้วของเด็กสาวขมวดจนชนติดกัน หากจะพูดว่าตอนนี้เธอตื่นกลัวคงจะไม่พอที่จะอธิบายออกมา....ร่างบางค่อยๆก้าวถอยหลังออกมาจากบานหน้าต่างจนไปชนกับโต๊ะเข้าเกล็ดน้ำแข็งเริ่มรวมตัวกันก่อนจะค่อยๆแช่แข็งโต๊ะทั้งตัว

     

    ร่างบางเริ่มล้นลานจนทำอะไรไม่ถูก เธอถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าพลังของเธอคือปีศาจร้ายและตามนิทานที่เธอเคยอ่านมาทั้งหมดราชินีหิมะล้วนแต่เป็นสิ่งที่ชั่วร้ายและมีพลังที่สามารถฆ่าคนได้ในพริบตา..

     

    ..และถ้าเธอเกิดสาปเขาให้กลายเป็นน้ำแข็งขึ้นมาหล่ะ นั้นหมายถึงเธอฆ่าคนไปหนึ่งคนเลยเชียวนะ

     

    หญิงสาวรีบกลับหลังหันก่อนจะออกวิ่ง แต่ด้วยผ้าปิดตาที่เธอสวมมันเอาไว้ทำให้เธอสะดุดกับบรรดาหนังสือนิทานที่กองอยู่ตามพื้น

     

    “เป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยหละ” เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านนอกกระโดดมาหยุดอยู่ตรงบานหน้าต่างก่อนที่สายตาของเขาจะไปสะดุดตากลับหนังสือเล่มหนึ่งที่เปิดค้างไว้ในใบหน้าที่มีรูปวาดรูปหนึ่งที่ดูจะคุ้นตา

     

    “นี้เจ้าอ่านนิทานเรื่องนี้ด้วยหรอ” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ท่าทางตื่นเต้น ก่อนจะกระโดดเข้ามาด้านในอย่างถือวิสาสะ แต่เมื่อเดินมาถึงหนังสือเล่มนั้นเขาก็ต้องสะดุดเข้ากับตัวอักษรที่เขียนแบบเด็กๆด้วยสีเทียนว่า..

     

    I love him

    jack frost is my frist love and I am gonna be his wife ^_^

     

    “อย่าอ่านมันนะ” เด็กสาวรีบลุกขึ้นยื่นก่อนจะวิ่งตรงมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำพร้อมกับเอื้อมมือไปทางด้านหน้าอย่างสุดชีวิตแต่ด้วยความลืมตัวว่าตัวเองส่วมผ้าปิดตาอยู่ทำให้เธอวิ่งชนร่างของคนตรงหน้าอย่างจัง

     

    เด็กหนุ่มมองร่างเด็กที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะสังเกตได้ว่าคนตรงหน้านั้นสวมผ้าปิดตาอยู่ “เธอตาบอดหรอ”

    ร่างบางส่ายหัวรัว.. “แล้วผูกผ้าปิกตาไว้ทำไม” เด็กหนุ่มตรงหน้าเอ่ยถามพร้อมกับเอื่มมือไปดึงผ้าปิดตาของเด็กสาวออก

     

    “อย่าเล่นอะไรบ้าๆนะเดียวก็โดนสาปให้แข็งตายหรอก” ดวงตาสีฟ้าสดใสรีบหลบสายตาไปอีกทางด้วยความเชื่ออย่าแน่วแน่ว่า หากเธอสบตากลับผู้ใดเธอจะสาปผู้นั้นให้กลายเป็นน้ำแข็งตลอดการ

     

    “ตาสวยเจ้าดีนี้สีเดียวกับข้าเลย....” แต่คำพูดของเขากลับแตกต่างไปจากที่เคยคิด ดวงตาคู่นี้ที่ทำให้เธอต้องขังตัวเองไว้ในบ้านที่ห่างไกลจากผู้คน แต่เขากลับชอบมันงั้นหรอ..

     

    “ไม่กลัวหรอ..ข้าสามารถสาปเจ้าให้กลายเป็นน้ำแข็งได้นะ”

     

    “ความหนาวไม่เคยทำให้ข้าต้องหวาดกลัวมัน และดูเหมือนว่าข้าจะชอบมันซะด้วยสิ...”

     

    “เจ้าชื่ออะไร...” เด็กสาวตัดสินใจเอ่ยถามออกไป

     

    “แจ๊ค ฟรอส”

     

    และนั้นคือจุดเริ่มต้นของเด็กสาวผู้ถูกสาปและเด็กหนุ่มผู้เปิดประตูนำพาเรื่องราวต่างๆมาหาเธอ เด็กหนุ่มได้สอนเธอเต้นรำ ได้พาเธอออกไปพบโลกที่แสนกว้างใหญ่ ที่ไม่ใช้แค่เพียงโลกในหนังสือที่เธอค่อยเปิดอ่านในสมัยเด็กๆและทำให้เธอได้รับรู้ถึงบางสิ่งที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอนั้นคือ

     

    สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า “ชีวิต” ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอ

     

    และดูเหมือนว่าหัวใจดวงนั้นของเธอมันไม่ได้ไร้ความรู้สึกอีกต่อไป หากวันพรุ่งนี้เธอต้องเสียเขาไปเธอคงไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยหัวใจที่แข็งกระด้างได้อีกต่อไปเพราะตอนนี้

     

    หัวใจที่ถูกแช่แข็งของเธอได้ถูกละลายเสียแล้ว” 

     

    “ละ..แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นรู้สึกยังไงกับ แจ็คล่ะ” อลิซที่นอนง่วงเงียกึ่งหลับกึ่งตื่นพยายามถาม

     

    เอลซ่าหันซ้ายหันขวาเมื่อไม่แห็นแม้แต่เงาของแจ็ค ฟรอส เธอจึงตัดสินใจตอบคำถามของอลิซ “ตอนนี้เขาคง...เป็นคนหนึ่งที่สำคัญกับชีวิตของเธอละมั้งนะ ก็เขาเป็นคนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นอยากแต่งงานด้วยนี้”


    เอลซ่าตอบแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวน้อยจะผล่อยหลับไปก่อนจะได้ฟังคำตอบอีกต่างหาก เมื่อเห็นอลิซนอนหลับพริ้มอยู่ตรงหน้าเอลซ่าจึงตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งพร้อมกับ..

     

    ..รอยยิ้ม

     

    แต่ดูเหมือนว่ารอยยิ้มของเธอจะไม่กว้างเท่าคนบางคนที่นั่งเล่นอยู่บนหน้าต่าง

     

    แจ็คทิ้งตัวลงนอนบนหลังคา ดวงจันทร์สีขาวนวลสาดแสงลงมาที่เขาอย่างอบอุ่นราวกับจะพูดอะไรสักอย่าง ถึงแม้ตอนนี้มันจะไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากบรุษบนดวงจันทร์แต่ตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกอ้างว้างดังเช่นเคย

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    แจ็คค่อยๆแง้มบานหน้าต่างก่อนจะกระโดดเข้ามาทางด้านในอย่างชำนาน

     

    แจ็คเดินไปอีกทางก่อนจะถอดเสื้อที่ตอนนี้มันค่อนข้างจะคับเกินไป*สำหรับเขาออก เผยให้เห็นแผงอกกว้างน่าสัมผัสบ่งบอกว่าอย่างน้อยเจ้าตัวก็ดูแลร่างของเขาดีไม่แพ้ใคร ผิวขาวนวลราวกับหิมะยิ่งสะกดสายตาคนที่เห็นไว้ที่ร่างนั้น แต่ยังไม่ทันทีจะปลดเข็มขัดเสร็จร่างบางที่นอนอยู่ค่อยๆตื่นจากนินทราพอดี

    *เสื้อตัวที่เอลซ่าเปลี่ยนให้แจ็คตอนที่แจ็คกลายเป็นเด็ก

     

    และดูเหมือนว่าบางทีมันก็ไม่ค่อยจะถูกเวลาสักเท่าไร...

     

    เอลซ่าที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงค่อยๆปรับสายตาให้ชินกับความมืดสายตาก็ต้องไปสะดุดกับแผ่นหลังที่ขาวที่ยื่นอยู่อีกทาง ก่อนที่สายของเธอจะสังเกตเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังถอดเข็ดขัดอยู่

     

    เร็วกว่าความคิดหนามหิมะพุ่งออกมาจากทุกทิศเล็งไปทางร่างของแจ็คที่กำลังถอดเข็มขัดอยู่

     

    “เจ้าบ้าแจ็ค!! เจ้าจะทำอะไรของเจ้าหน่ะ เอลซ่ารีบยกผ้าห่มผืนหน้าขึ้นมาบังสายตาของเธอเอาไว้ แต่ไม่ใช้เพื่อที่จะบังร่างเกือบโป๊ของแจ็คหรอกนะ แต่เพื่อบังไม่ให้เขาเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเธอต่างหาก

     

    แจ็คหันหลังกลับมาทางต้นเสียงก็ต้องสะอึกเพราะหากเขาก้าวออกจากตรงนี้แม้เพียงเซ็นฯเดียวร่างของเขาคงโดนหนามน้ำแข็งเสียบทะลุจนพรุนอย่างสนุกสนานเป็นแน่

     

    แจ็งมองร่างเอลซ่าที่เอาผ้าห้มคลุมร่างของเธอที่กึงนอนกึงนั้นอยู่อยู่บนเตียงก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า

     

    โอกาสเอาคืนเรื่องเมื่อตอนเย็นมาแล้ว ^^...

     

    แจ็คเดินไปที่เตียงก่อนจะดึงผ้าห้มที่คลุมร่างของเอลซ่าออก เผยให้เห็นใบหน้าของเธอที่แดงก่ำอยู่ในตอนนี้ เขายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้เอลซ่าที่นั่งเกร็งอยู่ตอนนี้ ร่างบางเลยตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการเบี่ยงหน้าไปอีกทาง

     

    หน้าแดงเชียว ไม่สบายรึเปล่าเนี้ยถึงแจ็คจะพอรู้สาเหตุที่คนตรงหน้าหน้าแดงก็เถอะแต่บางครั้งการได้แกล้งทำเป็นไม่รู้มันก็สนุกไปอีกแบบ

     

    แจ็คโน้มหน้าผากไปแตะกับหน้าผากอีกฝ่าย ร่างบางเริ่มไม่รู้ว่าจะวางตาไว้ตรงไหนดีคิ้วบางเริ่มขมวดจนแทบจะชนกัน

     

    แจ็คค่อยๆเอื่อมมือไปจับคางของเอลซ่าเบาๆก่อนจะเบนหน้าของเธอมาทางตนเอง มองตรงนี้เอลซ่า ข้าอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วไง

     

    นี่แจ็ค....ถ้าวันไหนที่ข้าต้องวันร้ายขึ้นมา เจ้าจะปลุกข้าขึ้นมาจากฝันร้ายนั้นใช่ไหม..

     

    ไม่...


    แจ็คว่าจบก็ดึงผมเปียของเอลซ่ามาแกว่งเล่น


    “.....แต่ข้าจะเป็นคนดึงเจ้าออกมาจากฝันร้ายนั้นเอง แสงไฟสีส้มนวลจากเทียนเล่มเล็กที่ตั้งไว่ที่หัวเตียงปลิวไสวเป็นระยะ แต่ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแสงเล็กๆแต่มันก็ทำให้เอลซ่ามองเห็นความจริงใจที่ฉายออกมาจากแววตาของคนข้างหน้าเธอ

     

    “ไปกันได้แล้วล่ะ” แจ็คว่าพร้อมกับดึงมือของเอลซ่าให้ลุกขึ้นยืน แต่ดูเหมือนว่าเธอยังไม่อยากจะไปสักเท่าไร


    ร่างบางหันไปมองอลิซที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียง

     

    “อยากจะได้บ้างไหมล่ะ..เด็กๆก็น่ารักดีนะ” แจ็คโน้มตัวดันเอลซ่าจนชิดกำแพงแขนทั้งสองข้างวางขวางไว้ไม่ให้เธอได้มีโอกาสหนี แต่ที่สำคัญสภาพของเขาตอนนี้คือไม่สวมเสื้อแถมกางเกงก็จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่

     

    เอลซ่าหน้าแดงก่ำสายตาไล่จากแผงอกขาวจนไปถึงขอบกางเกงที่เกือบจะหลุดอยู่แล้ว ร่างบางสะบัดหัวแรงๆสองทีก่อนจะแอบเอามือไปสำผัสกับกำแพงด้านหลัง ไม่นานแท่งน้ำแข็งยักษ์ก็พุ่งออกมาจากกำแพงฟาดหัวแจ็คเข้าเต็มๆ

     

    “สมน้ำหน้า” เมื่อได้จังหวะเอลซ่าก็ย่อตัววิ่งลอดแขนของแจ็คออกไปก่อนจะคว้าเสื้อฮูดสีน้ำเงินตัวเก่งไปทางแจ็คที่ยืนกุมหัวอยู่

     

    เล่นอะไรสงสารใจฉันบ้างสิ ตาบ้า...



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- . . . . . . . 
    ไรต์หายป่วยแล้วค่ะ ครั้งนนี้ป่วยนานมาก ขอบคุณสำหรับการทวงถามนะค่ะ ^^

    BlackForest✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×